‘ก้าวไกล’ แนะ ให้ชุมชนมีส่วนร่วมแท้จริงก่อนประกาศ อช.ถ้ำผาไท เตรียมค้านแผนที่ท้ายกฤษฎีกา
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4157830
 
 
แนะ อุทยานฯเปิดให้ชุมชนมีส่วนร่วมแท้จริง ส.ส.ก้าวไกลยันกะเหรี่ยงป่าถ้ำผาไทอยู่ก่อนหน่วยงานป่าไม้-อุทยานฯ ผู้ใหญ่บ้านจวกทางการให้ร้ายชุมชนหวังประกาศเขต-10 หมู่บ้านอยู่กับป่าเตรียมระดมพลคัดค้านแผนที่แนบท้ายกฤษฎีกาเหตุไม่ทำตามข้อตกลง

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล(กก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช(อส.) เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ในการกำหนดเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท (เตรียมการ) จังหวัดลำปาง เพื่อเตรียมการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยมีพื้นที่รับผิดชอบประมาณ 448,933.43 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 5 อำเภอ 13 ตำบล ของจังหวัดลำปาง ว่า กลไกการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนมีความสำคัญ รวมทั้งกลไกขององค์กรส่วนท้องถิ่นทั้งเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ต้องมีการจัดรับฟังความคิดเห็นให้ชุมชนมีส่วนร่วม
 
“ผมคิดว่าเมื่อประชาชนเองก็ไม่ได้คัดค้านการประกาศเขตอุทยานพื้นที่อนุรักษ์ ส่วนสำคัญคือว่าเมื่อมีการประกาศกระบวนการทำแผนที่แนวเขตที่จะต้องกันพื้นที่ชุมชนออกมา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน หรือที่ประชาขนใช้ร่วมกัน เช่น ป่าชุมชนอนุรักษ์ ป่าชุมชนใช้สอย พื้นที่ต้องถูกกันออก ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญ หน่วยงานจะประกาศเขตอนุรักษ์เพิ่มเติม ทุกคนก็อยากอนุรักษ์อยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรไม่ให้ทับซ้อนกับพื้นที่บริหารจัดการของชุมชน นั่นคือกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการต่างๆจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก” นายมานพ กล่าว
 
ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นชาวกะเหรี่ยงอยู่ในพื้นที่ประกาศของอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท (เตรียมการ) และการใช้แผนที่อาจไม่เป็นธรรม ส.ส.แบบบัญชีพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่บอกพี่น้องชาวกะเหรี่ยงอยู่ในพื้นที่ถ้ำผาไท ต้องเปลี่ยนคำถามใหม่ เนื่องจากอุทยานกำลังจะมาทับพื้นที่ของพี่น้องชาวกะเหรี่ยง
 
“ชาวกะเหรี่ยงอยู่มาก่อน อุทยานฯกำลังจะมาทับที่ของพี่น้อง กรณีกะเหรี่ยงบ้านกลาง อ.แม่เมาะ อยู่มาร้อยกว่าปีก่อนกฎหมายใดๆ ก่อนป่าไม้จะประกาศด้วยซ้ำไป สิ่งสำคัญก็ต้องกลับมาหลักการเดิมคือการประกาศพื้นที่อนุรักษ์ต่างๆ ชุมชนเห็นร่วมอยู่แล้วที่จะมีการอนุรักษ์ แต่จะทำอย่างไรให้พื้นที่ที่เขาดูแลมาร้อยๆปีและมันดีอยู่แล้ว ประชาชนก็อยากจะออกความคิดเห็นของตัวเอง กันพื้นที่ทำกินที่อยู่อาศัยออก ทำให้ชัดเจนว่าพื้นที่อุทยานอยู่ตรงไหน พื้นที่ประชาชนอยู่ตรงไหน แต่ถ้าประกาศทับพื้นที่ประชาชน ผมคิดว่าประชาชนมีเหตุผลที่ออกมาคัดค้านยืนหยัดในหลักสิทธิของชุมชน” นายมานพ กล่าว
 
นายสมชาติ รักษ์สองพลู ผู้ใหญ่บ้านบ้านกลาง หมู่ 5 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการประกาศเขตอุทยานฯในครั้งนี้ กล่าวว่าในวันที่ 2 กันยายน ชาวบ้านกว่า 10 หมู่บ้านจะร่วมหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรกับกรณีที่อุทยานฯเตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็น เพราะการที่กรมอุทยานฯระบุเหตุผลว่าต้องรีบประกาศอุทยานฯเนื่องจากมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่านั้น เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงและโยนควาผิดให้ชาวบ้านเพื่อทำให้สังคมเข้าใจว่าชาวบ้านดูแดลเป่ากันเองไม่ได้
 
“เราดูแลป่าไม้กันมานับร้อยๆปี จนเหลือป่าผืนใหญ่ก่อนที่อุทยานฯจะเข้ามาเสียอีก ผมถามว่าการที่อุทยานฯไปประกาศว่ามีการลักลอบตัดไม้ แล้วทำไมท่านถึงไม่จัดการ ผมเห็นในพื้นที่อุทยานฯอื่นๆที่ประกาศเป็นอุทยานฯไปแล้วก็มีการลักลอบตัดไม้และการลักลอบค้าสัตว์ป่า เพราะฉะนั้นอย่ามาบ่ายเบียงเพื่อให้สังคมเข้าใจผิด เพราะแท้ที่จริงแล้วมันก็แค่ข้ออ้างที่พวกคุณอยากเข้ามาควบคุมและจัดตั้งอุทยานฯ การใช้ข้ออ้างแบบนี้ผมว่ายิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีก เพราะให้ร้ายกัน” พ่อหลวงบ้านกลาง กล่าว
 
นายสมชาติ กล่าวว่า ประเด็นที่ชาวบ้านติดใจมากก็คือในแผนที่ที่จะใช้แนบท้ายประกาศกฤษฏีกา เพราะแผนที่ฉบับที่อุทยานฯเตรียมประกาศนั้นเป็นคนละฉบับที่เคยตกลงไว้กับชุมชน โดยชุมชนพยายามยืนยันแผนที่ฉบับเมื่อปี 2563 ที่ชาวบ้านหมู่บ้านต่างๆได้ร่วมสำรวจกับอำเภอและอบต.รวมถึงอุทยานฯ แต่ปรากฏว่าอุทยานฯกลับไปใช้แผนที่เก่าเมื่อปี 2542 ซึ่งอุทยานฯทำขึ้นมาเองโดยไม่รับฟังเสียงชาวบ้าน และแผนที่ดังกล่าวทับซ้อนกับพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน รวมทั้งไม่ยอมกันพื้นที่ป่าจิตวิญญาณของชุมชนออก

---

‘บุ้ง-หยก-บิวตี้’ ขอบคุณ ‘ป้ามล’ ไม่เคยหมดหวัง พร้อมโอบอุ้ม ส่งเสียงเพื่อเด็กและเยาวชน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4157758

‘บุ้ง-หยก-บิวตี้’ ขอบคุณ ‘ป้ามล’ ไม่เคยหมดหวัง พร้อมโอบอุ้ม ส่งเสียงเพื่อเด็กและเยาวชน
 
จากกรณีที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ จัดกิจกรรมพานักเรียนไปค่ายเรียนภาษาจีนที่ จ.นครปฐม ซึ่งในเวลาต่อมา หยก ธนลภย์ เยาวชนผู้เคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ยืนขวางรถบัสเพื่อไม่ให้รถออก กระทั่งรถทัศนศึกษาเปลี่ยนทางออกเพื่อไปอีกเส้นทางหนึ่งนั้น
 
เมื่อวันที่ 1 กันยายน นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน โพสต์ข้อความผ่าน “Thicha Nanakorn” ระบุว่า

“นอกเหนือจาก … พ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้สนใจ-ติดตาม
วันสู่เหย้า&พิธีขอขมาเหยื่อและเยียวยาความผิดพลาด งานประจำปีบ้านกาญจนาภิเษก กลุ่มทะลุวัง บุ้ง หยก บิวตี้ ได้มาร่วมงานด้วย ทั้ง 3 คน อยู่ในงานทั้งภาคกลางวันและพิธีกรรมกลางคืน
รวมถึง … การปฏิบัติตามกติกาอย่างเคร่งครัด ไม่มีอะไรต้องลุ้น ต้องคำราม

ก่อนกลับ บุ้ง หยก บิวตี้ ได้เขียนบันทึกให้กับพวกเราได้อ่านเช่นเดียวกับแขกคนอื่นๆ
ป้าและเจ้าหน้าที่บ้านกาญจนาฯ …ปลื้มใจ ดีใจ และขอบคุณผู้มาเยือนทุกคนที่ให้เกียรติพวกเรา”
 
ซึ่งในบันทึกนั้น หยก ได้เขียนข้อความมีสาระสำคัญ คือ บ้านกาญจนาฯ ทำให้เราเห็นและคิดได้ว่า นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น การจับเด็ก และเยาวชนมาควบคุมควรทำให้มีประสิทธิภาพ
 
หวังว่าสักวันสถานที่กักขังเด็กจะพัฒนาศักยภาพเด็ก เข้าใจ เป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็ก หรือเป็นอย่างบ้านกาญจนาฯ
 
ส่วน บิวตี้ ได้เขียนบันทึกมีใจความตอนหนึ่งว่า รู้สึกดีใจมากๆ ป้ามล พี่ๆ คุณครู ทำให้เรามีมุมมองหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไป ขอบคุณป้ามล ที่ไม่เคยหมดหวังในตัวของผู้กระทำ ขอบคุณที่โอบอุ้ม และส่งเสียงเพื่อเด็กและเยาวชน ในสังคมไทย 
 
ขณะที่ บุ้ง ได้เขียนบันทึกตอนหนึ่งว่า ป้ามลเป็นแรงบันดาลใจให้บุ้งเสมอมา ขอบคุณป้าที่ไม่เคยยอมแพ้ 
 
นอกจากนี้ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเพิ่มเติมว่า
 
“การคืน … ค่าเทอมสามารถใช้เป็นข้ออ้างไม่ให้หยกเรียนหนังสือ ไม่ให้ไปทัศนศึกษา เพราะสิทธิในการเป็นนักเรียนของหยกได้สิ้นสุดลงเเล้ว
ถือว่า … มีชอบธรรมในฐานะที่โรงเรียนคือสถาบันทางสังคมที่มีทั้งหน้าที่ ทั้งพื้นที่ รับมือ  สร้างพลังบวกในการเรียนรู้ให้กับนักเรียน สร้างทัศนคติที่ถูกต้อง ไม่ฉ้อฉล ในการเป็นพลเมืองในระบอบประชาชน
องค์กร … ที่มีอยู่ในสังคมที่เกี่ยวข้องกับสิทธิการศึกษาของเด็ก เยาวชน สิทธิมนุษยชน มองปรากฎการณ์นี้อย่างไร
ไม่น่าเชื่อจริงๆ … ที่ผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่ต่างๆ ปล่อยให้ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้น เกิดขึ้น เกิดขึ้น อย่างยาวนาน
เสมือน … การปล่อยให้เด็กหนึ่งอยู่ในขั้วตรงข้ามกับผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ มีความรับรับผิดชอบ โดยมองอะไรไม่ออก มองไม่เป็น มองอะไรเป็นลบ
อยากรู้ … ศาสตร์ต่างๆ ที่เรียนกันมา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเยาวชนเชิงบวก สันติวิธี เทคนิค child to child มนุษยนิยม ฯลฯ มันอยู่ตรงไหนหมด หรืออำนาจนิยมยึดพื้นที่ไปหมดแล้ว
 
อย่าลืม … เด็กทุกคนไม่เคยเป็นผู้ใหญ่ ไม่เคยอายุ 45 ปี แต่ผู้ใหญ่ทุกคนเคยเป็นเด็ก เคยอายุ 15 ปี
อย่าบอก … ให้เอาหยกไปเลี้ยงนะ จะด่ากลับว่า xxx
ภาพนี้ … หยกอยู่ในพิธีกรรมฯ บ้านกาญจนาฯ : งานภาคกลางคืน งานประจำปีบ้านกาญจนาฯ
#พิธีกรรมขอขมาเหยื่อเเละเยียวยาความผิดพลาด
#วันสู่เหย้าบ้านกาญจนาภิเษก
#บ้านกาญจนาภิเษก #มูลนิธิชนะใจ”
 
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=10072635262810105&id=100001911932080

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0YpKPHU2sH7yV6MU792apBD6NmF8W5ouAYTMJCy79ze6yUyVcj9qCmRFY54gouLeMl&id=100001911932080

---

นักวิเคราะห์ เตือน บาทผันผวน คาดแกว่งตัว 34.80-35.30 บาท/ดอลล์
https://www.matichon.co.th/economy/news_4157588

นักวิเคราะห์ เตือน บาทผันผวน ช่วงรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ คาดแกว่งตัว 34.80-35.30 บาท/ดอลล์
 
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.01 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.90-35.10 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และประเมินกรอบเงินบาท ในช่วง 34.80-35.30 บาทต่อดอลลาร์ หลังตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน sideway (แกว่งตัวในช่วง 34.92-35.04 บาทต่อดอลลาร์) ตามทิศทางของเงินดอลลาร์และราคาทองคำ โดยเงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ หลังบรรยากาศในตลาดการเงินกลับมาอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวมากขึ้น ก่อนรับรู้รายงานยอดการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้
 
นายพูนกล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท ในช่วงก่อนที่ตลาดจะทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ เงินบาทอาจเคลื่อนไหว sideway  ในกรอบไม่ต่างจากช่วงวันก่อนหน้า อย่างไรก็ดี เห็นทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในส่วนของตลาดหุ้นยังมีความไม่แน่นอน (มีการซื้อสุทธิ สลับกับการขายสุทธิในช่วงที่ผ่านมา) ทำให้เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง หากนักลงทุนต่างชาติทยอยขายทำกำไรหุ้นไทย หลังดัชนี SET และ SET50 ได้รีบาวด์ขึ้นใกล้โซนแนวต้านสำคัญ
 
แม้ว่า เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าบ้าง แต่เงินบาทก็อาจไม่ได้อ่อนค่าไปมากนัก เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างก็รอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจยังไม่อยากปรับสถานะถือครองไปมากนัก ก่อนรับรู้ข้อมูลดังกล่าว โดยประเมินว่า โซนแนวต้านของเงินบาทอาจยังอยู่ในช่วง 35.10-35.20 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ
 
นอกจากนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนของตลาดการเงินในช่วงก่อนและหลังทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ โดยธีมหลักของตลาดในช่วงนี้ ยังคงเป็น “Bad data is Good news for the market” หรือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาด หรือ สะท้อนภาพเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากขึ้น จะส่งผลให้ตลาดเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงได้ เนื่องจากข้อมูลดังกล่าว อาจลดโอกาสธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย หรือ คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานขึ้น