หลางผิงกล่าวภายหลังจบสนามแรกที่เป่ยหลุนว่า เธอไม่อยากให้เอาแต่ถามว่า มีรายชื่อว่าใครเป็นผู้เล่นตัวจริงแล้วยัง? เพราะว่าวงการวอลเล่ย์ระดับนานาชาติตอนนี้จะมาอาศัยแค่ผู้เล่น 6 คนเหมาเล่นตลอด มันเอ้าท์ไปแล้ว !! ความคิดแบบเก่าๆหลายอย่างที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุค หรือควรละเลิกทิ้งไป
แข่งมาก เก็บประสบการณ์ให้มาก ทั้งหมดก็เพื่อชิงแชมป์โลก
นักข่าว : คุณคิดว่าในสนามแรก ผู้เล่นอายุน้อยของเราได้ประสบการณ์เป็นไปตามเป้าหมายหรือเปล่า?
หลางผิง : ได้ตามเป้าหมาย การแข่งขันในแต่ละนัด กว่าครึ่งที่มีผู้เล่นอายุน้อยได้ลงสนาม รุ่นพี่ช่วยประคองรุ่นน้อง เช่นนี้ก็จะได้ประโยชน์ นัดแรก หวางน่าลงเล่นแต่ทำได้ไม่ดี ถ้าฉันไม่เปลี่ยนตัว สถานการณ์ก็คงจะแย่ เปลี่ยนเอาเว่ยชิวเย่วลง อาศัยประสบการณ์ความเก๋าของเธอทำให้พลิกสถานการณ์กลับมาได้ แต่ถ้าให้พูดในส่วนของฉันแล้วคงไม่มาหวังพึ่งไปกับผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง
นักข่าว : ปีนี้รายการแข่งขันมีมาก จะจัดการยังไง?
หลางผิง : อันนี้ก็คงต้องดูที่ WGP ทั้ง 3 สนามว่าผลงานออกมาเป็นยังไง? ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ และก็ไม่ใช่ว่า WGP 3 สนามแล้วก็จบ แน่นอนว่าที่สำคัญมากที่สุดก็คือชิงแชมป์โลก ที่ทำทั้งหมดก็เพื่อสำหรับชิงแชมป์โลก
นักข่าว : รายการแข่งขัน Montreux ที่สวิสกับรายการ 4 เส้า 2 สนาม ก็เพื่อเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งให้กับม้านั่งสำรองในรายการชิงแชมป์โลก (ความหมายก็คือให้ผู้เล่นทั้งตัวจริงตัวสำรองมีฝีมือศักยภาพที่ใกล้เคียงทดแทนกันได้)
หลางผิง : จะพูดอย่างนั้นก็ได้ คุณก็รู้ ต่อจากนี้ไปยังมีรายการการแข่งขันอีกมาก ซึ่งเราจะใช้ผู้เล่นทั้งหมดของเรา แนวโน้มทิศทางของวงการวอลเล่ย์โลกตอนนี้ การใช้ผู้เล่น 6 คนเล่นตลอด เป็นสิ่งที่ยาก
ปรับเปลี่ยนความคิด เลิกรอรายชื่อตัวจริง
นักข่าว : ชิงแชมป์โลกเราอยู่ร่วมสายกับเบลเยี่ยม และครั้งนี้ที่มาแข่งก็เป็นผู้เล่นตัวจริง เช่นนี้แล้วเป็นเราที่ไปล้วงเขา หรือว่าเขาจะมาล้วงเรา?
หลางผิง : สำหรับฉันแล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องมาเก็บงำ ตอนที่คู่แข่งกดดันเรา คงไม่มาบอกว่าเรายังมีอะไรที่ยังเก็บซ่อนไว้อยู่ แล้วตอนเวลาจะใช้ขึ้นมาจริงๆจะงัดออกมาใช้ไม่ออก
นักข่าว : ชิงแชมป์โลกมีรายชื่อที่แน่นอนแล้วรึยัง?
หลางผิง : ยังพูดยาก และก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีรายชื่อที่ตายตัว ผู้เล่น 6 คนแรกก็อาจจะมีปรับเปลี่ยน เล่นกับยุโรปเป็นผู้เล่นชุดหนึ่ง เล่นกับเอเชียเป็นผู้เล่นอีกชุดหนึ่ง จะให้เล่นกันตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นชุด 6 คนไหน ก็ไม่ดี
นักข่าว : คนข้างนอกต่างพูดกันว่าแล้วเมื่อไหร่ทีมเราถึงจะเล่นประสานเข้าขากันได้ ?
หลางผิง : นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าต้องมีแค่ผู้เล่น 6 คนที่ประสานเข้าขากัน คนอื่นที่เป็นตัวสำรองเมื่อลงสนามไปก็จะเล่นไม่เข้าขากันแล้ว? สมมติว่ามือเซ็ตเกิดบาดเจ็บขึ้นมา ก็พังทั้งหมดสิ โอลิมปิคครั้งที่แล้ว ต้าเหมยบาดเจ็บ ก็ไปหมดทั้งทีมสิ ไม่ควรไปวางไว้กับคนคนเดียว
ฉันอยากให้ผู้เล่นที่เล่นในตำแหน่งเดียวกันมีศักยภาพใกล้เคียงกัน ถ้าตัวจริงตัวสำรองฝีมือห่างกัน นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ มักจะมีแต่คนมาถามฉันอยู่เรื่อยว่าผู้เล่น 6 คนแรกเมื่อไหร่จะออก? เร็วๆนี้แล้วใช่ไหม? รอไปเถอะ ! บางทีชิงแชมป์โลกเริ่มแล้วก็ยังไม่มี ยังไงในทีมของเรา ใช่ว่าจะมีผู้เล่นคนไหนที่มีฝีมือเก่งสุดยอด ไม่ว่าเจอทีมไหนได้หมด ผู้เล่นประเภทนี้มีน้อย ดังนั้นความคิดแบบเดิมๆบางอย่างก็ควรต้องมีการปรับเปลี่ยน
http://epaper.jinghua.cn/html/2014-07/01/content_101641.htm
***
นับแต่หลางผิงกลับมาคุมทีมชาติจีนอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว ผู้เล่น 6 คนแรกจะมีการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกัน ยกตัวอย่างตำแหน่งมือเซ็ต ปีนี้ รายการแข่งขันที่สวิสเมื่อต้นเดือนที่แล้ว คือ ติงเสียกับเหยาตี๋ เมื่อมารายการ 4 เส้าที่จีน สนามแรก คือ หวางน่ากับเว่ยชิวเย่ว และมีข่าวว่าสนามสอง เป็นเสิ่นจิ้งซือกับเว่ยชิวเย่ว เรื่องการหมุนเวียนใช้ตัวผู้เล่น เป็นแนวทางของหลางผิงอยู่แล้ว สมัยคุมทีมชาติสหรัฐก็สไตล์นี้
สนามแรก 3 นัด หลางผิงให้โอกาสหวางน่า วางฮุ่ยหมิ่น หลิวเสี่ยวถง หยางฟางซวี่ และเฉินจ่านได้ลงสนาม แต่ละนัดหลางผิงจะให้ผู้เล่นน้องใหม่ได้ลงสนามหาประสบการณ์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าให้ผู้เล่นใหม่ลงสนามทั้งหมด ต้องมีรุ่นพี่ช่วยประคองด้วย ให้ผู้เล่นน้องใหม่ได้มีประสบการณ์ แต่ก็ต้องดูแลปกป้องพวกเขาด้วย ถ้าลงไปแล้วมีแต่แพ้ ก็จะทำลายความมั่นใจ โค้ชต้องคอยปรับเปลี่ยนตัว เพื่อให้ได้ชัยชนะ ขณะเดียวกันก็พยายามหาโอกาสให้ผู้เล่นอายุน้อยได้ลงสนาม ให้มีประสบการณ์ในการแข่งขัน อันจะเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขา
หลังจบการแข่งขันนัดไทย-จีน หลางผิงก็พูดกับนักข่าวว่า "ฉันหวังว่าเพื่อนสื่อมวลชนจะไม่นำแข่งขันนัดนี้ (นัดไทย-จีน) เขียนประโคมใหญ่โต ฉันต้องการให้ผู้เล่นเรารู้จักตัวเองอย่างแท้จริง เส้นทางยังอีกยาวไกล คู่แข่งมีอีกมาก เรายังมีส่วนที่ยังต้องพัฒนา ยังต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งขัน "
บทสัมภาษณ์โค้ชหลางผิงหลังจบการแข่งขัน 4 เส้าสนามแรก
แข่งมาก เก็บประสบการณ์ให้มาก ทั้งหมดก็เพื่อชิงแชมป์โลก
ฉันอยากให้ผู้เล่นที่เล่นในตำแหน่งเดียวกันมีศักยภาพใกล้เคียงกัน ถ้าตัวจริงตัวสำรองฝีมือห่างกัน นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ มักจะมีแต่คนมาถามฉันอยู่เรื่อยว่าผู้เล่น 6 คนแรกเมื่อไหร่จะออก? เร็วๆนี้แล้วใช่ไหม? รอไปเถอะ ! บางทีชิงแชมป์โลกเริ่มแล้วก็ยังไม่มี ยังไงในทีมของเรา ใช่ว่าจะมีผู้เล่นคนไหนที่มีฝีมือเก่งสุดยอด ไม่ว่าเจอทีมไหนได้หมด ผู้เล่นประเภทนี้มีน้อย ดังนั้นความคิดแบบเดิมๆบางอย่างก็ควรต้องมีการปรับเปลี่ยน
http://epaper.jinghua.cn/html/2014-07/01/content_101641.htm
***
นับแต่หลางผิงกลับมาคุมทีมชาติจีนอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว ผู้เล่น 6 คนแรกจะมีการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกัน ยกตัวอย่างตำแหน่งมือเซ็ต ปีนี้ รายการแข่งขันที่สวิสเมื่อต้นเดือนที่แล้ว คือ ติงเสียกับเหยาตี๋ เมื่อมารายการ 4 เส้าที่จีน สนามแรก คือ หวางน่ากับเว่ยชิวเย่ว และมีข่าวว่าสนามสอง เป็นเสิ่นจิ้งซือกับเว่ยชิวเย่ว เรื่องการหมุนเวียนใช้ตัวผู้เล่น เป็นแนวทางของหลางผิงอยู่แล้ว สมัยคุมทีมชาติสหรัฐก็สไตล์นี้
สนามแรก 3 นัด หลางผิงให้โอกาสหวางน่า วางฮุ่ยหมิ่น หลิวเสี่ยวถง หยางฟางซวี่ และเฉินจ่านได้ลงสนาม แต่ละนัดหลางผิงจะให้ผู้เล่นน้องใหม่ได้ลงสนามหาประสบการณ์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าให้ผู้เล่นใหม่ลงสนามทั้งหมด ต้องมีรุ่นพี่ช่วยประคองด้วย ให้ผู้เล่นน้องใหม่ได้มีประสบการณ์ แต่ก็ต้องดูแลปกป้องพวกเขาด้วย ถ้าลงไปแล้วมีแต่แพ้ ก็จะทำลายความมั่นใจ โค้ชต้องคอยปรับเปลี่ยนตัว เพื่อให้ได้ชัยชนะ ขณะเดียวกันก็พยายามหาโอกาสให้ผู้เล่นอายุน้อยได้ลงสนาม ให้มีประสบการณ์ในการแข่งขัน อันจะเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขา
หลังจบการแข่งขันนัดไทย-จีน หลางผิงก็พูดกับนักข่าวว่า "ฉันหวังว่าเพื่อนสื่อมวลชนจะไม่นำแข่งขันนัดนี้ (นัดไทย-จีน) เขียนประโคมใหญ่โต ฉันต้องการให้ผู้เล่นเรารู้จักตัวเองอย่างแท้จริง เส้นทางยังอีกยาวไกล คู่แข่งมีอีกมาก เรายังมีส่วนที่ยังต้องพัฒนา ยังต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งขัน "