ล่องแจ้งสมรภูมินรก (๑๗) ๒๘ พ.ย.๕๗

เปิดกรุหนังสือเก่า

ชุด ทหารรับจ้างเดนตาย

ตอน ล่องแจ้งสมรภูมินรก (๑๗)

สยุมภู ทศพล

   ล่องแจ้ง สมรภูมินรก ตอนที่ 17

ข่าววิทยุจาก บก.สิงหะ ที่เคยเซ็งแซ่ด้วยการส่งข่าวชนิดติดต่อกันเป็นเวลานานได้สงบเงียบจนคล้ายๆ กับว่าความถี่ดังกล่าวได้ถูกประกาศยกเลิกการใช้งานไปเสียแล้ว นานๆครั้งจะมีเสียงพนักงานวิทยุจาก บก.ล่องแจ้งสอบถามสถาณการณ์กองพันทหารรับจ้างต่างๆ เป็นการปลุกประสาทมิให้เผลอหลับไปในตัว
แม้กระทั่ง การติดต่อของธรรมดาล่ามต่างๆ ที่ใช้ความถี่คนละชนิดกับ บก.สิงหะ ก็พลอยเงียบเหงาไปด้วย ชะรอยทางเบาน์เดอร์ คอนโทรลคงจะเกรงใจผมเห็นเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ดังนั้นหลังจากผมเข้ารหัสรายงานข่าวไปแล้ว ก้ไม่ได้รบกวนอะไร ผมอีกเลย

ผมเอนหลังลงนอนกับมูลดิน หยิบลำโพงชนิดพิเศษที่ต่ออกจาก “ปิ๊ค 77” ขึ้นมาเสียบห้อยเอาไว้กับกึ่งกลางเสาอากาศชนิดสั้น หรี่วอลลุ่มลงที่เลข 2 พร้อมกับยกแขนทั้งสองข้าง ขึ้นประสานกัน หนุนศรีษะนอนหลับตานิ่งด้วยความ “เซ็ง” ต่อ สภาพการณ์ในปัจจุบัน

“บิ๊กแมน ฟรอม ไฮโล โอเว่อร์ .... บิ๊กแมน ฟรอม ไฮโล โอเวอร์”

มีเสียงเรียกขานชื่อผมเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยเสียงแผ่วเบาออกมาจากลำโพง คราวแรกผมคิดว่าตัวเองหูแว่วไป ก็เลยหลับตานอนฟังเฉยอยู่

“บิ๊กแมน ฟอร์ม ไฮโล โอเวอร์….”

คราวนี้เจ้าของเสียงลึกลับดังขึ้นกว่าเดิม ผมพยายามนึกทบทวนชื่อโค้ดของล่ามแต่ละกองพัน ก้ไม่มีชื่อดังกล่าวอยู่ในสารบบเลย หรือแม้แต่ล่ามพวกกองพันทหารแม้ว ก็ไม่มีใครใช้ชื่อพิเนรๆ เช่นนี้ คงจะมีเพื่อนขี้เล่นบางคนกระเซ้าเย้าแหย่ผมเข้าให้แล้ว ด้วยความรำคาญผมจึงตะคอกลงไปที่ปากพูดด้วยความโมโห

“ไฮโลเตี่ยไฮโลก๋งของละซี อย่ากวนใจหน่อยเลยวะ เหนื่อยทั้งวันก็ขอพักบ้างซีโว้ย”

“บิ๊กแมน ฟอร์มไฮโล พลิส โก ทู ซิกตี้โฟตี้ไฟ้ว์ อาร์ ยู คอปปี้”

มีเสียงเรียกผมสวนมาอีก พร้อมทั้งขอร้องให้ผมไปที่ ฟรีเคว็นซี่ 60.45 มิหนำซ้ำยังตบท้ายรหัสวิทยุว่า รับข่าวถูกต้องไหม? มือไวเท่าความคิด ผมหมุนฟรีเควนซี่ไปตามที่เสียงลึกลับขอร้องมาทันที

“บิ๊กแมน นี่ผม ไฮโลพูด คุณไม่ต้องซักถามอะไรผมทั้งนั้น คุณมีหน้าที่รับฟังอย่างเดียว ผมมีเวลาให้คุณ 2 นาที อันดับแรกผมขอบอกให้คุณทราบว่า ผมเป็นทหารรับจ้างสัญชาติเดียวกับคุณ ขณะนี้ตกเป็นเชลยของข้าศึก โปรดอย่าถามว่า ผมติดต่อทางวิทยุได้อย่างไร ถ้ามีโอกาศดีกว่านี้ผมจะอธิบายให้คุณเข้าใจ โปรดทราบ ตอน 6.00 น. ฐานของคุณจะโดนโจมตีด้วยกำลังพล 2 กองพัน ซึ่งขณะนี้มันกำลังจะเตรียมตัวเคลื่อนย้ายอยู่แล้ว ขอให้โชคดี ลาก่อน”

ประสาทของผมเขม็งเกลียวไปหมด สบตาขึ้นมาก็พบกองสิงห์นั่งตาแป๋วตะแคงหูฟังอยู่ก่อนแล้ว ผมตัดสินใจขานนามไฮโลสวนกลับไปหลายครั้ง ก้ไม่มีเสียงตอบมาอีก ผมเลยหมุนฟรีเควนซี่กลับที่เดิม

“จากคำบอกเล่าของเชลยศึกที่หนีพวกมันขึ้นมาบนฐานของผมเมื่อเดือนที่แล้ว เขาเล่าให้ผมฟังว่า วิทยุแบบ พี อาร์ ซี 77 พวกมันมีอยู่พะเรอเกวียนทีเดียว คงจะมีเชลยศึกคนใดคนหนึ่งแอบส่งข่าวมาให้พวกเราทราบก็อาจจะเป็นไปได้ หรือคุณคิดยังไง บิ๊กแมน”

กองสิงห์ย้อนถามผมขึ้นมา

“ผมคิดอะไรไม่ออกหรอกครับ บางทีอาจจะเป็นเพื่อนๆ แหกตาผมเล่นก้ได้ อย่างไรก็ดี ถ้าพรุ่งนี้ตอนเช้าเหตุการณ์เป็นจริงอย่างที่ไฮโลส่งข่าวมาให้ผมทราบมันก็เป็นปรากฏการณ์ที่แสนจะแปลกประหลาดสิ้นดี”

เพื่อความแน่ใจ ผมสอบถามไปยังกองพันต่างๆ ที่พรรคพวกประจำอยู่ทุกคนยืนยันว่า สถานการณ์เช่นนี้ไม่มีใครตลกกับผมแน่นอน มีบางคนสอบถามด้วยความสนใจว่า ไฮโลพูดอะไรมาบ้าง ผมก็เลยตัดบทออกไปว่ากระเซ้าเย้าแหย่ธรรมดาๆเท่านั้น

ดูเหมือนกองสิงห์จะมีความเชื่อมั่นเอามากทีเดียว รีบออกคำสั่งเป็นรหัส เรียก ผบ.หมวดทุกหมวดประชุมวางแผนการกันในทันทีทันใดเลยทีเดียว
ไม่ถึง 15 นาที กลุ่มทหารรับจ้างชั้น ผบ.หมวด และ ผบ.ร้อย ก้พร้อมที่จะรับคำสั่ง กองสิงห์ได้วางแผนให้เอาถังน้ำมันเบนซินสามถังที่เหลือตกค้างอยู่บริเวณบ่อน้ำครำขึ้นมาวางบนแนวกระสอบทรายด้านที่หันหน้าเข้าเนินอานม้า ต่อจากนั้นให้กลิ้งถังน้ำมันเบนซินขนาด 200 ลิตรลงไปทางลาดเบื้องหน้า โดยเว้นระยะต่อให้ห่างกันถังละ 20 เมตร

“ฐานของเราขณะนี้ ไม่มีรั้วลวดหนามพอที่จะกีดขวางหรือป้องกันการบุกเข้าโจมตีของพวกมันได้ ให้ ผบ.หมวดที่รับผิดชอบด้านที่มีถังน้ำมันเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ว่า เวลาใดควรจะยิง เอ็ม.72 เข้าใส่ถังน้ำมันเบนซินอันนั้นสำหรับรหัสถอนตัวที่ใช้กันฟุ่มเฟือยจนข้าสึกมันรู้แกวก็ควรจะเปลี่ยนใหม่เสียที คราวนี้จะไม่มีคำว่า “อาภัสรา กิติยากร” อีกต่อไปแล้ว จะมีคำว่า “เลือดสุพรรณ” เข้ามาแทนที่สำหรับศรคีรี 5 และ ศรคีรี 6 ที่อยู่ข้างล่าง อั๊วเชื่อว่า “ไอ้ม้าแก่” มันคงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เอาตัวรอดได้ วิทยุเปิดกลับมาที่แอร์ทูกราวนด์ เอาละ แยกย้ายกันไปได้แล้ว อ้อ ...แล้วก็เตรียมเครื่องสนามพร้อมที่จะเคลื่อนย้ายได้ทุกเวลา”
กองสิงห์กำชับอีกครั้ง

ถังน้ำมันขนาดใหญ่ ที่จมอยู่บ่อน้ำครำข้างส้วม บก.พัน ถูกกลุ่มทหารรับจ้างลากขึ้นมา แล้วผลักกลิ้งลงไปบริเวณทางขึ้นตามแผนของกองสิงห์ นอกจากนั้นก็ยังมีถังน้ำมันเหลืออีกสองถัง กองสิงห์ก็เลยสั่งให้ทหารกลิ้งออกไปซ่อนเอาใว้บริเวณเส้นทางก่อนจะถึงปลายทางเข้าสู่กองร้อยที่สอง
ทุกสิ่งทุกอย่างได้เสร็จเรียบร้อยในสองชั่วโมงต่อมา ถ้าคำบอกเล่าของไฮโลเป็นความจริง ผมก็มีเวลาเหลืออยู่เพียงสามชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น แต่ให้ตายเถอะ ผมก็ยังเชื่อมั่นอยู่ว่า ไอ้เพื่อนพิเรนแกล้งกระเซ้าผมให้ตื่นเต้นอยู่นั่นเอง

เวลาแห่งการรอคอยได้ผ่านไป อย่างเชื่องช้าที่สุด ผมพยายามหลับตาข่มจิตใจให้หลับ ประสาทมันก็แข็งค้างโพลงอยู่เช่นนั้น มนตรีนั่งอยู่ใกล้ๆ งัดเอาสก็อตเทป ขึ้นมาพันแม็กกาซีน เอ็ม.16 ให้บริเวณก้นแม็กกาซีนติดกัน ด้วยประสพการณ์ของการฆ่าคนที่ผ่านมา ทำให้มนตรีสามารถดัดแปลงสิ่งเล็กๆน้อยๆให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ด้วยลักษณะดังกล่าวทำให้ความรวดเร็วในการเปลี่ยนแม็กรวดเร็วกว่าเก่าถึง 80 เปอร์เซ็นต์

ทุกวินาทีที่ผ่านไป ไม่มีใครเดาความคิดแต่ละคนที่นั่งกันหน้าสลอนอยู่ข้างๆผมได้หรอก
กองสิงห์ อาจจะคิดถึงความรับผิดชอบในฐานะผู้บังคับบัญชากองพันทหารรับจ้าง ที่บังเอิญทราบข่าวข้าศึกจะเข้าโจมตีฐานของตัวเองในชั่วโมงข้างหน้า ผู้พันคงจะวางแผนยับยั้งข้าศึกอย่างเต็มความสามารถ อย่างชนิดที่เรียกว่า พลิกตำราออกมาสู้กันเลย ความที่ขาดคู่คิด ทำให้กำลังใจของกองสิงหืไม่มดีเท่าที่ควร ตามปกติแล้ว “กองดี” (พ.ต. ประดิษฐ์ จันทร ขณะนี้ดำรงค์ตำแหน่ง ฝอ.3 กองพล 9 กาญจนบุรี) รองผบ.พัน คือมันสมองกองพัน 616 เป็นที่น่าเสียดาย กองดีครบกำหนดลาพักก่อนกองพัน 616 ถูกโจมตีเพียงไม่กี่วัน

“กองอิน” (พ.ต. เสรี ธรรมโหร ปัจจุบันสังกัด ร.พัน 3 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา) หรือฝอ.3 ในตำแหน่งนายทหารผู้วางแผน จากอดีตเคยเป็นทหารเรือรุ่นประแสร์เกยตื้นที่เกาหลีมาแล้ว

กองอินเป็นคนอารมณ์ขัน ชอบกีฬาไก่ชนเป็นชีวิตจิตใจ แม้ขระเดินท่อมๆอยู่ในตลาดเมืองล่องแจ้งก็ยังเสาะหาไก่ชนจากชาวแม้วเป็นอาจิณ แน่นอนเหลือเกิน ในขณะนี้ ใครจะรู้ กองอินอาจจะนอนฝันถึงไก่ชนตัวของผู้กองอยู่ก็ได้

องครักษ์ของผู้พัน ส.ท.มนตรี วีระศิริ อาจจะนึกถึงอีตัวเด็ดๆที่บ้าน “ส.สงวน” ซึ่งเป็นแหล่งที่ทหารรับจ้างจะแวะเข้าเยือนเมื่อเครื่องบินแตะพื้นที่สนามบินอุดร ด้วยบำเหน็จรางวัลให้พักผ่อน 15 วัน อาจจะทำให้เพชรฆาตผู้นี้ลดความบ้าเลือดลงไปก็ได้ ใครจะรู้

ผมเหลือบมองดูนาฬิกาจากข้อมือของ กองสิงห์ที่ครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่ข้างๆ 04.45 น. เข้าไปแล้ว เวลาที่จะพิสูจน์คำพุดของไฮโลกระชั้นเข้ามาทุกที
มีเสียงเพลงเวียดนามเหนือ ที่ผมคาดว่า ออกมาจากเครื่องส่งวิทยุที่มีกำลังสูงสุดกังวานลั่นออกมาจากวิทยุ P.R.C. 77 ของฝ่ายเราและยิ่งทวีความดังมากขึ้นทุกที จนทำให้พนักงานวิทยุกองพันต่างๆเจี๊ยวจ๊าวสอบถามกันให้วุ่นไปหมด จนกระทั่ง บก.สิงหะสั่งเปลี่ยนความถี่ไปยังความถี่สำรองที่ตกลงกันเอาไว้
ไม่มีความถี่ไหนจะพ้นเสียงเพลงของเวียดนามเหนือไปได้หรอกครับ นี่เป็นเหตุผลที่บ่งเอาไว้ว่ารหัสลับที่ บก.ล่องแจ้งใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไม่เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว บก.สิงหะไม่สามารถจะแก้ปัญหาได้ ก็เลยปล่อยเลยตามเลย กลับมาใช้ความถี่เก่า ซึ่งขณะนี้นอกจากจะมีเสียงเพลงแล้ว ก็ยังมีเสียงเหล็กเคาะอลูมิเนียมดังเป็นจังหวะเพิ่มขึ้นอีก

“ผมบอกคุณแล้ว บิ๊กแมน คำพูดของไฮโลชักจะเข้าเค้าแล้วครับ ข้าศึกมันเริ่ม แจมมิ่ง วิทยุของเรา ก้เพื่อรบกวนมิให้ฝ่ายเราติดต่อกันได้ คอยดูเถอะครับ หกโมงเช้า พวกมันจะต้องแห่กันขึ้นมาบนฐานเราเป็นมดทีเดียว”
กองสิงห์ลุกขึ้นมาเอื้อมมือหรี่วอลลุ่ม จากเครื่อง ปิ๊ค 77 ให้เบาลงอีก

“ศรแดงจากศรดำ เปลี่ยน”
เสียง ไอ้แสบ พนักงานวิทยุของกองร้อยที่ 1 เรียกขานมายังกองพันด้วยน้ำเสียงเหน่อๆ แบบคนเมืองเพชร
“ศรดำจากศรแดง มีอะไรว่ามา”
พนักงานวิทยุ บก.พัน ที่อดีตเคยร่วมสถาบันเรือนจำเดียวกันมา สวนคำพูดตอบไปอย่างเบื่อหน่าย

“ศรแดง ...ไซป่อ...ซีท่อ...แซนป่อ...ซำต่อ...เสียวด่อ...ซี้หน่อ...แซ้วหล่อ...ซบหล่อ...สร้างข่อ...ซ้าหน่อ...ซ้าห่อ...รับข่าวได้หรือปล่าววะ ภาษาคนคุกที่กับกูร่วมกันทำดิกชันนารี่ด้วยกันมา คราวนี้ถ้าไอ้แกวมันเข้าใจก็แสดงว่าพวกโคตรพ่อมันเคยติดคุกเมืองไทยมาแล้ว”

ด้วยรหัสที่ผมและกองสิงห์ไม่เคยได้ฟัง ณ ที่ใดมาก่อนเลย ด้วยความสงสัยจึงสอบถาม ก็ได้รับความรู้ใหม่ จากพนักงานวิทยุ บก.พันอีกว่า
“มันเป็นภาษาที่พวกมิจฉาชีพชอบพูดกันในสังคมพวกเขาง่ายๆครับ อย่างคำแรก ไอ้แสบมันส่งมาว่า “ไซป่อ” ถ้าเราผวนกลับ มันก็จะได้ “ส่อไป” ส่วนคำที่สอง “ซีท่อ” ผวนกลับอีกครั้งจะได้ความว่า “ส่อที่” คุณสังเกตุดูซีครับ ถ้าเราตัดคำว่า “ส่อ” ที่อยู่พยางค์หน้าออกความหมายที่แท้จริงจะอยู่พยางค์ รวมความที่ไอ้แสบ มันส่งข่าวมาถอดรหัสคุกออกมาแล้วครับ มันว่า ไปที่แบนด์ต่ำเดี๋ยวนี้แล้วลบข้างหน้าห้า”

ผมและกองสิงห์ก็เลยต้องหัวเราะออกมาด้วยความขบขันในความพิสดารของพนักงานเจ้าของนาม “ไอ้แสบ” ที่แสบพอๆกับชื่อของมันเลยทีเดียว
พอพนักงานวิทยุ บก.พัน หมุนความถี่ไปยังความถี่ที่ไอ้แสบบอกมา ก็ปรากฏว่าไอ้แสบไปรออยู่ตั้งนานแล้ว กำลังด่าพ่อล่อแม่อยู่พอดี

ยิ้ม พ่อแม่ตายหรือยังไงไม่รู้แหกปากร้องเพลงกันให้ลั่นไปหมด เฮ้ย ผู้พันท่านนอนหรือยังเพื่อน”
เสียงไอ้แสบ ถามหาเจ้านาย ที่มันยอมก้มหัวให้เพียงคนเดียวภายในกองพัน 616

“กูยังไม่นอน ฟังภาษาคนคุกของแล้วปวดหัวว่ะ เฮ้ย ไอ้แสบ พวกๆของรู้และเข้าใจภาษาคุกของแยะไหมวะ”
กองสิงห์ย้อนถามกลับไป

“สบายมากครับ ทหารกองร้อยที่หนึ่งออกมาจากคุกหลายสิบคน ไอ้ที่ไม่เคยมันก้หัดพูดกันปร๋อไปเท่านั้น ผมว่า ไอ้รหัส ฝนตก น้ำลง ร้องไห้ ... ผู้พันเลิกใช้เถอะครับ เปลี่ยนมาใช้รหัสคุกของผมดีกว่า...แฮ่...แฮ่”

“พอแล้ว ไส่อ้อ...ซ่าบ้อ(ไอ้บ้า”
กองสิงห์ด่ากลับเป็นภาษามิจฉาชีพ สวนกลับไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงหัวเราะของกลุ่มทหารรับจ้างที่ฟังอยู่ข้างๆ

“คุณเอ๋ย พูดถึงไอ้แสบ ผมอิดหนาระอาใจมันเหลือเกิน มันแสบสมชื่อจริงๆ “รองพายัพ” อุตส่าห์เอามันมาเป็นทหารรับจ้าง พอฝึกอยู่ที่เมืองกาญจน์ได้สองเดือน ปืน เอ็ม.16 ก็หายไปจาก บก.ร้อย ใครๆก็สงสัยไอ้แสบ ผมเลยจับมันขังเสียสองวัน แต่ต้องปล่อยมันเพราะไม่มีหลักฐาน พอข้ามฝั่งลาวก็เข้ากับใครเขาไม่ได้ พูดผิดหูก็จะเฉ่งกบาลเขาท่าเดียว ครั้งหนึ่งได้ลาพัก ไอ้แสบทำเป็นรวยเช่าแท็กซี่จากอุดรไปเมืองเพชร ตกลงค่าจ้าง 500บาท พอรถไปถึงเมืองเพชร ไอ้แสบก็เลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้งโชเฟอร์ดิบดี...มอมเหล้าแท็กซี่เสียฟุบ แล้วมันก็หายไปกับความมืด ค่ารถก็ไม่ได้ ซ้ำยังต้องจ่ายค่าอาหารทีฟัดกันเต็มโต๊ะเข้าไปอีก นี่ขนาดมันจบแค่ ป.4 นะครับ สอนให้มันเป็นพนักงานวิทยุพักเดียว ก็ทำงานได้ แถมมีลูกเล่นที่พนักวงานวิทยุ บก.ล่องแจ้งฟังแล้วปวดกระบาลกว่าจะคิดออกก็เล่นเอาเหงื่อตก อย่างคำว่า “9-W” แทนที่มันจะอ่านว่า เก้า-วิสกี้ มันดันยิ้มอ่านว่า “หกกลับหลังหัน...ไมค์นอนหงาย” เล่นเอาพนักวิทยุถอดโค้ดไม่ออก โวยวายลั่ยวิทยุ ก็เลยโดนไอ้แสบย้อนเสียหน้าชาไปเลย”

กองสิงบรรยายคุณภาพของอ้แสบด้วยเรื่องราวที่สนุกสนาน จนผมอยากจะเห็นหน้าตาของไอ้แสบขึ้นมาจริงๆ

□□□□□□□□□
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่