หลังจากประกาศลดราคา ผมเห็นมีหลายกระทู้มาก จึงอยากรวบรวมไว้ให้มาอ่านกัน คนที่สนใจจะได้รู้ว่าคุณจะต้องเจอกับอะไรบ้างหากใช้ Triumph
รถ
ผมขอเน้นไปคลาสสิคนะครับเพราะใช้นานสุด ตรงนี้ผมอยากจะเน้นกันจริงๆ ถ้าจะใช้คลาสสิคขอให้แน่ใจในตัวเองก่อนว่าชอบสไตล์นี้จริงๆ ชิลๆเนิบๆ ผมเห็นมาหลายคนมากๆ ก่อนซื้อบอกว่าขี่ช้าอยู่แล้ว แบบนี้แหละสบายๆ พอเริ่มขี่ เริ่มออกทริปกับรุ่นอื่น Performance มันไม่ได้ ระบบเบรกมันก็ไม่ได้ นั่นคือที่เห็นขายมือ2วิ่งน้อยๆนั่นล่ะครับ ผมทราบดีเพราะเคยใช้ Street Triple R ด้วย ประสิทธิภาพรถมันต่างกันจนบรรยายไม่ถูกเลย
สังคม
ส่วนตัวผมใช้ยี่ห้อนี้มา 3 คันแล้ว (ปัจจุบันยังใช้อยู่) จากก่อนนี้ต้องบอกตรงๆว่าเค้าเน้นขายตลาดระดับกลางค่อนไปถึงบน ทำให้กลุ่มผู้ใช้ คนที่ใช้ กลุ่มคนที่ขี่มันคัดกรองตัวเองในระดับนึง คือส่วนมากจะมีวุฒิภาวะ ส่วนเรื่องเงินมันแล้วแต่คนบางคนไม่ได้รวยแต่เพราะชอบ บางคนก็ชอบในตัวรถ บางคนก็ชอบในความแพง(ความไม่เหมือนใคร) ทีนี้พอมาปรับลดราคาก็ดิ้นกันสิครับ ผมก็ดิ้นเพราะมูลค่าสินทรัพย์ในมือผมมันลดไปฮวบเลยลงขายเลยจะCut loss ให้ขาดทุนน้อยที่สุดแต่สุดท้ายขายไม่ลงครับเพราะมองดูแล้วไม่เห็นมีรถรุ่นไหนที่ผมจะชอบมากกว่ารุ่นนี้แล้ว บ่นไปก็ไม่ได้อะไรมันคือธุรกิจเพียงแต่ผมว่าผู้บริหารน่าจะรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ได้ดีกว่านี้โดยที่ลูกค้าเก่ายังรู้สึกดีกับแบรนด์อยู่ แต่บางคนก็บอกว่าเสียแบรนด์ อีกหน่อยจะขี่กันเกร่อเมือง เจอทุกสี่แยก กลัวรถจะดูไม่แพงไม่พิเศษเหมือนเดิม สำหรับผมอันนี้เฉยๆ
It’s just a bike, I don’t mind riding with cheap triumph (ยืมคำพูดรุ่นพี่มา)
Service
ไม่ต่างจาก Ducati แพงกว่า Kawasaki และ Honda
1,000 km ประมาณ 2 พัน
5,000 km ประมาณ 3-4พัน
20,000 km ประมาณ 10,000+
ของแต่ง
เมื่อก่อนหายากมากผมสั่งเองแทบทุกชิ้น เดียวนี้หาง่ายแล้ว มีทั้งศูนย์ทั้งร้านแต่งTriumph โดยเฉพาะ สำนักCustomก็มีเพียบ ใครจะตัดเฟรมเดี๋ยวนี้มีร้านทำให้สบายๆไม่ต้องไปวัดดวงกับโรงกลึง
ประสบการณ์ของผมกับ Triumph (ข้อมูลสำหรับคนที่เล็งๆไว้หลังลดราคา)
รถ
ผมขอเน้นไปคลาสสิคนะครับเพราะใช้นานสุด ตรงนี้ผมอยากจะเน้นกันจริงๆ ถ้าจะใช้คลาสสิคขอให้แน่ใจในตัวเองก่อนว่าชอบสไตล์นี้จริงๆ ชิลๆเนิบๆ ผมเห็นมาหลายคนมากๆ ก่อนซื้อบอกว่าขี่ช้าอยู่แล้ว แบบนี้แหละสบายๆ พอเริ่มขี่ เริ่มออกทริปกับรุ่นอื่น Performance มันไม่ได้ ระบบเบรกมันก็ไม่ได้ นั่นคือที่เห็นขายมือ2วิ่งน้อยๆนั่นล่ะครับ ผมทราบดีเพราะเคยใช้ Street Triple R ด้วย ประสิทธิภาพรถมันต่างกันจนบรรยายไม่ถูกเลย
สังคม
ส่วนตัวผมใช้ยี่ห้อนี้มา 3 คันแล้ว (ปัจจุบันยังใช้อยู่) จากก่อนนี้ต้องบอกตรงๆว่าเค้าเน้นขายตลาดระดับกลางค่อนไปถึงบน ทำให้กลุ่มผู้ใช้ คนที่ใช้ กลุ่มคนที่ขี่มันคัดกรองตัวเองในระดับนึง คือส่วนมากจะมีวุฒิภาวะ ส่วนเรื่องเงินมันแล้วแต่คนบางคนไม่ได้รวยแต่เพราะชอบ บางคนก็ชอบในตัวรถ บางคนก็ชอบในความแพง(ความไม่เหมือนใคร) ทีนี้พอมาปรับลดราคาก็ดิ้นกันสิครับ ผมก็ดิ้นเพราะมูลค่าสินทรัพย์ในมือผมมันลดไปฮวบเลยลงขายเลยจะCut loss ให้ขาดทุนน้อยที่สุดแต่สุดท้ายขายไม่ลงครับเพราะมองดูแล้วไม่เห็นมีรถรุ่นไหนที่ผมจะชอบมากกว่ารุ่นนี้แล้ว บ่นไปก็ไม่ได้อะไรมันคือธุรกิจเพียงแต่ผมว่าผู้บริหารน่าจะรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ได้ดีกว่านี้โดยที่ลูกค้าเก่ายังรู้สึกดีกับแบรนด์อยู่ แต่บางคนก็บอกว่าเสียแบรนด์ อีกหน่อยจะขี่กันเกร่อเมือง เจอทุกสี่แยก กลัวรถจะดูไม่แพงไม่พิเศษเหมือนเดิม สำหรับผมอันนี้เฉยๆ
It’s just a bike, I don’t mind riding with cheap triumph (ยืมคำพูดรุ่นพี่มา)
Service
ไม่ต่างจาก Ducati แพงกว่า Kawasaki และ Honda
1,000 km ประมาณ 2 พัน
5,000 km ประมาณ 3-4พัน
20,000 km ประมาณ 10,000+
ของแต่ง
เมื่อก่อนหายากมากผมสั่งเองแทบทุกชิ้น เดียวนี้หาง่ายแล้ว มีทั้งศูนย์ทั้งร้านแต่งTriumph โดยเฉพาะ สำนักCustomก็มีเพียบ ใครจะตัดเฟรมเดี๋ยวนี้มีร้านทำให้สบายๆไม่ต้องไปวัดดวงกับโรงกลึง