แท็ก ท่องเที่ยว แล้วก็ขอ แท็ก ลงทุน ในห้องสินธรด้วยนะคะ
ไม่ผิดห้อง หรอกค่ะ เพราะการไปปลูกป่าครั้งนี้ ไปในฐานะของผู้ที่ถือหุ้นของ บมจ. ทีทีดับบลิว
ที่สุ่มเชิญผู้ถือหุ้น TTW ไปร่วมกันปลูกป่าที่บ้านอีต่อง ต.ปิล็อค ทองผาภูมิ กาญจนบุรี
ทริปนี้เริ่มต้นจากการที่ดิฉัน ได้รับโทรศัพท์ จาก สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย แจ้งว่า
ดิฉัน ได้รับการสุ่มคัดเลือกเป็น 1 ใน 20 ให้ไปปลูกป่ากับ บมจ. ทีทีดับบลิวที่ดิฉันถือหุ้นอยู่
ตอนได้ฟังครั้งแรก ก็งง ๆ ว่า “เฮ้ย... ทำไมได้ไปอ่ะ เก๊าถือแค่ หมื่นกว่าหุ้นเอ๊งงงง”
เอาแบบเป๊ะ ๆ เลยคือ ถือ 16,000 หุ้น ที่ซื้อเพราะอยากซื้อหุ้นน้ำ แล้วไปอ่านที่ไหนไม่รู้ว่า เลข 1 กับ 6 คือ เลขของธาตุน้ำ เลยฝากหม่าม้าซื้อไป 16,000 หุ้น ตอน IPO ตอนนั้นรู้สึกจะราคา 4.60 บาท ถือมาตั้งแต่ปี 08 จนถึงตอนนี้ก็หกปีกว่า ๆ แล้ว
ไม่คิดขาย เพราะลงทุนไป 73,600 บาท ได้ปันผลทุกปี ไม่มีขาด
มาปีนี้ปันผลได้หมื่นนิด ๆ (หักภาษีแล้วนะคะ) ก็ถือว่า คุ้มฝุด ๆ แล้วค่ะ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด พอฟังว่า “ปลูกป่า” เท่านั้น ดิฉัน ก็ตอบรับไปแบบไม่คิดอะไรมาก ขออนุญาตลูกกับสามีเสร็จก็แพ็คกระเป๋าไปเลย
ทางสมาคม นัดที่ตลาดหลักทรัพย์ตอนเจ็ดโมงเช้า
จนท. สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนเตรียมอาหารเช้า เป็นขนม กับน้ำไว้ให้ทานบนรถ
ก่อนล้อหมุนตรงเวลาตอน 7 โมงเช้า พี่สิริพร แห่ง สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ก็มาบรีฟให้ฟังถึงความเป็นมาว่า เป็นไง มาไง ทำไม เราถึงได้รับการสุ่มเลือกให้ไปร่วมโครงการกับบริษัทในครั้งนี้
ขออธิบายตามที่ดิฉันเข้าใจและเก็บความมาได้นะคะ
ทางสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เป็น สมาคมของผู้ลงทุนรายเล็ก หรือ รายบุคคล
อาจจะเข้าใจง่าย ๆ ได้ว่า ทำหน้าที่เป็น เหมือนสคบ. ของผู้ลงทุนรายบุคคล
พี่สิริพร ตัวแทนสมาคม อธิบายว่า ไม่ใช้คำว่า ผู้ลงทุนรายย่อย เพราะ เดี๋ยวจะมีบางคนเติมคำว่า “ยับ” ลงไปหลังคำว่า “รายย่อย”
อันนี้เป็นรูปพี่สิริพรนะคะ
สมาคมฯ มีหน้าที่ดูแล รับเรื่องร้องเรียน ของ ผู้ลงทุนรายบุคคลที่อาจจะได้รับความไม่ยุติธรรม
หรือ ข้องใจในเรื่องความโปร่งใส หรือ การถูกเอาเปรียบจากบริษัท มหาชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ทั้งนั้น สมาคมฯ จะไม่รับเรื่องร้องเรียน หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับ การถูกหลอก ถูกชักจูงให้ไปซื้อขายหุ้นบางตัว
โดยมุ่งหวังการเก็งกำไรส่วนบุคคลของแต่ละท่าน
นอกจากนี้ สมาคม ฯ ก็จะทำหน้าที่เป็นคล้าย ๆ คนคอยประสานงาน เกี่ยวกับ ข่าวสาร การดำเนินการ
การมีส่วนร่วมของผู้ลงทุนรายบุคคล กับบริษัท จดทะเบียน
ครั้งนี้ ทาง บมจ. ทีทีดับบลิว ซึ่งทำโครงการปลูกป่าเป็นประจำอยู่แล้ว ต้องการเชิญผู้ถือหุ้น มาเข้าร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน
เพื่อความโปร่งใสเรื่องการดำเนินการสุ่มคัดเลือก จึงมอบหมายให้สมาคมฯ ซึ่งเป็น third party เป็นผู้สุ่มคัดเลือกผู้ลงทุนฯ มาเข้าร่วมกิจกรรม
โดยกำหนดคุณสมบัติคร่าว ๆ ไว้ว่า ต้องถือหุ้นตัวนี้ย้อนหลังไปประมาณ 3 ปี
(ดิฉันไม่แน่ใจว่า กำหนดจำนวนหุ้นด้วยหรือเปล่านะคะ) ทางสมาคมจึงสุ่มคัดเลือกผู้ร่วมทริปมาตามเกณฑ์ขั้นต้น
การมาออกทริปแบบนี้ พี่สิริพร เธออธิบายต่อไปว่า จะต่างจากการประชุมประจำปี
ตรงที่ ผู้ถือหุ้น จะได้มีโอกาสได้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้บริหารของบริษัทที่ตนเองถือหุ้น
(ตาม concept ของทางสมาคมว่า “My Company”) อย่างใกล้ชิด และซักถามข้อสงสัย
หรือ สิ่งที่อยากรู้เกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ที่บริษัทจะทำ หรือ ได้ทำไปแล้ว ในบรรยากาศสบาย ๆ
เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างบริษัท กับ ผู้ถือหุ้น และ ผู้ถือหุ้นจะได้ไปรู้ ไปเห็น
หรือ ไปถามว่า ผู้บริหารของบริษัทที่ตนถือหุ้นนั้นบริหารอย่างไร หรือ ทำกิจกรรมที่ส่งผลอะไรต่อ “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย / มีส่วนเกี่ยวข้อง” หรือ stakeholders ของกิจการนั้น ๆ บ้าง
ตัวอย่าง บริษัท ทีทีดับบลิว นี้ ทำกิจการเกี่ยวกับเรื่องการจำหน่ายน้ำประปา สูบน้ำ จากแม่น้ำท่าจีน มาเป็นน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำ
ดังนั้น “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” ยังหมายรวมถึง ชุมชนป่าต้นน้ำที่อยู่ไกลถึง 300 กว่ากิโลเมตรออกไปริมชายแดน
ที่เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำแควที่ไหลไปเชื่อมกับ แม่กลอง และต่อมาท่าจีนในที่สุด
เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาวฉันใด
การทำกิจกรรม หรือ กิจการใด ๆ ก็ย่อมส่งผลต่อชุมชนโดยรวมเป็นวงกว้างออกไปฉันนั้น
ดังนั้น การทำกิจกรรมอย่างปลูกป่าของบริษัท จึงไม่ใช่การคืนกำไรให้กับสังคมและชุมชนอย่างเดียว
แต่ยังเป็นการสงวนป่าต้นน้ำ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแหล่งวัตถุดิบของตนเองอีกด้วย
หากป่าต้นน้ำอุดมสมบูรณ์ น้ำที่ปลายทางอีกฟากในหลายร้อยกิโลเมตรห่างออกไป ก็จะพลอยดีตามไปด้วย
อะ...เล่าต่อนะคะ
กำหนดการคือ ล้อหมุนตอนเจ็ดโมงเช้า หน้าตลาดหลักทรัพย์ มุ่งตรงไปกาญจนบุรี รถตู้คันหนึ่งนั่งประมาณแค่ 5 คนเท่านั้น
นอนหลับ เหยียดขากันได้สบาย ๆ
ทิวทัศน์ระหว่างทาง
เราไปถึงโรงเรียน บ้านเหมืองแร่อีต่องประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ
สภาพโรงเรียนโดยทั่ว ๆ ไป นับว่าทันสมัยพอสมควร
มีการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปีหน้าด้วย
ธงอาเซียน 10 ชาติครบหมดค่ะ
มีค่านิยม 12 ประการ ขนาดบึ้ม ๆ ปะอยู่ข้างฝา
พอไปถึง ก็มีกำหนดการทานข้าวเที่ยงเลยค่ะ เจ้าหน้าที่ของ TTW จัดซุ้มก๋วยเตี๋ยว เกี๊ยวทอด ผลไม้ ไอศกรีม ไว้คอยต้อนรับ
โดยมีคุณ ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ CEO ของบริษัท เป็นผู้ทำก๋วยเตี๋ยวเลี้ยงผู้ถือหุ้น
อาหารอร่อยมากค่ะ สอบถามได้ความว่า ลูกชิ้นขนมาจากเยาวราชโดยเฉพาะ
คุณชัยวัฒน์ ถามผู้ถือหุ้นว่า “พอทานได้ไหมฮะ ... อยู่บ้านผมไม่เคยทำเลยนะนี่”
คือ ทางบริษัท ตั้งใจจะมาเลี้ยงอาหารเด็ก ๆ ที่โรงเรียนนี้อยู่แล้ว ก็เลยเตรียมของอร่อย ๆ ที่แปลกไปจากที่เด็ก ๆ ทานแบบปกติ มาให้ได้ลองชิมกันบ้าง ผู้ถือหุ้นก็เลยพลอยอร่อยไปด้วย
นอกจากทำพิธีส่งมอบป่าต้นน้ำแล้ว ยังมีการเตรียมของมาฝากเด็ก ๆ คุณครู และ พี่ ๆ ตชด.ที่ดูแลพื้นที่แถวนี้ด้วย
น้อง ๆ ก็ขึ้นมาเต้นเพลงให้ดู 2 เพลง เป็นเพลงสาวปิล็อค กับ เพลงภาษาไม่แน่ใจว่า ภาษากระเหรี่ยง หรือ พม่า เอาเป็นว่า ภาษาต่างประเทศเพลงหนึ่งให้ดู
น่ารัก น่าเอ็นดูดีค่ะ
หลังจบการแสดงและมอบของกันเรียบร้อยแล้ว ทางผู้บริหารก็พาคณะชมรอบ ๆ โรงเรียนเพื่อดูว่า สิ่งที่ทาง ทีทีดับบลิว ทำให้กับโรงเรียนมีอะไรบ้าง เช่น การมอบถังเก็บน้ำแทนของเดิมที่ขึ้นสนิม หรือ การปรับปรุงโรงอาหารให้สะอาดเรียบร้อยขึ้น
โดยระหว่างนี้ ผู้ถือหุ้นสามารถ ซักถามการดำเนินงานต่าง ๆ กับผู้บริหารได้อย่างเป็นกันเอง
คุณ ชัยวัฒน์ ได้แชร์ให้ฟังว่า ตอนนี้ TTW กำลัง อยู่ในช่วงการเจรจาเพื่อที่จะ เข้าไปทำการผลิตน้ำประปาสะอาดให้กับ เมือง เมาะลำไย (Mawlamyine) หรือ ที่เราอาจคุ้นในชื่อ เมาะละแหม่ง ในพม่า เมืองนี้ มีแม่น้ำใหญ่ที่ไหลผ่านคือ แม่น้ำ อัทรานAtaran River
โดย TTW ได้เข้าไปเสนอบริการผลิตน้ำประปาให้กับเมืองนี้ และได้บริจาคเครื่องมืออุปกรณ์ในการทดสอบคุณภาพน้ำมูลค่าล้านกว่าบาทให้กับมหาวิทยาลัยเมาะลำไย ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามของพม่า
เมืองนี้ น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ และเป็นธรรมชาติ มาก คือ สูบน้ำจากแม่น้ำมาอย่างไร ผ่านถังใหญ่ ๆ 2-3 ถังเก็บน้ำ ก็ส่งออกตามท่อประปาอย่างนั้น
ปัญหาสาธารณสุขที่พบคือ ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
หากการเจรจาลุล่วง ทางบริษัทจะใช้เวลา 18 เดือนในการ set up ทุกอย่างจนพร้อมผลิตน้ำประปาสะอาดได้
ซึ่งจะผลิตได้ประมาณ 40,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน (ณ ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 440,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน)
และหากโครงการนี้อนุมัติ จะเป็นโครงการสาธารณูปโภคด้านน้ำที่ใหญ่ที่สุดที่นักลงทุนไทยไปลงทุนในพม่า
กลับมาต่อที่ทริปเรานะคะ
จากนั้น เราไปแวะไหว้พระ ที่วัดเหมืองปิล็อค
ขอเอารูปดอกไม้ป่าเล็ก ๆ มาฝากหน่อยนะคะ น่ารักดีค่ะ ดอกม่วง ๆ ขึ้นแอบ ๆ อยู่ตามโขดหิน
จากวัดมองลงไปจะเห็นทิวเขาแบบนี้ค่ะ
ขออวดดอกไม้อีกสักรูปนะคะ ไฮเดรนเยีย สีม่วงอ่อน
จากนั้น เราก็เข้าที่พักในตัวตำบลปิล็อค
ภาพบรรยากาศภายในเมืองเล็ก ๆ ค่ะ
ที่นี่ ไม่มีโรงแรมนะคะ มีแต่ที่พักแนว ๆ โฮมสเตย์ เรียบง่าย แต่สะอาดค่ะ (เสียอย่างเดียว น้ำไหลไม่ค่อยแรง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะพี่สิริพรของเรา ไปหาถังน้ำใบโตพร้อมขัน มาใส่น้ำให้อาบกันสะดวก ๆ )
อาหารเย็น เรากินกันที่ครัวสุดแดน อร่อยมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขาหมู
ขออภัย ช็อตนี้ ไม่มีรูป เพราะเอาแต่กิน
จบอาหารเย็น ก็ขึ้นไปดูดาวกันที่เนินช้างศึกก่อนกลับมาพักผ่อนเพื่อเตรียมปลูกป่าต่อไป
พาเที่ยวปิล็อค และ ปลูกป่าที่บ้านอีต่อง กับ TTW และสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย
ไม่ผิดห้อง หรอกค่ะ เพราะการไปปลูกป่าครั้งนี้ ไปในฐานะของผู้ที่ถือหุ้นของ บมจ. ทีทีดับบลิว
ที่สุ่มเชิญผู้ถือหุ้น TTW ไปร่วมกันปลูกป่าที่บ้านอีต่อง ต.ปิล็อค ทองผาภูมิ กาญจนบุรี
ทริปนี้เริ่มต้นจากการที่ดิฉัน ได้รับโทรศัพท์ จาก สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย แจ้งว่า
ดิฉัน ได้รับการสุ่มคัดเลือกเป็น 1 ใน 20 ให้ไปปลูกป่ากับ บมจ. ทีทีดับบลิวที่ดิฉันถือหุ้นอยู่
ตอนได้ฟังครั้งแรก ก็งง ๆ ว่า “เฮ้ย... ทำไมได้ไปอ่ะ เก๊าถือแค่ หมื่นกว่าหุ้นเอ๊งงงง”
เอาแบบเป๊ะ ๆ เลยคือ ถือ 16,000 หุ้น ที่ซื้อเพราะอยากซื้อหุ้นน้ำ แล้วไปอ่านที่ไหนไม่รู้ว่า เลข 1 กับ 6 คือ เลขของธาตุน้ำ เลยฝากหม่าม้าซื้อไป 16,000 หุ้น ตอน IPO ตอนนั้นรู้สึกจะราคา 4.60 บาท ถือมาตั้งแต่ปี 08 จนถึงตอนนี้ก็หกปีกว่า ๆ แล้ว
ไม่คิดขาย เพราะลงทุนไป 73,600 บาท ได้ปันผลทุกปี ไม่มีขาด
มาปีนี้ปันผลได้หมื่นนิด ๆ (หักภาษีแล้วนะคะ) ก็ถือว่า คุ้มฝุด ๆ แล้วค่ะ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด พอฟังว่า “ปลูกป่า” เท่านั้น ดิฉัน ก็ตอบรับไปแบบไม่คิดอะไรมาก ขออนุญาตลูกกับสามีเสร็จก็แพ็คกระเป๋าไปเลย
ทางสมาคม นัดที่ตลาดหลักทรัพย์ตอนเจ็ดโมงเช้า
จนท. สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนเตรียมอาหารเช้า เป็นขนม กับน้ำไว้ให้ทานบนรถ
ก่อนล้อหมุนตรงเวลาตอน 7 โมงเช้า พี่สิริพร แห่ง สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ก็มาบรีฟให้ฟังถึงความเป็นมาว่า เป็นไง มาไง ทำไม เราถึงได้รับการสุ่มเลือกให้ไปร่วมโครงการกับบริษัทในครั้งนี้
ขออธิบายตามที่ดิฉันเข้าใจและเก็บความมาได้นะคะ
ทางสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เป็น สมาคมของผู้ลงทุนรายเล็ก หรือ รายบุคคล
อาจจะเข้าใจง่าย ๆ ได้ว่า ทำหน้าที่เป็น เหมือนสคบ. ของผู้ลงทุนรายบุคคล
พี่สิริพร ตัวแทนสมาคม อธิบายว่า ไม่ใช้คำว่า ผู้ลงทุนรายย่อย เพราะ เดี๋ยวจะมีบางคนเติมคำว่า “ยับ” ลงไปหลังคำว่า “รายย่อย”
อันนี้เป็นรูปพี่สิริพรนะคะ
สมาคมฯ มีหน้าที่ดูแล รับเรื่องร้องเรียน ของ ผู้ลงทุนรายบุคคลที่อาจจะได้รับความไม่ยุติธรรม
หรือ ข้องใจในเรื่องความโปร่งใส หรือ การถูกเอาเปรียบจากบริษัท มหาชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ทั้งนั้น สมาคมฯ จะไม่รับเรื่องร้องเรียน หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับ การถูกหลอก ถูกชักจูงให้ไปซื้อขายหุ้นบางตัว
โดยมุ่งหวังการเก็งกำไรส่วนบุคคลของแต่ละท่าน
นอกจากนี้ สมาคม ฯ ก็จะทำหน้าที่เป็นคล้าย ๆ คนคอยประสานงาน เกี่ยวกับ ข่าวสาร การดำเนินการ
การมีส่วนร่วมของผู้ลงทุนรายบุคคล กับบริษัท จดทะเบียน
ครั้งนี้ ทาง บมจ. ทีทีดับบลิว ซึ่งทำโครงการปลูกป่าเป็นประจำอยู่แล้ว ต้องการเชิญผู้ถือหุ้น มาเข้าร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน
เพื่อความโปร่งใสเรื่องการดำเนินการสุ่มคัดเลือก จึงมอบหมายให้สมาคมฯ ซึ่งเป็น third party เป็นผู้สุ่มคัดเลือกผู้ลงทุนฯ มาเข้าร่วมกิจกรรม
โดยกำหนดคุณสมบัติคร่าว ๆ ไว้ว่า ต้องถือหุ้นตัวนี้ย้อนหลังไปประมาณ 3 ปี
(ดิฉันไม่แน่ใจว่า กำหนดจำนวนหุ้นด้วยหรือเปล่านะคะ) ทางสมาคมจึงสุ่มคัดเลือกผู้ร่วมทริปมาตามเกณฑ์ขั้นต้น
การมาออกทริปแบบนี้ พี่สิริพร เธออธิบายต่อไปว่า จะต่างจากการประชุมประจำปี
ตรงที่ ผู้ถือหุ้น จะได้มีโอกาสได้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้บริหารของบริษัทที่ตนเองถือหุ้น
(ตาม concept ของทางสมาคมว่า “My Company”) อย่างใกล้ชิด และซักถามข้อสงสัย
หรือ สิ่งที่อยากรู้เกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ที่บริษัทจะทำ หรือ ได้ทำไปแล้ว ในบรรยากาศสบาย ๆ
เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างบริษัท กับ ผู้ถือหุ้น และ ผู้ถือหุ้นจะได้ไปรู้ ไปเห็น
หรือ ไปถามว่า ผู้บริหารของบริษัทที่ตนถือหุ้นนั้นบริหารอย่างไร หรือ ทำกิจกรรมที่ส่งผลอะไรต่อ “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย / มีส่วนเกี่ยวข้อง” หรือ stakeholders ของกิจการนั้น ๆ บ้าง
ตัวอย่าง บริษัท ทีทีดับบลิว นี้ ทำกิจการเกี่ยวกับเรื่องการจำหน่ายน้ำประปา สูบน้ำ จากแม่น้ำท่าจีน มาเป็นน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำ
ดังนั้น “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” ยังหมายรวมถึง ชุมชนป่าต้นน้ำที่อยู่ไกลถึง 300 กว่ากิโลเมตรออกไปริมชายแดน
ที่เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำแควที่ไหลไปเชื่อมกับ แม่กลอง และต่อมาท่าจีนในที่สุด
เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาวฉันใด
การทำกิจกรรม หรือ กิจการใด ๆ ก็ย่อมส่งผลต่อชุมชนโดยรวมเป็นวงกว้างออกไปฉันนั้น
ดังนั้น การทำกิจกรรมอย่างปลูกป่าของบริษัท จึงไม่ใช่การคืนกำไรให้กับสังคมและชุมชนอย่างเดียว
แต่ยังเป็นการสงวนป่าต้นน้ำ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแหล่งวัตถุดิบของตนเองอีกด้วย
หากป่าต้นน้ำอุดมสมบูรณ์ น้ำที่ปลายทางอีกฟากในหลายร้อยกิโลเมตรห่างออกไป ก็จะพลอยดีตามไปด้วย
อะ...เล่าต่อนะคะ
กำหนดการคือ ล้อหมุนตอนเจ็ดโมงเช้า หน้าตลาดหลักทรัพย์ มุ่งตรงไปกาญจนบุรี รถตู้คันหนึ่งนั่งประมาณแค่ 5 คนเท่านั้น
นอนหลับ เหยียดขากันได้สบาย ๆ
ทิวทัศน์ระหว่างทาง
เราไปถึงโรงเรียน บ้านเหมืองแร่อีต่องประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ
สภาพโรงเรียนโดยทั่ว ๆ ไป นับว่าทันสมัยพอสมควร
มีการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปีหน้าด้วย
ธงอาเซียน 10 ชาติครบหมดค่ะ
มีค่านิยม 12 ประการ ขนาดบึ้ม ๆ ปะอยู่ข้างฝา
พอไปถึง ก็มีกำหนดการทานข้าวเที่ยงเลยค่ะ เจ้าหน้าที่ของ TTW จัดซุ้มก๋วยเตี๋ยว เกี๊ยวทอด ผลไม้ ไอศกรีม ไว้คอยต้อนรับ
โดยมีคุณ ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ CEO ของบริษัท เป็นผู้ทำก๋วยเตี๋ยวเลี้ยงผู้ถือหุ้น
อาหารอร่อยมากค่ะ สอบถามได้ความว่า ลูกชิ้นขนมาจากเยาวราชโดยเฉพาะ
คุณชัยวัฒน์ ถามผู้ถือหุ้นว่า “พอทานได้ไหมฮะ ... อยู่บ้านผมไม่เคยทำเลยนะนี่”
คือ ทางบริษัท ตั้งใจจะมาเลี้ยงอาหารเด็ก ๆ ที่โรงเรียนนี้อยู่แล้ว ก็เลยเตรียมของอร่อย ๆ ที่แปลกไปจากที่เด็ก ๆ ทานแบบปกติ มาให้ได้ลองชิมกันบ้าง ผู้ถือหุ้นก็เลยพลอยอร่อยไปด้วย
นอกจากทำพิธีส่งมอบป่าต้นน้ำแล้ว ยังมีการเตรียมของมาฝากเด็ก ๆ คุณครู และ พี่ ๆ ตชด.ที่ดูแลพื้นที่แถวนี้ด้วย
น้อง ๆ ก็ขึ้นมาเต้นเพลงให้ดู 2 เพลง เป็นเพลงสาวปิล็อค กับ เพลงภาษาไม่แน่ใจว่า ภาษากระเหรี่ยง หรือ พม่า เอาเป็นว่า ภาษาต่างประเทศเพลงหนึ่งให้ดู
น่ารัก น่าเอ็นดูดีค่ะ
หลังจบการแสดงและมอบของกันเรียบร้อยแล้ว ทางผู้บริหารก็พาคณะชมรอบ ๆ โรงเรียนเพื่อดูว่า สิ่งที่ทาง ทีทีดับบลิว ทำให้กับโรงเรียนมีอะไรบ้าง เช่น การมอบถังเก็บน้ำแทนของเดิมที่ขึ้นสนิม หรือ การปรับปรุงโรงอาหารให้สะอาดเรียบร้อยขึ้น
โดยระหว่างนี้ ผู้ถือหุ้นสามารถ ซักถามการดำเนินงานต่าง ๆ กับผู้บริหารได้อย่างเป็นกันเอง
คุณ ชัยวัฒน์ ได้แชร์ให้ฟังว่า ตอนนี้ TTW กำลัง อยู่ในช่วงการเจรจาเพื่อที่จะ เข้าไปทำการผลิตน้ำประปาสะอาดให้กับ เมือง เมาะลำไย (Mawlamyine) หรือ ที่เราอาจคุ้นในชื่อ เมาะละแหม่ง ในพม่า เมืองนี้ มีแม่น้ำใหญ่ที่ไหลผ่านคือ แม่น้ำ อัทรานAtaran River
โดย TTW ได้เข้าไปเสนอบริการผลิตน้ำประปาให้กับเมืองนี้ และได้บริจาคเครื่องมืออุปกรณ์ในการทดสอบคุณภาพน้ำมูลค่าล้านกว่าบาทให้กับมหาวิทยาลัยเมาะลำไย ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามของพม่า
เมืองนี้ น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ และเป็นธรรมชาติ มาก คือ สูบน้ำจากแม่น้ำมาอย่างไร ผ่านถังใหญ่ ๆ 2-3 ถังเก็บน้ำ ก็ส่งออกตามท่อประปาอย่างนั้น
ปัญหาสาธารณสุขที่พบคือ ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
หากการเจรจาลุล่วง ทางบริษัทจะใช้เวลา 18 เดือนในการ set up ทุกอย่างจนพร้อมผลิตน้ำประปาสะอาดได้
ซึ่งจะผลิตได้ประมาณ 40,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน (ณ ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 440,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน)
และหากโครงการนี้อนุมัติ จะเป็นโครงการสาธารณูปโภคด้านน้ำที่ใหญ่ที่สุดที่นักลงทุนไทยไปลงทุนในพม่า
กลับมาต่อที่ทริปเรานะคะ
จากนั้น เราไปแวะไหว้พระ ที่วัดเหมืองปิล็อค
ขอเอารูปดอกไม้ป่าเล็ก ๆ มาฝากหน่อยนะคะ น่ารักดีค่ะ ดอกม่วง ๆ ขึ้นแอบ ๆ อยู่ตามโขดหิน
จากวัดมองลงไปจะเห็นทิวเขาแบบนี้ค่ะ
ขออวดดอกไม้อีกสักรูปนะคะ ไฮเดรนเยีย สีม่วงอ่อน
จากนั้น เราก็เข้าที่พักในตัวตำบลปิล็อค
ภาพบรรยากาศภายในเมืองเล็ก ๆ ค่ะ
ที่นี่ ไม่มีโรงแรมนะคะ มีแต่ที่พักแนว ๆ โฮมสเตย์ เรียบง่าย แต่สะอาดค่ะ (เสียอย่างเดียว น้ำไหลไม่ค่อยแรง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะพี่สิริพรของเรา ไปหาถังน้ำใบโตพร้อมขัน มาใส่น้ำให้อาบกันสะดวก ๆ )
อาหารเย็น เรากินกันที่ครัวสุดแดน อร่อยมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขาหมู
ขออภัย ช็อตนี้ ไม่มีรูป เพราะเอาแต่กิน
จบอาหารเย็น ก็ขึ้นไปดูดาวกันที่เนินช้างศึกก่อนกลับมาพักผ่อนเพื่อเตรียมปลูกป่าต่อไป