รู้จัก รัก จบ แค่ในไลน์ // แต่บางอย่างยังติดอยู่ในใจ

...หลายเรื่องราวที่เราเคยได้อ่านจากพันทิปมักจะมีการใช้โปรแกรมแชทไลน์ มาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นจับได้ว่าแฟนนอกใจมั้งล่ะ  จับกิ๊กได้บ้างเอย  จับชู้ได้บ้างเอย  เรื่องของเราก็เช่นกันเกิดขึ้นและจบลงแค่ในไลน์....บอกก่อนนะว่าเรื่องมันเศร้า...

เริ่มเล่าจากเหตุการณ์เมื่อ 6 เดือนที่แล้วจนถึงปัจจุบันนะ

                                  เรื่องมีอยู่ว่าเราได้คุยกับคนคนนึงที่รู้จักกันผ่านเว็บไซต์นึงที่เคยฮอตฮิตก่อนจะมี facebook  ติ๊กต๊อกๆๆ ๆ ๆ เดากันถูกมั้ย? ฮ่าๆๆ   ก็ Hi 5 ไง ซึ่งก็ไม่รู้อะไรดลใจให้เราเข้าไปเล่นอีกครั้งทั้งๆที่ก็ไม่ได้เข้าไปเล่นนานมากกก ตอนนี้  Hi5 ก็มีให้กด Yes/No อะไรประมาณนี้  กด Yes ให้คนที่คุณคิดว่าใช่ และ กด No ให้คนที่กด Yes ให้คุณแต่คุณไม่ชอบ  เราก็ทำการกด Yes ให้ไปหนึ่งคนก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก และเขาก็กด Yes ให้เราด้วยยยย..>//<  แล้วเขาก็ส่งข้อความมาทักทายเรา  ด้วยความที่เราไม่ค่อยเล่น  เราเลยตอบกลับข้อความ โดยให้ไอดีไลน์ไป (แรดเน๊อะ ฮ่าๆๆ)
เข้าเรื่องเลยละกัน  ต่อไปนี้เราจะใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “เรา” และใช้ สรรรพนามแทนคนคนนั้นว่า “พี่ทัน” (นามสมมุติ) นะ

                                  หลังจากที่เราให้ไอดีไลน์พี่ทันไปแล้วพี่ทันก็แอดไลน์มา ก็คุยๆกันไปถามนู้นนี่นั่นเยอะแยะไปหมด  เมื่อรู้จักชื่อกันแล้ว ก็รู้ว่าพี่ทันทำงานอยู่สายการบิน อาชีพที่สาวๆ ใฝ่ฝันอยากจะสอยลงมาเป็นสามีไว้ข้างกาย  (จขกท.ก็เช่นกัน ฮ่าๆๆ)  พอเราถามถึงเรื่องอายุ ตอนแรกพี่ทันบอกว่าตัวเองอายุ 23   เราก็เอ๊ะ!  23 ได้บินแล้วหรอ?  พี่ทันก็บอกกรณีพิเศษน่ะ บอกเลยว่าเราไม่เชื่อและด้วยความที่เรามีนิสัยถ้าอยากรู้อะไรแล้วต้องรู้ให้ได้  เลยเข้าไปดูโปรไฟล์ของพี่ทัน เห็นโชว์ว่าอายุ 31  เราเลยแกล้งงอนที่พี่ทันโกหกอายุ  สุดท้ายพี่ทันก็ยอมบอกว่าจริงๆแล้วพี่ทันอายุ 36 (สงสัยพี่ทันจะลืมนับอายุตัวเองหลังจากที่อายุครบ 23 น่ะ  เหตุผลที่โกหกคือไม่อยากแก่ ฮ่าๆๆ )  ตอนนี้พี่ทันก็คงอายุ 37 แล้วเพราะเพิ่งเลยวันแก่(วันเกิด)มา  เรากับพี่ทันอายุ ห่างกัน เกือบ 15 ปีแหนะ แต่ห่างกับแม่แค่เรา 10 ปี เอง...

                                  วันต่อมาพี่ทันทักทายมาช่วงบ่ายๆ พร้อมกับโทรไลน์มาแต่เราไม่ได้รับ (เง้ออ...แอบเสียดาย) แต่ก็คุยขำๆไปว่าจะโทรมาก็ไม่บอกจะได้รับ ฮ่าๆๆ แล้วก็คุยเรื่องอื่นไป เราก็ไม่รู้ว่าทำไม ๆ ๆ ๆๆๆ เราถึงไม่โทรกลับนะ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน  แล้วเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ หลายวันต่อพี่ทันทักไลน์มาตอนเย็นๆ ว่าโทรหาได้มั้ย เราก็ตอบแบบไม่คิดว่า “ได้ค่ะ” 555 เพราะเราเข้าใจว่าพี่ทันจะโทรไลน์  แต่ไม่ค่ะพี่ทันขอเบอร์(เขินนน..) บอกว่าตอนนี้ขับรถอยู่พิมพ์ไม่สะดวก  คือพี่ทันบินมาไทยค่ะ ^^ ด้วยความที่เป็นห่วงเลยบอกว่าให้พี่ทันขับรถให้ถึงบ้านก่อนแล้วค่อยคุยกันก็เลยยังไม่ได้ให้เบอร์ไป (ไม่รู้ว่าเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงได้ว่าตัวขนาดนั้น ฮ่าๆๆ )  ได้คุยกันอีกทีพี่ทันก็ไปอยู่ต่างประทศซะแล้ว  คือพี่ทันอยู่สายการบินต่างชาติค่ะ (ประเทศแขกที่ไม่ใช่ Emirates)  และพี่ทันมีบ้านอยู่ต่างประเทศด้วยค่ะ พูดง่ายๆ ว่าอยู่ที่ต่างประเทศมากกว่าอยู่ที่ไทยซะอีก เวลาของประเทศที่พี่ทันมีบ้านอยู่จะเร็วกว่าไทยประมาณ 1 ชั่วโมง ทุกวันเราจะไลน์หาพี่ทันก่อนนอน บางวันที่พี่ทันไม่ได้บินเราก็จะได้คุยกันบ้าง แต่ถ้าวันไหนที่พี่ทันมีบินพี่ทันก็ตอบช้าข้ามวันเลยค่ะ  ชอบไปโผล่ตรงนู้นทีตรงนั้นทีอยู่ไม่เป็นที่ เราก็ได้แต่ ..อ้าว ๆ ๆ ตามไม่ทันค่ะ ฮ่าๆๆๆ   บางครั้งพี่ทันก็ถ่ายรูปมาให้ดูว่าวันนี้บินกับเพื่อนชาวต่างชาติบ้างล่ะ  ถ่ายรูปกับรุ่นพี่ชาวไทยด้วยกันบ้างล่ะ  (ปลื้มๆ ฝุดๆ ทำงานก็เหนื่อยแล้วยังมีเวลานึกถึงเราอีก -3- )

                                  หลังจากนั้นไม่กี่วันประเทศไทยเราก็รัฐประหารค่ะ แล้วก็มีข่าวลือว่าจะตัดเน็ตตั้งแต่เวลา 21.00 น. สิ่งแรกที่เกิดขึ้นมาในหัว เอาแล้วว..แล้วเราจะคุยกันทางไหนทีนี้ เลยตัดสินใจให้เบอร์พี่ทันไป แต่ตอนนั้นพี่ทันอยู่เมกาฯ  อย่างที่เรารู้ๆกันแล้วว่าเรื่องตัดเน็ตเป็นเรื่องโกหก เราก็อ้าวววววว..ดีออกน่ารักจุงฟรุ้งฟริ้ง!!!

                                  ดึกๆ ของวันหนึ่งจำได้ว่าวันนั้นที่เราคุยกันครบ 1 เดือนพอดี
                         พี่ทัน : “ขอจีบได้มั้ยอ่า”    อู๊ยยย..ตอนเห็นข้อความนี้นะม้วนเลยค่ะ ฮ่าๆๆ
                         เรา   :  “จีบได้ค่ะ แต่..จีบติดมั้ยอีกเรื่องนึง”    โห..ว่าตัวสุดๆ ฮ่าๆๆ
                         พี่ทัน :  “ไม่อยากจีบติดแต่อยากให้สปาร์คเลยมากกว่า”  โอ้โห! พ่อคุณทูนหัว อยากจะบอกว่าไม่สปาร์คไม่คุยด้วยขนาดนี้หรอกค่ะ ฮ่าๆๆๆ  แต่ไม่ค่ะ เราไม่ตอบไปเช่นนั้น
                         เรา   : “เพ้อเจ้ออ่ะ นอนๆ “  เฮ้ยยยแกรรร..ตัดบทไปดื้อๆ ได้ไงวะ ฮ่าๆๆๆ  ท๊ามม๊ายยนิ้วกับใจไม่ไปทางเดียวกานนนะ

                                  แล้วก็มาถึงคราวที่เรานัดเจอกัน ^^ เราก็คุยกันว่าจะเจอกันที่ไหนดี  เราก็เสนอไปว่า สยามมั้ย ห้างนู้นนี้นั้นก็ว่าไป  แต่พี่ทันกลับบอกว่าเบื่อสถานที่แบบนั้น แล้วพี่ทันก็เสนอว่า “บ้านพี่” เราก็ “ไม่” ไม่แบบไม่ต้องคิดเลยค่ะ แบบจะบ้าหรอจะให้ไปเจอผู้ชายที่ไม่เคยเจอมาก่อนที่บ้านเขาเนี่ยนะ มีด้วยหรอ?  เราไม่ได้กลัวพี่ทันหรอกนะแต่เรากลัวตัวเองมากกว่าเผื่อไปทำมิดีมิร้ายพี่ทันขึ้นมาจะว่าไง เราออกจะหื่น ฮ่าๆๆๆๆๆๆ  เราเลยปิ๊งไอเดียเจอกันที่สนามบินแหละง่ายดี พี่ทันก็โอเคบอกว่าความคิดดี ก็แหม๋ๆๆๆ ใครเค้าจะคิดแบบพี่ล่ะคะ ฮ่าๆๆๆ  ถึงวันที่พี่ทันบินมาพี่ทันก็ไลน์มาบอกว่ากำลังจะบินไปแล้วนะถึงไทยประมาณ 18.30 น. เราก็ตอบไปว่าเจอกันค่ะและกำชับว่าอย่าดีเลย์นะไม่งั้นไม่รอจริงๆ ด้วย แล้วประมาณบ่ายสามพี่ทันก็ไลน์มาบอกว่า เครื่องดีเลย์น่าจะถึงประมาณ 19.30 น. จะมามั้ยเกรงใจ  เราเลยตอบไปว่างั้นไว้คราวหน้านะคะ... พอเครื่องถึงแลนด์พี่ทันก็ไลน์มาบอกว่าถึงแล้วนะกำลังรอรับกระเป๋า เราได้แค่บอกไปว่าเสียดายจังไม่ได้ไปรับ T-T  จริงๆแล้ววันนั้นจะมาถึง 2 ทุ่มก็ไปได้นะ แต่มันติดตรงที่ว่านั้นดันมีงานเข้าพอดีเราต้องเคลียร์เอกสารหลายอย่างเลยอยู่ที่บ้าน อีกอย่างไม่มีคนอยู่บ้านด้วยออกไปทำธุระกันหมดเราก็ได้แต่ภาวะนาว่าขอให้มีคนกลับมาก่อนที่เราจะออกไปหาพี่ทันทีเถ๊อะะะ..สุดท้ายก็ไม่มีใครมา เราเลยไปไหนก็ไม่ได้เพราะที่บ้านมีน้องหมาเราต้องดูแลน้องหมาที่สำคัญเคลียร์เอกสารก็ยังไม่เสร็จแทบจะร้องไห้ (เก๊าอยากไปหาพี่ทันง่ะ..) ดีนะที่พี่ทันไม่โกรธมั้ง หรือโกรธ แต่เราไม่รู้ ??  ทำได้แค่บอกกับพี่ทันว่าขับรถกลับดีๆ นะ  // เล่าแล้วก็ยังรู้สึกผิด  เก๊าขอโต๊ด..ครั้งนี้พี่ทันอยู่ไทยนานหน่อยเกือบ 2 อาทิตย์  พี่ทันก็ไปทำธุระนู้นนี้นั้น + ส่งรูปมาให้ดูว่ามีธุระจริงๆ ส่วนเราก็เรียน เรียนไปง่วงไป เบื่อๆ ก็ไลน์ไปหาพี่ทัน พี่ทันก็บ่นใหญ่เลยว่า “จะให้อาจารย์เข้าไปสอนในฝันเลยรึไง” จากนั้นก็เรียกเราว่า เด็กดื้อ! ก็ได้ค่ะ ดื้อก็ดื้อ ฮ่าๆๆ น่ารักออก  สรุปช่วงเวลา 2 อาทิตย์ ที่พี่ทันอยู่ไทยเราก็ยังไม่ได้เจอกัน  แต่ก็คุยไลน์กันเรื่อยๆ  จนครบสองเดือนที่เราคุยกันพี่ทันก็ไลน์มาประมาณว่า อยากเป็นคนรู้ใจ  เราเลยตอบไปว่าขอสบตาก่อนแล้วเดี๋ยวจะบอกว่าเป็นคนรู้ใจได้มั้ย  ถึงตอนนี้เราก็ชอบพี่ทันแหละอยากจะอยู่ในสถานะแฟนใจจะขาด แต่ปัญหาคือก็เราไม่สวยอ่ะอยากให้พี่ทันมาเจอเราก่อนเผื่อพี่ทันจะเปลี่ยนใจ ฮ่าๆๆๆ ส่วนพี่ทันก็บอกเราว่า เจอถ้าเจอหน้าพี่ทันแล้วอย่าวิ่งหนีนะ เราเองก็บอกกับพี่ทันว่าพี่ทันก็อย่าหนีนะ บางทีอาจจะต่างคนต่างวิ่งก็ได้ ฮ่าๆๆๆ  สองเดือนแล้วก็ยังไม่ได้เป็นแฟนกันไม่รู้จะเล่นตัวไปถึงไหน....ฮ่าๆๆๆ

                                  เช้าวันหนึ่งเราตื่นมาพร้อมกับข่าว MH17 ถูกยิงตก สิ่งแรกที่คิดถึงคือ!!!!  พี่ทันอยู่ไหน พี่ทันเป็นไงบ้าง พี่ทันยังปลอดภัยดีมั้ย สารพัดคำถามที่เข้ามาในหัว ณ ตอนนั้น ไลน์ไปหาพี่ทันแบบไม่คิดชีวิต ฮ่าๆๆๆ  เราไม่เป็นอันทำอะไรเลยค่ะ รอแต่ไลน์ ไปเรียนก็เหมือนไม่ได้เรียน เราเป็นขนาดนั้นจริงๆนะ  และไม่รู้ทำไมช่วงนั้นข่าวเครื่องบินตกบ่อยๆ ไม่ก็สนามบินถูกวางระเบิดบ้างล่ะ  ทั้งๆก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไร หรือเราจะเป็นตัวดึงดูดความหายนะให้กับวงการนี้ก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆๆ  แต่ก็นั้นแหละ กว่าพี่ทันจะตอบกลับมาได้เกือบๆ ห้าทุ่มของวันนั้น แค่เห็นพี่ทันตอบกลับมาก็โล่งอกยังปลอดภัย  เลยถามไปว่าทำไรอยู่ทำไมถึงยังไม่นอน  พี่ทันบอกรอคุยกับเรา  (เอิ่ม..พี่ทันคะ เราไลน์หาตั้งแต่เมื่อเช้ารอให้ถึงห้าทุ่มทำไม?) และยังบอกอีกว่าเนี่ยกำลังนั่งดูรูปที่เราส่งให้อยู่เลย พอดีว่าก่อนที่พี่ทันจะไปบินพี่ทันบอกให้เราส่งรูปให้น่ะ และตอนที่ขอรูปนะ เราอาบน้ำแล้วกำลังจะนอน ตอนแรกจะไม่ให้เราก็กลัวพี่ทันจะงอนเลยตามใจ เอาก็เอาวะ รูปหน้าสดนี่แหละ อายก็อายคิ้วก็ไม่มี ยังจะนั่งมองคนบ้าอะไรก็ไม่รู้ ไม่กลัวหรอ? ฮ่าๆๆๆ ส่วนเราก็ตั้งรูปของพี่ทันเป็นวอลเปเปอร์ไลน์ เปิดมาดูเมื่อไหร่ก็เจอ แอบสบตาอยู่บ่อยๆ  ด้วยความเป็นห่วงที่คับอกมาทั้งวัน เราเลยตัดบทไปว่า เป็นห่วงนะเห็นข่าวเครื่องบินตกไม่เว้นแต่ละวัน  พี่ทันก็บอกขอบคุณที่เราเป็นห่วง มันเป็นอาชีพนี่เน๊อะ ... เราก็อื้มห่วงก็ได้แค่ห่วง

                                  เข้าเดือนที่สามพี่ทันก็เหมือนเดิมเสมอต้นเสมอปลาย นานๆจะตอบที วัน สองวัน สามวัน สี่วัน กว่าจะตอบเราได้ เราก็ เง้อ..นอยด์ อ่ะ แอบประชดเหน็บแหนมเบาๆประมาณว่า “คงจะสาวเยอะสินะ ฯลฯ” พี่ทันก็บอกว่า เปล่า..พี่ทันต้องดูแลตัวเองทุกเรื่อง+ทำแต่งานงกๆๆ เวลาว่างก็มีไม่มากแต่ถ้าเห็นข้อความที่เราไลน์ไปหาก็ตอบกลับตลอดเลยนะ ไม่ได้มีใครคุยกับเราแค่คนเดียว  ( ก็แหม่..เชื่อยากอ่ะเน๊อะ อาชีพพี่อยู่ใกล้ชิดกับนางฟ้าซะขนาดนั้น  เราเองก็ทำใจร่มๆ เชื่อก็เชื่อค่ะ  คนเราจะคบกันมันต้องเริ่มที่ความไว้ใจ  แต่ก็นะความเชื่อใจจะเอาอะไรมาวัดมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยสิ )

                                  และแล้วกำหนดการรับปริญญาจากทางมหาวิทยาลัยของเราก็คลอดมาจนได้ทันทีที่ทราบกำหนดการคนแรกที่เราบอกก็คือ พี่ทัน (ผู้ชายสำคัญเสมอ ฮ่าๆๆๆ) พี่ทันบอกว่าช่วงนี้น่าจะว่างอยากไป ไปในฐานะแฟนนะ เราก็แบบเขินแต่ยังเล่นตัวบอกกับพี่ทันว่า “ไหนลองขอเราเป็นแฟนก่อน” พี่ทันยังไม่ได้ตอบกลับเลย เราดันเอาโทรศัพท์ลงไปซักกับเสื้อผ้าซะงั้น (พอดีกำลังซักผ้าน่ะ กรรมจริงๆ )  เลยได้เปลี่ยนโทรศัพท์ กว่าจะได้โทรศัพท์ใหม่ปาไปเกือบ 2 อาทิตย์ เกือบขาดใจแล้วเชียว ฮ่าๆๆ แต่เรายังมี Hi5 ช่วยต่อลมหายใจ อิอิอิ  ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ ไลน์ มีเหตุขัดข้องที่ทำให้ต้องใช้ไลน์อันใหม่   บร๊ะเจ้า!!!!!  แล้วพี่ทันตอบไลน์ว่าไงเนี่ย???  โอ้ยอยากรู้ว่าขอเราเป็นแฟนยังไง หรือไม่ตอบ ฮ่าๆๆๆ จนวันนี้ก็ยังคงปริศนาอยู่
                                
***** ยังไม่จบนะ*****  คิดว่าจะไม่ยาวซะอีก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่