วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ที่นั่งปักหลัก แสดงความไม่เห็นด้วยเรื่องการสร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยในวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการ(คชก.) พิจารณาโครงการด้านแหล่งน้ำ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้า ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม จัดเวทีเสวนา เรื่อง จากแม่วงก์ ถึง คชก.ใครลักไก่ อีไอเอ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเจรจากับผู้ประสานชมรมรักข่าวสิ่งแวดล้อมโดยขอให้ยุติการจัดเวทีและให้แนวร่วมและผู้ที่เดินทางมาวันนี้สามารถไปแสดงความคิดเห็นกับสผ.ได้เพราะหากมีการจัดเวทีจะเป็นการสร้างความขัดแย้งและอาจจะเกิดความกับฝ่ายสนับสนุนกลุ่มyesเขื่อนแม่วงก์ ที่เดินทางมาที่ด้านหน้าประตู 1 ของสผ.
ภายหลังที่ไม่สามารถจัดเวทีเสวนาครั้งนี้ได้ นายศศินได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ยืนยันว่าเป็นการให้กำลัง คชก.ชุดนี้ ว่าข้อเสนอต่างๆเกี่ยวกับทางเลือกในการบริหารจัดการน้ำที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรได้ยื่นให้กับคชก.ไปแล้วทั้งนั้นยอมรับว่าลำบากที่ต้องมาใช้ชีวิตข้างถนนแต่เป็นความตั้งใจที่จะแสดงออกว่าเป็นต้องการส่งข้อมูลก็เชื่อว่า คชก.จะนำไปพิจารณาร่วมด้วย การที่ทหารสั่งห้ามจัดเสวนา ตนเข้าใจ เพราะอาจไปกระทบกฎอัยการศึกได้
ทางด้านนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า จากการประชุมคชก.โครงการเขื่อนแม่วงก์ ครั้งที่ผ่านมา ตัวแทนกรมอุทยานฯที่เข้าประชุม กลับมารายงานว่า มีข้อมูลหลายอย่างมากที่บริษัทที่ปรึกษา นำเสนอในที่ประชุมนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จหลายเรื่อง โดยเฉพาะ เรื่องสัตว์ป่า สภาพพื้นที่ป่า และเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งตามสภาพแล้วป่าแม่วงก์ เป็นป่าที่มีความสมบูรณ์อย่างมาก เป็นที่อยู่อาศัยที่สำคัญของเสือโคร่ง ที่ขยายพันธุ์ออกจากพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
"ที่สำคัญคือ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์นั้น เป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับพื้นที่มรดกโลก ซึ่งในอนาคต จะต้องผนวกรวมพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่มรดกโลกด้วย กรมอุทยานฯเรามองว่า หากปล่อยให้เกิดการสร้างเขื่อนขึ้นมา จะต้องมีปัญหาแน่นอน และพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ก็อุดมสมบูรณ์เกินกว่าที่จะเอาพื้นที่ป่าไปสร้างเขื่อน จึงทำหนังสือแจ้งคชก.ว่า จากข้อมูล ข้อเท็จจริงและสภาพที่เป็นอยู่เวลานี้ กรมอุทยานฯไม่เห็นด้วยกับการสร้างเขื่อนแม่วงก์"นายนิพนธ์ กล่าว
นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการ สผ.กล่าวว่า ได้รับหนังสือจากกรมอุทยานฯแล้ว จะนำแจกในคชก.ในที่ประชุม ถือเป็นข้อมูลสำคัญข้อมูลหนึ่งสำหรับการพิจารณา
"ความจริงแล้วก็ค่อนข้างชัดเจนว่าในเมื่อต้นเรื่องหรือเจ้าของพื้นที่ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่โครงการนี้ก็แทบจะไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่เรื่องการเข้าไปศึกษา หาข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษา เพื่อขอทำโครงการนั้นก็เป็นเรื่องของเจ้าของโครงการ คือกรมชลประทาน เขาก็ยังมีสิทธิทำ แต่ก็จะเข้าๆออกๆอยู่แบบนี้แหละครับ แต่คงยากเพราะเจ้าของที่เขาไม่อนุญาต"นายเกษมสันต์ กล่าว
เวลา 13.30 น. นายเกษมสันต์ เชิญให้นายศศิน และนางรตยา จันรเทียร ประธานมูลนิธิสืบฯ เข้าไปชี้แจงเรื่อง ทางเลือกการจัดการน้ำสำหรับแหล่งน้ำขนาดเล็ก ทางเลือก ที่ดีกว่าการสร้างเขื่อน ให้คชก.รับฟัง
นายสมฤทัย ทะสดวก อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า จากการลงพื้นที่ อ.แม่วงก์ จ.อุทัยธานี พบว่า รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EHIA) โครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ละเลยการจัดการน้ำในชุมชน ทั้งนี้ ภายในพื้นที่ชุมชนที่ได้รับการอ้างอิงจากEHIA ว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการสร้างเขื่อน มีอาคารที่ใช้ควบคุมน้ำเดิมอยู่แล้ว แต่อยู่ในสภาพที่ขาดการดูแล ไม่มีการบริหารจัดการที่ดี ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้จริง ทั้งคนในพื้นที่บางส่วนก็ไม่ทราบ ว่ามีอาคารควบคุมน้ำอยู่ด้วย แสดงให้เห็นถึงปัญหาพื้นฐานของการจัดการบริหารงานด้านน้ำของหน่วยงานในท้องถิ่น ซึ่งหากมีการจัดการที่ดี ก็จะสามารถใช้งานจากอาคารควบคุมน้ำเหล่านี้ได้
นอกจากนี้ ยังพบว่า อาคารควบคุมน้ำหรือฝาย ที่อยู่ในสภาพใช้งานไม่ได้ การก่อสร้างที่ไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อน้ำมาอาคารหรือสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ก็พัง ไม่สามารถใช้งานได้จริง ตามระยะเวลาอายุงานที่ควรจะเป็นตามจริงหากมีการจัดการบริหารระบบน้ำพื้นฐานในชุมชน หรือการผันน้ำเข้าสู่อ่างเก็บน้ำตามชุมชนที่มีอยู่แล้วในหน้าแล้ง การสร้างเขื่อนก็ไม่มีความจำเป็น
"เขื่อนบางเขื่อนที่ทำมา ทุกวันนี้น้ำไม่มี ปัญหา จึงอยู่ที่การจัดการน้ำพื้นฐาน ระบบหน่วยงานในท้องถิ่น ไม่ต้องสร้างเขื่อน ไม่ต้องทำลายป่า”นายสมฤทัย กล่าว
รศ.สุวัฒนา จิตตลดากร อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมน้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการวิศวกรรมแหล่งน้ำ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการด้านวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ และแหล่งน้ำจากหลากหลายสถาบัน ได้ศึกษาและพบว่ารายงานการศึกษาอีเอสไอเอ ยังมีข้อบกพร่องหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนการวิเคราะห์ทางเลือกของโครงการเพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดนั้น ยังไม่ถูกต้องสมบูรณ์ตามหลักวิชาการ อีกทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำยังขาดความชัดเจน
ส่วนการอ้างถึงประโยชน์ของการสร้างเขื่อนเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม พบว่าการสร้างเขื่อนไม่มีนัยยะสำคัญต่อการป้องกันน้ำท่วมลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ส่วนปัญหาน้ำท่วมในอำเภอลาดยาว ก็เกิดจากปัญหาเฉพาะถิ่นที่ขาดการบริหารจัดการระบบระบายน้ำในพื้นที่บริเวณนั้น ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยไม่ต้องสร้างเขื่อนแม่วงก์ วสท. จึงขอร่วมคัดค้านการพิจาณาอีเอสไอเอเขื่อนแม่วงก์
http://www.matichon.co.th/
###_ ปิดฉากเขื่อนแม่วงก์ กรมอุทยานร่อนหนังสือถึงคชก.ค้าน ชี้ป่าสมบูรณ์เกินกว่าจะให้มีเขื่อน _###
วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ที่นั่งปักหลัก แสดงความไม่เห็นด้วยเรื่องการสร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยในวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการ(คชก.) พิจารณาโครงการด้านแหล่งน้ำ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้า ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม จัดเวทีเสวนา เรื่อง จากแม่วงก์ ถึง คชก.ใครลักไก่ อีไอเอ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเจรจากับผู้ประสานชมรมรักข่าวสิ่งแวดล้อมโดยขอให้ยุติการจัดเวทีและให้แนวร่วมและผู้ที่เดินทางมาวันนี้สามารถไปแสดงความคิดเห็นกับสผ.ได้เพราะหากมีการจัดเวทีจะเป็นการสร้างความขัดแย้งและอาจจะเกิดความกับฝ่ายสนับสนุนกลุ่มyesเขื่อนแม่วงก์ ที่เดินทางมาที่ด้านหน้าประตู 1 ของสผ.
ภายหลังที่ไม่สามารถจัดเวทีเสวนาครั้งนี้ได้ นายศศินได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ยืนยันว่าเป็นการให้กำลัง คชก.ชุดนี้ ว่าข้อเสนอต่างๆเกี่ยวกับทางเลือกในการบริหารจัดการน้ำที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรได้ยื่นให้กับคชก.ไปแล้วทั้งนั้นยอมรับว่าลำบากที่ต้องมาใช้ชีวิตข้างถนนแต่เป็นความตั้งใจที่จะแสดงออกว่าเป็นต้องการส่งข้อมูลก็เชื่อว่า คชก.จะนำไปพิจารณาร่วมด้วย การที่ทหารสั่งห้ามจัดเสวนา ตนเข้าใจ เพราะอาจไปกระทบกฎอัยการศึกได้
ทางด้านนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า จากการประชุมคชก.โครงการเขื่อนแม่วงก์ ครั้งที่ผ่านมา ตัวแทนกรมอุทยานฯที่เข้าประชุม กลับมารายงานว่า มีข้อมูลหลายอย่างมากที่บริษัทที่ปรึกษา นำเสนอในที่ประชุมนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จหลายเรื่อง โดยเฉพาะ เรื่องสัตว์ป่า สภาพพื้นที่ป่า และเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งตามสภาพแล้วป่าแม่วงก์ เป็นป่าที่มีความสมบูรณ์อย่างมาก เป็นที่อยู่อาศัยที่สำคัญของเสือโคร่ง ที่ขยายพันธุ์ออกจากพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
"ที่สำคัญคือ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์นั้น เป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับพื้นที่มรดกโลก ซึ่งในอนาคต จะต้องผนวกรวมพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่มรดกโลกด้วย กรมอุทยานฯเรามองว่า หากปล่อยให้เกิดการสร้างเขื่อนขึ้นมา จะต้องมีปัญหาแน่นอน และพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ก็อุดมสมบูรณ์เกินกว่าที่จะเอาพื้นที่ป่าไปสร้างเขื่อน จึงทำหนังสือแจ้งคชก.ว่า จากข้อมูล ข้อเท็จจริงและสภาพที่เป็นอยู่เวลานี้ กรมอุทยานฯไม่เห็นด้วยกับการสร้างเขื่อนแม่วงก์"นายนิพนธ์ กล่าว
นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการ สผ.กล่าวว่า ได้รับหนังสือจากกรมอุทยานฯแล้ว จะนำแจกในคชก.ในที่ประชุม ถือเป็นข้อมูลสำคัญข้อมูลหนึ่งสำหรับการพิจารณา
"ความจริงแล้วก็ค่อนข้างชัดเจนว่าในเมื่อต้นเรื่องหรือเจ้าของพื้นที่ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่โครงการนี้ก็แทบจะไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่เรื่องการเข้าไปศึกษา หาข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษา เพื่อขอทำโครงการนั้นก็เป็นเรื่องของเจ้าของโครงการ คือกรมชลประทาน เขาก็ยังมีสิทธิทำ แต่ก็จะเข้าๆออกๆอยู่แบบนี้แหละครับ แต่คงยากเพราะเจ้าของที่เขาไม่อนุญาต"นายเกษมสันต์ กล่าว
เวลา 13.30 น. นายเกษมสันต์ เชิญให้นายศศิน และนางรตยา จันรเทียร ประธานมูลนิธิสืบฯ เข้าไปชี้แจงเรื่อง ทางเลือกการจัดการน้ำสำหรับแหล่งน้ำขนาดเล็ก ทางเลือก ที่ดีกว่าการสร้างเขื่อน ให้คชก.รับฟัง
นายสมฤทัย ทะสดวก อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า จากการลงพื้นที่ อ.แม่วงก์ จ.อุทัยธานี พบว่า รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EHIA) โครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ละเลยการจัดการน้ำในชุมชน ทั้งนี้ ภายในพื้นที่ชุมชนที่ได้รับการอ้างอิงจากEHIA ว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการสร้างเขื่อน มีอาคารที่ใช้ควบคุมน้ำเดิมอยู่แล้ว แต่อยู่ในสภาพที่ขาดการดูแล ไม่มีการบริหารจัดการที่ดี ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้จริง ทั้งคนในพื้นที่บางส่วนก็ไม่ทราบ ว่ามีอาคารควบคุมน้ำอยู่ด้วย แสดงให้เห็นถึงปัญหาพื้นฐานของการจัดการบริหารงานด้านน้ำของหน่วยงานในท้องถิ่น ซึ่งหากมีการจัดการที่ดี ก็จะสามารถใช้งานจากอาคารควบคุมน้ำเหล่านี้ได้
นอกจากนี้ ยังพบว่า อาคารควบคุมน้ำหรือฝาย ที่อยู่ในสภาพใช้งานไม่ได้ การก่อสร้างที่ไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อน้ำมาอาคารหรือสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ก็พัง ไม่สามารถใช้งานได้จริง ตามระยะเวลาอายุงานที่ควรจะเป็นตามจริงหากมีการจัดการบริหารระบบน้ำพื้นฐานในชุมชน หรือการผันน้ำเข้าสู่อ่างเก็บน้ำตามชุมชนที่มีอยู่แล้วในหน้าแล้ง การสร้างเขื่อนก็ไม่มีความจำเป็น
"เขื่อนบางเขื่อนที่ทำมา ทุกวันนี้น้ำไม่มี ปัญหา จึงอยู่ที่การจัดการน้ำพื้นฐาน ระบบหน่วยงานในท้องถิ่น ไม่ต้องสร้างเขื่อน ไม่ต้องทำลายป่า”นายสมฤทัย กล่าว
รศ.สุวัฒนา จิตตลดากร อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมน้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการวิศวกรรมแหล่งน้ำ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการด้านวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ และแหล่งน้ำจากหลากหลายสถาบัน ได้ศึกษาและพบว่ารายงานการศึกษาอีเอสไอเอ ยังมีข้อบกพร่องหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนการวิเคราะห์ทางเลือกของโครงการเพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดนั้น ยังไม่ถูกต้องสมบูรณ์ตามหลักวิชาการ อีกทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำยังขาดความชัดเจน
ส่วนการอ้างถึงประโยชน์ของการสร้างเขื่อนเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม พบว่าการสร้างเขื่อนไม่มีนัยยะสำคัญต่อการป้องกันน้ำท่วมลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ส่วนปัญหาน้ำท่วมในอำเภอลาดยาว ก็เกิดจากปัญหาเฉพาะถิ่นที่ขาดการบริหารจัดการระบบระบายน้ำในพื้นที่บริเวณนั้น ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยไม่ต้องสร้างเขื่อนแม่วงก์ วสท. จึงขอร่วมคัดค้านการพิจาณาอีเอสไอเอเขื่อนแม่วงก์
http://www.matichon.co.th/