บทสัมภาษณ์เว่ยชิวเย่วก่อนที่จะออกเดินทางไปเล่นลีกอาชีพที่อาเซอร์ไบจัน

กระทู้ข่าว
ได้อ่านผ่านตาบทสัมภาษณ์นี้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนที่แล้ว ก่อนที่เว่ยชิวเย่วจะเดินทางไปเล่นลีกอาเซอร์ไบจัน
จึงขอนำเอาบทสัมภาษณ์ของเธอมาลงไว้สำหรับผู้สนใจที่อยากรู้จักเธอมากขึ้น ....


“ฉันต้องการความสุขที่ยั่งยืน     ไว้ต้านทานความปวดร้าวได้

เส้นทางของคนคนหนึ่ง             จะไม่รู้สึกถึงความเดียวดาย

ฉันต้องการความสุขที่มั่นคง      ใช้ทั้งชีวิตให้เธอมีความสุข

ไม่ว่าตัวฉันจะอยู่แห่งหนใด       จะไม่มีให้หลงทาง

ฉันต้องการความสุขที่ยั่งยืน      นี่คือความสุขที่ฉันปรารถนา”


ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไรที่เสียงรอสายโทรศัพท์มือถือของเว่ยชิวเย่วเปลี่ยนมาเป็นเพลง - ความสุขที่ยั่งยืน 《稳稳的幸福》
wěnwěndexìngfú
       
วันพรุ่งนี้ (21 ก.ย. 56) ก่อนฟ้าสาง เว่ยชิวเย่วก็จะบินเดี่ยวสู่อาร์เซอร์ไบจันแล้ว  การออกไปเล่นวอลเลย์บอล
ที่ต่างประเทศครั้งนี้เป็นโอกาสที่ไม่ได้มีมาได้ง่ายๆ  แต่เธอกลับกำหนดไว้เพียงแค่ 1 ปีก่อน  ก็ด้วยเพราะว่า
เธอรู้สึกละอายใจต่อพ่อแม่  เธอหวังจะได้มีเวลามากขึ้นในการอยู่ข้างกายเป็นเพื่อนพวกท่าน
ไม่อยากให้ท่านต้องมาคอยพะวงเป็นห่วงตัวเธอ  เว่ยชิวเย่วก็จะมีน้ำตาคลอเมื่อพูดถึงพ่อแม่

เชื่อแน่ว่าทุกๆคนที่รักเธอจะเข้าใจเธอ  และสนับสนุนสำหรับการเลือกเส้นทางอนาคตของเธอ  สนับสนุนการไขว่คว้าของเธอ  
และปรารถนาให้เธอมีความสุขยั่งยืน


อาลัยอาวรณ์ญาติมิตร  
นักข่าว :  เว่ยชิวเย่วให้ภาพลักษณ์กับคนทั่วไปคือผู้หญิงที่ก้าวล้ำทันสมัยคนหนึ่ง  แต่ที่จริงแล้วลึกๆคุณเป็นคนที่มีความคิด
อนุรักษ์นิยม จากที่ผ่านมาที่ได้รู้จักคุณ  ตรุษจีนทุกปีคุณให้ความสำคัญอย่างมากกับการได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว
แต่การไปต่างประเทศในครั้งนี้  วันเกิดคุณก็ไม่สามารถฉลองที่บ้านได้   ตรุษจีนก็ไม่สามารถกลับบ้านได้  อย่างนี้แล้ว
คุณตัดใจได้หรือไม่กับภาพที่ต้องอยู่กันพร้อมหน้ากับครอบครัว?

เว่ยชิวเย่ว :  ตรุษจีนคงไม่สามารถกลับบ้านได้   คงไม่ได้อยู่ร่วมพร้อมหน้ากับครอบครัว แน่นอนต้องรู้สึกเสียดาย แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่จะทดสอบตัวเอง  เป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่  ตลอดที่ผ่านมาไม่ว่าจะยุ่งมากแค่ไหน  เมื่อถึงตรุษจีนต้องกลับบ้านมาอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว  จำได้ว่าฉันโตจนป่านนี้  มีเพียงปี 2008  ที่ตอนตรุษจีนฉันอยู่ที่จางโจว  เพราะตอนนั้นเราต้องเตรียมตัวสำหรับโอลิมปิกเกมส์ที่ปักกิ่ง

นักข่าว :  ความคุ้นเคยนี้คงมีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมการเติบโตในวัยเด็ก

เว่ยชิวเย่ว :  ในวัยเด็ก ตรุษจีนทุกปี พ่อแม่ได้หยุดงาน  อยู่เป็นเพื่อนฉัน  ได้ดูดอกไม้ไฟ  ร่วมสนุกกับเพื่อนๆ  มีความสุขมาก

นักข่าว :  นอกจากคิดถึงคนในครอบครัวแล้ว   กับมิตรภาพระหว่างเพื่อนก็คงรู้สึกด้วย

เว่ยชิวเย่ว :  เพื่อนๆมักมาถามฉันว่าจะไปเมื่อไร?  เรานัดเจอกันบ่อย  ไม่กี่วันก่อนก็นัดเจอกับพี่จางน่า พี่ใหญ่หวางลี่  
พี่หยางย่าหนาน  พวกเราต่างพูดคุยถึงวันต่างๆในอดีตของเรา

นักข่าว :  ใช้เวลาไปกับการรำลึกอดีต

เว่ยชิวเย่ว :   ใช่  มีแต่รำลึกถึงอดีตกัน

นักข่าว :   มีตอนไหนที่ซึ้งบ้าง?

เว่ยชิวเย่ว :   มี  กับพี่จางน่าเราคุยถึงตอนที่ฉันเพิ่งติดทีมชาติชุดใหญ่ ตอนนั้นค่อนข้างลำบากมาก ฉันต้องพยายาม
ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่  พี่จางน่าจะคอยช่วยดูแลฉันตลอด  เราจะอยู่ด้วยกันทุกวัน สอนฉันเรื่องต่างๆมากมาย
อย่างพี่ย่าหนาน  เราอยู่ด้วยกันมาตลอดหลายปี  ตั้งแต่ยุวชนทีมชาติ เยาวชนทีมชาติ  ไปจนถึงสโมสรเทียนจิน  
หลายปีมากที่เราไม่เคยแยกจากกัน  จนเรามักจะพูดล้อเล่นกันว่าฉันกับพี่ย่าหนาน เรา2 คนเหมาะสมกันที่สุด  55555
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่