หลางผิงออกรายการพูดคุยเรื่องวอลเลย์บอล

กระทู้ข่าว



ปลายเดือน(ต.ค.)ที่แล้ว   หลังจบศึกชิงแชมป์โลก และจบฤดูกาลแข่งขันของทีมชาติในปีนี้  หลางผิงโค้ชวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีนได้ไปออกรายการทางอินเตอร์เน็ตของเว็บไซต์ sina  โดยมีชื่อจั่วหัวรายการว่า “ค้อนเหล็กกับเด็กๆของเธอ”  


พิธีกร :  สวัสดีเพื่อนชาวเน็ต sina ทุกท่าน   ดิฉันชื่อ หม่าหยิน จาก Sports Weekly  วันนี้มาทำหน้าที่เป็นพิธีกรรับเชิญ และที่นั่งข้างดิฉันอยู่นี้คือโค้ชขวัญใจของพวกเรา ... โค้ชหลาง   

หลางผิง :  สวัสดีเพื่อนๆชาวเน็ต   ดีใจมากที่ได้มาที่นี่พูดคุยกับทุกท่าน

พิธีกร : วันนี้ดืใจมากที่โค้ชหลางมาถึงห้องส่ง ร่วมพูดคุยกับเราถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก   โค้ชหลาง  หลังจากคุณยุ่งทำงานมาตลอดคราวนี้คงได้มีเวลาหยุดพักผ่อนแล้ว  ฉันจำได้ว่าเมื่อคราวที่คุณตัดสินใจเรื่องมาเป็นโค้ชทีมชาติจีนนั้นเคยพูดไว้ว่า ทำงานปีครึ่งไปแล้วถึงจะมีเวลาได้หยุดพัก  ตอนนี้ปีครึ่งผ่านไปแล้ว  คุณคิดว่าเวลาผ่านไปเร็วหรือช้า ?  

หลางผิง :  ฉันคิดว่าเวลาผ่านไปช้า  เพราะว่าเวลาการฝึกซ้อมแต่ละวันยาวนานมาก  และตารางเวลาของเราก็ค่อนข้างแน่นมาก  แต่เมื่อนึกย้อนกลับไปดูถึงเวลาปีครึ่งที่ผ่านมา ก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วมาก   เหมือนกับว่ายังมีอยู่อีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ทำ  อย่างเช่นเมื่อพูดถึงแผนงานของทีม ตอนนี้แผนงานเราเดินไปถึงขั้นไหนแล้ว  ตรงไหนที่เรายังห่างอยู่อีก?  ยังอยากให้มีเวลาเพิ่มมากกว่านี้   

พิธีกร :  ครั้งนี้เป็นรอบที่ 3 แล้วที่คุณรับหน้าที่โค้ชทีมชาติ คือ ทีมชาติจีน ทีมชาติอเมริกา แล้วก็กลับมาทีมชาติจีนอีกครั้ง   ทั้ง 3 ครั้งนี้ร่วมงานกับผู้เล่นคนละยุค   และวงการวอลเลย์โลกก็เปลี่ยนแปลงไวมาก   การเป็นโค้ชครั้งนี้กับ 2 ครั้งก่อนมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง?   

หลางผิง :  ตอนที่ฉันคุมทีมจีนแข่งชิงแชมป์โลกเมื่อปี 98   ตอนนั้นกฏกติกาการแข่งขันยังไม่ได้เปลี่ยน  ทีมไหนเป็นฝ่ายเสิร์ฟจึงจะได้แต้ม  เป็นระบบ15 แต้ม  ใช้เวลาแข่งค่อนข้างนาน  ซึ่งแตกต่างกับตอนนี้  วอลเลย์บอลเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะเรื่องกฏกติกา  ที่นับแต้มทุกลูก  และตบลูกในแดนหลัง

ตอนปี 98  ยังไม่มีการตบในแดนหลัง  สมัยนี้การเข้าทำมีหลากหลายกว่า  และก็มีผู้เล่นลิโบโร่ด้วย  ผู้เล่นมีมากกว่า  อย่างสมัยก่อนผู้เล่น MB ที่ตัวสูงๆอย่างจ้าวหรุยหรุ่ย ยากที่จะลงเล่นได้ตลอดทั้งเกม เพราะเมื่อลงไปอยู่แดนหลัง และไม่มีลิโบโร่มาคอยเปลี่ยน  เขาก็ต้องรับผิดชอบบอลแรกกับเกมรับ  ดังนั้นสมัยก่อนก่อนปี 98 ผู้เล่นเราตัวจะไม่ค่อยสูงมาก  จะคำนึงถึงทักษะผู้เล่นที่ต้องมีรอบด้านครบเครื่องก่อน  ถ้าตอนเล่นอยู่แดนหน้าตบได้ 5 แต้ม พอมาอยู่แดนหลังเกมรับบอลแรกกลับทำเสียไป 6 แต้ม ก็ไม่คุ้ม  ฉะนั้น สมัยก่อนผู้เล่นที่ตัวสูงๆจึงมีข้อจำกัด  

แต่หลังจากมีการเปลี่ยนกฎกติกาวอลเลย์  ผู้เล่นที่ตัวสูงหรือตัวเตี้ยต่างก็มีโอกาสได้เล่น  ผู้เล่นที่ตัวเตี้ยหน่อยก็ไปเล่นแดนหลังหรือเป็นลิโบโร่ เป็นตัวสำรองในเกมรับไป  ตัวสูงๆอย่างจ้าวหรุยหรุ่ยหรือหยวนซินเย่วก็มีโอกาสได้เล่น  คือใช้จุดเด่นกลบจุดด้อย  

สมัยก่อนตอนเล่นกับคิวบา เขาจะกล้าเล่นลูกเสิร์ฟเพื่อทำลายเกมของจีน  เสิร์ฟเสียก็ไม่เสียแต้ม  เพราะฉะนั้นถ้าอยากชนะก็ต้องทำแต้มตอนที่เราเป็นฝ่ายเสิร์ฟ  ต้องพึ่งพาเกมรับการบล็อกของเราจึงจะมีโอกาสได้แต้ม  แต่หลังจากใช้กฎกติกาใหม่  ทีมอ่อนทีมแข็งก็จะไม่ห่างชั้นมาก  และเกมพลิกล็อคคาดไม่ถึงก็จะมีมากขึ้น  เพราะภายใน 1- 2 นาที ก็สามารถพลิกเปลี่ยนสถานการณ์ของเกมได้ วอลเลย์สมัยนี้จึงแข่งขันกันดุเดือด  และด้วยเกมรุกสมัยนี้ทำให้ต้องการตัวผู้เล่นที่มีคุณสมบัติรูปร่างสูงยิ่งขึ้น  เล่นแบบสไตล์ผู้ชายมากขึ้น   การเล่นต้องสูง+เร็ว   แดนหน้า+แดนหลังประสาน   หรือการกระโดดเสิร์ฟ  ต่างๆเหล่านี้เป็นต้น  มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก   

พิธีกร :  คุณก็ร่วมอยู่ในกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้  ตามให้ทันกระแสวอลเลย์โลก  ไม่หยุดนิ่งปรับเปลี่ยนวิธีการฝึกสอนและกระบวนการในการฝึกซ้อม

หลางผิง :  เป็นเรื่องจำเป็น   เรื่องพื้นฐานทั่วไปของเทคนิคทักษะ  การตบหรือยุทธวิธีการเล่นพวกนี้ไม่ได้เปลี่ยน  แต่ถ้าว่าถึงเรื่องกฎกติกาใหม่แล้ว ก็ต้องศึกษาให้ทะลุปรุโปร่ง เพื่อใช้ให้เป็นประโยชน์   และก็ดูด้วยว่ายุทธวิธีการเล่นแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับทีมจีนเราในตอนนี้

สมัยก่อนทีมจีนเล่นแบบรวดเร็วหลากหลาย  ตอนนี้เราก็ยังต้องการแบบนั้นอยู่  แต่การจะเป็นแบบนั้นได้ต้องมีปัจจัยประกอบหลายอย่าง  อย่างบอลแรกคุณต้องเข้าจุดจึงจะเล่นเร็วได้  เล่นรุกเร็วเส้น 1 เมตรได้  แต่ทั้งนี้ก็ต้องมาดูขีดความสามารถในการรุกของคุณด้วย   บอลแรกเร็วแล้วบอลเซ็ตเร็วหรือเปล่า เซ็ตเข้าจุดหรือไม่   บอลเซ็ตเร็วแล้ว มือตบมาถึงหรือเปล่า  เคลื่อนที่ถึงตำแหน่งแล้วยัง  ไม่ใช่นึกอยากจะเร็วก็เร็ว   การจะเล่นให้รวดเร็วหลากหลายได้นั้นต้องมีรายละเอียดมากมายระหว่างทาง  และก็ต้องดูถึงสไตล์การเล่นของแต่ละทีมด้วย  

สมัยนี้เล่นบอลแรกให้เข้าจุดโดยเฉลี่ย  40%,50% ก็ดีแล้ว หรือ 60% นั่นก็จะยิ่งดีมาก  แต่ถ้าได้  40% คุณจะเล่นเร็วสักเท่าไร  ไม่ใช่ว่าบอลแรกเข้าจุดก็เล่นสูตรนี้หมด เขาก็จับทางคุณได้  ต้องตีให้มีหลากหลาย  และก็ขึ้นกับผู้เล่นด้วยว่ามีศักยภาพฝีมือตรงนี้หรือไม่  ถ้าไม่มีหรือยังมีไม่พอก็ต้องไปขยันฝึกซ้อม  โปรแกรมการฝึกซ้อมเราก็จะยึดตามระดับการพัฒนาของผู้เล่นมาเป็นตัวกำหนด

พิธีกร :  ชิงแชมป์โลกหนนี้ได้เห็นฝีมือการเล่นของแต่ละทีมแล้ว  ถือเป็นการเริ่มต้นเปิดฉากสู่โอลิมปิกที่ริโอ  คุณเคยพูดว่า การแข่งขันครั้งนี้สามารถมองเห็นถึงแนวโน้มทิศทางรูปแบบการเล่น  เห็นถึงยุทธวิธีการเล่นใหม่ๆ   อย่าง MB1  ของญี่ปุ่น   คุณลองพูดให้เราฟังหน่อยว่าตอนนี้เทรนด์วอลเลย์หญิงมีแนวโน้มเป็นอย่างไร?

หลางผิง :  พูดโดยสรุป  สปีดความเร็วมีมากกว่าโอลิมปิกครั้งที่แล้ว  มีกันอยู่หลายทีม  ที่เรียกว่าเร็วในที่นี้ไม่ใช่หมายถึงเล่นหลากหลาย  แต่คือให้บอล 2 ด้านเร็ว  บอลเร็วหัวเสา(บอล Y) กับบอลตำแหน่ง 2  บอลไหลหลังเร็ว

ทีมญี่ปุ่นใช้ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเองมาคิดแผน MB1  แต่ฉันเห็นว่าผู้เล่นหลายคนในทีมยังไม่เหมาะกับยุทธวิธีนี้   แต่ถ้าญี่ปุ่นคิดว่ายุทธวิธีนี้เหมาะสมกับทีมตัวเองแล้ว ก็ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นมาพัฒนายุทธวิธีการเล่นนี้  

ในส่วนของเราเองไม่มียุทธวิธีการเล่นแบบนี้  ดังนั้นเราก็ต้องไปศึกษาทำความเข้าใจ  ศึกษาสไตล์การเล่นเฉพาะของผู้เล่นแต่ละคน   ในการฝึกซ้อมคุณต้องมีการจำลองรูปแบบการเล่นคู่แข่ง   แน่นอนการจำลองการเล่นตอนซ้อมกับตอนแข่งจริงมันไม่เหมือนกัน  แต่ก็ทำให้เราสามารถมองเห็นถึงรูปแบบการเล่นที่เป็นสไตล์เฉพาะของทีมแต่ละทีม  

ชิงแชมป์โลกปีนี้  ทุกทีมต่างก็มีส่งผู้เล่นตัวเด่นของตัวเองมา  ในรอบโอลิมปิกปีแรกคือปีที่แล้ว  มีหลายทีมที่อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนถ่ายทีม  สร้างผู้เล่นดาวรุ่ง  ผ่องถ่ายทดแทนผู้เล่นเก่า-ใหม่  ทีมจีนเราก็เช่นกัน  

มาปีนี้ก็จะเห็นชุดตัวผู้เล่นของแต่ละทีม  ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นรุ่นกลางก็ดีหรือผู้เล่นเก่าก็ดี ที่ยังสามารถเล่นถึงโอลิมปิกริโอได้  รวมๆแล้วต่างก็มีชื่อปรากฏอยู่ในทีมปีนี้   พวกเขาต่างก็กำลังพิจารณาดูตัวผู้เล่นกันอยู่  กำลังทดสอบชุดผู้เล่นนี้ว่าใช้ได้หรือไม่ยังไง   เพราะปีหน้าก็จะเป็นรายการแข่งคัดเลือกไปโอลิมปิก  มาตรฐานฝีมือในชิงแชมป์โลกคราวนี้ถือว่าสูงมาก   

พิธีกร :  ก่อนไปแข่งชิงแชมป์โลกครั้งนี้ คุณคิดมาก่อนหรือไม่ว่าทีมจีนจะทำผลงานออกมาดี ?  

หลางผิง :  ไม่คิด  ก่อนไปเรามีกำหนดเป้าหมายไว้  คือเข้ารอบ 6 ทีม  ตอนนี้มีทีมที่มาตรฐานฝีมือสูงราวๆ 10 ทีม หรือถึง 12 ทีม  ถ้ามีนัดหนึ่งที่คุณเตรียมตัวมาได้ไม่ดีพอ ฟอร์มการเล่นไม่ดี  ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นฝ่ายชนะในนัดนั้น   เพราะแต้มเปลี่ยนได้เร็วมาก  ดังนั้น เป้าหมายแรกก็คือเข้ารอบ 6 ทีม  ต่อจากนั้นดูการแบ่งกลุ่มค่อยมาว่ากันอีกที   

พิธีกร :  จากเข้ารอบ 6 ทีมมาเป็น 4 ทีม  สุดท้ายได้เข้าชิงฯ  และได้เหรียญเงิน   ทีมจีนชุดนี้ว่าตามจริงก็ยังไม่ถือว่าเพอร์เฟ็ค ยังมีข้อบกพร่องอยู่อีกมาก  การได้เหรียญเงินมาคราวนี้คิดว่าความสำคัญของมันคือตรงไหน ?   

หลางผิง : ฉันคิดว่าการที่เราได้เหรียญเงิน เพราะว่าในนัดที่สำคัญ  เราเล่นกันได้ดี  มีโอกาสแล้วทำได้  อีกประการ  การแข่งขันมีเกมที่พลิกคาดคิดไม่ถึงเกิดขึ้นด้วย   พูดไม่ได้หรอกว่าศักยภาพทีมตอนนี้คือเบอร์ 1  เบอร์ 2 ของโลก  ศักยภาพแท้จริงของเรายังไปไม่ถึง แต่ก็เข้าไปใกล้ทีมท็อป 4 อันดับแรกของโลก  คือดูจากผลงานและความคงเส้นคงวาที่ผ่านมา  เราก็เข้าใกล้พวกเขาแล้ว  

ผลงานคราวนี้จะเป็นกำลังใจให้กับเราเป็นอย่างมาก ผู้เล่นของเราแบ่งได้ 3 รุ่น เก่า-กลาง-ใหม่ ว่าเฉพาะผู้เล่นใหม่ เรามีอยู่ถึง10 คนที่ยังไม่เคยเล่นชิงแชมป์โลก  ครั้งแรกก็สามารถทำผลงานได้เช่นนี้ ทำให้ทุกคนมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น  ผลจากที่ได้ฝึกซ้อมกันมาปีกว่า ได้เห็นถึงศักยภาพของทีมว่ามีพัฒนาการ  เดินเข้าไปใกล้เป้าหมาย และจากชิงแชมป์โลกนี้ก็ได้มองเห็นถึงจุดอ่อนข้อบกพร่องที่ยังมีอยู่ของเรา  การฝึกซ้อมต่อไปข้างหน้านี้ก็ต้องเพิ่มให้แข็งแกร่งมากขึ้น  มีด้านไหนที่เรายังห่างจากทีมชั้นนำระดับโลก ก็จะไปเน้นได้อย่างชัดเจนตรงจุด

พิธีกร :  รู้สึกว่าหลังจากที่คว้าเหรียญเงินแชมป์โลก ไม่ว่าคุณหรือสมาคมฯดูจะค่อนข้างถ่อมตัว  เหมือนคุณจะกังวลว่าเมื่อผู้เล่นได้เหรียญเงินแล้วจะเหลิง  หรือไม่ก็อาจหลงเข้าใจผิดถึงสถานะที่แท้จริงของตัวเอง หรือว่ากลัวนักข่าว แฟนวอลเลย์จีนจากนี้ไปจะคาดหวังทีมจีนสูงเกินไป

หลางผิง : ไม่ได้คิดไปถึงขนาดนั้น  สำหรับเราแล้วหลังจากกลับมาก็รีบทำข้อสรุป  ซึ่งขณะแข่งชิงแชมป์โลกในแต่ละช่วงเราก็จะมีทำข้อสรุปอยู่ตลอด   จุดไหนที่เล่นดี  จุดไหนที่ยังต้องปรับปรุง  ไม่ใช่ว่าถ่อมตัวหรือไม่ถ่อมตัวอะไร ?

วอลเลย์สมัยนี้แตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก  เมื่อก่อนทีมจีนแข็งแกร่งจริง เป็นทีมชั้นแนวหน้าของโลก  เล่นยังไงก็อยู่ 3 อันดับแรก  แต่ตอนนี้ด้วยกฎกติกาที่เปลี่ยนแปลงด้วยและทีมอื่นๆก็พัฒนาขึ้นมารวดเร็วด้วย  การแข่งขันแต่ละรายการ 3 อันดับแรกมีไม่ซ้ำกัน  ที่ดูจะไม่เปลี่ยนแปลงก็คงมีอยู่แค่ 1-2 ทีมเท่านั้น  ที่ 2 ที่ 3 ถ้ามีนัดไหนเล่นไม่ดี อันดับก็อาจจะมีเปลี่ยนได้  

อย่างบราซิลตลอดทั้งรายการแพ้เพียงนัดเดียวได้แค่ที่ 3  มีเรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้นมากมาย  แต่อย่าได้เอาเรื่องคาดไม่ถึงนี้กลายมาเป็นเรื่องปกติ  เราต้องรู้ตระหนักชัดในข้อบกพร่องที่มีของตัวเอง  จริงๆต้องมาดูถึงพัฒนาการของเราดูถึงข้อบกพร่องของเรา ก็ยังคงเดินไปตามแผนการที่กำหนดไว้  และพยายามไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้นต่อไป  นี่คือความมุ่งมั่นของเรา  



*** ยังมีต่อ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่