ประสบการณ์การขับรถ UBERX สัปดาห์แรก กับรายได้ 11,553 บาท

ผมอยากแชร์ประสบการณ์การขับรถกับ Uber ให้ฟังครับ ปัจจุบันผมทำร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ใน Instagram ทำให้ผมมีเวลาว่างค่อนข้างเยอะ ผมเลยสนใจที่จะหาอาชีพเสริม พอดีผมได้เจอหลายๆกระทู้ในพันทิพนั้นได้พูดถึง Uber ทั้งในด้านดี และด้านเสีย ซึ่งตัวผมเองมองว่ามันเป็นงานที่น่าสนใจดีครับเลยพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะสามารถสมัครได้อย่างไร และจึงได้สมัครเข้าไปทางเวบไซต์  รวมไปถึง ตัวผมเองนั้นเป็นคนที่ชอบขับรถอยู่แล้ว ซึ่งรถของผมเองก็ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของ UBER ด้วยเช่นกัน

ลองมาดูกันว่าขึ้นตอนการสมัครเและความคิดเห็นของผู้ขับรถร่วมป็นยังไงบ้าง ใครสนใจสมัครได้ที่ลิงค์นี้ครับ : https://partners.uber.com/i/sermsakl2ue

1/ ลงทะเบียน - หลังจากที่สมัครเข้าไปในเวบไซต์ เรียบร้อยแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่จาก UBER ส่ง SMS มาให้เข้าไปเช็คข้อมูลตารางการอบรมในอีเมลล์ ซึ่งจะมีตารางการฝึกอบรม 3 ครั้งต่ออาทิตย์ ก่อนที่จะเข้าฝึกอบรมต้องทำการอัพโหลดเอกสารทั้งหมดลงไปในระบบให้เรียบร้อย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเอกสารทั่วไป ยกเว้น ใบขับขี่สาธารณะ และใบเช็คประวัติ ซึ่งเราต้องไปรับใบยืนยันที่บริษัท ก่อนที่จะไปยื่นที่กรมตำรวจเพื่อทำการสอบเช็คประวัติอาชญากรรม

2/ การฝึกอบรม - วันฝึกอบรมใช้เวลาประมาณ 2 ชม  ซึ่งการอบรมจะมีบอกวิธีการใช้ application ของคนขับ กฏระเบียบของผู้ขับรถร่วม  บทลงโทษ คำแนะนำ และรายได้ของผู้ขับรถร่วม โดยผู้ขับรถร่วมจะได้เงิน 80% ของค่าโดยสาร รวมกับ โบนัสที่ทางบริษัทจ่ายให้ ซึ่งทางบริษัทจะทำการตัดรอบและโอนเงินให้สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นจะมีการตรวจสภาพรถ และ ตรวจเอกสาร ซึ่งผมที่ไม่มีใบขับขี่สาธารณะผมจึงต้องไปตรวจประวัติก่อนที่กรมตำรวจ และนำมายื่นให้บริษัทอีกทีตอนบ่าย T-T เสียเวลามากเลย หลังจากที่ตรวจทุกอย่างเรียบร้อยผมก็ได้อุปกรณ์ IPAD, ที่ชารจ์ ในรถ และที่บ้าน มาให้ยืม ซึ้งเจ้า IPAD ก็ถูกล๊อกไว้ทุกอย่างครับ


3/  การรับผู้โดยสารครั้งแรก - หลังจากที่ผมได้เดินลงจากตึกที่อบรมมา ผมก็ได้ลองเปิดเครื่องเพื่อลองเล่นดู หลังจากที่เปิดได้ไม่นาน มีงานเรียกเข้ามาทันทีเลยครับ ผมนี่งงเลย เนื่องจากทางบริษัทเขาได้เตือนไว้แล้วว่าให้กดรับงานทุกครั้ง ไม่งั้นอาจโดนพักงานได้ คราวนี้ซวยเลยเพราะผมยังไม่ได้อยู่บนรถตอนนั้น ผมเลยต้องรีบวิ่งไป ลองนึกภาพดูตัวเองคงดูงี่เง่าน่าดู - -“ พอผมกดดูชื่อลูกค้าดูแล้วน่าจะเป็นคนประเทศญี่ปุ่น ผมนี่ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ครั้งแรกก็เจอญี่ปุ่นทันที คราวนี้คำถามต่อไปที่เข้ามาในหัวคือ แล้วเราจะคุยกันรู้เรื่องไหมเนี่ย ด้วยส่วนตัวผมเป็นคนที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงอยู่แล้วด้วย เลยตื่นเต้นก่อนที่จะโทรไปยืนยันสถานที่ในการรับ สรุปพูดไทยได้!ค่อยยังชั่ว
ครั้งแรกยังรู้สึกเกร็งๆ เพราะยังใช้งานเครื่องไม่ค่อยคล่อง แต่ก็ส่งลูกค้าไปได้ถึงที่หมายครับ


4/ การทำงานในสัปดาห์แรก - หลังจากขับไปได้  1 อาทิตย์ หลักๆแล้วผมจะวิ่งตอนเย็นๆถึงดึกๆ โดยรวมผมรู้สึกชอบมากเลยครับ เนื่องจาก ลูกค้าส่วนใหญ่ที่นั่งจะเป็นลูกค้าที่นิสัยดีและน่ารัก ลูกค้าทุกคนที่ขึ้นมาก็จะชอบ UBER และอยากให้มีรถเยอะๆเนื่องจากหารถกันไม่ค่อยเจอ  มีบางท่านที่ขึ้นมาแล้วขอถ่ายรูปไปทำรีวิวก็มีครับ รู้สึกดีใจแทน  UBER จริงๆครับ ข้อเสียของการทำงานนี้คงเป็นความน่าเบื่อเรื่องรถติดของกรุงเทพ นี่แหละครับ  สุดยอดจริงๆ บางครั้งก็โดนลูกค้าขอยกเลิกเหมือนกันเนื่องจากเราไปรับเขาไม่ทันเวลา หลังจากเริ่มมาขับกับอูเบอร์ผมก็เริ่มเข้าใจพี่ๆแท๊กซี่มากขึ้นแล้วว่าทำไมถึงปฏิเสธผู้โดยที่อยู่ไกลๆ บางครั้งก็ไม่คุ้มกับผลตอบแทนเท่าไหร่ T-T แต่ไม่เป็นไรครับคิดซะว่ายังไงเราก็มีรอบสั้นๆที่ได้เงินเยอะ ถือว่าเฉลี่ยๆกันไป ครับ ผลตอบแทนของผู้ขับรถร่วมก็ดีมากๆเลยทีเดียว โดยผมได้รับเงินทั้งหมด 11,553.4  บาท จากทางบริษัท หลังจากหักค่าใช้แก๊ซแล้วซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณวันละ 500 บาท ผมก็จะเหลือประมาณ 8,000 บาทครับ ลึกๆแอบกังวลใจว่าถ้าไม่มีค่าโบนัสต่อรอบให้แล้วจะอยู่ไหวรึป่าว

5/ ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม - ผมคิดว่า UBER เนี่ยแหละคือทางเลือกที่ดีของการเดินทางสมัยใหม่ เพราะมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการพัฒนาการบริการทั้งในมุมมองของผู้ขับรถและผู้โดยสาร เริ่มตั้งแต่การเรียกหารถยนต์จนถึงการส่งที่จุดหมายที่จะมีแผนที่บอกใน GPS ซึ่งทำให้การเดินทางไปที่หมายนั้นแม่นยำยิ่งขึ้นในสถานที่ๆเราไม่รู้จัก รวมไปถึงการให้คะแนนผู้ขับรถและการให้คแนนผู้โดยสาร ผู้โดยสารคนไหนที่แย่เขาจะตัดออก เช่นเดียวกับผู้ขับรถ เมื่อวานผมพึ่งโดนทางบริษัทโทรมาตักเตือนเรื่องการรับโทรศัพท์ ขณะขับรถ เนื่องจากมีลูกค้าได้ comment เข้าไปต่อว่า ปัจจุบันผมเชื่อว่ารถของบริษัทยังขาดอยู่ครับ เนื่องจากมีลูกค้าบ่นให้ฟังตลอดดด ผมอยากเชิญชวนทุกคนที่สนใจมาขับรถร่วมและช่วยพัฒนาการเดินทางของคนกรุงเทพไปด้วยกันครับ ผมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่โดนแท๊กซี่ปฏิเสธอยู่เป็นประจำเหมือนกัน และผมคิดว่ามันน่าหมดยุคของผู้โดยสารที่ต้องมานั่งง้อผู้ขับรถได้แล้วครับ สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาตามอ่านกัน ถ้าเขียนผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่