ตามไลค์เพจลิเวอร์พูลใหญ่ๆทุกเพจบนโลกใบนี้ กระแสเรียกร้องปลดร็อดเจอร์มาแรงเหลือเกิน
ซึ่งก็ไม่แปลกใจถ้าดูตามสภาพและผลงานของทีมในตอนนี้
บางเพจถึงขั้นมีให้โหวตผู้จัดการทีมคนใหม่ล่วงหน้าไว้แล้ว แต่การปลดผู้จัดการทีมเวลาผลงานไม่ดีนั้น
มันเป็นปัญหาปลายเหตุของแฟนบอลที่ต้องการอาหารจานด่วน
ผู้จัดการทีมคนนึงกว่าจะเข้ามาคุมทีมได้ กว่าจะเข้าใจระบบ วางระบบ เข้าใจนักเตะได้นั้นต้องใช้เวลาระยะนึง
อาจจะหนึ่งรึสองฤดูกาลแล้วแต่ หากผู้จัดการคนไหนผลงานไม่ดีแล้วเรียกร้องให้ปลดเรื่อยๆแบบนี้
คนใหม่เข้ามาก็ต้องมาเซ็ทระบบกันใหม่ไปเรื่อยๆ เปลี่ยนจนกว่าจะได้ระบบที่พอใจแบบนั้น คงไม่ไหว
ยิ่งกับทีมที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังแบบนี้ GG
ผลงานของร็อดเจอร์จะว่าไปก็เหมือนๆผู้จัดการทุกคนที่เข้ามาคุมลิเวอร์พูลก่อนหน้านี้
ตั้งแต่ผมเริ่มดูมานะ อูริเย่, เบนิเตซ, ฮอดจ์สัน, ดัลกลิช, จนมาถึงร็อดเจอร์
คือทุกคนมีผลงานดี ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ลิเวอร์พูลเล่นบอลด้วยเกมรุก(ยกเว้นฮอดจ์สันนะ ฮ่าๆ)
แผงมิดฟิลด์เป็นจุดเด่นของทีมมาทุกยุคทุกสมัย
จะมีนักเตะอยู่คนนึงที่อยู่กับลิเวอร์พูลมาตั้งแต่ยุคอูริเย่ คือกัปตันคนปัจจุบัน สตีเว่น เจอร์ราด
ตั้งแต่เริ่มได้ดูเจอร์ราดเล่น ไม่ใช่เจอร์ราดเริ่มเล่นบอลนะ หมายถึงผมดูตอนเค้าเล่นในสนามนั่นแหละ
เห้ยไอ้นี่มันฮาร์ดแมนชัดๆ เข้าบอลหนัก เอะอะเสียบ
แล้วเปิดบอลขวางสนามไปมาเป็นว่าเล่น พลังมันเยอะจริงๆ ช่วงนั้นเจอร์ราดยังเป็นยุคเด็กบ้าพลังที่เล่นได้ใจกองเชียร์มาก
ตำแหน่งในช่วงนั้นเป็นตำแหน่งเดียวกับเฮนเดอร์สันในตอนนี้ คือมีคนเล่นมิดฟิลด์ตัวรับและรุกให้
เจอร์ราดเป็นมิดฟิลด์กลางสนามคอยเชื่อมเกม ไล่บอลแบบวิ่งสู้ฟัด กัดไม่ปล่อย อัด เสียบและตัดเกม
หลุดจากเจอร์ราดไปก็จะมีฮามันน์ คอยซ้อนให้ ในยุคอูริเย่
มาถึงยุคเบนิเตซ เจอร์ราดได้เปลี่ยนสไตล์มาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก เพราะมีอลอนโซ่ และมาสเคราโน่ คอยเชื่อมเกมและตัดเกมให้
หน้าที่ของเจอร์ราดเพียงจ่ายบอลให้กองหน้า วางบอลออกปีก และยิงจากแถวสองซึ่งเป็นจุดเด่นมากในช่วงนั้น
การจ่ายบอลให้กองหน้าของเจอร์ราดในตอนนั้นเป็นการจ่ายมาจากกลางสนามเป็นส่วนใหญ่
ทั้งโยนข้ามกองหน้ง จ่ายเลียดทะลุช่อง จ่ายแบบได้เสีย ที่เหลือเป็นหน้าที่กองหน้าหาทางไปทำประตูต่อ
ซึ่งตอร์เรส ตอนนั้น เป็นกองหน้าที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในระบบนี้
เพราะมีทั้งความเร็ว ความสามารถเฉพาะตัว และความคม ในแบบฉบับหน้าตัวเดียว วันแมนโชว์ ที่พร้อมรับบอลจากเจอร์ราดทุกรูปแบบอย่างรู้ใจ
ยุคเบนิเตซ หลังเสียอลอนโซ่และมาสเคราโน่ไป ยังมีลูคัสที่เล่นบทตัวรับทดแทนการหายไปของมาสเคราโน่ได้
โดยเจอร์ราดขยับลงมายืนคู่เป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง และพยายามที่จะเล่นระบบหน้าสอง
โดยหาคนมาจับคู่กับตอร์เรส ทั้งปีเตอร์ เคราช์, ไรอัน บาเบล และเดิร์ก เค้าท์
ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ผลงานย่ำแย่ จนเบนิเตซโดนกดดันและออกไป
ฮอดจ์สัน เป็นเพียงผู้จัดการที่เข้ามาแก้ไขระบบตอนลิเวอร์พูลผลงานแย่ต่อเนื่องมาจากยุคเบนิเตซ
ซึ่งก็โดนปลดไปเนื่องจากผลงานแย่กว่าเดิมอีก ถึงขั้นช่วงนั้นต้องหนีตกชั้นกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ
ดัลกลิช ซึ่งช่วงนั้นว่ากันว่าอดีตตำนานจะชุบชีวิตทีมนี้อีกครั้ง เป็นผู้จัดการที่เหมาะสมที่สุด
เนื่องจากรู้ระบบของลิเวอร์พูลดีทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะกู้สถานะการใดๆ และก็ได้สูญเสีย ตอร์เรส กองหน้าตัวเก่งออกไป
คาบต่อกับช่วง ซัวเรส และแอนดี์ แคร์โรเข้ามา แต่ผลงานการคุมทีมยังไม่ดีขึ้นจนถูกกดดันให้ออกไปตามระเบียบแฟนบอลใจร้อน
ช่วงปิดฤดูกาลการกับฟอร์มอันย่ำแย่ของทีม ลิเวอร์พูลพยายามหาผู้จัดการทีมคนใหม่ต่อจากดัลกลิช
มีลิสต์รายชื่อกุนซือชื่อดังมากมายในตอนนั้น แต่หวยมาออกกับ ร็อดเจอร์ กุนซือสวอนซีที่มีผลงานพอใช้ได้มาจากฤดูกาลที่แล้ว
ช่วงฤดูกาลแรกที่เข้ามา ทีมเล่นเป็นระบบมากขึ้น เล่นด้วยเกมรุก เปลี่ยนถ่ายนักเตะเลือดใหม่เข้ามามากมาย
ถึงตารางคะแนนจะไม่ค่อยดีแต่เห็นแล้วว่าทีมดูมีอนาคต เล่นบอลสวย เล่นบอลเอนเตอร์เทน
ฤดูกาลที่สองของร็อดเจอร์กับลิเวอร์พูลนั้น ได้ทำให้แฟนบอลหลายคนถึงกับคาดหวังว่าจะคว้าแชมป์
เนื่องจากฟอร์มอันร้อนแรงของซัวเรสและสเตอร์ริด แต่ก็ได้แค่เกือบเนื่องจากยังมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยที่แก้ไม่ได้หรือไม่ได้แก้อยู่
จนบานปลายมาถึงฤดูกาลนี้ จุดเด่นจากฤดูกาลที่แล้วของทีมอย่าง ซัวเรส ได้จากไป
และพร้อมกับการบาดเจ็บเรื่อยๆของสเตอร์ริด ทำให้เกิดช่องว่างขึ้น
ร็อดเจอร์ พยายามจะลดช่องว่างนั้นด้วยการซื้อผู้เล่นมาเข้ามามากมายในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าต้องหากองหน้าใหม่แทน ซัวเรส
พร้อมกับเติมมิดฟิลด์เกมรุกเข้าไปอีก เพราะการจะหากองหน้าสไตล์ วันแมนโชว์แบบตอร์เรส หรือซัวเรสนั้น ไม่ง่ายเลย
มองมาที่เกมรับก็เสริมเหมือนกัน ทั้งแบ็คและเซ็นเตอร์ใหม่ แต่เกมรับก็ยังห่วยเหมือนเดิม เอ๊ะทำไมกัน
มองมาที่มิดฟิลด์ เอ๊ะ ร็อดเจอร์ถอยเจอร์ราดมาเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ เนื่องจากช่วงก่อนร็อดเจอร์เข้ามามี ลูคัส กำลังองค์ลงในบทมิดฟิลด์ตัวรับอยู่
แต่หลังจากมีการบาดเจ็บครั้งใหญ่ ลูคัส ไม่ได้อยู่ในฟอร์มนั้นอีกแล้ว บวกกับสไตล์ของร็อดเจอร์ เป็นทีมที่เน้นเกมรุก
มีซัวเรสและสเตอร์ริด เป็นหน้าคู่ สเตอร์ลิ่ง และคูติญโญ่ ขนาบข้าง ทำให้มิดฟิลด์กลางสนามเหลือสองคน
แน่นอนว่าถ้าช่วงนี้เจอร์ราดไม่ได้อายุ 30 อัพ การเล่นตำแหน่งนี้นั้นสบายๆ
แต่ด้วยสภาพร่างกายที่เริ่มโรยลา และการที่ไม่มีกองหน้าสไตล์วันแมนโชว์ มารับบอลจากเจอร์ราด แล้วชงกินเองได้นั้น
ทำให้กัปตันค่อนข้างถูกลดบทบาทในเกมรุกไปพอสมควร หน้าที่เท่าที่เห็นในปัจจุบันจึงแค่ถอยลงมายืนระหว่างเซ็นเตอร์
คอยเซ็ทบอล ขวางออกข้างสนาม เคาะบอลไปมา คอยเตะฟรีคิก กับคอร์นเนอร์ จังหวะยิงจากแถวสองนั้นแทบไม่มีแล้วเพราะต้องถอยลงมาต่ำ
ด้วยบอลทั้งหมดต้องมาเซ็ทที่เจอร์ราดก่อนขึ้นหน้าทำให้ทุกทีมจ้องอยู่แล้ว จะเห็นว่าฤดูกาลนี้หรือตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว
ทีมจะโดนตัดบอลที่เจอร์ราดบ่อยครั้ง และหลุดจากเจอร์ราดไปก็ถึงประตูได้เลย เพราะเจอร์ราดจะยืนตรงกลางระหว่างเซ็นเตอร์
ทำให้เซ็นเตอร์ต้องถ่างออกไปด้านข้าง ส่วนแบ็คสองข้างขึ้นไปรอบอลรึทำทางให้เจอร์ราดจ่ายให้หมดแล้ว
ด้วยสภาพร่างกายที่โรยลา แต่ทุกคนยังคงให้ความเคารพและเกรงใจ ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าตำหนิ(มีครั้งนึงเร็วๆนี้เห็นเฮนเดอร์สันว๊ากใส่ด้วย ฮ่าๆ)
ด้านเกมรับก็วิ่งไล่บอลไม่ได้แล้ว ทำได้แค่ยืนคุมโซนไว้ ตัวที่ประกบอยู่ฉีกหลบนิดเดียวก็หลุดตำแหน่งที่ยืนอยู่ได้แล้วเพราะไม่ตามต่อ
ทำให้สมดุลทีมขาดไป แต่ก็ไม่มีใครกล้าว่า รึกล้าดรอปไม่ให้ลงเล่น พอนึกถึงผู้เล่นอายุมากๆที่ค้ำทีมอยู่ รึเคยตกอยู่ในสถานะการเดียวกัน
อย่างสโคล รึแลมป์พาด ที่สภาพร่างกายเริ่มโรยลา โค้ชของแต่ละทีมเค้ากล้าดรอป ไม่ได้ให้ลงทุกนัดแบบนี้เพราะรู้ลิมิตร่างกาย
รึผู้เล่นอย่าง ปีร์โล่ ก็มีมิดฟิลด์ตัวรับคอยซ้อนให้ ไม่ได้ใช้งานสภาพร่างกายหนักแบบนี้
เจอร์ราดเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของลิเวอร์พูลชุดนี้ทุกคนรู้ แต่ด้วยสภาพแบบนี้ ถึงเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่แต่ยังไม่เปลี่ยนระบบทีมเพื่อเจอร์ราด
ลิเวอร์พูลก็จะเล่นระบบเจอร์ราดต่อไปแบบนี้แหละ ทั้งหมดทั้งมวลไม่ได้โทษเจอร์ราด แต่เพียงอธิบายในมุมมองของแฟนบอลคนนึง
ว่าระบบทีมของเราตอนนี้เป็นแบบนี้นะ ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ฮ่าๆ
ปล.ข้อมูลผิดพลาดอะไรยังไง ขอโทษด้วยครับ พิมสดๆเลยเนื่องจากพึ่งเล่นเฟซบุ๊คแล้วหน้าวอลมีแต่คนไล่ร็อดเจอร์เลยขอบ้าง ฮ่าๆ
คหสต. แฟนบอลคนนึง กับระบบเจอร์ราดในตอนนี้
ซึ่งก็ไม่แปลกใจถ้าดูตามสภาพและผลงานของทีมในตอนนี้
บางเพจถึงขั้นมีให้โหวตผู้จัดการทีมคนใหม่ล่วงหน้าไว้แล้ว แต่การปลดผู้จัดการทีมเวลาผลงานไม่ดีนั้น
มันเป็นปัญหาปลายเหตุของแฟนบอลที่ต้องการอาหารจานด่วน
ผู้จัดการทีมคนนึงกว่าจะเข้ามาคุมทีมได้ กว่าจะเข้าใจระบบ วางระบบ เข้าใจนักเตะได้นั้นต้องใช้เวลาระยะนึง
อาจจะหนึ่งรึสองฤดูกาลแล้วแต่ หากผู้จัดการคนไหนผลงานไม่ดีแล้วเรียกร้องให้ปลดเรื่อยๆแบบนี้
คนใหม่เข้ามาก็ต้องมาเซ็ทระบบกันใหม่ไปเรื่อยๆ เปลี่ยนจนกว่าจะได้ระบบที่พอใจแบบนั้น คงไม่ไหว
ยิ่งกับทีมที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังแบบนี้ GG
ผลงานของร็อดเจอร์จะว่าไปก็เหมือนๆผู้จัดการทุกคนที่เข้ามาคุมลิเวอร์พูลก่อนหน้านี้
ตั้งแต่ผมเริ่มดูมานะ อูริเย่, เบนิเตซ, ฮอดจ์สัน, ดัลกลิช, จนมาถึงร็อดเจอร์
คือทุกคนมีผลงานดี ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ลิเวอร์พูลเล่นบอลด้วยเกมรุก(ยกเว้นฮอดจ์สันนะ ฮ่าๆ)
แผงมิดฟิลด์เป็นจุดเด่นของทีมมาทุกยุคทุกสมัย
จะมีนักเตะอยู่คนนึงที่อยู่กับลิเวอร์พูลมาตั้งแต่ยุคอูริเย่ คือกัปตันคนปัจจุบัน สตีเว่น เจอร์ราด
ตั้งแต่เริ่มได้ดูเจอร์ราดเล่น ไม่ใช่เจอร์ราดเริ่มเล่นบอลนะ หมายถึงผมดูตอนเค้าเล่นในสนามนั่นแหละ
เห้ยไอ้นี่มันฮาร์ดแมนชัดๆ เข้าบอลหนัก เอะอะเสียบ
แล้วเปิดบอลขวางสนามไปมาเป็นว่าเล่น พลังมันเยอะจริงๆ ช่วงนั้นเจอร์ราดยังเป็นยุคเด็กบ้าพลังที่เล่นได้ใจกองเชียร์มาก
ตำแหน่งในช่วงนั้นเป็นตำแหน่งเดียวกับเฮนเดอร์สันในตอนนี้ คือมีคนเล่นมิดฟิลด์ตัวรับและรุกให้
เจอร์ราดเป็นมิดฟิลด์กลางสนามคอยเชื่อมเกม ไล่บอลแบบวิ่งสู้ฟัด กัดไม่ปล่อย อัด เสียบและตัดเกม
หลุดจากเจอร์ราดไปก็จะมีฮามันน์ คอยซ้อนให้ ในยุคอูริเย่
มาถึงยุคเบนิเตซ เจอร์ราดได้เปลี่ยนสไตล์มาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก เพราะมีอลอนโซ่ และมาสเคราโน่ คอยเชื่อมเกมและตัดเกมให้
หน้าที่ของเจอร์ราดเพียงจ่ายบอลให้กองหน้า วางบอลออกปีก และยิงจากแถวสองซึ่งเป็นจุดเด่นมากในช่วงนั้น
การจ่ายบอลให้กองหน้าของเจอร์ราดในตอนนั้นเป็นการจ่ายมาจากกลางสนามเป็นส่วนใหญ่
ทั้งโยนข้ามกองหน้ง จ่ายเลียดทะลุช่อง จ่ายแบบได้เสีย ที่เหลือเป็นหน้าที่กองหน้าหาทางไปทำประตูต่อ
ซึ่งตอร์เรส ตอนนั้น เป็นกองหน้าที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในระบบนี้
เพราะมีทั้งความเร็ว ความสามารถเฉพาะตัว และความคม ในแบบฉบับหน้าตัวเดียว วันแมนโชว์ ที่พร้อมรับบอลจากเจอร์ราดทุกรูปแบบอย่างรู้ใจ
ยุคเบนิเตซ หลังเสียอลอนโซ่และมาสเคราโน่ไป ยังมีลูคัสที่เล่นบทตัวรับทดแทนการหายไปของมาสเคราโน่ได้
โดยเจอร์ราดขยับลงมายืนคู่เป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง และพยายามที่จะเล่นระบบหน้าสอง
โดยหาคนมาจับคู่กับตอร์เรส ทั้งปีเตอร์ เคราช์, ไรอัน บาเบล และเดิร์ก เค้าท์
ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ผลงานย่ำแย่ จนเบนิเตซโดนกดดันและออกไป
ฮอดจ์สัน เป็นเพียงผู้จัดการที่เข้ามาแก้ไขระบบตอนลิเวอร์พูลผลงานแย่ต่อเนื่องมาจากยุคเบนิเตซ
ซึ่งก็โดนปลดไปเนื่องจากผลงานแย่กว่าเดิมอีก ถึงขั้นช่วงนั้นต้องหนีตกชั้นกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ
ดัลกลิช ซึ่งช่วงนั้นว่ากันว่าอดีตตำนานจะชุบชีวิตทีมนี้อีกครั้ง เป็นผู้จัดการที่เหมาะสมที่สุด
เนื่องจากรู้ระบบของลิเวอร์พูลดีทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะกู้สถานะการใดๆ และก็ได้สูญเสีย ตอร์เรส กองหน้าตัวเก่งออกไป
คาบต่อกับช่วง ซัวเรส และแอนดี์ แคร์โรเข้ามา แต่ผลงานการคุมทีมยังไม่ดีขึ้นจนถูกกดดันให้ออกไปตามระเบียบแฟนบอลใจร้อน
ช่วงปิดฤดูกาลการกับฟอร์มอันย่ำแย่ของทีม ลิเวอร์พูลพยายามหาผู้จัดการทีมคนใหม่ต่อจากดัลกลิช
มีลิสต์รายชื่อกุนซือชื่อดังมากมายในตอนนั้น แต่หวยมาออกกับ ร็อดเจอร์ กุนซือสวอนซีที่มีผลงานพอใช้ได้มาจากฤดูกาลที่แล้ว
ช่วงฤดูกาลแรกที่เข้ามา ทีมเล่นเป็นระบบมากขึ้น เล่นด้วยเกมรุก เปลี่ยนถ่ายนักเตะเลือดใหม่เข้ามามากมาย
ถึงตารางคะแนนจะไม่ค่อยดีแต่เห็นแล้วว่าทีมดูมีอนาคต เล่นบอลสวย เล่นบอลเอนเตอร์เทน
ฤดูกาลที่สองของร็อดเจอร์กับลิเวอร์พูลนั้น ได้ทำให้แฟนบอลหลายคนถึงกับคาดหวังว่าจะคว้าแชมป์
เนื่องจากฟอร์มอันร้อนแรงของซัวเรสและสเตอร์ริด แต่ก็ได้แค่เกือบเนื่องจากยังมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยที่แก้ไม่ได้หรือไม่ได้แก้อยู่
จนบานปลายมาถึงฤดูกาลนี้ จุดเด่นจากฤดูกาลที่แล้วของทีมอย่าง ซัวเรส ได้จากไป
และพร้อมกับการบาดเจ็บเรื่อยๆของสเตอร์ริด ทำให้เกิดช่องว่างขึ้น
ร็อดเจอร์ พยายามจะลดช่องว่างนั้นด้วยการซื้อผู้เล่นมาเข้ามามากมายในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าต้องหากองหน้าใหม่แทน ซัวเรส
พร้อมกับเติมมิดฟิลด์เกมรุกเข้าไปอีก เพราะการจะหากองหน้าสไตล์ วันแมนโชว์แบบตอร์เรส หรือซัวเรสนั้น ไม่ง่ายเลย
มองมาที่เกมรับก็เสริมเหมือนกัน ทั้งแบ็คและเซ็นเตอร์ใหม่ แต่เกมรับก็ยังห่วยเหมือนเดิม เอ๊ะทำไมกัน
มองมาที่มิดฟิลด์ เอ๊ะ ร็อดเจอร์ถอยเจอร์ราดมาเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ เนื่องจากช่วงก่อนร็อดเจอร์เข้ามามี ลูคัส กำลังองค์ลงในบทมิดฟิลด์ตัวรับอยู่
แต่หลังจากมีการบาดเจ็บครั้งใหญ่ ลูคัส ไม่ได้อยู่ในฟอร์มนั้นอีกแล้ว บวกกับสไตล์ของร็อดเจอร์ เป็นทีมที่เน้นเกมรุก
มีซัวเรสและสเตอร์ริด เป็นหน้าคู่ สเตอร์ลิ่ง และคูติญโญ่ ขนาบข้าง ทำให้มิดฟิลด์กลางสนามเหลือสองคน
แน่นอนว่าถ้าช่วงนี้เจอร์ราดไม่ได้อายุ 30 อัพ การเล่นตำแหน่งนี้นั้นสบายๆ
แต่ด้วยสภาพร่างกายที่เริ่มโรยลา และการที่ไม่มีกองหน้าสไตล์วันแมนโชว์ มารับบอลจากเจอร์ราด แล้วชงกินเองได้นั้น
ทำให้กัปตันค่อนข้างถูกลดบทบาทในเกมรุกไปพอสมควร หน้าที่เท่าที่เห็นในปัจจุบันจึงแค่ถอยลงมายืนระหว่างเซ็นเตอร์
คอยเซ็ทบอล ขวางออกข้างสนาม เคาะบอลไปมา คอยเตะฟรีคิก กับคอร์นเนอร์ จังหวะยิงจากแถวสองนั้นแทบไม่มีแล้วเพราะต้องถอยลงมาต่ำ
ด้วยบอลทั้งหมดต้องมาเซ็ทที่เจอร์ราดก่อนขึ้นหน้าทำให้ทุกทีมจ้องอยู่แล้ว จะเห็นว่าฤดูกาลนี้หรือตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว
ทีมจะโดนตัดบอลที่เจอร์ราดบ่อยครั้ง และหลุดจากเจอร์ราดไปก็ถึงประตูได้เลย เพราะเจอร์ราดจะยืนตรงกลางระหว่างเซ็นเตอร์
ทำให้เซ็นเตอร์ต้องถ่างออกไปด้านข้าง ส่วนแบ็คสองข้างขึ้นไปรอบอลรึทำทางให้เจอร์ราดจ่ายให้หมดแล้ว
ด้วยสภาพร่างกายที่โรยลา แต่ทุกคนยังคงให้ความเคารพและเกรงใจ ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าตำหนิ(มีครั้งนึงเร็วๆนี้เห็นเฮนเดอร์สันว๊ากใส่ด้วย ฮ่าๆ)
ด้านเกมรับก็วิ่งไล่บอลไม่ได้แล้ว ทำได้แค่ยืนคุมโซนไว้ ตัวที่ประกบอยู่ฉีกหลบนิดเดียวก็หลุดตำแหน่งที่ยืนอยู่ได้แล้วเพราะไม่ตามต่อ
ทำให้สมดุลทีมขาดไป แต่ก็ไม่มีใครกล้าว่า รึกล้าดรอปไม่ให้ลงเล่น พอนึกถึงผู้เล่นอายุมากๆที่ค้ำทีมอยู่ รึเคยตกอยู่ในสถานะการเดียวกัน
อย่างสโคล รึแลมป์พาด ที่สภาพร่างกายเริ่มโรยลา โค้ชของแต่ละทีมเค้ากล้าดรอป ไม่ได้ให้ลงทุกนัดแบบนี้เพราะรู้ลิมิตร่างกาย
รึผู้เล่นอย่าง ปีร์โล่ ก็มีมิดฟิลด์ตัวรับคอยซ้อนให้ ไม่ได้ใช้งานสภาพร่างกายหนักแบบนี้
เจอร์ราดเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของลิเวอร์พูลชุดนี้ทุกคนรู้ แต่ด้วยสภาพแบบนี้ ถึงเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่แต่ยังไม่เปลี่ยนระบบทีมเพื่อเจอร์ราด
ลิเวอร์พูลก็จะเล่นระบบเจอร์ราดต่อไปแบบนี้แหละ ทั้งหมดทั้งมวลไม่ได้โทษเจอร์ราด แต่เพียงอธิบายในมุมมองของแฟนบอลคนนึง
ว่าระบบทีมของเราตอนนี้เป็นแบบนี้นะ ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ฮ่าๆ
ปล.ข้อมูลผิดพลาดอะไรยังไง ขอโทษด้วยครับ พิมสดๆเลยเนื่องจากพึ่งเล่นเฟซบุ๊คแล้วหน้าวอลมีแต่คนไล่ร็อดเจอร์เลยขอบ้าง ฮ่าๆ