เรามีลูกชาย 2คน ปัจจุบันอายุ10ขวบกับ7ขวบ เมื่อประมาณ3ปีที่แล้วตอนลูกคนเล็กอายุ3ขวบกว่า มีอาการปวดบริเวณข้างขาหนีบ คุณแม่ซื้อบื้ออย่างเราก็นึกว่าเด็กพูดไปเรื่อยไม่คิดอะไรมาก (น่าจะฉลาดบ้างเนอะ) ตอนหัวค่ำอาบน้ำลูกชายคนเล็กเริ่มสังเกตุเห็นหนอนน้อยมันดันตัวน้อยลงกว่าเดิมแต่ไอ้เจ้าพวงไข่ดันบวมเป่งนี่สิ ชักจะยังไงแล้วสิ วันรุ่งขึ้นจึงพาคุณชายตัวน้อยไปหาหมอ หมอบอกคำแรกคือแอทมิท อ้าว...แล้วกันสินิสัยขี้งกเริ่มมาแล้วสิ ทำไม..ทำไมแล้วก็ทำไมต้องแอทมิทล่ะคะคุณหมอขาาาา (ความขี้งกไม่เข้าใครออกใครจริงๆนะ เป็นอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่าคะเนี่ย) หมอบอกว่าหมอศัลยกรรมเด็กวันนี้ไม่ออกตรวจแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหมอจะช่วยรักษาให้ไม่ได้เพราะว่าหมอจะสั่งเช็คก่อนว่าลูกเราเป็นอะไรในเบื้องต้น พอได้ผลก็จะแจ้งหมอเฉพาะทางมาตรวจอย่างละเอียดอีกที แหม...แล้วขอกลับมาพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ ไม่ได้เพราะถ้าช้าลูกเราอาจหมดทายาทสืบสกุลกันเลยทีเดียว อาจต้องเป็นขันที อุ้ย...ร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือ
การตรวจเริ่มต้นจากการตวจปัสสาวะ ตรวจอัลตร้าซาวด์ไข่ใบน้อยแต่ตอนนี้มันไม่น้อยแล้ว จากเดิมใบขนาดเท่าไข่ไก่เบอร์จิ๋วสุด แต่ตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นไข่ใบโตเบอร์ 0เลยก็ว่าได้ เมื่อได้ผลตรวจสรุปว่าลูกชายติดเชื้อในลูกอัณฑะค่ะ
วันรุ่งขึ้นคุณหมอใจดีท่านหนึ่งเข้ามาตรวจที่ห้องเป็นหมอเฉพาะทางด้านศัลยกรรมเด็ก หมอน่ารักใจดีอธิบายดีมาก ความขี้งกของแม่เริ่มคลายตัวเพราะว่าหมออธิบายอย่างละเอียดยิบว่า ลูกเราติดเชื้อในลูกอัณฑะ อล้วมันมาอยู่ในไข่ของลูกได้ไงล่ะคะคุณหมอ ลูกคุณเป็นไส้เลื่อนครับ โอ้วแม่เจ้าหนอนน้อยของลูกยังไม่โตเป็นไส้เลื่อนได้ด้วยเหรอ เป็นได้ทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงครับ มันเป็นอาการของผิดปกติของเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ แล้วเราจะสังเกตุอาการได้อย่างไร
การสังเกตุอาการง่ายๆ(แม่อย่างเราชอบเลยล่ะคือขับหนอนน้อยของลูกชายและสังเกตุอาการผิดปกติจนชินตา)เมื่อลูกบอกว่าเจ็บหรือปวดเด็กเล็กๆคงไม่สามารถอธิบายได้ว่าปวดแบบไหน เขาจะบอกแค่ว่าเจ็บไข่ มามะมาแก้ผ้าให้แม่เล่นหนอนหน่อย ลูกชายก็จะถอดกางเกงเราก็จะให้เขาไอ กระเอมดังๆหรือถ้าลูกเพิ่งเบ่งอึ เราก็จะสามารถสังเกตุได้เช่นกัน มันจะมีอาการบวข้างขาหนับสำหรับเด็กชาย หรือบวมข้างหัวเหน่าสำหรับเด็กหญิง บวมแบบพอสังเกตุเห็นแต่ไม่มากขนาดมองแล้วเป็นรอยนูนนะคะ มันจะบวมๆพอคลำเจอเท่านั้น เมื่อเราลองเอามือคลำไข่ 2 ใบที่อยู่ในถุงอัณฑะแล้วดันไข่ข้างที่ปวดขึ้นไปมันสามารถหายกลับเข้าไปได้อย่างน่าแปลก
อันตรายสำหรับการไม่ได้รับการรักษา มีแน่นอนถ้าหากเราไม่รักษาไส้ที่มันเลื่อลงมาในรูที่มันปิดไม่สนิท(เราไม่ใช่หมอไม่รู้เรียกอะไรนะคะ) แล้วมันไม่ยอมกลับขึ้นไปแต่เกิดการบีบรัดทำให้ไส้ที่มันโดนรูนี้บีบรัดเกิดการขาดเลือดคราวนี้มีสิทธิ์ไส้เน่า (อ๊ะๆไม่ใช่ไส้อั่วนะอันนั้นล่ะกินได้ อันนี้น่ะตายได้เชียวล่ะ)
การรักษาต้องรักษาด้วยการผ่าตัด โอ้ว..แม่จะเป็นลม ถึงขั้นผ่าตัดเลยเหรอ หมอท่านนี้ก็ยังตอบคุณแม่ช่างซักคนนี้อย่างน่ารักเหมือนเดิม คุณหมอบอกมันเพียงแค่การผ่าตัดเล็กใช้เวลาแค่3-4ชม.เท่านั้น แล้วก็กลับบ้านเลย (นิสัยขี้งกโผล่อีกแล้ว มันแพงมั้ยหนอ...บอกเลยหลักหลายหมื่นสำหรับรพ.เอกชน) ถามหมอต่อแล้วรอได้ไหมจะได้ไปรอคิวรพ.รัฐ หมอตอบได้แต่คุณแม่ต้องสังเกตุดีๆนะว่าไส้ที่เลื่อนลงมามันยอมกลับขึ้นไปแต่ถ้าไม่ยอมกลับเมื่อไหร่ต้องผ่าตัดฉุกเฉินอย่างเดียว อ้าว..ชักลัวแล้วสิ การผ่าตัดฉุกเฉินจะอันตรายกว่าเพราะไม่มีการเตรียมตัว มีผลกับการดมยาสลบ เอ..แล้วผลข้างเคียงของการวางยาสลบล่ะ เคยได้ยินว่าเด็กบางคนดมยาแล้วไม่ฟื้นอีกเลย หมอท่านนี้ยิ้มแล้วบอกว่ามันเป็นแค่ยาสลบจำนวนน้อยไม่มีปัญหาหรอกครับใช้เวลาผ่าตัดจริงแค่ครึ่งชั่วโมงแต่ที่บอกว่าใช้เวลา3-4ชม.คือต้องมาเตรียมตัวก่อน ตรวจเลือด เจาะน้ำเกลือทำความสะอาดแผลฯลฯ ถึงบางอ้อเลยเรา งั้นนัดวันผ่าเลย 555ใจง่ายจริง
วันผ่ามาถึงหมอนัดตั้งแต่6โมงเช้า แม่ที่แสนขี้เกียจอย่างเราคิดในใจสายหน่อยไม่ได้เหรอต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตี5 เหมือนคุณหมอรู้ทันอธิบายมาอย่างกระจ่างแจ่มแจ้งว่า น้องต้องงดน้ำงดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน ถ้าผ่าตัดสายน้องจะหิวน้ำ หิวนมแล้วก็จะงอแง เข้าห้องผ่าตัดตอน8.30ออกจากห้องผ่าตัดมา10.30 น้องยังหลับอยู่เลย นางพยาบาลเรียกไปดูน้องที่ห้อง CCU มีนางพยาบาลมาคอยวัดสัญญาณชีพตลอด หมอวิสัญญีก็แวะเวียนมาถามเรื่อยๆ พอถึง11.30ปั๊บคุณชายตัวกระเด้งดึ๋งขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คำแรกที่ได้ยินคือกินน้ำ แม่หมดห่วงเลยค่ะ นางพยาบาลยังไม่ให้กิน ขอรออีกสัก10นาที ดูว่าน้องตื่นเต็มที่หรือยัง พอเริ่มพูดจารู้เรื่องนางพยาบาลให้ทานน้ำทีละจิบ อ้าวความช่างสงสัยกลับมาอีกแล้ว ทำไมล่ะกินทีละจิบมันจะหายหิวได้ไง นางพยาบาลจึงบอกว่าถ้าให้กินทีละมากๆน้องสำลักได้ จะมีผลกับแผลผ่าตัดได้น้องจะเจ็บแผลนะคะ ถึงบางอ้ออีกแล้วเราทั้งๆที่อยู่เพชรเกษมนะเนี่ย ขับรถกลับบ้านนอนพักครู่เดียววิญญาณลิงเข้าสิงลูกชายลุกขึ้นมาซนเหมือนเดิม
เล่ามาซะยาวอยากให้ทุกท่านเห็นภาพ หวังว่าประสบการณ์ครั้งนี้จะมีประโยชน์กับแม่ทั้งหลายนะคะ
ปล.ปกติเด็กจะเป็นข้างขวามากกว่าข้างซ้ายและแนวโน้มการเป็นจะเกิดกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนดนะคะ แต่สำหรับลูกเราเล่นเป็นซะ 2ข้าง คงกลัวแม่ไม่จนผ่าตัดอีกรอบตอน 6 ขวบค่ะ
เด็กๆสามารถเป็นโรคไส้เลื่อนได้นะ มาอ่านทางนี้ดูสิ
การตรวจเริ่มต้นจากการตวจปัสสาวะ ตรวจอัลตร้าซาวด์ไข่ใบน้อยแต่ตอนนี้มันไม่น้อยแล้ว จากเดิมใบขนาดเท่าไข่ไก่เบอร์จิ๋วสุด แต่ตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นไข่ใบโตเบอร์ 0เลยก็ว่าได้ เมื่อได้ผลตรวจสรุปว่าลูกชายติดเชื้อในลูกอัณฑะค่ะ
วันรุ่งขึ้นคุณหมอใจดีท่านหนึ่งเข้ามาตรวจที่ห้องเป็นหมอเฉพาะทางด้านศัลยกรรมเด็ก หมอน่ารักใจดีอธิบายดีมาก ความขี้งกของแม่เริ่มคลายตัวเพราะว่าหมออธิบายอย่างละเอียดยิบว่า ลูกเราติดเชื้อในลูกอัณฑะ อล้วมันมาอยู่ในไข่ของลูกได้ไงล่ะคะคุณหมอ ลูกคุณเป็นไส้เลื่อนครับ โอ้วแม่เจ้าหนอนน้อยของลูกยังไม่โตเป็นไส้เลื่อนได้ด้วยเหรอ เป็นได้ทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงครับ มันเป็นอาการของผิดปกติของเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ แล้วเราจะสังเกตุอาการได้อย่างไร
การสังเกตุอาการง่ายๆ(แม่อย่างเราชอบเลยล่ะคือขับหนอนน้อยของลูกชายและสังเกตุอาการผิดปกติจนชินตา)เมื่อลูกบอกว่าเจ็บหรือปวดเด็กเล็กๆคงไม่สามารถอธิบายได้ว่าปวดแบบไหน เขาจะบอกแค่ว่าเจ็บไข่ มามะมาแก้ผ้าให้แม่เล่นหนอนหน่อย ลูกชายก็จะถอดกางเกงเราก็จะให้เขาไอ กระเอมดังๆหรือถ้าลูกเพิ่งเบ่งอึ เราก็จะสามารถสังเกตุได้เช่นกัน มันจะมีอาการบวข้างขาหนับสำหรับเด็กชาย หรือบวมข้างหัวเหน่าสำหรับเด็กหญิง บวมแบบพอสังเกตุเห็นแต่ไม่มากขนาดมองแล้วเป็นรอยนูนนะคะ มันจะบวมๆพอคลำเจอเท่านั้น เมื่อเราลองเอามือคลำไข่ 2 ใบที่อยู่ในถุงอัณฑะแล้วดันไข่ข้างที่ปวดขึ้นไปมันสามารถหายกลับเข้าไปได้อย่างน่าแปลก
อันตรายสำหรับการไม่ได้รับการรักษา มีแน่นอนถ้าหากเราไม่รักษาไส้ที่มันเลื่อลงมาในรูที่มันปิดไม่สนิท(เราไม่ใช่หมอไม่รู้เรียกอะไรนะคะ) แล้วมันไม่ยอมกลับขึ้นไปแต่เกิดการบีบรัดทำให้ไส้ที่มันโดนรูนี้บีบรัดเกิดการขาดเลือดคราวนี้มีสิทธิ์ไส้เน่า (อ๊ะๆไม่ใช่ไส้อั่วนะอันนั้นล่ะกินได้ อันนี้น่ะตายได้เชียวล่ะ)
การรักษาต้องรักษาด้วยการผ่าตัด โอ้ว..แม่จะเป็นลม ถึงขั้นผ่าตัดเลยเหรอ หมอท่านนี้ก็ยังตอบคุณแม่ช่างซักคนนี้อย่างน่ารักเหมือนเดิม คุณหมอบอกมันเพียงแค่การผ่าตัดเล็กใช้เวลาแค่3-4ชม.เท่านั้น แล้วก็กลับบ้านเลย (นิสัยขี้งกโผล่อีกแล้ว มันแพงมั้ยหนอ...บอกเลยหลักหลายหมื่นสำหรับรพ.เอกชน) ถามหมอต่อแล้วรอได้ไหมจะได้ไปรอคิวรพ.รัฐ หมอตอบได้แต่คุณแม่ต้องสังเกตุดีๆนะว่าไส้ที่เลื่อนลงมามันยอมกลับขึ้นไปแต่ถ้าไม่ยอมกลับเมื่อไหร่ต้องผ่าตัดฉุกเฉินอย่างเดียว อ้าว..ชักลัวแล้วสิ การผ่าตัดฉุกเฉินจะอันตรายกว่าเพราะไม่มีการเตรียมตัว มีผลกับการดมยาสลบ เอ..แล้วผลข้างเคียงของการวางยาสลบล่ะ เคยได้ยินว่าเด็กบางคนดมยาแล้วไม่ฟื้นอีกเลย หมอท่านนี้ยิ้มแล้วบอกว่ามันเป็นแค่ยาสลบจำนวนน้อยไม่มีปัญหาหรอกครับใช้เวลาผ่าตัดจริงแค่ครึ่งชั่วโมงแต่ที่บอกว่าใช้เวลา3-4ชม.คือต้องมาเตรียมตัวก่อน ตรวจเลือด เจาะน้ำเกลือทำความสะอาดแผลฯลฯ ถึงบางอ้อเลยเรา งั้นนัดวันผ่าเลย 555ใจง่ายจริง
วันผ่ามาถึงหมอนัดตั้งแต่6โมงเช้า แม่ที่แสนขี้เกียจอย่างเราคิดในใจสายหน่อยไม่ได้เหรอต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตี5 เหมือนคุณหมอรู้ทันอธิบายมาอย่างกระจ่างแจ่มแจ้งว่า น้องต้องงดน้ำงดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน ถ้าผ่าตัดสายน้องจะหิวน้ำ หิวนมแล้วก็จะงอแง เข้าห้องผ่าตัดตอน8.30ออกจากห้องผ่าตัดมา10.30 น้องยังหลับอยู่เลย นางพยาบาลเรียกไปดูน้องที่ห้อง CCU มีนางพยาบาลมาคอยวัดสัญญาณชีพตลอด หมอวิสัญญีก็แวะเวียนมาถามเรื่อยๆ พอถึง11.30ปั๊บคุณชายตัวกระเด้งดึ๋งขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คำแรกที่ได้ยินคือกินน้ำ แม่หมดห่วงเลยค่ะ นางพยาบาลยังไม่ให้กิน ขอรออีกสัก10นาที ดูว่าน้องตื่นเต็มที่หรือยัง พอเริ่มพูดจารู้เรื่องนางพยาบาลให้ทานน้ำทีละจิบ อ้าวความช่างสงสัยกลับมาอีกแล้ว ทำไมล่ะกินทีละจิบมันจะหายหิวได้ไง นางพยาบาลจึงบอกว่าถ้าให้กินทีละมากๆน้องสำลักได้ จะมีผลกับแผลผ่าตัดได้น้องจะเจ็บแผลนะคะ ถึงบางอ้ออีกแล้วเราทั้งๆที่อยู่เพชรเกษมนะเนี่ย ขับรถกลับบ้านนอนพักครู่เดียววิญญาณลิงเข้าสิงลูกชายลุกขึ้นมาซนเหมือนเดิม
เล่ามาซะยาวอยากให้ทุกท่านเห็นภาพ หวังว่าประสบการณ์ครั้งนี้จะมีประโยชน์กับแม่ทั้งหลายนะคะ
ปล.ปกติเด็กจะเป็นข้างขวามากกว่าข้างซ้ายและแนวโน้มการเป็นจะเกิดกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนดนะคะ แต่สำหรับลูกเราเล่นเป็นซะ 2ข้าง คงกลัวแม่ไม่จนผ่าตัดอีกรอบตอน 6 ขวบค่ะ