ช่วงนี้หลายพื้นที่กำลังประสบอยู่กับน้ำท่วมโดยเฉพาะ ในพื้นที่ ภาคอิสานตอนล่าง  ภาคกลาง และภาคตะวันออก อย่าง จ.ปราจีนบุรี และ อุบลราชธานี
ก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกคนด้วยก็แล้วกัน เพราะบ้านผมที่ พระนครศรีอยุธยา ก้โดนไม่ใช่น้อยๆ เข้าประเด็นกันเลยดีกว่า
หลายคนที่ได้ติดตามข่าวเรื่องการเดินเท้าจากป่าสู่กรุงของนาย ศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร พร้อมกับกลุ่มผู้คัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ร่วมเดินเท้าจากหน่วยพิทักษ์ป่าแม่เรวา อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ถึงหอศิลปวัฒนะธรรมกรุงเทพ ด้วยระยะทาง 388 กิโลเมตร ซึ่งตลอดเส้นทางก็มีผู้ร่วมคัดค้านมาเดินขบวน จนมาถึงจุดหมายที่หอศิลปวัฒนะธรรมกรุงเทพ ก็มีผู้คนมาร่วมแสดงเจตนารมณ์ที่จะคัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์
ก็อื่นขออธิบายก่อนว่าเขื่อนแม่วงก์ได้ผ่านการศึกษาผลกระทบบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมหรือที่เรียกว่า EHIA และคณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติให้ทำการสร้างเขื่อนแม่วงก์เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2555 ซึ่งฝ่ายที่สนับสนุนอย่าง นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. ยืนยันว่า การสร้างเขื่อนนั้นจะเป็นทีกักเก็บน้ำใหน้าแล้ง และเก็บน้ำในหน้าฝน ในพื้นที่ อ.แม่วงก์ และ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ และ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี โดยจะมาเสริมการเก็บน้ำจากเขื่อนวังร่มเกล้าที่มีขนาดเล็ก และเป็นเขื่อนทดน้ำ เหมือนเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 และถ้าเราได้ติดตามข่าวก็จะได้ยินว่าชาวบ้านพื้นที่ดังกล่าวก็ต้องการที่จะให้สร้างเขื่อนด้วยเช่นกัน  ผมได้ดูช่วงเจาะข่าวเด่นที่ได้เชิญทั้งคุณศศิน และขาวบ้านในพื้นที่มาให้สัมภาษณ์ ถ้าใครได้ดูก็จะเห็นว่าเหมือนทั้ง 2 ฝ่าย จะถือรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมหรือ EHIA คนละฉบับ
สุดท้ายนี้ต้องขออภัยด้วยอาจจะต้องมีการแก้ไขข้อความบางส่วนเพื่อไม่ให้เป็นการชี้นำ