5G จะเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างไร



ตอนนี้หลายประเทศกำลังพัฒนาระบบการสื่อสารไร้สายในรุ่นที่ 5
แม้ว่าระบบ 5G เป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจากรุ่น 4G และ 3G
แต่คราวนี้นักวิทยาศาสตร์ที่จับเรื่อง 5G
ดูจะตื่นเต้นกว่าครั้งก่อน ๆ พวกเขาบอกว่า
ระบบ 5G จะต่างไปจากรุ่นก่อน ๆ มาก

ศจ. Rahim Tafazolli หัวหน้าคณะในโครงการพัฒนาระบบ 5G ของอังกฤษบอกว่า
ระบบ 5G จะเปลี่ยนไปจากระบบเดิมมากและจะมีความราบรื่นของความถี่วิทยุ

Ed Ram ผู้สื่อข่าว BBC บอกว่า กุญแจของระบบ 5G
คือคำว่า “ความราบรื่นของความถี่วิทยุ”

การรับส่งสัญญาณในตอนนี้ทำกันผ่านคลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งแบ่งเป็นหลายย่าน
แต่ละย่านถูกกำหนดโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU)
ว่าแต่ละย่านใช้ทำงานอะไร เช่น ส่งสัญญาณสื่อสารในการนำร่องพาณิชย์นาวี
ด้านการบิน ออกอากาศโทรทัศน์และสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
ผู้สื่อข่าว BBC บอกว่า ตอนนี้ความถี่วิทยุไม่เป็นระบบ
และในขณะที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ขึ้นมาเรื่อย ๆ
คลื่นความถี่ที่จะใช้กับเทคโนโลยีใหม่ก็ถูกบีบอัดลง
ทำให้เกิดปัญหาเรื่องความรวดเร็วในการเชื่อมสัญญาณและความน่าเชื่อถือ

ดังนั้นเพื่อให้การพัฒนาระบบ 5G เป็นไปอย่างราบรื่น
ทาง ITU จึงต้องรื้อโครงสร้างบางส่วนของเครือข่ายวิทยุที่ใช้ในการส่งสัญญาณ
แต่จะไม่แตะการสื่อสารในระบบเดิม รวมทั้งระบบ 4G และ 3G

ศจ. Tafazolli เชื่อว่า ระบบ 5G จะเร็วกว่าระบบเดิมเป็นร้อยเท่า
เขาเสริมว่า ตอนที่ Samsung ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า ได้ทดลองระบบ 5G
ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่ 1 Gigabit ผู้สื่อข่าวตื่นเต้นกันยกใหญ่
เพราะนั่นหมายความว่า สามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์ที่มีความละเอียดสูงหนึ่งเรื่อง
ได้ในเวลาเพียงวินาทีเดียว และถ้าความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลอยู่ที่ 8 Gigabit
ก็หมายความว่า สามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์ความละเอียดสูงได้ 33 เรื่อง ภายในวินาทีเดียว

Sara Mazur หัวหน้าทีมวิจัยของ Ericsson หนึ่งในบริษัทที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาระบบ 5G
บอกว่า ระบบ 5G สามารถรองรับความต้องการด้านโทรคมนาคมและสื่อสารได้อย่างมหาศาล

คุณสมบัติสำคัญอีกอย่างของระบบ 5G คือ สัญญาณจะต้องไม่ขาดหาย
Sara Mazur บอกว่าระบบ 5G จะเป็นระบบที่มีความน่าเชื่อถือ
และสัญญาณจะราบเรียบไม่กระตุกหรือขาดหาย
เรื่องนี้จำเป็นมากสำหรับเรื่องความปลอดภัย
เพราะว่า Huawei ต้องการใช้ระบบ 5G สำหรับรถที่ไม่ต้องใช้ผู้ขับ
ให้รถติดต่อกันเองและติดต่อกับระบบสาธารณูปโภคในเส้นทางที่ขับผ่าน

เทคโนโลยีอย่างเช่น การผ่าตัดทางไกล
ที่ผู้ผ่าตัดอยู่ที่หนึ่งและบังคับให้หุ่นยนต์ทำการผ่าตัดแทนในที่อีกที่หนึ่ง
จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเดินทางของข้อมูลจากต้นทางถึงปลายทาง
Ericsson คาดว่าระยะเวลาการเดินทางจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว
แบบที่คนเราไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ จะเร็วกว่าระบบ 4G ราว 40 เท่า

ด้านสนนราคานั้นทั้ง Huawei และ Ericsson บอกเพียงแต่ว่ายังไม่มีคำตอบ
จนกว่าจะเริ่มขั้นตอนการพัฒนา แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา
เพราะว่าบริษัทอย่าง Samsung ซึ่งเป็นบริษัทแนวหน้าในการพัฒนาระบบ 4G
ได้นำผลวิจัยออกมาล่อตาล่อใจผู้บริโภคแล้ว
และคาดว่าจะเปิดตัวเครือข่าย 5G แบบทดลองในโอลิมปิคฤดูหนาวในปี 2561
ขณะที่ Huawei ไม่ยอมน้อยหน้า มีแผนจะเปิดตัวสินค้าสำหรับระบบ 5G
ในฟุตบอลโลกที่กรุง Moscow ในปี 2561

ผู้สื่อข่าวบอกว่า แม้ว่าบริษัทดังกล่าวแข่งขันกันผลิตสินค้าออกสู่ท้องตลาด
และทุ่มเงินมหาศาลไปกับงานวิจัยและพัฒนา
แต่ข่าวที่ใหญ่กว่าคือพวกเขากำลังร่วมมือกันในการผลักดันระบบ 5G
และเพื่อนำไปสู่เทคโนโลยีที่สุดล้ำยุค
ซึ่งอาจหมายถึง ระบบ 6G ที่จะตามมาในราวปี 2583

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่