พอดีเขียนส่งเป็นงานไว้ตั้งแต่จบสัปดาห์ใหม่ๆ ดันลืมเอามาลงพันทิบ จน Matchday ใหม่มาแล้ว เลยขอลงหน่อย
เดี๋ยวเสียสถิติแล้วไม่ได้ลง ฮ่าๆ
มาถึงสัปดาห์ที่ 12 เข้าสู่ช่วงไตรมาสแรกของฤดูกาลไปเป็นที่เรียบร้อย ฤดูกาลมีหลายทีมที่มีอันดับพลิกโผจากเคยอยู่หัวก็ดันไปกองท้ายตาราง จากเคยกลางตารางก็ขึ้นมาผงาดโซนหนาวมากกันก็มี มาดู 3 ทีมดังที่ครองสถิติไร้พ่ายแม้จะผ่านไปแล้ว 12 นัดก็ตาม กันค่ะ
1. Bayern Munich : Bundesliga
ไม่เหนือความคาดหมายอะไรสำหรับบาเยิร์นมิวนิค ปีนี้เป็นปีที่ 2 ของกุนซือสเปน เป็ป กวาดิโอล่า ที่พาทีมทุบสถิติมากมายในปีแรกที่เขามาคุมทีมเยอรมัน แม้จะได้รับการค่อนขอดว่า อาจนำพาแต่สไตล์เดิมๆแบบสมัยที่คุมบาร์ซ่าติดตัวมาด้วย แต่ผลงาน 3 แชมป์ในฤดูกาลที่แล้ว ก็น่าจะพิสูจน์ได้ส่วนนึงว่า เป็ป ยังสามารถปรับปรุงแท็คติคให้สอดคล้องกับสไตล์ฟุตบอลที่แตกต่างและสามารถปรับตัวกับลีกชั้นนำอย่าง บุนเดสลีกาได้อย่างรวดเร็ว
3 แชมป์ที่ว่าแม้ไม่อาจเทียบกับที่ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ทำไว้ในฤดูกาลสุดท้ายคือ แชมป์บุนเดสลีกา,แชมป์เดเอฟเบโพคาล และ แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์ แต่ 3 แชมป์ที่เป็ปทำได้ก็ไม่ขี้เหร่เลย โดยเขาพลาดไปเพียงถ้วย ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์เท่านั้น แต่ได้ถ้วยสโมสรโลกมาแทน
ชนะ 9 นัด เสมอ 3 นัด
บาร์เยิร์นเปิดฤดูกาลด้วยการเสียตัวหลักในแดนกลางอย่าง โทนี่ โครสไปให้กับรีล มาดริด และ เสียหอกตัวทำประตูอย่าง มาริโอ มันซูคิดก์ไปให้แอธเลติโก มาดริด แต่นั่นก็เพราะพวกเขามีตัวแทนที่คุณภาพคับแก้วมาทดแทนอยู่แล้ว อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้และซาบี้ อลอนโซ่จากรีล มาดริด แบบที่ย้ายมาด้วยความช้อควงการเลยทีเดียว ทำให้ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล พวกเขาไม่มีปัญหาน่าหนักใจอะไรนอกจากปัญหานักเตะบาดเจ็บล็อตเดิมที่คิดว่าสมควรหายแล้ว แต่ดันมาเจ็บซ้ำ อย่าง ติอาร์โก อาคันทาร่า และ ฆาบี้ มาร์ติเนซ แต่อย่างที่เราบอกไว้ ว่าบาเยิร์นเป็นทีมใหญ่ พวกเขามีตัวเลือกสำรองที่นับว่ามีมาตรฐานสูงกว่าตัวสำรองของสโมสรอื่นๆอยู่พอสมควร
เกมที่น่าสนใจเกมหนึ่งคือ เกมเหย้าที่เขาต้องเปิดบ้านพบดอร์ทมุนด์ เสือเหลืองเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างย่ำแย่ แม้จะมีทรงฟุตบอลที่ดี แต่เก็บชัยชนะได้ยากเย็น แต่ดอร์ทมุนด์ยังเป็นดอร์ทมุนด์วันยังค่ำ เมื่อมาเจอบาเยิร์นที่กำลังฟอร์มดีมีมาตรฐานสม่ำเสมอ พวกเขาก็ดูเหมือนจะฟอร์มดีตามไปด้วย เกมนี้แลกกันได้อย่างสนุก เป็นทีมเยือนอย่างดอร์ทมุนด์ที่ได้ประตูก่อนจาก มาร์โค รอยส์ นักเตะที่มีข่าวการย้ายทีมเยอะที่สุดในปีนี้ แต่ยังคงโชว์ฟอร์มกับต้นสังกัดได้ดีมาก แม้จะโชคไม่ดีมีอาการบาดเจ็บรุมเร้าอยู่ตลอดก็ตาม
ก่อนจะถูกยิงประตูตีเสมอจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้เรียกเสียงโห่จากฝังทีมเยือนกันขรม เกมควรจบที่สกอร์เสมอ หากดอร์ทมุนด์ไม่เสียจุดโทษในท้ายเกม ทำให้อาร์เยน รอบเบน ซัดโทษคว้า 3 แต้มให้บาเยิร์นได้ในที่สุด เป็นอีกชัยชนะเหนือดอร์ทมุนด์ที่ดุเดือดเข้มข้นเลยทีเดียว
เมื่อดูที่ผลเสมอ 3 เกมของบาเยิร์นจะพบว่า พวกเขาเสมอในเกมนอกบ้านทั้งหมด หมายความว่าในฤดูกาลนี้ยังไม่มีใครไปคว้า 3 แต้มในอลิอันซ์ อารีน่า ได้มาก่อนเลย และที่ทำให้พวกเขายิ่งดูน่าหมั่นไส้เข้าไปอีกคือ ในเกมลีก หลังผ่าน 12 นัดพึ่งมี พวกเขาพึ่งเสียไปเพียง 3 ประตูเท่านั้น ทำให้ผลประตูรวมของพวกเขาอยู่ที่ +28 ประตู โดย 3 ประตูนั้นมาจาก อิวิกา โอลิช (โวล์ฟบวร์ก) , เบเนดิก เฮอร์เวเดส (ชาลเก้ 04) และ มาร์โค รอยส์ (โบรุซเซียร์ ดอร์ทมุนด์)
ด้วยตำแหน่งนักเตะที่ลงตัวในทุกตำแหน่ง รวมทั้งการมีอาวุธลับอย่างมานูเอล นอยเออร์ ทำให้ปีนี้ บาเยิร์นยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และผู้จัดการทีมเจ้าแท็คติคที่เน้น วินัยในเกมรับและรุกแบบแน่นปึ้กอย่าง เป็ป กวาดิโอล่าด้วยแล้ว การถล่มบาเยิร์น หรือคว้า 3 แต้มจากพวกเขาในตอนนี้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ
[Matchday 12] : 3 ทีมไร้พ่ายแห่งยุโรป
เดี๋ยวเสียสถิติแล้วไม่ได้ลง ฮ่าๆ
มาถึงสัปดาห์ที่ 12 เข้าสู่ช่วงไตรมาสแรกของฤดูกาลไปเป็นที่เรียบร้อย ฤดูกาลมีหลายทีมที่มีอันดับพลิกโผจากเคยอยู่หัวก็ดันไปกองท้ายตาราง จากเคยกลางตารางก็ขึ้นมาผงาดโซนหนาวมากกันก็มี มาดู 3 ทีมดังที่ครองสถิติไร้พ่ายแม้จะผ่านไปแล้ว 12 นัดก็ตาม กันค่ะ
1. Bayern Munich : Bundesliga
ไม่เหนือความคาดหมายอะไรสำหรับบาเยิร์นมิวนิค ปีนี้เป็นปีที่ 2 ของกุนซือสเปน เป็ป กวาดิโอล่า ที่พาทีมทุบสถิติมากมายในปีแรกที่เขามาคุมทีมเยอรมัน แม้จะได้รับการค่อนขอดว่า อาจนำพาแต่สไตล์เดิมๆแบบสมัยที่คุมบาร์ซ่าติดตัวมาด้วย แต่ผลงาน 3 แชมป์ในฤดูกาลที่แล้ว ก็น่าจะพิสูจน์ได้ส่วนนึงว่า เป็ป ยังสามารถปรับปรุงแท็คติคให้สอดคล้องกับสไตล์ฟุตบอลที่แตกต่างและสามารถปรับตัวกับลีกชั้นนำอย่าง บุนเดสลีกาได้อย่างรวดเร็ว
3 แชมป์ที่ว่าแม้ไม่อาจเทียบกับที่ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ทำไว้ในฤดูกาลสุดท้ายคือ แชมป์บุนเดสลีกา,แชมป์เดเอฟเบโพคาล และ แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์ แต่ 3 แชมป์ที่เป็ปทำได้ก็ไม่ขี้เหร่เลย โดยเขาพลาดไปเพียงถ้วย ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์เท่านั้น แต่ได้ถ้วยสโมสรโลกมาแทน
บาร์เยิร์นเปิดฤดูกาลด้วยการเสียตัวหลักในแดนกลางอย่าง โทนี่ โครสไปให้กับรีล มาดริด และ เสียหอกตัวทำประตูอย่าง มาริโอ มันซูคิดก์ไปให้แอธเลติโก มาดริด แต่นั่นก็เพราะพวกเขามีตัวแทนที่คุณภาพคับแก้วมาทดแทนอยู่แล้ว อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้และซาบี้ อลอนโซ่จากรีล มาดริด แบบที่ย้ายมาด้วยความช้อควงการเลยทีเดียว ทำให้ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล พวกเขาไม่มีปัญหาน่าหนักใจอะไรนอกจากปัญหานักเตะบาดเจ็บล็อตเดิมที่คิดว่าสมควรหายแล้ว แต่ดันมาเจ็บซ้ำ อย่าง ติอาร์โก อาคันทาร่า และ ฆาบี้ มาร์ติเนซ แต่อย่างที่เราบอกไว้ ว่าบาเยิร์นเป็นทีมใหญ่ พวกเขามีตัวเลือกสำรองที่นับว่ามีมาตรฐานสูงกว่าตัวสำรองของสโมสรอื่นๆอยู่พอสมควร
เกมที่น่าสนใจเกมหนึ่งคือ เกมเหย้าที่เขาต้องเปิดบ้านพบดอร์ทมุนด์ เสือเหลืองเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างย่ำแย่ แม้จะมีทรงฟุตบอลที่ดี แต่เก็บชัยชนะได้ยากเย็น แต่ดอร์ทมุนด์ยังเป็นดอร์ทมุนด์วันยังค่ำ เมื่อมาเจอบาเยิร์นที่กำลังฟอร์มดีมีมาตรฐานสม่ำเสมอ พวกเขาก็ดูเหมือนจะฟอร์มดีตามไปด้วย เกมนี้แลกกันได้อย่างสนุก เป็นทีมเยือนอย่างดอร์ทมุนด์ที่ได้ประตูก่อนจาก มาร์โค รอยส์ นักเตะที่มีข่าวการย้ายทีมเยอะที่สุดในปีนี้ แต่ยังคงโชว์ฟอร์มกับต้นสังกัดได้ดีมาก แม้จะโชคไม่ดีมีอาการบาดเจ็บรุมเร้าอยู่ตลอดก็ตาม
ก่อนจะถูกยิงประตูตีเสมอจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้เรียกเสียงโห่จากฝังทีมเยือนกันขรม เกมควรจบที่สกอร์เสมอ หากดอร์ทมุนด์ไม่เสียจุดโทษในท้ายเกม ทำให้อาร์เยน รอบเบน ซัดโทษคว้า 3 แต้มให้บาเยิร์นได้ในที่สุด เป็นอีกชัยชนะเหนือดอร์ทมุนด์ที่ดุเดือดเข้มข้นเลยทีเดียว
เมื่อดูที่ผลเสมอ 3 เกมของบาเยิร์นจะพบว่า พวกเขาเสมอในเกมนอกบ้านทั้งหมด หมายความว่าในฤดูกาลนี้ยังไม่มีใครไปคว้า 3 แต้มในอลิอันซ์ อารีน่า ได้มาก่อนเลย และที่ทำให้พวกเขายิ่งดูน่าหมั่นไส้เข้าไปอีกคือ ในเกมลีก หลังผ่าน 12 นัดพึ่งมี พวกเขาพึ่งเสียไปเพียง 3 ประตูเท่านั้น ทำให้ผลประตูรวมของพวกเขาอยู่ที่ +28 ประตู โดย 3 ประตูนั้นมาจาก อิวิกา โอลิช (โวล์ฟบวร์ก) , เบเนดิก เฮอร์เวเดส (ชาลเก้ 04) และ มาร์โค รอยส์ (โบรุซเซียร์ ดอร์ทมุนด์)
ด้วยตำแหน่งนักเตะที่ลงตัวในทุกตำแหน่ง รวมทั้งการมีอาวุธลับอย่างมานูเอล นอยเออร์ ทำให้ปีนี้ บาเยิร์นยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และผู้จัดการทีมเจ้าแท็คติคที่เน้น วินัยในเกมรับและรุกแบบแน่นปึ้กอย่าง เป็ป กวาดิโอล่าด้วยแล้ว การถล่มบาเยิร์น หรือคว้า 3 แต้มจากพวกเขาในตอนนี้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ