ต้องขอโพสท์เก็บไว้ กับหนังที่อีกกี่สิบปี ร้อยปี ก็ไม่น่าจะมีใครสร้างออกมาอีก
Boyhood (2014)
เคยคิดจริง ๆ ว่า น่าจะมีหนังที่มีบทที่ต้องแสดงตั้งแต่เด็ก แล้วโตมาเป็นพระเอกหรือนางเอก แล้วคนสร้างรอให้เด็กคนนั้นโตจริง ๆ จะได้กลับมาเล่นบทเดิมใหม่ ทั้งหมดเพื่อความสมจริงทั้งด้านหน้าตา และความต่อเนื่อง (คนละกรณีกับเหล่าเด็กน้อยในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่โตจริง เล่นบทเดิมจริง แต่แยกหนังเป็นภาค ๆ แล้วใช้เวลาหลายปีไปพร้อมคนดู ซึ่งก็เป็นความมหัศจรรย์แบบหนึ่งเหมือนกัน) ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริงได้ในชั่วชีวิตเรานี่เอง
Boyhood มีพล็อตเรื่องนิดเดียว คือเด็กชายคนหนึ่งที่โตมากับครอบครัวแตกแยก พ่อแม่ต่างมีคนใหม่ เส้นเรื่องหลักมีแค่นี้ ซึ่งเหมือนกับหนังแทบทุกเรื่องของผกก. Richard Linklater ที่พล็อตเรื่องไม่สำคัญ แต่การได้เข้าชิงรางวัลบ่อย ๆ ในสาขาบทหนัง original หลาย ๆ สถาบัน (แน่นอนว่าต้นปีหน้า เรื่องนี้ก็ไม่น่า หรือ "ไม่ควร" พลาด) มาจากบทสนทนาล้วน ๆ ที่ตรง เฉียบ และเข้าเป้า แบบไม่พลาดจากประเด็นหลักของหนังแม้แต่น้อย
แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้เข้าขั้น "มหัศจรรย์" ไม่ใช่แค่บทที่ยาวเกือบ 3 ชม. แถมไม่น่าเบื่อ แต่คือการใช้นักแสดงหลักคนเดิมในบท "Mason" ตั้งแต่นักแสดงยังมีอายุแค่ 6-7 ขวบ และหยุดการถ่ายทำใปปีสองปี เพื่อรอให้ Ellar Coltrane โตเท่ากับอายุในหนังแล้วถ่ายทำต่อ แล้วหยุดรอให้โตอีกเป็นช่วง ๆ จนครบ 18 ปี ใช้เวลาในการถ่ายทำ 12 ปีเท่ากับชีวิตของ Mason ในหนัง การได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เสียงแตกหนุ่ม สิววัยรุ่น ทรงผม การอกหัก ทำให้ต้องร้องไห้ตามแม่ Mason แบบไม่รู้ตัว คแล้วถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ขอเอาใจช่วยให้ Patricia Arquette ได้เป็นหนึ่งใน 5 รายชื่อผู้เข้าชิงออสการ์ปีหน้า แถม Ethan Hawke ก็ไ่ม่น่าจะผิดอะไรถ้าได้เข้าชิงอีกซักครั้ง ตัวน้อง Ellar เองคงจะฝ่าเสือ สิงห์ กระทิง แรดไปได้ยาก แต่สายตาและน้ำเสียงก็ตรึงใจเราได้ทั้งเรื่อง รอยยิ้มเขิน ๆ ตอนจบ ทำให้เราอยากเห็นตอน Mason อายุ 30 ขึ้นมาทันที
สรุป นอกจากติด 1 ใน 10 หนังยอดเยี่ยมแห่งปีทุกสถาบันแน่นอนแล้ว ขอให้ติด 1 ใน 10 หนัง Oscars ให้สมกับความดีงามของหนังแห่งศตวรรษเรื่องนี้ด้วยเถิด
[CR] ได้ดูซะที ขอเรียกว่า "หนังแห่งศตวรรษ" : Boyhood (2014)
Boyhood (2014)
เคยคิดจริง ๆ ว่า น่าจะมีหนังที่มีบทที่ต้องแสดงตั้งแต่เด็ก แล้วโตมาเป็นพระเอกหรือนางเอก แล้วคนสร้างรอให้เด็กคนนั้นโตจริง ๆ จะได้กลับมาเล่นบทเดิมใหม่ ทั้งหมดเพื่อความสมจริงทั้งด้านหน้าตา และความต่อเนื่อง (คนละกรณีกับเหล่าเด็กน้อยในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่โตจริง เล่นบทเดิมจริง แต่แยกหนังเป็นภาค ๆ แล้วใช้เวลาหลายปีไปพร้อมคนดู ซึ่งก็เป็นความมหัศจรรย์แบบหนึ่งเหมือนกัน) ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริงได้ในชั่วชีวิตเรานี่เอง
Boyhood มีพล็อตเรื่องนิดเดียว คือเด็กชายคนหนึ่งที่โตมากับครอบครัวแตกแยก พ่อแม่ต่างมีคนใหม่ เส้นเรื่องหลักมีแค่นี้ ซึ่งเหมือนกับหนังแทบทุกเรื่องของผกก. Richard Linklater ที่พล็อตเรื่องไม่สำคัญ แต่การได้เข้าชิงรางวัลบ่อย ๆ ในสาขาบทหนัง original หลาย ๆ สถาบัน (แน่นอนว่าต้นปีหน้า เรื่องนี้ก็ไม่น่า หรือ "ไม่ควร" พลาด) มาจากบทสนทนาล้วน ๆ ที่ตรง เฉียบ และเข้าเป้า แบบไม่พลาดจากประเด็นหลักของหนังแม้แต่น้อย
แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้เข้าขั้น "มหัศจรรย์" ไม่ใช่แค่บทที่ยาวเกือบ 3 ชม. แถมไม่น่าเบื่อ แต่คือการใช้นักแสดงหลักคนเดิมในบท "Mason" ตั้งแต่นักแสดงยังมีอายุแค่ 6-7 ขวบ และหยุดการถ่ายทำใปปีสองปี เพื่อรอให้ Ellar Coltrane โตเท่ากับอายุในหนังแล้วถ่ายทำต่อ แล้วหยุดรอให้โตอีกเป็นช่วง ๆ จนครบ 18 ปี ใช้เวลาในการถ่ายทำ 12 ปีเท่ากับชีวิตของ Mason ในหนัง การได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เสียงแตกหนุ่ม สิววัยรุ่น ทรงผม การอกหัก ทำให้ต้องร้องไห้ตามแม่ Mason แบบไม่รู้ตัว คแล้วถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ขอเอาใจช่วยให้ Patricia Arquette ได้เป็นหนึ่งใน 5 รายชื่อผู้เข้าชิงออสการ์ปีหน้า แถม Ethan Hawke ก็ไ่ม่น่าจะผิดอะไรถ้าได้เข้าชิงอีกซักครั้ง ตัวน้อง Ellar เองคงจะฝ่าเสือ สิงห์ กระทิง แรดไปได้ยาก แต่สายตาและน้ำเสียงก็ตรึงใจเราได้ทั้งเรื่อง รอยยิ้มเขิน ๆ ตอนจบ ทำให้เราอยากเห็นตอน Mason อายุ 30 ขึ้นมาทันที
สรุป นอกจากติด 1 ใน 10 หนังยอดเยี่ยมแห่งปีทุกสถาบันแน่นอนแล้ว ขอให้ติด 1 ใน 10 หนัง Oscars ให้สมกับความดีงามของหนังแห่งศตวรรษเรื่องนี้ด้วยเถิด