*** การรีวิวนี้ได้ละการกล่าวถึงเนื้อหาบางส่วนออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงการสปอยล์ (แต่ถ้ามีเซ้นส์ อาจเดาได้)
มีเสียงซุบซิบกลั้วหัวเราะจากคนดูผู้หญิงที่กำลังเดินไปเพื่อจะดูหนังในรอบเดียวกันว่า "ถ้าใครดูเรื่องนี้ ผู้หญิงก็เลส ผู้ชายก็เกย์" แต่แล้วก็มีเสียงโต้มาว่า "ก็เค้าอยากดูน่ะ"
ทำให้เกิดความคิดขึ้นในใจ...
เมื่อคุณมีความสนใจดูหนังแนวรักเพศเดียวกัน จะมีคนสงสัยว่าคุณ "เป็น"
แต่ถ้ามีคนที่ลักษณะเป็นเพศทางเลือกชัดเจนเข้าไปดูหนังรักชาย-หญิง คนก็ยังมองเขาเป็นเพศทางเลือก ไม่ได้มองเป็นเพศหลัก (straight)
แค่นี้คงพอทำให้เราเห็นภาพรวมว่า สังคมคิดและมีมุมมองอย่างไรกับเพศทางเลือก และสื่อเกี่ยวกับเพศทางเลือก
ขณะที่ดูหนังเรื่อง "1448 รักเราของใคร" มีความรู้สึกว่าหนังมีลักษณะความเป็นหนังสะท้อนสังคมเพื่อสังคมอย่างชัดเจน มีเจตนาเพื่อสร้างความเข้าใจและเรียกร้องความเห็นใจต่อเพศทางเลือก ทั้งในด้านการยอมรับทางสังคมและทางกฏหมาย ภาพรวมของอารมณ์หนังจึงให้ความรู้สึกว่าเป็นสารคดีเพื่อการศึกษาหรือหนังที่สร้างมาเพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องๆหนึ่งของโครงการหนึ่งมากกว่าจะเป็นหนังเพื่อความบันเทิงเชิงพาณิชย์หรือแม้แต่หนังรัก (นอกจากนี้ หนังยังแฝงโฆษณาเยอะมาก) หนังค่อนข้างขาดแคลนความบันเทิงด้วยการดำเนินเรื่องที่เรียบแบน เรื่อยเฉื่อย การถ่ายทอดเรื่องราวก็ค่อนข้างทื่อและเชย โปรดักชั่นการถ่ายภาพ ลำดับภาพ ดนตรีประกอบ การเล่าเรื่องรวมถึงวิธีการแสดงของนักแสดงสมทบยังมีลักษณะเหมือนละครโทรทัศน์หรือซีรีส์ ภาพสวยงามแต่เหมือนขาดมุมมองในแบบภาพยนตร์ มีเพียงบางฉากบางตอนที่ให้อารมณ์ของหนังโรงอยู่บ้าง รวมถึงเรื่องสัดส่วนภาพของหนังที่ไม่เป็นจอกว้าง (เวลาฉายทางโรงไม่ขยายม่านออก) ซึ่งไม่แน่ใจว่าถ่ายทำมาแบบนี้หรือมีการผิดพลาดในการฉาย เพราะภาพออกมาดูแปลกๆน่าอึดอัด
อ่านเกี่ยวกับเรื่องสัดส่วนภาพจากกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/31860235
น่าเสียดายที่ตัวโครงเรื่องของหนังถือว่าดีแต่วิธีการนำเสนอยังขาดชั้นเชิง ความลุ่มลึก ความเฉียบคม ทำให้หนังขาดพลังอย่างที่ควรจะเป็น คิดว่าถ้าหนังมีบท ภาพและวิธีการกำกับที่แตกต่างออกไป หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังดราม่าที่น่าจดจำอีกเรื่องหนึ่ง แต่หนังก็มีลูกเล่นบางอย่างที่น่าสนใจ เหมือนเป็นการล้อและทดสอบคนดูว่ารับได้ไหมกับเรื่องเซ็กส์ของคนรักเพศเดียวกัน แต่บางบทตอนก็เหมือนจะยังเป็นการนำเสนออคติแบบเก่าๆ (อาจรวมถึงบทสรุปในตอนจบของเรื่อง) เคมีระหว่างนักแสดงนำทั้งสองสาวถือว่าไปกันได้อย่างดี บัว อิสเบลล่า เลเต้ มีบุคลิกที่เป็นเสน่ห์แปลกๆ พลาดตรงการแคสตัวละครสมทบอย่างพ่อแม่ของทั้งสองสาว และแฟนหนุ่มของ "สายป่าน"
สิ่งที่โดดเด่นอย่างแท้จริงในหนังเรื่องนี้คือการแสดงของ "สายป่าน" อภิญญา สกุลเจริญสุข เป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่าเธอเป็นนักแสดงที่มีฝีมืออย่างหาตัวจับยาก การแสดงของเธอดูเผินๆอาจไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่เธอแสดงได้เรียบ งดงาม หมดจดอย่างที่ควรจะเป็น และสามารถส่งผ่านอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม ปฎิเสธไม่ได้ว่าการแสดงของเธอมีส่วนสร้างพลังทำให้หนังที่เหมือนจะแห้งแล้งดูดีขึ้นมาก จากบทนักแสดงนำหญิงในหนังไทยเท่าที่ได้ดูในปีนี้ ป๊อก ปิยธิดา -เต้ย จรินทร์พร จาก ไทม์ไลน์ , พลอย เฌอมาลย์ จาก คิดถึงวิทยา , ใหม่ ดาวิกา จาก แผลเก่า , ออม สุชาร์ จาก รัก ลวง หลอน ผู้เขียนชื่นชมการแสดงของสายป่านในหนังเรื่องนี้มากที่สุด และลุ้นให้เธอได้รับรางวัล (แม้แต่หนังอีกเรื่องของเธอ ฟินสุโค่ย ก็ยังจัดว่าแสดงดี)
โดยสรุปในมุมมองของผู้เขียน หนังเรื่องนี้โดดเด่นในแง่บทบันทึกทางสังคมที่ท้าทาย และเป็นสื่อเพื่อสร้างความเข้าใจ แต่ยังขาดชั้นเชิงทางศิลปะภาพยนตร์ไปอย่างน่าเสียดาย
" 1448 รักเราของใคร" ถือเป็นหนังเพื่อสังคม แต่จะสังคมของใคร ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ชมแต่ละท่านเปิดกว้างมากแค่ไหน
[CR] 1448 รักเราของใคร : หนังเพื่อสังคม(ของใคร??)
มีเสียงซุบซิบกลั้วหัวเราะจากคนดูผู้หญิงที่กำลังเดินไปเพื่อจะดูหนังในรอบเดียวกันว่า "ถ้าใครดูเรื่องนี้ ผู้หญิงก็เลส ผู้ชายก็เกย์" แต่แล้วก็มีเสียงโต้มาว่า "ก็เค้าอยากดูน่ะ"
ทำให้เกิดความคิดขึ้นในใจ...
เมื่อคุณมีความสนใจดูหนังแนวรักเพศเดียวกัน จะมีคนสงสัยว่าคุณ "เป็น"
แต่ถ้ามีคนที่ลักษณะเป็นเพศทางเลือกชัดเจนเข้าไปดูหนังรักชาย-หญิง คนก็ยังมองเขาเป็นเพศทางเลือก ไม่ได้มองเป็นเพศหลัก (straight)
แค่นี้คงพอทำให้เราเห็นภาพรวมว่า สังคมคิดและมีมุมมองอย่างไรกับเพศทางเลือก และสื่อเกี่ยวกับเพศทางเลือก
ขณะที่ดูหนังเรื่อง "1448 รักเราของใคร" มีความรู้สึกว่าหนังมีลักษณะความเป็นหนังสะท้อนสังคมเพื่อสังคมอย่างชัดเจน มีเจตนาเพื่อสร้างความเข้าใจและเรียกร้องความเห็นใจต่อเพศทางเลือก ทั้งในด้านการยอมรับทางสังคมและทางกฏหมาย ภาพรวมของอารมณ์หนังจึงให้ความรู้สึกว่าเป็นสารคดีเพื่อการศึกษาหรือหนังที่สร้างมาเพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องๆหนึ่งของโครงการหนึ่งมากกว่าจะเป็นหนังเพื่อความบันเทิงเชิงพาณิชย์หรือแม้แต่หนังรัก (นอกจากนี้ หนังยังแฝงโฆษณาเยอะมาก) หนังค่อนข้างขาดแคลนความบันเทิงด้วยการดำเนินเรื่องที่เรียบแบน เรื่อยเฉื่อย การถ่ายทอดเรื่องราวก็ค่อนข้างทื่อและเชย โปรดักชั่นการถ่ายภาพ ลำดับภาพ ดนตรีประกอบ การเล่าเรื่องรวมถึงวิธีการแสดงของนักแสดงสมทบยังมีลักษณะเหมือนละครโทรทัศน์หรือซีรีส์ ภาพสวยงามแต่เหมือนขาดมุมมองในแบบภาพยนตร์ มีเพียงบางฉากบางตอนที่ให้อารมณ์ของหนังโรงอยู่บ้าง รวมถึงเรื่องสัดส่วนภาพของหนังที่ไม่เป็นจอกว้าง (เวลาฉายทางโรงไม่ขยายม่านออก) ซึ่งไม่แน่ใจว่าถ่ายทำมาแบบนี้หรือมีการผิดพลาดในการฉาย เพราะภาพออกมาดูแปลกๆน่าอึดอัด
อ่านเกี่ยวกับเรื่องสัดส่วนภาพจากกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/31860235
น่าเสียดายที่ตัวโครงเรื่องของหนังถือว่าดีแต่วิธีการนำเสนอยังขาดชั้นเชิง ความลุ่มลึก ความเฉียบคม ทำให้หนังขาดพลังอย่างที่ควรจะเป็น คิดว่าถ้าหนังมีบท ภาพและวิธีการกำกับที่แตกต่างออกไป หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังดราม่าที่น่าจดจำอีกเรื่องหนึ่ง แต่หนังก็มีลูกเล่นบางอย่างที่น่าสนใจ เหมือนเป็นการล้อและทดสอบคนดูว่ารับได้ไหมกับเรื่องเซ็กส์ของคนรักเพศเดียวกัน แต่บางบทตอนก็เหมือนจะยังเป็นการนำเสนออคติแบบเก่าๆ (อาจรวมถึงบทสรุปในตอนจบของเรื่อง) เคมีระหว่างนักแสดงนำทั้งสองสาวถือว่าไปกันได้อย่างดี บัว อิสเบลล่า เลเต้ มีบุคลิกที่เป็นเสน่ห์แปลกๆ พลาดตรงการแคสตัวละครสมทบอย่างพ่อแม่ของทั้งสองสาว และแฟนหนุ่มของ "สายป่าน"
สิ่งที่โดดเด่นอย่างแท้จริงในหนังเรื่องนี้คือการแสดงของ "สายป่าน" อภิญญา สกุลเจริญสุข เป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่าเธอเป็นนักแสดงที่มีฝีมืออย่างหาตัวจับยาก การแสดงของเธอดูเผินๆอาจไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่เธอแสดงได้เรียบ งดงาม หมดจดอย่างที่ควรจะเป็น และสามารถส่งผ่านอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม ปฎิเสธไม่ได้ว่าการแสดงของเธอมีส่วนสร้างพลังทำให้หนังที่เหมือนจะแห้งแล้งดูดีขึ้นมาก จากบทนักแสดงนำหญิงในหนังไทยเท่าที่ได้ดูในปีนี้ ป๊อก ปิยธิดา -เต้ย จรินทร์พร จาก ไทม์ไลน์ , พลอย เฌอมาลย์ จาก คิดถึงวิทยา , ใหม่ ดาวิกา จาก แผลเก่า , ออม สุชาร์ จาก รัก ลวง หลอน ผู้เขียนชื่นชมการแสดงของสายป่านในหนังเรื่องนี้มากที่สุด และลุ้นให้เธอได้รับรางวัล (แม้แต่หนังอีกเรื่องของเธอ ฟินสุโค่ย ก็ยังจัดว่าแสดงดี)
โดยสรุปในมุมมองของผู้เขียน หนังเรื่องนี้โดดเด่นในแง่บทบันทึกทางสังคมที่ท้าทาย และเป็นสื่อเพื่อสร้างความเข้าใจ แต่ยังขาดชั้นเชิงทางศิลปะภาพยนตร์ไปอย่างน่าเสียดาย
" 1448 รักเราของใคร" ถือเป็นหนังเพื่อสังคม แต่จะสังคมของใคร ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ชมแต่ละท่านเปิดกว้างมากแค่ไหน