
"พอกันที ฟูจิ กับราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณภาพอาหารและบริการที่ต่ำลงเรื่อยๆ"
กว่าสิบปีแล้วที่ผมและครอบครัวใช้บริการร้านอาหาร Fuji มา เพราะเมื่อย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว(2542) ร้านอาหารญี่ปุ่นใหญ่ๆในไทยและมีหลายสาขาก็คงต้องนึกถึงร้านนี้ ก็ต้องยอมรับครับว่ารสชาติและคุณภาพอาหารของเขาเมื่อก่อนดีถึงดีมากครับเนื่องจากสมัยก่อนยังไม่ค่อยมีร้านคู่แข่งให้เปรียบเทียบ แต่วันเวลาผ่านไปร้านฟูจิก็ได้เจริญเติบโตขยายสาขาขึ้นมากมายหลายสาขาทั่วประเทศไปพร้อมราคาอาหารที่มีการปรับขึ้นราคาแต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นเพราะการปรับขึ้นราคาก็เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจและยุคสมัย หากแต่คุณภาพของอาหารและบริการกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนครับผมเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ตั้งแต่อดีต ใช้บริการจนได้รับบัตรลด10%เลย(ต้องทานครบ30,000฿) เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ผมก็เข้าไปทานอาหารที่ร้านตามปกติ พอเช็คบิลก็เอาบัตรสมาชิกให้เขาปรากฎว่าพนักงานแจ้งว่าบัตรสมาชิกหมดอายุแล้วต่อใหม่ไหมค่ะ(เสียเงินค่าต่อ) ผมก็บอกต่อครับ พนักงานแจ้งว่าถ้ามียอดสะสมในบัตรครบ30,000฿ก็จะต่ออายุบัตรให้อัตโนมัติปรากฎว่าในบัตรมียอดสะสมอยู่29,700฿ ซึ่งขาดไป300฿ แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมีอยู่ว่าบัตรนี้มีการอัพเกรดบัตรมาประมาณ2-3 ครั้งแระ แต่ทางร้านก็ไม่ได้เปลี่ยนบัตรใหม่ให้ โดยบัตรวันหมดอายุหน้าบัตรคือ 05/2011 แล้วผมจะทราบได้อย่างไรครับว่าบัตรมันจะหมดอายุเมื่อไร? พนักงานบอกต้องโทรถาม Call Center แต่ผมก็ไม่ได้โทรเพราะถ้าเสียเงินค่าต่ออายุบัตรแล้วมันรักษาสิทธิประโยชน์เก่าไว้ได้ผมก็โอเค (แต้มสะสมกับส่วนลด10%) ปรากฎว่าต่อมาเมื่อวันที่ 26 พ.ย.57 ที่ผ่านมาผมเข้าไปทานที่สาขาเซนทรัลลาดพร้าว และจะขอรับบัตรใหม่ที่ทำไว้ที่สาขาเซนทรัลแจ้งวัฒนะ แต่แจ้งให้เขาว่าจะขอมารับบัตรที่สาขาลาดพร้าว ปรากฎว่าบัตรไม่ได้ถูกส่งมา พนักงานบอกให้รอไปอีก1-2สัปดาห์ เขาจะให้ที่โน้นจัดส่งมาให้ ผมก็ไม่มีปัญหาครับ แต่พอเช็คบิล บัตรส่วนลดที่ต่ออายุไว้ ใช้เป็นส่วนลด10% ใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะพนักงานแจ้งว่าผมทำบัตรใหม่ อ้าวกรรม!!! แล้วมันเอาบัตรเก่าผมไปทำไม โดยบอกว่าต่ออายุให้???? แล้วสิทธิส่วนลด10%ละ??? เขาบอกไม่ได้แล้วค่ะ ผมจึงโทรไปถาม Fuji Call Center ได้ความว่า....
ผมถาม : ส่วนลด10% ในบัตรที่ผมต่ออายุมันหายไปไหน?
พนักงานตอบ : บัตรคุณหมดอายุไปแล้วและส่วนลด10%ก็หมดด้วยเพราะคุณทานไม่ครบ30,000฿ก่อนบัตรหมดอายุ
ผม : ผมจะรู้ได้อย่างไรครับว่าบัตรหมดอายุเมื่อไร?
พนักงาน : ต้องค่อยตรวจสอบสลิปทุกครั้งหลังใช้บริการค่ะ
ผม : ที่บริษัทไม่มีบริการแจ้งเตือนใดๆลูกค้าเลยหรือว่าบัตรมียอดสะสมคงเหลือเท่าไร? และจะหมดอายุเมื่อไร ?
พนักงาน : ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่าไม่มีค่ะ
ผม : ผมไม่ได้ดูอะครับเวลากินเสร็จก็จ่ายเงิน รับเงินทอนเสร็จก็กลับ ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาจำวันหมดอายุบัตร และแต้มในบัตรสมาชิก (ซึ่งผมมีบัตรสมาชิกร้านอาหารอื่นๆอยู่อีกมากมายหลายสิบร้าน ใครจะไปจำหมดวะ คิดในใจ) ทางร้านน่าจะมีการแจ้งเตือนใดๆสักอย่างนะครับ SMS,e-mail,ไปรษณีย์บัตรหรือจดหมายก็ยังดี
พนักงาน : ไม่มีค่ะ
ผม : คือยอดสะสมในบัตรผมอะ 29,700฿ ขาดไปแค่ 300เอง ถ้ามีการแจ้งเตือนใดๆก่อนล่วงหน้าผมเข้าไปใช้บริการให้มันถึงยอดได้อยู่แล้วอะครับ
พนักงาน : ทางเราไม่มีบริการค่ะ
****มาถึงตรงนี้ผมปรี๊ดเลยครับขอโทษสักคำก็ไม่มี จะขอข้อมูลอะไรเราไปตรวจสอบก็ดูเหมือนไม่ใส่ใจ****
ผม : ช่วยดูแลอะไรได้ไหมครับ
พนักงาน : (ตอบปฏิเสธ)
ผม : สรุปจะไม่ช่วยดูแลอะไรผมเลยใช่ไหมครับ???
พนักงาน : ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ ทางเราไม่มีนโยบายแจ้งลูกค้าค่ะ ลูกค้าต้องดูที่บิลค่ะ
ผม : เง้นผมขอ complaints เรื่องนี้เลยนะครับ
พนักงาน : ค่ะ เราจะรับข้อเสนอแนะนี้ไปพิจรณาและปรับปรุง คะ
ผม : แล้วตกลงจะไม่ช่วยดูแลอะไรผมเลยใช่ไม่ครับ
พนักงาน : ไม่สามารถค่ะ......
ผม : เง้นผมก็คงต้องเลิกใช้บริการที่ร้านและแหละครับ
พนักงาน : ค่ะ
จบครับต่อจากนี้ผมคงอาจต้องหาเวลาเข้าไปใช้แต้มสะสมในบัตรให้มันหมดอีกสักครั้งซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไรจะได้เข้าไปอีกเพราะรู้สึกไม่ดีกับทางร้านไปแล้วครับ ประกอบกับปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดีมีคุณภาพและรสชาติดีกว่าร้าน Fuji มีอยู่เยอะแยะมากมาย แถมบางร้านยังราคาถูกว่าอีกด้วย และถึงร้านอื่นจะไม่มีส่วนลดใดๆเลยก็ตามแต่รสชาติและคุณภาพของอาหารเขาก็ดีกว่าร้าน Fuji ในปัจจุบันอยู่เยอะครับ
ประสบการณ์เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ร้านอาหารบางร้านพอกิจการเติบโตจนถึงจุดๆหนึ่งแล้ว การดูแลหรือเอาใจใส่ลูกค้าก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป เพราะหลายครั้งครับที่เราไปที่ร้าน Fuji แล้วต้องต่อคิวรอเหมือนมารอทานของฟรีอย่างไงอย่างนั้น เขาคงคิดอะครับว่ามีคนใช้บริการเขาตั้งมากมายไม่จำเป็นต้องง้อลูกค้าอีกต่อไป ลูกค้าสิต้องเป็นคนง้อขอเข้าไปทานอาหารที่ร้านเขา ผมว่าถ้าพวกคุณคิดอย่างนี้จริง ระวังสักวันจะไม่มีลูกค้ามาให้คุณง้อสักคนเดียวครับ
อีกหลากหลายทัศนคติที่ตรงกันกับผมครับ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=988304374518650&set=a.905631842785904.1073741848.100000172901791&type=1&theater
"พอกันที ฟูจิ กับราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณภาพอาหารและบริการที่ต่ำลงเรื่อยๆ"
"พอกันที ฟูจิ กับราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณภาพอาหารและบริการที่ต่ำลงเรื่อยๆ"
กว่าสิบปีแล้วที่ผมและครอบครัวใช้บริการร้านอาหาร Fuji มา เพราะเมื่อย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว(2542) ร้านอาหารญี่ปุ่นใหญ่ๆในไทยและมีหลายสาขาก็คงต้องนึกถึงร้านนี้ ก็ต้องยอมรับครับว่ารสชาติและคุณภาพอาหารของเขาเมื่อก่อนดีถึงดีมากครับเนื่องจากสมัยก่อนยังไม่ค่อยมีร้านคู่แข่งให้เปรียบเทียบ แต่วันเวลาผ่านไปร้านฟูจิก็ได้เจริญเติบโตขยายสาขาขึ้นมากมายหลายสาขาทั่วประเทศไปพร้อมราคาอาหารที่มีการปรับขึ้นราคาแต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นเพราะการปรับขึ้นราคาก็เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจและยุคสมัย หากแต่คุณภาพของอาหารและบริการกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนครับผมเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ตั้งแต่อดีต ใช้บริการจนได้รับบัตรลด10%เลย(ต้องทานครบ30,000฿) เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ผมก็เข้าไปทานอาหารที่ร้านตามปกติ พอเช็คบิลก็เอาบัตรสมาชิกให้เขาปรากฎว่าพนักงานแจ้งว่าบัตรสมาชิกหมดอายุแล้วต่อใหม่ไหมค่ะ(เสียเงินค่าต่อ) ผมก็บอกต่อครับ พนักงานแจ้งว่าถ้ามียอดสะสมในบัตรครบ30,000฿ก็จะต่ออายุบัตรให้อัตโนมัติปรากฎว่าในบัตรมียอดสะสมอยู่29,700฿ ซึ่งขาดไป300฿ แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมีอยู่ว่าบัตรนี้มีการอัพเกรดบัตรมาประมาณ2-3 ครั้งแระ แต่ทางร้านก็ไม่ได้เปลี่ยนบัตรใหม่ให้ โดยบัตรวันหมดอายุหน้าบัตรคือ 05/2011 แล้วผมจะทราบได้อย่างไรครับว่าบัตรมันจะหมดอายุเมื่อไร? พนักงานบอกต้องโทรถาม Call Center แต่ผมก็ไม่ได้โทรเพราะถ้าเสียเงินค่าต่ออายุบัตรแล้วมันรักษาสิทธิประโยชน์เก่าไว้ได้ผมก็โอเค (แต้มสะสมกับส่วนลด10%) ปรากฎว่าต่อมาเมื่อวันที่ 26 พ.ย.57 ที่ผ่านมาผมเข้าไปทานที่สาขาเซนทรัลลาดพร้าว และจะขอรับบัตรใหม่ที่ทำไว้ที่สาขาเซนทรัลแจ้งวัฒนะ แต่แจ้งให้เขาว่าจะขอมารับบัตรที่สาขาลาดพร้าว ปรากฎว่าบัตรไม่ได้ถูกส่งมา พนักงานบอกให้รอไปอีก1-2สัปดาห์ เขาจะให้ที่โน้นจัดส่งมาให้ ผมก็ไม่มีปัญหาครับ แต่พอเช็คบิล บัตรส่วนลดที่ต่ออายุไว้ ใช้เป็นส่วนลด10% ใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะพนักงานแจ้งว่าผมทำบัตรใหม่ อ้าวกรรม!!! แล้วมันเอาบัตรเก่าผมไปทำไม โดยบอกว่าต่ออายุให้???? แล้วสิทธิส่วนลด10%ละ??? เขาบอกไม่ได้แล้วค่ะ ผมจึงโทรไปถาม Fuji Call Center ได้ความว่า....
ผมถาม : ส่วนลด10% ในบัตรที่ผมต่ออายุมันหายไปไหน?
พนักงานตอบ : บัตรคุณหมดอายุไปแล้วและส่วนลด10%ก็หมดด้วยเพราะคุณทานไม่ครบ30,000฿ก่อนบัตรหมดอายุ
ผม : ผมจะรู้ได้อย่างไรครับว่าบัตรหมดอายุเมื่อไร?
พนักงาน : ต้องค่อยตรวจสอบสลิปทุกครั้งหลังใช้บริการค่ะ
ผม : ที่บริษัทไม่มีบริการแจ้งเตือนใดๆลูกค้าเลยหรือว่าบัตรมียอดสะสมคงเหลือเท่าไร? และจะหมดอายุเมื่อไร ?
พนักงาน : ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่าไม่มีค่ะ
ผม : ผมไม่ได้ดูอะครับเวลากินเสร็จก็จ่ายเงิน รับเงินทอนเสร็จก็กลับ ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาจำวันหมดอายุบัตร และแต้มในบัตรสมาชิก (ซึ่งผมมีบัตรสมาชิกร้านอาหารอื่นๆอยู่อีกมากมายหลายสิบร้าน ใครจะไปจำหมดวะ คิดในใจ) ทางร้านน่าจะมีการแจ้งเตือนใดๆสักอย่างนะครับ SMS,e-mail,ไปรษณีย์บัตรหรือจดหมายก็ยังดี
พนักงาน : ไม่มีค่ะ
ผม : คือยอดสะสมในบัตรผมอะ 29,700฿ ขาดไปแค่ 300เอง ถ้ามีการแจ้งเตือนใดๆก่อนล่วงหน้าผมเข้าไปใช้บริการให้มันถึงยอดได้อยู่แล้วอะครับ
พนักงาน : ทางเราไม่มีบริการค่ะ
****มาถึงตรงนี้ผมปรี๊ดเลยครับขอโทษสักคำก็ไม่มี จะขอข้อมูลอะไรเราไปตรวจสอบก็ดูเหมือนไม่ใส่ใจ****
ผม : ช่วยดูแลอะไรได้ไหมครับ
พนักงาน : (ตอบปฏิเสธ)
ผม : สรุปจะไม่ช่วยดูแลอะไรผมเลยใช่ไหมครับ???
พนักงาน : ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ ทางเราไม่มีนโยบายแจ้งลูกค้าค่ะ ลูกค้าต้องดูที่บิลค่ะ
ผม : เง้นผมขอ complaints เรื่องนี้เลยนะครับ
พนักงาน : ค่ะ เราจะรับข้อเสนอแนะนี้ไปพิจรณาและปรับปรุง คะ
ผม : แล้วตกลงจะไม่ช่วยดูแลอะไรผมเลยใช่ไม่ครับ
พนักงาน : ไม่สามารถค่ะ......
ผม : เง้นผมก็คงต้องเลิกใช้บริการที่ร้านและแหละครับ
พนักงาน : ค่ะ
จบครับต่อจากนี้ผมคงอาจต้องหาเวลาเข้าไปใช้แต้มสะสมในบัตรให้มันหมดอีกสักครั้งซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไรจะได้เข้าไปอีกเพราะรู้สึกไม่ดีกับทางร้านไปแล้วครับ ประกอบกับปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดีมีคุณภาพและรสชาติดีกว่าร้าน Fuji มีอยู่เยอะแยะมากมาย แถมบางร้านยังราคาถูกว่าอีกด้วย และถึงร้านอื่นจะไม่มีส่วนลดใดๆเลยก็ตามแต่รสชาติและคุณภาพของอาหารเขาก็ดีกว่าร้าน Fuji ในปัจจุบันอยู่เยอะครับ
ประสบการณ์เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ร้านอาหารบางร้านพอกิจการเติบโตจนถึงจุดๆหนึ่งแล้ว การดูแลหรือเอาใจใส่ลูกค้าก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป เพราะหลายครั้งครับที่เราไปที่ร้าน Fuji แล้วต้องต่อคิวรอเหมือนมารอทานของฟรีอย่างไงอย่างนั้น เขาคงคิดอะครับว่ามีคนใช้บริการเขาตั้งมากมายไม่จำเป็นต้องง้อลูกค้าอีกต่อไป ลูกค้าสิต้องเป็นคนง้อขอเข้าไปทานอาหารที่ร้านเขา ผมว่าถ้าพวกคุณคิดอย่างนี้จริง ระวังสักวันจะไม่มีลูกค้ามาให้คุณง้อสักคนเดียวครับ
อีกหลากหลายทัศนคติที่ตรงกันกับผมครับ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=988304374518650&set=a.905631842785904.1073741848.100000172901791&type=1&theater