Competencia oficial (Spain): ออฟฟิเชียล คอมเพทิชั่น
" หนังตลกที่เล่นมุกอย่างชาญฉลาด ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นจากหนังกระแสหลัก "
สวัสดีครับทุกท่าน ! เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีภาพยนตร์สเปนอย่าง
Official Competition (2021) เข้าฉาย ซึ่งผมก็มีโอกาสได้เข้าชม ตัวหนังได้รับเลือกเป็น
Official Selection ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติหลายที่ เช่น Venice Film Festival 2021 - ITALY, Toronto International Film Festival 2021 - CANADA, และ San Sebastián International Film Festival - SPAIN
ณ เวลานี้ อาจจะเหลือโรงน้อยหน่อย (โดนบุพเพสันนิวาส 2 ชิงไปหมดแล้ว 😂) อย่างไรก็ตาม หากในอนาคต ตัวหนังได้เข้าในแอพ Streaming ต่าง ๆ ก็หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยแนะนำหนังได้นะครับ
เรื่องย่อ
Official Competition - Official Trailer
Official Competition (2021) ได้รับการกำกับโดย
Mariano Cohn และ
Gastón Duprat
เนื้อเรื่องพูดถึง มหาเศรษฐีท่านหนึ่งต้องการสร้างหนังขึ้นมา เพื่ออวดชื่อของตัวเองให้ทุกคนได้จดจำ จึงไปจ้าง
ลอล่า (Penélope Cruz) ผู้กำกับหนังอาร์ตสุดติสท์ มาทำการกำกับภาพยนตร์ ลอล่าเกิดไอเดียต้องการให้หนังเรื่องนี้ ทำเงินและได้รางวัลพร้อมกัน เธอตัดสินใจเลือก 2 นักแสดงที่ต่างกันสุดขั้วมาร่วมในโปรเจค คนแรก
เฟลิกซ์ (Antonio Banderas) นักแสดงสายซูเปอร์สตาร์จากฮอลลีวูด ส่วนคนที่สอง
อิวาน (Oscar Martínez) นักแสดงละครเวทียอดฝีมือ ซึ่งเป็นอีกขั้วของเฟลิกซ์... การประชันกันระหว่างทั้งสองฝ่ายก่อให้เรื่องราวสุดวุ่นวายตามมา
ความรู้สึกหลังชม
Antonio Banderas, Penélope Cruz, และ Oscar Martínez
- สิ่งแรกที่ประทับใจ คือ
"ความตลกจิกกัดของเรื่อง" มุกตลกในเรื่องทำงานได้เยี่ยม ไม่ว่าจะความจ้อจี้ โทนตลกจิกกัด / ตลกร้าย ที่เล่นกับบริบทต่าง ๆ วิธีการที่ใช้ไม่ได้เป็นวิธีที่เห็นกันได้บ่อย ๆ ทั้งหนังไทยหรือในฟากฮอลลีวู้ด... ความขำหลักของเรื่องมาจากไดอะล็อกและสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง แถมยังมากันในโหมดตลกหน้าตาย
- จุดถัดมาที่ประทับใจ เกี่ยวกับ
"การวางเส้นเรื่องซ้อนกัน" ใครจะไปรู้ว่า ตั้งแต่ต้นจนจบ จริง ๆ แล้ว เส้นเรื่องจริงกับเส้นเรื่องตามภาพยนตร์ (ในเรื่อง) กำลังดำเนินคู่ขนานกันไปอยู่... ต้องชมว่า ผู้กำกับมีไอเดียที่สร้างสรรค์จริง (ไอเดียคล้าย ๆ กับใน Drive my Car)
-
"การเสียดสีวงการภาพยนตร์" เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจ ในหนังมีมุกจิกกัดวงการภาพยนตร์เพียบ ทั้งเสียดสีผู้ให้ทุนสร้าง ผู้กำกับ นักแสดง รางวัลการแสดง... ที่สำคัญ มุกต่าง ๆ ที่ยิงมาจิกได้แสบจริง พาเอาขำลั่นไปหลายช็อต 😂
- ในส่วนวิธีการดำเนินเรื่อง แนวทางหนังออกไปสไตล์หนังนอกกระแส ดำเนินเรื่องแบบนิ่ง / เรียล ถ่ายทอดอารมณ์ช้า ๆ และประณีต ซึ่งวิธีแบบนี้มักเจอในกลุ่มหนังที่ฉายในเทศกาลหนังต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้ถึงขนาดดูยาก เพราะโทนเรื่องมาเป็นคอเมดี้ ทำให้หนังมีสไตล์เป็นหนังตลก (นอกกระแส) มากกว่า
- พาร์ทนักแสดง ไม่มีอะไรต้องติ เพราะนักแสดงนำทั้งสาม แสดงบทบาทได้อย่างสมบูรณ์
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ เป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกแปลก ผิดหูผิดตาไปจากหนังทั่วไป โดยหนังเลือกใช้
"ดนตรีคลาสสิค" เป็นหลัก ซึ่งแสดงเอกลักษณ์การเป็นหนังนอกกระแสยุโรปได้อย่างชัดเจน
- จุดที่เป็นข้อเสีย อาจจะเป็นช่วงกลางเรื่องที่ค่อนข้างเนือยไปบ้าง ทำให้หนังดูยืด แต่ก็พอเข้าใจว่า หนังพยายามบ่มประเด็นบางอย่าง เพื่อไประเบิดในท้ายเรื่อง
สรุป -
Official Competition (2021) จัดเป็นหนังตลกที่น่าสนใจอีกเรื่องในปีนี้... จริง ๆ ก็ไม่ได้เจอหนังตลกที่กลั้นขำท้องแข็งในโรงมานานแล้ว แม้ว่าจะเป็นหนังนอกกระแส (แถมมาจากสเปน) แต่ก็ไม่ได้ดูยากอย่างที่คิด กลับกันหนังให้ความรู้สึกหลายอย่างที่ประณีต และหลายครั้ง ดูเฉียบคมกว่าหนังกระแสหลักด้วยซ้ำไป !
_________________________________
ป.ล. ในหนังมีฉากเปลือย ดังนั้นควรระมัดระวังในการรับชมนะครับ (Rated: R)
ป.ล.2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพุดคุยหรือติดต่อกับผม
Official Competition (2021) - หนังตลกสเปนสุดปั่นที่จิกกัดวงการภาพยนตร์อย่างแสบสัน
ณ เวลานี้ อาจจะเหลือโรงน้อยหน่อย (โดนบุพเพสันนิวาส 2 ชิงไปหมดแล้ว 😂) อย่างไรก็ตาม หากในอนาคต ตัวหนังได้เข้าในแอพ Streaming ต่าง ๆ ก็หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยแนะนำหนังได้นะครับ
เรื่องย่อ
เนื้อเรื่องพูดถึง มหาเศรษฐีท่านหนึ่งต้องการสร้างหนังขึ้นมา เพื่ออวดชื่อของตัวเองให้ทุกคนได้จดจำ จึงไปจ้าง ลอล่า (Penélope Cruz) ผู้กำกับหนังอาร์ตสุดติสท์ มาทำการกำกับภาพยนตร์ ลอล่าเกิดไอเดียต้องการให้หนังเรื่องนี้ ทำเงินและได้รางวัลพร้อมกัน เธอตัดสินใจเลือก 2 นักแสดงที่ต่างกันสุดขั้วมาร่วมในโปรเจค คนแรก เฟลิกซ์ (Antonio Banderas) นักแสดงสายซูเปอร์สตาร์จากฮอลลีวูด ส่วนคนที่สอง อิวาน (Oscar Martínez) นักแสดงละครเวทียอดฝีมือ ซึ่งเป็นอีกขั้วของเฟลิกซ์... การประชันกันระหว่างทั้งสองฝ่ายก่อให้เรื่องราวสุดวุ่นวายตามมา
ความรู้สึกหลังชม
- จุดถัดมาที่ประทับใจ เกี่ยวกับ "การวางเส้นเรื่องซ้อนกัน" ใครจะไปรู้ว่า ตั้งแต่ต้นจนจบ จริง ๆ แล้ว เส้นเรื่องจริงกับเส้นเรื่องตามภาพยนตร์ (ในเรื่อง) กำลังดำเนินคู่ขนานกันไปอยู่... ต้องชมว่า ผู้กำกับมีไอเดียที่สร้างสรรค์จริง (ไอเดียคล้าย ๆ กับใน Drive my Car)
- "การเสียดสีวงการภาพยนตร์" เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจ ในหนังมีมุกจิกกัดวงการภาพยนตร์เพียบ ทั้งเสียดสีผู้ให้ทุนสร้าง ผู้กำกับ นักแสดง รางวัลการแสดง... ที่สำคัญ มุกต่าง ๆ ที่ยิงมาจิกได้แสบจริง พาเอาขำลั่นไปหลายช็อต 😂
- ในส่วนวิธีการดำเนินเรื่อง แนวทางหนังออกไปสไตล์หนังนอกกระแส ดำเนินเรื่องแบบนิ่ง / เรียล ถ่ายทอดอารมณ์ช้า ๆ และประณีต ซึ่งวิธีแบบนี้มักเจอในกลุ่มหนังที่ฉายในเทศกาลหนังต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้ถึงขนาดดูยาก เพราะโทนเรื่องมาเป็นคอเมดี้ ทำให้หนังมีสไตล์เป็นหนังตลก (นอกกระแส) มากกว่า
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ เป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกแปลก ผิดหูผิดตาไปจากหนังทั่วไป โดยหนังเลือกใช้ "ดนตรีคลาสสิค" เป็นหลัก ซึ่งแสดงเอกลักษณ์การเป็นหนังนอกกระแสยุโรปได้อย่างชัดเจน
- จุดที่เป็นข้อเสีย อาจจะเป็นช่วงกลางเรื่องที่ค่อนข้างเนือยไปบ้าง ทำให้หนังดูยืด แต่ก็พอเข้าใจว่า หนังพยายามบ่มประเด็นบางอย่าง เพื่อไประเบิดในท้ายเรื่อง