ไปพบหมอสองที่คะ ที่แรกเป็นโรงบาลเอกชน แต่ประกันไม่คุ้มครอง (ยังไม่ครบกำหนด) เลยไปใช้สิทธิบัตรทอง รัฐบาล คำตอบที่ได้มาคือ ..
พบหมอเมื่อวาน หลักการ การอธิบายเหมือนกัน แต่ชี้แนะต่างกัน
หมอรัฐ: ไม่ระบุชัดเจนว่าน้องเป็นไส้เลื่อน100% (แต่เกิน50%คืออาการไส้เลื่อน) แต่ไข่โตผิดปรกติแน่นอน ทั้งสองกรณีในเด็กที่สามารถเป็นได้คือ เป็นแค่ถุงน้ำบวม และไส้เลื่อน :ถุงน้ำบวม=มันจะยุบไปเองและไม่อันตรายภายใน2ปี(อายุเด็ก) แต่ถ้าเป็นไส้เลื่อน ก็ต้องผ่าตัดเพราะจะเป็นอุปสรรค์แก่การดำเนิดชีวิต เพราะจะเจ็บปวดและน้องจะงอแง รวมถึงมีอาการอ้วกร่วมด้วย ทีนี้หมอแนะนำว่า เราควรรอไปก่อนให้น้องอายุ11เดือนค่อยมาผ่าเพราะผ่าตอนนี้ก็ไม่คุ้ม โอกาสที่กล้ามเนื้อตรงหน้าขาจะบีบรัดให้รูที่ใส้ลงมาปิดเอง ฉะนั้นหมอว่าเราควรให้โอกาสร่างกาย รักษากันไปก่อน ถ้าผ่าตอนนี้น้องยังเล็กเกินไป!!!!!!สรุป เป็นแต่ให้รอไปก่อน
………… …
หมอเอกชน: หลักๆพูดเหมือนกัน เรื่องถุงน้ำบวม&ไส้เลื่อน ตรวจๆดูแล้วมีก้อนที่ขาหนีบและไข่โตผิดปรกติ หมอแนะนำว่า ตามหลักทั่วไปที่ถุงลูกอัณฑะจะเหลือประมาณ4% ที่ปิดไม่สนิท เปรียบเทียบเหมือนเราใช้นิ้วเราแหย่ปากขวดเล่น บางวันแหย่ลงไปก็ดึงออกมาได้ไม่มีปัณหา แต่บางวันแหย่ลงไปแต่ดันดึงไม่ออก ก็เกิดอันตราย เพราะถ้าโตขึ้นถ้าไส้เบื่อนลงไปก็มีโอกาสติดจนขึ้นมาไม่ได้ ก็จะเจ็บเะราะไส้ติดที่ไข่ . สรุป:ระบุว่าน้องเป็นไส้เลื่อน หมอแนะนำว่าให้ผ่า (นัดวัดเรียบร้อยแต่เรายกเลิกไปก่อน) เพราะเราตรวจเจอเร็วว่าน้องเป็นก็ควรผ่าเลย ไม่ได้น่ากลัวอย่าที่คิด น้องนอนโรงพยาบาลแค่คืนเดียว งดอาหาร5ชั่วโมงก็ผ่า แผลแค่1เซ็น พอน้องฟื้นก็ทานนม อาหารเล่นตามปรกติ ที่ไม่บอกให้รอเพราะถ้าน้องโตน้องจะงอแงและเจ็บไข่ระหว่างที่ไส้ลงมาที่ถุง ...