1.พวกผมไม่ได้ปฎิเสธผู้โดยสาร แต่ปฏิเสธเส้นทางที่คุณกำลังจะไป
ตอบ. มันต่างกันยังไง ผมละงงกับความคิดคุณจัง
2.ผมได้จากคุณ 100฿ ผมต้องจ่ายค่าอะไรบ้างคุณเคยรู้ไหม เวลาที่มันเสียไป มันคุ้มค่าพอหรือ
คุณคิดแค่ที่คุณจ่าย อยากบอกว่าที่คุณจ่ายมานั้นมันไม่คุ้มทุนที่เสียไป
ตอบ. คุณพี่ครับถ้าคุณพี่บอกไม่คุ้ม ผมว่าคุณพี่น่าจะเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นนานแล้วหละมั้ง
3.เมื่อผู้โดยสารร้องเรียนแท็กซี่กรณีปฎิเสธผู้โดยสาร งั้นให้สิทธิ์แท็กซี่ร้องเรียนผู้โดยสารกรณีปฏิเสธแท็กซี่ได้ซิ
ผู้โดยสารเรียกรถเข้าไปในจุดที่รถติดๆแล้วทิ้งแท็กซี่กลางทาง ลงก่อนถึงจุดหมายที่ตกลงกันไว้สิ เราจะได้เสมอภาคกัน
ตอบ. ในกรณีนี้ผู้โดยสารบางท่านก็ได้ทำแบบนี้จริง แต่ผมว่าผู้โดยสารเค้ารีบมากอ่ะนะถึงลงกลางทาง
สุดท้ายแล้วเค้าก็ต้องไปเสียค่ามอไซด์รับจ้างต่ออยู่ดี แต่ผมว่าส่วนน้อยนะครับที่จะโดนผู้โดยสารทิ้งลงกลางทาง
ผมเคยมีประสบการณ์นั่งมอไซด์รับจ้างในตัวเมืองมาแล้ว ตอนนั้นรีบมากเลยจอดรถทิ้งไว้ที่ห้าง
แล้วค่อยกลับมาเอารถทีหลัง แล้วก็พบว่ามอไซด์รับจ้างราคาแพงมหาศาลเมื่อเทียบกับระยะทาง
แต่กรณีคุณจะทำอาชีพขับแท็กซี่คือการบริการ คุณเองก็ต้องเข้าใจตรงจุดนี้ด้วย
4. อยากจะถามว่าถ้าคุณทำงานทั้งเดือนแต่คุณได้รับเงินเดือนแค่นิดเดียว ไม่คุ้มค่ากับการทำงาน
หรือไม่คุ้มกับรายจ่ายที่คุณต้องจ่ายประจำเดือน คุณจะพอใจไหม คุณจะรับได้ไหม
พวกเราก็เหมือนกันนะ เราถูกบีบบังคับโดยกฏระเบียบให้ทำงานโดยที่ได้รับผลตอบแทนแบบไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเลย
และเป็นมานานนับ10-20ปีมาแล้ว แล้วคุณคิดว่าอย่างไรล่ะ นั่นสิ แล้วความเสมอภาคอยู่ที่ไหนล่ะคุณ!!!
ตอบ. คุณพี่ครับถ้าคุณพี่บอกไม่คุ้ม ผมว่าคุณพี่น่าจะเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นนานแล้วหละมั้ง คุณพี่จะทนทำมาทำไม 10-20 ปี
ผมไม่เข้าใจคุณพี่ครับ
ทั้งนี้เพื่อนๆในพันทิปมีความคิดเห็นกันว่าอย่างไรบ้างครับ
ผมเองก็ไม่รู้จะแท็คห้องไหนดี ขอแท็คห้องศาลาประชาคม กับรัชดา NGV ละกันนะครับ
ขอโทษนะครับ ขอแก้ไขข้อ 3 ที่ผมตอบไม่ตรงประเด็นนะครับ
ถ้าว่ากันไปตามกฏหมาย สัญญาจะเกิดขึ้นเมื่อ เสนอกับสนอง ต้องตรงกัน
ทีนี้ผมว่าการที่ผู้โดยสารทิ้งคุณพี่แท๊กซี่ลงกลางทางในช่วงเวลารถติด
ก็เหมือนผู้โดยสารที่เป็นผู้ว่าจ้างได้ขอยกเลิกสัญญากลางคัน
โดยที่พี่แท๊กซี่ไม่มีความผิด เพราะฉะนั้นถ้าให้แฟร์ๆ ผมก็ว่าผู้โดยสารอาจจะต้องยอมเสียค่าปรับเพิ่ม
ซึ่งจะเท่าไรก็ต้องตามความเหมาะสม อย่างนี้น่าจะตรงประเด็นกว่าไหมครับ
ทีนี้ถ้าเกิดมีเงื่อนไขนี้ขึ้นมา คุณพี่แท๊กซี่ก็ต้องห้ามปฏิเสธผู้โดยสารไม่ว่าจะกรณีไหนๆ อย่างนี้จะ ok ไหมครับ
ผมยอมรับว่าก็เห็นใจคุณพี่แท๊กซี่ในข้อนี้เหมือนกันครับ
ผมขอแก้ไขข้อนี้ให้ตรงประเด็นในเรื่องเดียว
พอแก้ไขแบบนี้แล้วเมื่อย้อนไปดูว่า เสนอกับสนองต้องตรงกันมันก็ตะหงิดๆขึ้นมา
ว่าพี่แท๊กซี่สามารถปฏิเสธผู้โดยสารได้ แต่ถ้าว่ากันไปตามจรรยาบรรณของอาชีพนี้
ก็แล้วแต่คุณพี่แท๊กซี่จะเห็นสมควรเอาเองละกัน ว่าระหว่างเลือกผู้โดยสาร จอดรถเฉยๆ วิ่งรถเปล่า
แล้วมาร้องว่าเงินไม่พอขอปรับขึ้นค่าโดยสาร มันสมควรกันไหม
กับระหว่างพี่แท๊กซี่ที่ไม่เลือกผู้โดยสาร ใครโบกไปรับหมด ผมไม่เห็นเค้าจะเดือดร้อนกันสักคน
แถมมีเงินเก็บส่งลูกเรียนยันจบ มีบ้าน ก็ลองไปพิจารณาดูเอาเองนะครับ
ส่วนเรื่องอื่นๆก็ตามที่เพื่อนๆในพันทิปคอมเม้นท์กันไป
เสียงจากแท๊กซี่ในกรณีที่ปฏิเสธผู้โดยสาร
1.พวกผมไม่ได้ปฎิเสธผู้โดยสาร แต่ปฏิเสธเส้นทางที่คุณกำลังจะไป
ตอบ. มันต่างกันยังไง ผมละงงกับความคิดคุณจัง
2.ผมได้จากคุณ 100฿ ผมต้องจ่ายค่าอะไรบ้างคุณเคยรู้ไหม เวลาที่มันเสียไป มันคุ้มค่าพอหรือ
คุณคิดแค่ที่คุณจ่าย อยากบอกว่าที่คุณจ่ายมานั้นมันไม่คุ้มทุนที่เสียไป
ตอบ. คุณพี่ครับถ้าคุณพี่บอกไม่คุ้ม ผมว่าคุณพี่น่าจะเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นนานแล้วหละมั้ง
3.เมื่อผู้โดยสารร้องเรียนแท็กซี่กรณีปฎิเสธผู้โดยสาร งั้นให้สิทธิ์แท็กซี่ร้องเรียนผู้โดยสารกรณีปฏิเสธแท็กซี่ได้ซิ
ผู้โดยสารเรียกรถเข้าไปในจุดที่รถติดๆแล้วทิ้งแท็กซี่กลางทาง ลงก่อนถึงจุดหมายที่ตกลงกันไว้สิ เราจะได้เสมอภาคกัน
ตอบ. ในกรณีนี้ผู้โดยสารบางท่านก็ได้ทำแบบนี้จริง แต่ผมว่าผู้โดยสารเค้ารีบมากอ่ะนะถึงลงกลางทาง
สุดท้ายแล้วเค้าก็ต้องไปเสียค่ามอไซด์รับจ้างต่ออยู่ดี แต่ผมว่าส่วนน้อยนะครับที่จะโดนผู้โดยสารทิ้งลงกลางทาง
ผมเคยมีประสบการณ์นั่งมอไซด์รับจ้างในตัวเมืองมาแล้ว ตอนนั้นรีบมากเลยจอดรถทิ้งไว้ที่ห้าง
แล้วค่อยกลับมาเอารถทีหลัง แล้วก็พบว่ามอไซด์รับจ้างราคาแพงมหาศาลเมื่อเทียบกับระยะทาง
แต่กรณีคุณจะทำอาชีพขับแท็กซี่คือการบริการ คุณเองก็ต้องเข้าใจตรงจุดนี้ด้วย
4. อยากจะถามว่าถ้าคุณทำงานทั้งเดือนแต่คุณได้รับเงินเดือนแค่นิดเดียว ไม่คุ้มค่ากับการทำงาน
หรือไม่คุ้มกับรายจ่ายที่คุณต้องจ่ายประจำเดือน คุณจะพอใจไหม คุณจะรับได้ไหม
พวกเราก็เหมือนกันนะ เราถูกบีบบังคับโดยกฏระเบียบให้ทำงานโดยที่ได้รับผลตอบแทนแบบไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเลย
และเป็นมานานนับ10-20ปีมาแล้ว แล้วคุณคิดว่าอย่างไรล่ะ นั่นสิ แล้วความเสมอภาคอยู่ที่ไหนล่ะคุณ!!!
ตอบ. คุณพี่ครับถ้าคุณพี่บอกไม่คุ้ม ผมว่าคุณพี่น่าจะเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นนานแล้วหละมั้ง คุณพี่จะทนทำมาทำไม 10-20 ปี
ผมไม่เข้าใจคุณพี่ครับ
ทั้งนี้เพื่อนๆในพันทิปมีความคิดเห็นกันว่าอย่างไรบ้างครับ
ผมเองก็ไม่รู้จะแท็คห้องไหนดี ขอแท็คห้องศาลาประชาคม กับรัชดา NGV ละกันนะครับ
ขอโทษนะครับ ขอแก้ไขข้อ 3 ที่ผมตอบไม่ตรงประเด็นนะครับ
ถ้าว่ากันไปตามกฏหมาย สัญญาจะเกิดขึ้นเมื่อ เสนอกับสนอง ต้องตรงกัน
ทีนี้ผมว่าการที่ผู้โดยสารทิ้งคุณพี่แท๊กซี่ลงกลางทางในช่วงเวลารถติด
ก็เหมือนผู้โดยสารที่เป็นผู้ว่าจ้างได้ขอยกเลิกสัญญากลางคัน
โดยที่พี่แท๊กซี่ไม่มีความผิด เพราะฉะนั้นถ้าให้แฟร์ๆ ผมก็ว่าผู้โดยสารอาจจะต้องยอมเสียค่าปรับเพิ่ม
ซึ่งจะเท่าไรก็ต้องตามความเหมาะสม อย่างนี้น่าจะตรงประเด็นกว่าไหมครับ
ทีนี้ถ้าเกิดมีเงื่อนไขนี้ขึ้นมา คุณพี่แท๊กซี่ก็ต้องห้ามปฏิเสธผู้โดยสารไม่ว่าจะกรณีไหนๆ อย่างนี้จะ ok ไหมครับ
ผมยอมรับว่าก็เห็นใจคุณพี่แท๊กซี่ในข้อนี้เหมือนกันครับ
ผมขอแก้ไขข้อนี้ให้ตรงประเด็นในเรื่องเดียว
พอแก้ไขแบบนี้แล้วเมื่อย้อนไปดูว่า เสนอกับสนองต้องตรงกันมันก็ตะหงิดๆขึ้นมา
ว่าพี่แท๊กซี่สามารถปฏิเสธผู้โดยสารได้ แต่ถ้าว่ากันไปตามจรรยาบรรณของอาชีพนี้
ก็แล้วแต่คุณพี่แท๊กซี่จะเห็นสมควรเอาเองละกัน ว่าระหว่างเลือกผู้โดยสาร จอดรถเฉยๆ วิ่งรถเปล่า
แล้วมาร้องว่าเงินไม่พอขอปรับขึ้นค่าโดยสาร มันสมควรกันไหม
กับระหว่างพี่แท๊กซี่ที่ไม่เลือกผู้โดยสาร ใครโบกไปรับหมด ผมไม่เห็นเค้าจะเดือดร้อนกันสักคน
แถมมีเงินเก็บส่งลูกเรียนยันจบ มีบ้าน ก็ลองไปพิจารณาดูเอาเองนะครับ
ส่วนเรื่องอื่นๆก็ตามที่เพื่อนๆในพันทิปคอมเม้นท์กันไป