ผู้แข่งขันจะจับทางได้และรู้ว่าตัวเองเหมาะจะอยู่กับโค้ชคนไหน เพราะการเลือกโค้ชก็สำคัญ เนื่องจากโค้ชคือผู้เลือกเพลง ผู้เลือกคนเข้ารอบ ต้องตรงจริตและตรงรสนิยมกัน จะได้อยู่ได้ยาวจนรอบไลฟ์ อย่างที่ดูมา ก็พอจะเดาๆทางออกประมาณว่า

ถ้ามีแนวของตัวเอง ให้อยู่กับโค้ชแสตมป์ เพราะ เค้าไม่เปลี่ยนนักร้อง แต่จะทำให้สไตล์ที่เป็นนั้นเด่นชัดขึ้น

ถ้ายังไม่มีแนว ให้อยู่กับโค้ชก้อง เพราะ เค้าจะหาแนวที่เหมาะกับนักร้องแถมยังเหมาะกับความต้องการของตลาดให้ด้วย

ถ้าอยากร้องได้หลายๆแนว ให้อยู่กับโค้ชคิ้ม เพราะ เค้าจะสอนเทคนิคและความรู้ทางการร้องมากมาย ที่น่าจะนำไปปรับใช้ได้ในการร้องเพลงทุกแนว

ถ้ามาแบบแหวกแนว ให้อยู่กับโค้ชโจ้ เพราะ เค้าจะพร้อมที่จะพาคุณหลุดกรอบ ออกไปทำอะไรแปลกใหม่ตามแต่โค้ชและตัวนักร้องจะครีเอท

ยิ่งได้อ่านการทำทีมของโค้ชก้อง และ โค้ชแสตมป์ ก็สนุกดี โค้ชก้องเปรียบเหมือนเล่นหมากรุก โค้ชแสตมป์เปรียบเหมือนการโค้ชทีมบาสเก็ตบอล

โค้ชก้อง "ผมคิดว่าบางทีการแข่งขันมันเหมือนเล่นหมากรุกนะ ต้องคิด ต้องรอบคอบ แข็งแกร่ง และรู้ทันไหวพริบของอีกฝ่ายจึงจะชนะ ในการแข่งขันเราก็ต้องคัดเลือกให้เหลือนักร้องที่แข็งแกร่งที่สุด ต้องรู้ทันอาวุธ และท่าทีของฝ่ายตรงข้ามให้มากที่สุด เพื่อคว่ำกระดานหมากของอีกฝ่ายให้ได้"

โค้ชแสตมป์ "ทำหน้าที่เหมือนโค้ชบาสเกตบอล ที่จะทำทุกอย่างให้ผู้เล่นสามารถชู้ตลงห่วงให้ได้ เราต้องบอกเขาให้ได้ว่า คุณจะต้องยืนตำแหน่งไหน เลี้ยงบอลอย่างไร ถึงจะชู้ตลงในหัวใจคนดูได้ ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการเลือกของเรา เลือกเพลง เลือกสไตล์ให้เขา เขามีดีตรงนี้ เราจะทำอย่างไรให้ความดีของเขาชนะใจคนดู มันเป็นวิธีการมองคนให้เป็น ใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นเท่านั้น ดึงพลังแฝงของแต่ละคนออกมาให้มากที่สุด"

อยากอ่านวิธีคิดของโค้ชคิ้ม และ โค้ชโจ้ด้วยจัง

ทั้งนี้ทั้งนั้น การเปลี่ยนแปลงก็น่าจะนำมาซึ่งความแปลกใหม่ให้กับรายการ ถ้าไม่เปลี่ยนโค้ชก็ดี แต่คงเปลี่ยนเพราะแสตมป์น่าจะไม่ทำต่อแน่แล้ว ก็เลยมาเขียนกระทู้นี้ส่งท้ายว่า ดูมา 3 ปี สนุกไปกับการลุ้นการทำทีมของโค้ชทั้งสี่คนมาก