แฟน ลิเวอร์พูลมาคุยกัน

กระทู้สนทนา
คำถามที่ 1 ถามจริงๆ ปีที่แล้ว ใครคิดบ้างว่าลิเวอร์พูลจะสามารถ จบอันดับสองโดยตามทีมแชมป์แค่2แต้มได้บ้าง

คำถามที่ 2 กลับไปอ่านคำถามที่1ใหม่อีกครั้ง

เชื่อว่าแฟนหงส์ แทบจะทุกคน ปีที่แล้วไม่ได้หวังแชมป์ตั้งแต่ต้น หวังแค่ติด 1 ใน 4 ก็บุญแล้ว
และ เชื่อว่า แฟนหงส์ส่วนใหญ่ ในปีนี้ก็คิดเหมือนเดิม คือ ขอแค่ ติด 1 ใน 4 เหมือนเดิม

แน่นอน ขาดซัวเรสไป ประสิทธิภาพ ของลิเวอร์พูลด้อยลงทันที 30 % (ยิง30ใน100ลูก)
แต่ตัวที่นำมาแทน อย่าง แลมเบิร์ต ลัลลาน่า และเรมี่ ก็ยิงรวมกัน 13+9+14 เท่ากับ 36 ลูก
พูดง่ายๆ 3 คนนี้ ยิงดีกว่า คูตี้ สเตอริ่ง และเฮนเดอสัน เยอะ
อันนี้ยังไม่รวมถึงบ็กเนมที่อาจตามมาอีก

คำถามที่ 3  ตอนแมนยูขายโด้ไป หลังจากนั้นป๋าก็ยังทำทีมก็ยังคว้าแชมป์ได้เหมือนเดิม ไม่เห็นจะตกต่ำตรงใหน

ข้อนี้ ชี้ให้เห็นถึงสิ่งหนึ่ง ที่แฟนแมนยูทั่วโลกได้รับรู้แล้ว นั่นก็คือ ผู้จัดการทีม สำคัญกว่า ผู้เล่น
ผู้เล่นเก่งๆหาซื้อได้ แต่โค้ชเก่งๆที่พาทีมไปข้างหน้าได้ มันหายากมากกก

ซึ่งตรงนี้ แฟนหงส์อุ่นใจได้อย่างนึงว่า ร็อดเจอร์ คือคนที่มีฝีมือ และสามารถทำให้ลิเวอร์พูลเล่นบอลแบบมีทรงได้

คำว่า มีทรง คือ เล่นแบบมีแบบแผน เป็นระบบ มีทิศทางที่แน่นอน ถึงแพ้ก็ได้ใจ ชนะไปก็ได้แต้ม

คำถามที่ 4 หลายคนลืมไปแล้วหรือไร ว่าหลังจากซัวเรสไป
ดาวซัลโวของพรีเมียร์ อันดับถัดจากซัวเรส ก็คือ แดเนียล (เดอะแด๊นซซ์)สเตอริจ ที่ยิงไปทั้งหมด 21 ประตู
ทำอย่างกับว่าลิเวอร์พูลจะไม่มีกองหน้าที่จะมายิงแทนซัวเรสอย่างนั้นแหละ

เอาจริงๆ แฟนหงส์พันธ์แท้ที่ได้ดูลิเวอร์พูลทั้งหมด 38 นัด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว จะติดตาเห็นภาพอย่างนึงคือ
เวลาที่สเตอริจไม่จ่ายบอลให้ซัวเรส หรือซัวเรสไม่จ่ายบอลให้สเตอริจ (ด้วยความเห็นแก่ตัวทั้งคู่)
เอาไปยิงเองแล้วแป็กกก   ทั้งคู่จะทำหน้าเหมือนที่บ้านไฟใหม้มากกกก
(ทำให้ส่วนตัวคิดว่า สักวันหนึ่งถ้าทั้งสองคนนี้ยังเล่นด้วยกัน มันก็คงถึงจุดที่จะต้องแตกหักกันแน่ในอนาคต)
สุดท้ายเสือตัวนึงก็เลือกไปคำรามในโลกกว้าง  ทำให้เสือ2ตัวไม่ต้องกัดกันเอง

ถึงตอนนี้ สเตอริจ ก็คือกองหน้าอันดับหนึ่งของพรีเมียร์และของลิเวอร์พูลไปโดยปริยาย

โดยที่สเตอริจ จะได้รับการปั้นจากทั้ง แลมเบิร์ต ลัลลาน่า สเตอริ่ง อย่างเต็มๆเลย ฤดูกาลนี้
และน่าจะยิงได้มากกว่า 21 ลูก ในฤดูกาลที่แล้วด้วย

(ทั้งนี้หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่า สเตอริจคือกองหน้าที่ดีกว่าตอร์เรสสส//// ถ้าไม่เชื่อลองไปเอาสถิติทั้งหมดที่ตอร์เรสเล่นให้ลิเวอร์พูล
มาเทียบกับสตอริจ ที่เล่นให้ลิเวอร์พูลดูได้ สเตอริจมีสถิติที่ดีกว่าตอร์เรสจริงๆ การเล่นอาจไม่หวือหวา หรือหวาดเสียวเท่าตอร์เรส
แต่สถิตต่อนัดบ่งบอกว่า สเตอริจ ก้าวข้ามตอร์เรสไปแล้ว ลง 49 นัดยิงไป 35ลูก เฉลี่ยนัดละ 0.71 ประตู)
(ของตอร์เรส เฉลี่ย 0.57)(ของซัวเรส 0.61)

สรุป ในฐานะ"กองหน้าตัวเป้า" สเตอริจ ดีกว่า ตอร์เรสและซัวเรส ด้วยซ้ำไป
(ที่มา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แต่ในที่นี้ก็ต้องยอมรับก่อนว่า ซัวเรสมีอิทธิพลต่อทีมมากกว่าสเตอริจจริง เพราะปั้นเกมเองได้ ยิงฟรีคิกได้ เปลี่ยนเกมเองได้ ด้วยตัวคนเดียว
แต่ในฐานะเครื่องจักรถล่มประตู ถ้ามีเพื่อนจ่ายให้ดีๆละก็ สเตอริจ ก็พร้อมที่จะสร้างผลงานให้ไม่แพ้ซัวเรส ในฤดูกาลที่จะมาถึงแน่นอน

ถึงจุดนี้ เราที่เป็นคนดูยังมองเห็น แล้วคนที่เป็นผู้จัดการทีมอย่างร็อดเจอร์จะมองไม่เห็นหรือ
คำตอบคือ เห็น และซื้อผู้เล่นที่พร้อมจะจ่ายบอลให้กองหน้าทำประตูมาแล้วด้วย อย่าง ลัลลาน่า และแลมเบิร์ต

แลมเบิร์ต กองหน้าตัวจ่าย ยิง 13 จ่าย 10 สถิติ การแอสซิส เป็นรองแค่ เจอราร์ด กับซัวเรส
ไม่มีใครคิดหรอกว่า ร็อดเจอร์จะซื้อแลมเบิร์ต มาเป็นตัวจริง แต่ต้องการความแตกต่างในเกมรุก มาเพิ่มมิติในการทำประตู
ในเวลาที่เจอเกมที่คู่แข่งตั้งรับอยา่งเหนียวแน่น แลมเบิร์ต มีความแข็งแกร่ง โหม่งดี และพร้อมจะจ่ายบอลให้เพื่อน ในทันทีที่มีโอกาส

ลัลลาน่า กองกลางตัวรุก ที่อัปเดทพลังการยิง ให้ดีกว่าคูติญโย่ สถิติ ยิง 9 จ่าย 6 (ของคูตี้ ยิง 5 จ่าย 7)
ลัลลาน่ามีฟอร์มที่ดีในฤดูกาลที่แล้ว เป็นจอมทัพตัวหลักของเซาท์แธมตัน ร้อดเจอร์คงเล็งเห็นแล้วว่า การสนับสนุนจากแถวสอง
ในการทำประตูยังน้อยไป การเลือก กองกลางอย่างลัลลาน่าที่มีการทำประตูได้ดี และมีลูกจ่ายที่หลากหลาย
ก็เป็นทางเลือกใหม่ที่ดีของลิเวอร์พูลในเกมรุก

เอมเร่ ชาน กองกลางพลังม้า ส่วนตัวมองเป็นเฮนเดอสัน เวอร์ชั่นถึก ตัวใหญ่แต่วิ่งเร็วใช้ได้ สถิติ ลง 24(5) ยิง 3 จ่าย 3
ในข้อมูลลงไว้เป็น กองกลางตัวรับ กับแบ็คซ้าย ดูการเล่นแล้วมีพลัง มีแววที่จะพัฒนาได้ อายุ พึ่ง 20
คนนี้คงซื้อมาเพื่อเพิ่มขนาดของทีม ให้มีการหมุนเวียนนักเตะที่ดีขึ้น  แต่แปลกอย่างคือ เรทติ้งตอนเล่นแบ็คซ้าย
ดันดีกว่าตอนเล่นกองกลางนี่สิ 55(ข้อเสียของชานคือเสียฟาล์วง่ายได้ใบเหลืองบ่อย (9ใบ))

ถึงตรงนี้ยังไม่กล่าวถึง มาโกวิซ (เพราะยังไม่เห็นฟอร์ม)
รวมถึงที่จะตามมา อย่าง เรมี่ โอริชี่ และลอฟเรน (รอลงเล่นแล้วจะมาวิเคราะห์ อีกสักที)

สรุป ในฤดูกาลที่จะมาถึง เชื่อว่าแฟนลิเวอร์พูล ก็คงหวังติด 1 ใน 4 และขอให้ทีมเล่นได้แบบฤดูกาลที่แล้ว
คือมีรูปแบบการเล่นที่เอนเตอร์เทรน คนดู เล่นเกมรุกให้สนุก เล่นเกมรับให้ดีขึ้น

ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เชื่อว่าแฟนหงส์ก็คงยังรักทีมเดิมตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง..................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่