ยาวหน่อยนะครับ
มันสุดจะทน กับประสบการณ์เข้าศูนย์มาเป็นเวลาสิบกว่าปีอันเลวร้ายที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
กระทู้นี้เป็นเรื่องราวมหากาพย์ของการบ่น (ไม่รู้จะระบายกับใคร) การเข้าศูนย์บริการของค่ายรถยนต์อันดับหนึ่งในเมืองไทย

ก่อนหน้านี้สมัยวัยรุ่นที่มีรถยนต์เป็นคันแรกของตัวเองพ่อแม่ซื้อให้ ไม่ใช่ค่ายดัง ก็จะเข้าศูนย์บริการเช็คระยะตลอด
ตามประสาคนไม่เคยมีรถ ก็ไม่รู้ว่าไอ้ที่เขาเปลี่ยนให้แต่ละอย่างจากศูนย์นั้นมันดีที่สุดจริงหรือ เข้าแต่ละทีก็ไม่เคยเช็คหรอกว่า
เขาเปลี่ยนให้จริงหรือไม่ แต่รถก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรหลังออกจากศูนย์

จนกระทั่งมาเมื่อสิบปีก่อนเริ่มซื้อเป็นของตัวเองคันแรก ก็เริ่มที่จะเสาะหาข้อมูลว่าน้ำมันเครื่องยี่ห้อนั้นดียี่ห้อนี้ไม่ดีอย่างไร
ก็ว่ากันไป เพราะเริ่มมีเวบคลับรถยนต์ต่างๆ  และได้ตัดสินใจซื้อยี่ห้อขวัญใจมหาชนชาวไทย และก็ยังเอาเข้าศูนย์ตามระยะ
ที่ควรจะเป็น แต่...

เนื่องจากไม่มีเวลานั่งเฝ้ารถที่ศูนย์และให้ท่าน ผบ เป็นคนไปรับรถเอง จึงไม่มีการตรวจสอบอะไรเพราะไว้ใจศูนย์บริการ
ผมกลับบ้านมา (ค่ำแล้ว) ไม่รู้นึกยังไงเปิดฝากระโปงดูซะหน่อย เอ๊ะทำไมฝาน้ำกลั่นแบตเตอรี่มันถึงดูสูงๆ ขึ้นมาผิดปกติ
ตาย..ะ แค่เอาฝาจุ่มลงไปในเบ้าเฉยๆ ไม่ได้บิดเกลียวปิดแม้แต่ฝาเดียว (ไม่เป็นไรคนเรามันก็ลืมกันได้)
วันรุ่งขึ้น ลุงคนสวนที่บ้านบอกน้ำอะไรหยดอยู่ใต้รถ ก็ก้มลงไปดู (ตอนนั้นสตาร์ทรถไว้) คงน้ำแอร์มั้งลุง ขับไปต่อไปจนถึงที่ทำงาน
มันก็ยังหยดอยู่ เลยใช้นิ้วจิ้มมาดมดูซะหน่อย ตาย..ะ น้ำมันเครื่องนี่หว่า ก้มลงไปดูเลอะใต้ท้องรถเต็มไปหมด (น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้)
ขวดละเกือบสองพัน หายไปกับตา
กลับเข้าศูนย์เดิม บอกให้เค้าดู หัวหน้าช่างรีบขอโทษแทนลูกน้อง แล้วล้างใต้ท้องรถให้ พร้อมกับให้ลูกน้องไปเอาน้ำมันเครื่อง (เกรดธรรมดา)
ในศูนย์มาเติมให้ใหม่  ผมบอกว่าของผมน้ำมันเครื่องสังเคราะแท้นะ ทำไมเอาอันนี้มาเติม หัวหน้าบอกของผมมีแต่แบบนี้ พร้อมขอโทษ
(จบ ตรูไม่มาอีกแล้วศูนย์นี้)
ข้างบนนี้เป็นเพียงตัวอย่างการเข้าศูนย์ที่จำไม่มีลืม ผมเลยเปลี่ยนศูนย์จากแถวบ้านกลับมาเป็นศูนย์เดิมที่ออกรถใกล้ที่ทำงานเหมือนเดิม
เพราะไม่เคยมีพลาดแบบนั้น จะมีบ้างก็นิดหน่อย ผมคนไทย หยวนๆ น่า

จนมาวันนี้ ผมสุดจะทน
ด้วยความที่เช้านี้ว่าง ไปเข้าศูนย์เดิมที่ซื้อรถมาแล้วกะนั่งรอเลย จนท มารับรถตามปกติ ผมก็บอกเสร็จสรรพว่า น้ำมันเครื่องนำมาเองนะ
เป็นสังเคราะห์แท้ เพราะรถผมติดแก๊ส แล้วก็ขอเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับน้ำมันเฟืองท้ายด้วยบลาๆ จนท ก็ครับๆ ออกใบรับรถเสร็จให้ผมเซ็น
เห็นในใบรับงานมีแคมเปญ 50 ปีอะไรก็ไม่รู้ตรวจเช็คฟรีหลายรายการ ก็ไม่ได้เอะใจ แต่ประเมินราคามา 4,8XX บาท ลมจะใส่ (มันค่าอะไรวะ)
จนท ก็ชี้แจง มีค่าแรงเพิ่มในส่วนเช็คระยะ 100000 โล ด้วยอีกเกือบพัน เลยบอกน้อง พี่ไม่ได้มาเช็คระยะแสนโล พี่มาให้ทำตามที่บอก
ที่เหลือเช็คเองเป็น (แล้วมันจะมีไอ้แคมเปญ ฟรีบ้านั่นเอาไว้ทำอะไร งง) สรุปเหลือ 4,1XX บาท บ่ายสองเสร็จแล้วโทรแจ้ง

ด้วยความที่อยากรู้ว่ามันจะเป็นไปตามที่คุยกันมั้ย จึงนั่งรอดู (ถึงศูนย์ 9.15 น.)  11.30 น. เริ่มทำรถผม
รถถูกยกขึ้นเพิ่อถ่ายน้ำมันทั้งหมดที่แจ้งให้เปลี่ยนออก ด้วยความเป็นคนชอบดูการทำงานพวกนี้จึงเดินเข้าไปภายในบริเวณที่เขาทำงาน
เห็นน้ำมันเฟืองท้ายยังถ่ายไม่ทันหยุดไหล คุณเด็กช่างปิดน๊อตขันเกลียว เติมน้ำมันเฟืองท้าย
เรียบร้อย (ไม่ว่าอะไร คนไทย หยวนๆ น่า)
น้ำมันเกียร์ถูกถ่ายออกจากช่างอีกคนจนหยุดไหล (โอเค ไอ้นี่งานดี) รถถูกยกลง พอดีมีโทรศัพท์เข้ามา จึงเดินออกไปคุยข้างนอกแป๊บนึง
ยังไม่ทันวางสาย เฮ้ย กระป๋องอะไรเขียวๆ วะ ถูกเติมใส่รถเราพรวดเดียวหมดแกลลอน (ตรูอยากจะบ้า ไม่หยวนแล้วโว้ย)
เดินเข้าไปบอกทันที ไอ้น้อง   พี่เอาน้ำมันเครื่องมาเองอยู่ข้างหลังกระป๋องสีทอง ทำไมไม่เอามาเติม ถ่ายออกเดี๋ยวนี้เลย
ไอ้น้องตกใจหันไปบอกลูกพี่  พร้อมกันหันมาบอกผมว่าในใบไม่ได้เขียนไว้ จึงพากันเดินไปหา จนท รับรถ
จนท บอก ผมลืมเขียนเองต้องขอโทษครับพี่ (นึกในใจ ถ้าไม่อยู่ดูนี่มันจะทำกันยังไงต่อวะ)

แล้วก็กลับมาถ่ายน้ำมันเครื่องศูนย์เมื่อกี๊ออก พร้อมกับเติมน้ำมันเครื่องที่ผมนำมาใส่ไปจนหมด (ผมยืนดูอยู่จนหยดสุดท้าย)
เที่ยงพอดี