เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25/11/57 ที่ผ่านมาครับ
ปรกติเวลาเดินทางไปต่างประเทศผมมักจะนำรถไปจอดไว้ที่จอดรถของสนามบินเลยเพราะมาจาก ตจว.
เลยไม่มีทางเลือกนัก สำหรับครั้งนี้ผมเอารถไปจอดไว้ตั้งแต่ 22/11/57
หลังจากกลับมาถึงไทยก็เดินมาที่รถ เอาของเก็บขึ้นรถตามปรกติ สตาร์ทรถให้ลูกกับภรรยาขึ้นไปนั่งก่อน
ส่วนตัวผมก็เอารถเข็นที่เข็นกระเป๋ามาไปเก็บ ระหว่างที่เดินกลับมาก็เห็นความปรกติของตัวรถคือยางด้านหลัง
ฝั่งคนขับแบนติดพื้นเลย ยังดีที่เห็นก่อนจะขับออกไป
เนื่องด้วยความที่ว่ารถผมเปลี่ยนล้อแมกซ์มาและด้วยความประมาทของตัวผมเอง ทำให้รถผมไม่มีอุปกรณ์ที่จะ
ถอดล้อรถออกมาได้ ขณะนั้นเป็นเวลาราวๆ 1 ทุ่มแล้ว ลูกผมก็ป่วยจากทริปที่ไปเที่ยวมา ตอนแรกผมก็วิ่งหาเจ้าหน้าที่
แต่ไม่พบพอเหลือบมาที่เสาก็พบกับป้ายที่บอกว่า ถ้ามีเหตุฉุกเฉินให้ติดต่อเบอร์ 02-1329511
จริงๆแล้วก็ไม่ได้หวังอะไรมากครับแต่นาทีนั้น ไม่รู้จะคิดอะไรแล้วก็เลยโทรเลย มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงเป็นคนรับพอแจ้งเหตุ
ไปทางเจ้าหน้าที่ก็ถามว่าจอดรถที่ชั้นไหนเสาอะไร เดี๋ยวจะตามเจ้าหน้าที่ขึ้นมาให้
รอได้สักสิบนาทีก็มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงขึ้นมาสามคน ถามว่าผมมีอุปกรณ์หรือเปล่า ผมจึงแจ้งว่าผมไม่มี เจ้าหน้าที่ที่ขึ้นมา
จึง ว. หากัน จนมีรถของเจ้าหน้าที่ขึ้นมาแต่ก็ไม่มีประแจที่จะถอดน๊อตล้อผมได้ ทางเจ้าหน้าที่ผู้หญิง จึงประสานงานรถยก
ขึ้นมา แต่ก็ยังไม่มีประแจ (เห็น จนท. คุยกันว่ายืมกันไปยืมกันมาเลยหายไปหมด)
จังหวะนั้น (น่าจะเป็น)แฟนของจนท.ผู้หญิงคนนึงขับรถขึ้นมาเพราะมีคนโทรไปบอกว่าไม่มีประแจจึงเอาประแจมาให้
พอจัดการถอดล้อออกมาได้ และเอายางอะไหล่มาใส่แทนก็พบว่าคงไปไม่รอดเพราะยางอะไหล่เล็กและลมอ่อนมาก
ตอนที่กำลังคิดว่าทำยังไงกันดี จนท.รถยกเลยลงความเห็นให้พี่ผู้ชายที่เอาประแจมาให้ช่วยพาผมไปปะยาง ซึ่งพี่เค้าก็
ใจดีพาผมไป นับว่ายังโชคดีมากๆที่สามารถหาร้านปะยางจนได้เพราะตอนนั้นก็เกือบๆจะสองทุ่มแล้วกว่าจะหาได้ก็วิ่งกัน
ไปไกลจากสนามบินราวๆ 10 นาทีได้อยู่ (ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นแถว โพรโตชิโน่ กิ่งแก้ว อะไรเทือกๆนั้นน่ะครับ)
ระหว่างที่ผมออกไปกับพี่ผู้ชายท่านนั้น จนท.ผู้หญิงชุดแรกก็ช่วยอยู่เป็นเพื่อนแฟนผมตลอดเวลา พร้อมกับพี่ๆจนท.รถยก
ที่รอ stanby อยู่ด้วย ประมาณเวลาที่ผมออกไปปะยางน่าจะราวๆไม่ต่ำกว่าครึ่งชม.ได้ ระหว่างนั้นทางจนท.ก็ประสานงาน
เอาบัตรจอดรถของผมไปคิดเงินก่อนเพื่อที่จะได้ไม่โดนชาร์จค่าชม.เพิ่มด้วย
พอกลับมาทุกอย่างก็โอเคครับ จนท.รถยกช่วยใส่ล้อให้และเก็บเอาล้ออะไหล่เข้าที่เดิมให้อย่างเรียบร้อยดี ส่วนสาเหตุที่ยางแบน
ตอนแรกผมคิดว่าคงมีคนมาปล่อยลมยางผมหรือเปล่า แต่ผมก็จอดในซองอย่างดีไม่ได้ระรานใคร และก่อนมาผมก็พึ่งเอารถเข้าศูนย์
บริการและย้ำให้เจ้าหน้าที่เติมลมยางให้ผมด้วย
สาเหตุคือไอ้นี่แหละครับ
มันคือไขควงแบบที่เปลี่ยนสลับด้านได้น่ะครับ ยาวประมาณ 4 - 5 นิ้วได้ ปักเข้าไปลึกจนมิดเลย ซึ่งผมคิดว่าคงโดนมาจากที่ศูนย์
คงเป็นตอนที่ลงจากที่เค้ายกรถเวลาซ่อมแล้วมันคงตกอยู่ใกล้ๆทางลาดลง พอขยับรถออกมันก็ปักเข้าไป อันนี้ผมประมาณการเอาเอง
เพราะมันมีโอกาสน้อยมากที่จะไปเหยียบโดนเอาไขควงตามท้องถนนได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องด้วยอะไรหลายๆอย่างผมเลยไม่ได้ถามไถ่ชื่อเจ้าหน้าที่เอาไว้เลย จำได้แต่ชื่อพี่ผู้ชาย เห็นเค้าเรียกกันว่าไอซ์ (พี่เค้า
เป็นพนักงานที่นี่แหละ ตอนที่เกิดเหตุ เค้าน่าจะกำลังจะกลับบ้าน แต่ต้องมาเสียเวลาเพราะผมอีก)
รูปบนนี่คือเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่เป็นคนคอยประสานงานให้ตลอด พวกพี่ๆรถยก ส่วนคนที่ก้มอยู่นั่นคือพี่ไอซ์ที่ขับพาผมไปป่ะยาง
รถยกที่วิ่งขึ้นมาช่วยเหลือ
รถของพี่ไอซ์ที่พาผมไปปะยาง
กว่าผมจะได้ออกจากสุวรรณภูมิก็เกือบๆสามทุ่ม เสียเวลาไปเกือบๆสองชม. ขับกลับบ้านอีกสาม ชม. เล่นเอาแฮ่กไปเลยครับ
ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของลานจอดรถสุวรรณภูมิทุกท่านมากๆ หากไม่ได้พวกพี่ๆ ผมคงต้องลำบากตามเพื่อนตามฝูงมาช่วยอีก
ซึ่งแต่ละคนอยู่ไกลๆทั้งนั้น สิ่งที่เสียใจคือไม่มีเวลาได้ถามไถ่ชื่อ หรือแม้กระทั่งถ่ายรูปพวกพี่ๆแบบเต็มๆเอาไว้เพราะตอนนั้นลูก
ผมก็มีอาการไข้เริ่มขึ้นแถมยังไม่ได้ทานข้าวทานปลากันเลยด้วย
ขอบคุณจากใจจริงๆครับ ขอตั้งกระทู้นี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่พวกเค้าแทนแล้วกันครับ เพราะทราบว่าวันๆนึงมีเคสไม่น้อยเลยทีเดียว
สิ่งที่พวกเค้าทำนี่แทบจะไม่ค่อยมีใครรู้เลยด้วยซ้ำ (ผมเองยังไม่รู้เลย) ;)
แทกห้องรัชดาด้วยเพราะเกี่ยวข้องกับรถยนต์ครับ
เมื่อผมประสบเหตุรถยางแบนที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ปรกติเวลาเดินทางไปต่างประเทศผมมักจะนำรถไปจอดไว้ที่จอดรถของสนามบินเลยเพราะมาจาก ตจว.
เลยไม่มีทางเลือกนัก สำหรับครั้งนี้ผมเอารถไปจอดไว้ตั้งแต่ 22/11/57
หลังจากกลับมาถึงไทยก็เดินมาที่รถ เอาของเก็บขึ้นรถตามปรกติ สตาร์ทรถให้ลูกกับภรรยาขึ้นไปนั่งก่อน
ส่วนตัวผมก็เอารถเข็นที่เข็นกระเป๋ามาไปเก็บ ระหว่างที่เดินกลับมาก็เห็นความปรกติของตัวรถคือยางด้านหลัง
ฝั่งคนขับแบนติดพื้นเลย ยังดีที่เห็นก่อนจะขับออกไป
เนื่องด้วยความที่ว่ารถผมเปลี่ยนล้อแมกซ์มาและด้วยความประมาทของตัวผมเอง ทำให้รถผมไม่มีอุปกรณ์ที่จะ
ถอดล้อรถออกมาได้ ขณะนั้นเป็นเวลาราวๆ 1 ทุ่มแล้ว ลูกผมก็ป่วยจากทริปที่ไปเที่ยวมา ตอนแรกผมก็วิ่งหาเจ้าหน้าที่
แต่ไม่พบพอเหลือบมาที่เสาก็พบกับป้ายที่บอกว่า ถ้ามีเหตุฉุกเฉินให้ติดต่อเบอร์ 02-1329511
จริงๆแล้วก็ไม่ได้หวังอะไรมากครับแต่นาทีนั้น ไม่รู้จะคิดอะไรแล้วก็เลยโทรเลย มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงเป็นคนรับพอแจ้งเหตุ
ไปทางเจ้าหน้าที่ก็ถามว่าจอดรถที่ชั้นไหนเสาอะไร เดี๋ยวจะตามเจ้าหน้าที่ขึ้นมาให้
รอได้สักสิบนาทีก็มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงขึ้นมาสามคน ถามว่าผมมีอุปกรณ์หรือเปล่า ผมจึงแจ้งว่าผมไม่มี เจ้าหน้าที่ที่ขึ้นมา
จึง ว. หากัน จนมีรถของเจ้าหน้าที่ขึ้นมาแต่ก็ไม่มีประแจที่จะถอดน๊อตล้อผมได้ ทางเจ้าหน้าที่ผู้หญิง จึงประสานงานรถยก
ขึ้นมา แต่ก็ยังไม่มีประแจ (เห็น จนท. คุยกันว่ายืมกันไปยืมกันมาเลยหายไปหมด)
จังหวะนั้น (น่าจะเป็น)แฟนของจนท.ผู้หญิงคนนึงขับรถขึ้นมาเพราะมีคนโทรไปบอกว่าไม่มีประแจจึงเอาประแจมาให้
พอจัดการถอดล้อออกมาได้ และเอายางอะไหล่มาใส่แทนก็พบว่าคงไปไม่รอดเพราะยางอะไหล่เล็กและลมอ่อนมาก
ตอนที่กำลังคิดว่าทำยังไงกันดี จนท.รถยกเลยลงความเห็นให้พี่ผู้ชายที่เอาประแจมาให้ช่วยพาผมไปปะยาง ซึ่งพี่เค้าก็
ใจดีพาผมไป นับว่ายังโชคดีมากๆที่สามารถหาร้านปะยางจนได้เพราะตอนนั้นก็เกือบๆจะสองทุ่มแล้วกว่าจะหาได้ก็วิ่งกัน
ไปไกลจากสนามบินราวๆ 10 นาทีได้อยู่ (ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นแถว โพรโตชิโน่ กิ่งแก้ว อะไรเทือกๆนั้นน่ะครับ)
ระหว่างที่ผมออกไปกับพี่ผู้ชายท่านนั้น จนท.ผู้หญิงชุดแรกก็ช่วยอยู่เป็นเพื่อนแฟนผมตลอดเวลา พร้อมกับพี่ๆจนท.รถยก
ที่รอ stanby อยู่ด้วย ประมาณเวลาที่ผมออกไปปะยางน่าจะราวๆไม่ต่ำกว่าครึ่งชม.ได้ ระหว่างนั้นทางจนท.ก็ประสานงาน
เอาบัตรจอดรถของผมไปคิดเงินก่อนเพื่อที่จะได้ไม่โดนชาร์จค่าชม.เพิ่มด้วย
พอกลับมาทุกอย่างก็โอเคครับ จนท.รถยกช่วยใส่ล้อให้และเก็บเอาล้ออะไหล่เข้าที่เดิมให้อย่างเรียบร้อยดี ส่วนสาเหตุที่ยางแบน
ตอนแรกผมคิดว่าคงมีคนมาปล่อยลมยางผมหรือเปล่า แต่ผมก็จอดในซองอย่างดีไม่ได้ระรานใคร และก่อนมาผมก็พึ่งเอารถเข้าศูนย์
บริการและย้ำให้เจ้าหน้าที่เติมลมยางให้ผมด้วย
สาเหตุคือไอ้นี่แหละครับ
มันคือไขควงแบบที่เปลี่ยนสลับด้านได้น่ะครับ ยาวประมาณ 4 - 5 นิ้วได้ ปักเข้าไปลึกจนมิดเลย ซึ่งผมคิดว่าคงโดนมาจากที่ศูนย์
คงเป็นตอนที่ลงจากที่เค้ายกรถเวลาซ่อมแล้วมันคงตกอยู่ใกล้ๆทางลาดลง พอขยับรถออกมันก็ปักเข้าไป อันนี้ผมประมาณการเอาเอง
เพราะมันมีโอกาสน้อยมากที่จะไปเหยียบโดนเอาไขควงตามท้องถนนได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องด้วยอะไรหลายๆอย่างผมเลยไม่ได้ถามไถ่ชื่อเจ้าหน้าที่เอาไว้เลย จำได้แต่ชื่อพี่ผู้ชาย เห็นเค้าเรียกกันว่าไอซ์ (พี่เค้า
เป็นพนักงานที่นี่แหละ ตอนที่เกิดเหตุ เค้าน่าจะกำลังจะกลับบ้าน แต่ต้องมาเสียเวลาเพราะผมอีก)
รูปบนนี่คือเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่เป็นคนคอยประสานงานให้ตลอด พวกพี่ๆรถยก ส่วนคนที่ก้มอยู่นั่นคือพี่ไอซ์ที่ขับพาผมไปป่ะยาง
รถยกที่วิ่งขึ้นมาช่วยเหลือ
รถของพี่ไอซ์ที่พาผมไปปะยาง
กว่าผมจะได้ออกจากสุวรรณภูมิก็เกือบๆสามทุ่ม เสียเวลาไปเกือบๆสองชม. ขับกลับบ้านอีกสาม ชม. เล่นเอาแฮ่กไปเลยครับ
ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของลานจอดรถสุวรรณภูมิทุกท่านมากๆ หากไม่ได้พวกพี่ๆ ผมคงต้องลำบากตามเพื่อนตามฝูงมาช่วยอีก
ซึ่งแต่ละคนอยู่ไกลๆทั้งนั้น สิ่งที่เสียใจคือไม่มีเวลาได้ถามไถ่ชื่อ หรือแม้กระทั่งถ่ายรูปพวกพี่ๆแบบเต็มๆเอาไว้เพราะตอนนั้นลูก
ผมก็มีอาการไข้เริ่มขึ้นแถมยังไม่ได้ทานข้าวทานปลากันเลยด้วย
ขอบคุณจากใจจริงๆครับ ขอตั้งกระทู้นี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่พวกเค้าแทนแล้วกันครับ เพราะทราบว่าวันๆนึงมีเคสไม่น้อยเลยทีเดียว
สิ่งที่พวกเค้าทำนี่แทบจะไม่ค่อยมีใครรู้เลยด้วยซ้ำ (ผมเองยังไม่รู้เลย) ;)
แทกห้องรัชดาด้วยเพราะเกี่ยวข้องกับรถยนต์ครับ