http://ppantip.com/topic/32874568/comment20
สวัสดีครับทุกท่าน
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกความห่วงใย และคำแนะนำต่างๆ
เข้าสู่เดือนแห่ง”วันพ่อ” ผมในฐานะพ่อคนหนึ่ง ที่พิเศษกว่าพ่อคนอื่นนิดนึง
เพราะผมมีลูกสาวที่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 4ที่กำลังจะรับปริญญา
เมื่อวานนี้ 30 พฤศจิกายน 57 ได้พาลูกสาว น้องจอยไปที่มหาวิทยาลัย มทร.
เพื่อรายงานตัว และซ้อมในพิธีรับปริญญาบัตร และเพื่อปรึกษาอาจารย์ ในเคลสของน้องจอยว่าจะต้องทำอะไรบ้าง และต้องติดต่อ เพื่อดำเนินการอย่างไร
ในกรณีของน้องที่จะต้อง ไปรับจริงในวันที่16 ธันวาคมนี้ ทีคลองหก
“ บัณฑิตบนวินแชร์”
ในความเข้าใจของผม คิดว่าวันนี้คงส่งน้องจอย มาหาอาจารย์เพื่อพูดคุย ขอคำปรึกษากับคณะอาจารย์ในเรื่อง ที่จะรับปริญญา และถ่ายรูปกับคณะของน้องจอยเท่านั้น แต่มาถึงแล้วน้องจอยไม่ยอม น้องจอยเริ่มขอเข้าประชุมกับคณะด้วย และมีการซ้อม (ผมไม่เห็นตอนนี้ พระแยกกับน้อง นั่งงงอยู่ที่โรงอาหาร)
หลังจากที่น้องจอยกลับมา สีหน้าน้องมีความสุข แต่สีหน้าพ่อเริ่มกังวลมาก เพราะไม่รู้ว่าต้องมีพิธีอะไรอีก ผมบอกตามตรงว่าผมกังวลมากและเป็นห่วง แต่น้องจอย บอกว่าหนูไหว และหลังจากนั้นน้องจอยก็ออกไปที่หอประชุมใต้ถุนอาคาร เข้าแถวเพื่อถ่ายรูป เกี่ยวกับคณะหรืออะไรสักอย่าง (บอกตามตรงไม่เข้าใจเพราะไม่เคยรับปริญญา ) ตอนนี้ผมเครียดหนักเลย เรียกน้องเจมส์ มาประกบอยู่ในแถวเลย ส่วนผมก็ต้องคอยถือน้ำ คอยดูอยู่ตลอด คือก็อยู่ในแถวกับน้องๆเลย
“น้องเจมส์ คอยดูแลพี่สาวและเป็นเพื่อนในแถว”
น้องจอยก็ได้รับการดูแลจากเพื่อนๆเป็นอย่างดี น้องสู้มากสีหน้ามีความสุขมาก แต่ผมเชื่อว่าน้องจอยต้องทน และเอาชนะสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา จนผมต้องบอกว่า จบรอบนี้แล้วคงต้องกลับแล้วละ (เพราะเห็นตารางการซ้อมจะต้องมีอีกในช่วงบ่าย) คงต้องขอปรึกษาขออนุญาตจากอาจารย์ก่อน ว่าจะทำอย่างไรในรอบต่อไป
“เห็นน้องจอยไหมครับ”
หลังจากที่จบจากขั้นตอนต่างๆ ในช่วงเช้าแล้ว ช่วงพักรับประทานอาหาร ก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยปรึกษากับอาจารย์ ในตอนนี้อาจารย์ได้ให้น้องจอยมาพักที่ห้องอาจารย์ และได้ปรึกษาในกลุ่มของอาจารย์กันเองว่า ในช่วงบ่าย น้องจอยไม่ต้องเข้าร่วมซ้อมก็ได้ ส่วนในวันที่ 11 ธันวาคม น้องจอยคงต้องไปในพิธีซ้อมใหญ่ ที่คลองหก แต่ทางคณะอาจารย์ได้ปรึกษากันแล้ว น้องจอยคงไม่ต้องเข้าแถว แต่จะต้องให้น้องจอยนั่งรถวินแชร์ และคอยทางประตู (ผมนึกไม่ออกว่าหอประชุมเขาเป็นอย่างไร) เมื่อถีงเวลาน้องจอยก็เดินไปรับ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดู เพราะน้องจอยยังเดินได้ คงไม่ต้องเข็นวินแชร์ไปรับ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ผมเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก คิดว่า วันที่ 11 ธันวานี้ คงอาจจะเริ่มเข้าใจ ในพิธีการต่างๆแล้วล่ะ
ช่วงนี้ได้ได้แต่บอกน้องจอยว่า หนูต้องดูแลตัวเองให้ดีทานยา ทานอาหารตามที่คุณหมอสั่ง สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก
เมื่อวานนี้ผมรู้ว่ามันเสี่ยงผมเองก็ไม่สบายใจนัก แต่น้องก็มีความสุขกับสิ่งที่เขาได้ทำได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ ผมเองก็ต้องพร้อมที่จะรับคำตำหนิจากทุกๆท่านครับ เพราะเชื่อว่าทุกท่านก็คงเป็นห่วงไม่ต่างจากผมเช่นกัน
ขอบพระคุณมากกับอาจารย์ของ มทร. ที่ท่านดูแลลูกศิษย์ของท่าน(น้องจอย) ด้วยความห่วงใย ขอบคุณเพื่อนๆของน้องจอยที่คอยดูแลเอาใจใส่
ขอบคุณน้องช่างแต่งหน้า ช่างภาพ และอีกหลายๆท่านครับ
และที่จะลืมไม่ได้ขอบคุณทุกท่านในพันทิปที่คอยห่วงใยคอยติดตาม มีทั้งกำลังใจและคำแนะนำต่างๆ ที่ดีเสมอมา
ขอบคุณมากครับ
เมื่อผมพาลูกสาวที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 4ไปซ้อมรับปริญญาครับ
สวัสดีครับทุกท่าน
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกความห่วงใย และคำแนะนำต่างๆ
เข้าสู่เดือนแห่ง”วันพ่อ” ผมในฐานะพ่อคนหนึ่ง ที่พิเศษกว่าพ่อคนอื่นนิดนึง
เพราะผมมีลูกสาวที่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 4ที่กำลังจะรับปริญญา
เมื่อวานนี้ 30 พฤศจิกายน 57 ได้พาลูกสาว น้องจอยไปที่มหาวิทยาลัย มทร.
เพื่อรายงานตัว และซ้อมในพิธีรับปริญญาบัตร และเพื่อปรึกษาอาจารย์ ในเคลสของน้องจอยว่าจะต้องทำอะไรบ้าง และต้องติดต่อ เพื่อดำเนินการอย่างไร
ในกรณีของน้องที่จะต้อง ไปรับจริงในวันที่16 ธันวาคมนี้ ทีคลองหก
“ บัณฑิตบนวินแชร์”
ในความเข้าใจของผม คิดว่าวันนี้คงส่งน้องจอย มาหาอาจารย์เพื่อพูดคุย ขอคำปรึกษากับคณะอาจารย์ในเรื่อง ที่จะรับปริญญา และถ่ายรูปกับคณะของน้องจอยเท่านั้น แต่มาถึงแล้วน้องจอยไม่ยอม น้องจอยเริ่มขอเข้าประชุมกับคณะด้วย และมีการซ้อม (ผมไม่เห็นตอนนี้ พระแยกกับน้อง นั่งงงอยู่ที่โรงอาหาร)
หลังจากที่น้องจอยกลับมา สีหน้าน้องมีความสุข แต่สีหน้าพ่อเริ่มกังวลมาก เพราะไม่รู้ว่าต้องมีพิธีอะไรอีก ผมบอกตามตรงว่าผมกังวลมากและเป็นห่วง แต่น้องจอย บอกว่าหนูไหว และหลังจากนั้นน้องจอยก็ออกไปที่หอประชุมใต้ถุนอาคาร เข้าแถวเพื่อถ่ายรูป เกี่ยวกับคณะหรืออะไรสักอย่าง (บอกตามตรงไม่เข้าใจเพราะไม่เคยรับปริญญา ) ตอนนี้ผมเครียดหนักเลย เรียกน้องเจมส์ มาประกบอยู่ในแถวเลย ส่วนผมก็ต้องคอยถือน้ำ คอยดูอยู่ตลอด คือก็อยู่ในแถวกับน้องๆเลย
“น้องเจมส์ คอยดูแลพี่สาวและเป็นเพื่อนในแถว”
น้องจอยก็ได้รับการดูแลจากเพื่อนๆเป็นอย่างดี น้องสู้มากสีหน้ามีความสุขมาก แต่ผมเชื่อว่าน้องจอยต้องทน และเอาชนะสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา จนผมต้องบอกว่า จบรอบนี้แล้วคงต้องกลับแล้วละ (เพราะเห็นตารางการซ้อมจะต้องมีอีกในช่วงบ่าย) คงต้องขอปรึกษาขออนุญาตจากอาจารย์ก่อน ว่าจะทำอย่างไรในรอบต่อไป
“เห็นน้องจอยไหมครับ”
หลังจากที่จบจากขั้นตอนต่างๆ ในช่วงเช้าแล้ว ช่วงพักรับประทานอาหาร ก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยปรึกษากับอาจารย์ ในตอนนี้อาจารย์ได้ให้น้องจอยมาพักที่ห้องอาจารย์ และได้ปรึกษาในกลุ่มของอาจารย์กันเองว่า ในช่วงบ่าย น้องจอยไม่ต้องเข้าร่วมซ้อมก็ได้ ส่วนในวันที่ 11 ธันวาคม น้องจอยคงต้องไปในพิธีซ้อมใหญ่ ที่คลองหก แต่ทางคณะอาจารย์ได้ปรึกษากันแล้ว น้องจอยคงไม่ต้องเข้าแถว แต่จะต้องให้น้องจอยนั่งรถวินแชร์ และคอยทางประตู (ผมนึกไม่ออกว่าหอประชุมเขาเป็นอย่างไร) เมื่อถีงเวลาน้องจอยก็เดินไปรับ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดู เพราะน้องจอยยังเดินได้ คงไม่ต้องเข็นวินแชร์ไปรับ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ผมเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก คิดว่า วันที่ 11 ธันวานี้ คงอาจจะเริ่มเข้าใจ ในพิธีการต่างๆแล้วล่ะ
ช่วงนี้ได้ได้แต่บอกน้องจอยว่า หนูต้องดูแลตัวเองให้ดีทานยา ทานอาหารตามที่คุณหมอสั่ง สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก
เมื่อวานนี้ผมรู้ว่ามันเสี่ยงผมเองก็ไม่สบายใจนัก แต่น้องก็มีความสุขกับสิ่งที่เขาได้ทำได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ ผมเองก็ต้องพร้อมที่จะรับคำตำหนิจากทุกๆท่านครับ เพราะเชื่อว่าทุกท่านก็คงเป็นห่วงไม่ต่างจากผมเช่นกัน
ขอบพระคุณมากกับอาจารย์ของ มทร. ที่ท่านดูแลลูกศิษย์ของท่าน(น้องจอย) ด้วยความห่วงใย ขอบคุณเพื่อนๆของน้องจอยที่คอยดูแลเอาใจใส่
ขอบคุณน้องช่างแต่งหน้า ช่างภาพ และอีกหลายๆท่านครับ
และที่จะลืมไม่ได้ขอบคุณทุกท่านในพันทิปที่คอยห่วงใยคอยติดตาม มีทั้งกำลังใจและคำแนะนำต่างๆ ที่ดีเสมอมา
ขอบคุณมากครับ