เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ผู้เขียนเล่าจากประสบการณ์ตรงตามเค้าโครงเรื่องจริง
ไม่มีเรื่องแต่งผสมแม้แต่น้อย เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจท่านนักกอล์ฟ
ที่กำลังอาจจะเผลอใจไปกับสุภาพสตรี ที่ทำหน้าที่เป็นแคดดี้ในสนามกอล์ฟ
ก๊วนกอล์ฟประจำของผู้เขียน (เพื่อนที่เล่นกอล์ฟกันประจำ ภาษากอล์ฟจะเรียกเพื่อนที่เล่นกอล์ฟด้วยกันว่าก๊วน ถ้าเล่นกันประจำจะเรียกว่าก๊วนประจำ และถ้าก๊วนนั้นมีเดิมพันได้เสีย และเล่นได้ประจำก็จะเรียกว่า ก๊วนปิ่นโต ) ก๊วนของผู้เขียนยังไม่ถึงกับเป็นก๊วนปิ่นโต เพราะผลัดกันได้ผลัดกันเสีย แต่ก็ยังเล่นกันอยู่ประจำ มีผู้เขียน นายสี่ พี่ภากร และ โปรกำปา รวมกันสี่คน เวลาไปสนามไหน พวกเราก็จะนัดกันไปสี่คน แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำก๊วนก็คือต้องมีแคดดี้ห้าคน เลยเป็นที่มาของชื่อก๊วน
นายสี่แคดดี้ห้า
เรื่องของเรื่องก็เป็นไปตามรสนิยมประจำก๊วน โดยเฉพาะนายสี่ ที่จะต้องเรียกแคดดี้ มาตามกางร่มให้เสมอ นายสี่เล่าให้ฟังว่า เวลามีแคดดี้มากางร่ม จะรู้สึกมีกำลังใจ ตีไกล ไดร์ฟตรง ถึงธงจะจ่ายตังส์ก็ไม่เป็นไร เพราะมีกำลังใจที่จะจ่าย
เรื่องของเรื่อง จะไม่เกิดปัญหา ถ้านายสี่ มีปัญญา แต่ดันไปต้องชะตากับ น้อง ข. นามสมมุติ ( เป็นนามสกุลที่ใหญ่มากๆ เพราะลงข่าวหนังสือพิมพ์บ่อยมาก ) น้อง ข. นามสมมุติ มาเป็นแคดดี้กางร่มให้นายสี่ ในวันที่นัดพวกเราไปเล่นกอล์ฟอยู่วันหนึ่ง หลังจากนั้น ก๊วนนายสี่แคดดี้ห้า ก็เป็นขาประจำของสนามแห่งนั้น โดยมีผู้เขียน พี่ภากร และ โปรกำปา ตามไปเป็นสักขีพยานรักระหว่างนายสี่ กับน้อง ข. นามสมมุติ เหมือนเดิม เพียงแต่ พี่ภากร และโปรกำปา ชอบที่จะเรียกแคดดี้ขาจรมากกว่าขาประจำ อันนี้ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าเป็นรสนิยมส่วนตัว หรือเป็นเพราะความเก๋าเกมส์ของทั้งคู่ ผู้เขียนก็มิอาจคาดเดาได้ ดังสุภาษิต กินในที่ลับ ย่อมไม่เล่าความในที่แจ้ง แปลว่า ถ้าเป็นที่ลับตา ผู้เขียนจึงจะเล่าให้ฟัง ถึงรสนิยมของ พี่ภากร และโปรกำปา ก็แล้วกัน
ช่วงดอกรักผลิบานเต็มกรีน ก๊วนนายสี่แคดดี้ห้า แทบจะหวานหมดจรดจนมดแทบจะขึ้นกรีนก็ว่าได้ ใช่แต่นายสี่กับน้อง ข. เท่านั้น ที่คอยให้กำลังใจกันและกัน พี่ภากรกับโปรกำปา ก็พลอยผสมโรงเพิ่มความหวาน สร้างบรรยากาศ สวิงสวีทหวาน ความรักอีสออลอะราวอินเดอะโฮลล์กันเลยทีเดียว หลังจากความรักผลิบานเต็มที่ นายสี่ก็ตัดสินใจที่จะรับ น้อง ข. นามสมมุติ มาอยู่เป็นคู่ชีวิต โดยจัดพิธีสู่ขอ กันตามประเพณี มีการปิดสนามเลี้ยงเพื่อนนักกอล์ฟกันเลยทีเดียว เพียงแต่ยังไม่ได้ทำถึงขั้นออกรายการของฝากนักกอล์ฟ เท่านั้นเอง
เล่ามาเสียยืดยาว ไฮท์ไลท์จริงๆ คือชีวิตหลังจากนั้นของนายสี่ เพราะเหรียญย่อมมีสองด้าน สนามกอล์ฟย่อมมีสองรอบ แบ่งเป็นเก้าหลุมแรก กับเก้าหลุมหลัง ความรักของน้อง ข. นามสมมุติ กับนายสี่ ก็เช่นกัน พอหมดเก้าหลุมแรกช่วงหวานแหวว ถ้อยทีถ้อยอาศัย ก็ย่อมต้องเข้าสู่ช่วงเก้าหลุมหลัง อันเป็นช่วงที่เริ่มเทอร์โบทุกหลุม สกินส์ไม่อั้น ต้มยำพาร์สาม ยอดอ บางทีอาจจะลามไปถึงฮันนีมูนสวีทซุปเปอร์ดีลักซ์แกรนด์เทอร์โบกันเลยทีเดียว
เรื่องเล่าเช้า สาย บ่าย ค่ำ จนไปถึงรอบดึก ไม่ได้รายงานเอาไว้ว่า หลังจากนั้น นายสี่ไม่มีสิทธิ์ ในการเล่นกอล์ฟ ตามอำเภอใจ
โดยจะต้องปฏิบัติตามกฎ ของน้อง ข. นามสมมุติ อย่างเคร่งครัดดังนี้
1. ห้ามไปเล่นกอล์ฟสนามอื่น ถ้าจะเล่นต้องไปเล่นสนามที่ น้อง ข. นามสมมุติ ทำงานอยู่เท่านั้น
2. น้อง ข. นามสมมุติ ผูกขาดการกางร่ม และมีสิทธิ์ขาดในการเลือกป้า มาลากถุงให้กับนายสี่ และพี่ๆร่วมก๊วน
3. วันไหนที่ น้อง ข. นามสมมุติ ไม่อยากเดิน ในก๊วนจะต้องใช้รถเท่านั้น
4. ตอนลงถุงกอล์ฟ นายสี่จะต้อง นำถุงกอล์ฟ ไปใส่รถเข็นให้น้อง ข. นามสมมุติให้เรียบร้อย
5. ห้ามให้ รอนานเกินห้านาที หมายความว่า ลงถุงเสร็จให้รีบซื้อตั๋ว แล้วลงมาทีออฟเลย ห้ามเข้าล็อคเก้อร์ หรือโอ้เอ้ อยู่บนคลับเฮ่าส์
น้อง ข. นามสมมุติไม่ปลื้ม
6. ถึงเวลาทีออฟ จะออกด้วยไม้อะไร ให้หยิบเอง ห้ามเลือก ห้ามถาม เตรียมลูกกอล์ฟเอง เตรียมทีตั้งลูกเอง ห้ามถามว่าตีไปตรงไหน ทรายอยู่ตรงไหน น้ำอยู่ตรงไหน ตั้งลูกเอง แล้วก็ตีไปซะ
7. ระหว่างเดินไปเล่นช๊อตต่อไป ห้ามเดินเร็ว ให้เดินรอ อย่าถามว่าลูกอยู่ไหน ตีเองก็ต้องหาเอง และอย่าหาลูกนาน ขี้เกียจรอ เมื่อย อย่าทำให้หงุดหงิด ซ่อมรอยที่ตีเองด้วย
8. ช๊อตขึ้นกรีน อย่าถามว่าธงปักหน้า ปักกลาง หรือ ปักหลัง ไม่งั้น จะโดนคันร่ม ปักเอากลางหลังได้
9. อย่าตกทราย เพราะต้องลงไปเกลี่ยทรายเอง มากางร่มไม่ได้มานั่งเกลี่ยทราย ห้ามใช้แคดดี้คนอื่นทำ นี่คือกฎของน้อง ข. นามสมมุติ
10. ถึงเวลาพัตต์ ห้ามถามไลน์เป็นอันขาด ไม่งั้น น้อง ข. นามสมมุติ จะขึ้นทันที เพราะก่อนคบพี่นายสี่ หนูไม่เคยมีลาย แต่พอคบอยู่กินกับพี่เท่านั้นแหล่ะ นายสี่เล่นทำลายเต็มหน้าท้องหนูเลย เพราะฉะนั้นอย่าถามไลน์ เพราะหนูยังเคืองอยู่
11. จบหลุม ห้ามเสีย แต่ถ้าได้ น้อง ข. นามสมมุติ ขอเก็บเข้ากระเป๋าทุกบาท ทุกสตางค์
12. ต้องแวะทุกซุ้ม น้องเหนื่อย และหิวมาก
13. เล่นเสร็จ เก็บถุงเอง เช็คไม้เอง และอย่านานเกินห้านาที หมายความว่า เล่นเสร็จให้เก็บไม้ และรับ น้อง ข. นามสมมุติกลับบ้านเลย ข้อนี้สร้างความเซ็งใจให้พี่ภากร กับโปรกำปา เป็นอย่างมาก อุตส่าห์มีเวลาแว๊บๆ ดันมาพรากเวลาดีๆ จากเราไปเสียได้
ผ่านเก้าหลุมหลังไปได้ไม่นาน ก๊วนนายสี่แคดดี้ห้า ก็ค่อยๆหายไปจากสนามกอล์ฟ ผู้เขียนเองก็พยายามตามข่าว ได้ยินแต่เพียงว่า นายสี่ไปขายบะหมี่เกี๊ยว กิจการรุ่งเรือง และไม่กลับเข้าสนามกอล์ฟอีกเลย ส่วนพี่ภากรแคดดี้แถวๆรามอินทรา กม.8 เล่าว่า แกคือผู้ผลักดันให้มีไนท์กอล์ฟตลอดทั้งปี ด้านพี่กำปา ไม่นานมานี้ก็มีคนมาเล่าว่าเห็นแชแกไปไดร์ฟกอล์ฟแถวรัชดา "เอ็มมานูเอล ไดร์ฟวิ่งเร้นช์" เป็นประจำ
ผู้เขียนนำเรื่องราวของก๊วนนี้มาเล่า เพื่อให้เห็นชีวิตอีกด้านหนึ่ง ของนักกอล์ฟ เพื่อให้เห็นเหรียญทั้งสองด้าน และจินตนาการกันได้ถูก เล่นกอล์ฟอย่าโมโหเกินฝีมือ ริจะรักอย่ารักเกินหักห้ามใจ
ศุกร์นับดาว เสาร์นับเลข อาทิตย์นับป๊อยท์ เจอกันครับ คงมีโอกาสได้เล่าเรื่องลับๆบ้าง
https://docs.google.com/forms/d/1X3iBCuOtBdlMvvXav7Li8Hngrq8dFQXhJD9jqy_YD4A/viewform
นายสี่แคดดี้ห้า
ไม่มีเรื่องแต่งผสมแม้แต่น้อย เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจท่านนักกอล์ฟ
ที่กำลังอาจจะเผลอใจไปกับสุภาพสตรี ที่ทำหน้าที่เป็นแคดดี้ในสนามกอล์ฟ
ก๊วนกอล์ฟประจำของผู้เขียน (เพื่อนที่เล่นกอล์ฟกันประจำ ภาษากอล์ฟจะเรียกเพื่อนที่เล่นกอล์ฟด้วยกันว่าก๊วน ถ้าเล่นกันประจำจะเรียกว่าก๊วนประจำ และถ้าก๊วนนั้นมีเดิมพันได้เสีย และเล่นได้ประจำก็จะเรียกว่า ก๊วนปิ่นโต ) ก๊วนของผู้เขียนยังไม่ถึงกับเป็นก๊วนปิ่นโต เพราะผลัดกันได้ผลัดกันเสีย แต่ก็ยังเล่นกันอยู่ประจำ มีผู้เขียน นายสี่ พี่ภากร และ โปรกำปา รวมกันสี่คน เวลาไปสนามไหน พวกเราก็จะนัดกันไปสี่คน แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำก๊วนก็คือต้องมีแคดดี้ห้าคน เลยเป็นที่มาของชื่อก๊วน นายสี่แคดดี้ห้า
เรื่องของเรื่องก็เป็นไปตามรสนิยมประจำก๊วน โดยเฉพาะนายสี่ ที่จะต้องเรียกแคดดี้ มาตามกางร่มให้เสมอ นายสี่เล่าให้ฟังว่า เวลามีแคดดี้มากางร่ม จะรู้สึกมีกำลังใจ ตีไกล ไดร์ฟตรง ถึงธงจะจ่ายตังส์ก็ไม่เป็นไร เพราะมีกำลังใจที่จะจ่าย
เรื่องของเรื่อง จะไม่เกิดปัญหา ถ้านายสี่ มีปัญญา แต่ดันไปต้องชะตากับ น้อง ข. นามสมมุติ ( เป็นนามสกุลที่ใหญ่มากๆ เพราะลงข่าวหนังสือพิมพ์บ่อยมาก ) น้อง ข. นามสมมุติ มาเป็นแคดดี้กางร่มให้นายสี่ ในวันที่นัดพวกเราไปเล่นกอล์ฟอยู่วันหนึ่ง หลังจากนั้น ก๊วนนายสี่แคดดี้ห้า ก็เป็นขาประจำของสนามแห่งนั้น โดยมีผู้เขียน พี่ภากร และ โปรกำปา ตามไปเป็นสักขีพยานรักระหว่างนายสี่ กับน้อง ข. นามสมมุติ เหมือนเดิม เพียงแต่ พี่ภากร และโปรกำปา ชอบที่จะเรียกแคดดี้ขาจรมากกว่าขาประจำ อันนี้ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าเป็นรสนิยมส่วนตัว หรือเป็นเพราะความเก๋าเกมส์ของทั้งคู่ ผู้เขียนก็มิอาจคาดเดาได้ ดังสุภาษิต กินในที่ลับ ย่อมไม่เล่าความในที่แจ้ง แปลว่า ถ้าเป็นที่ลับตา ผู้เขียนจึงจะเล่าให้ฟัง ถึงรสนิยมของ พี่ภากร และโปรกำปา ก็แล้วกัน
ช่วงดอกรักผลิบานเต็มกรีน ก๊วนนายสี่แคดดี้ห้า แทบจะหวานหมดจรดจนมดแทบจะขึ้นกรีนก็ว่าได้ ใช่แต่นายสี่กับน้อง ข. เท่านั้น ที่คอยให้กำลังใจกันและกัน พี่ภากรกับโปรกำปา ก็พลอยผสมโรงเพิ่มความหวาน สร้างบรรยากาศ สวิงสวีทหวาน ความรักอีสออลอะราวอินเดอะโฮลล์กันเลยทีเดียว หลังจากความรักผลิบานเต็มที่ นายสี่ก็ตัดสินใจที่จะรับ น้อง ข. นามสมมุติ มาอยู่เป็นคู่ชีวิต โดยจัดพิธีสู่ขอ กันตามประเพณี มีการปิดสนามเลี้ยงเพื่อนนักกอล์ฟกันเลยทีเดียว เพียงแต่ยังไม่ได้ทำถึงขั้นออกรายการของฝากนักกอล์ฟ เท่านั้นเอง
เล่ามาเสียยืดยาว ไฮท์ไลท์จริงๆ คือชีวิตหลังจากนั้นของนายสี่ เพราะเหรียญย่อมมีสองด้าน สนามกอล์ฟย่อมมีสองรอบ แบ่งเป็นเก้าหลุมแรก กับเก้าหลุมหลัง ความรักของน้อง ข. นามสมมุติ กับนายสี่ ก็เช่นกัน พอหมดเก้าหลุมแรกช่วงหวานแหวว ถ้อยทีถ้อยอาศัย ก็ย่อมต้องเข้าสู่ช่วงเก้าหลุมหลัง อันเป็นช่วงที่เริ่มเทอร์โบทุกหลุม สกินส์ไม่อั้น ต้มยำพาร์สาม ยอดอ บางทีอาจจะลามไปถึงฮันนีมูนสวีทซุปเปอร์ดีลักซ์แกรนด์เทอร์โบกันเลยทีเดียว
เรื่องเล่าเช้า สาย บ่าย ค่ำ จนไปถึงรอบดึก ไม่ได้รายงานเอาไว้ว่า หลังจากนั้น นายสี่ไม่มีสิทธิ์ ในการเล่นกอล์ฟ ตามอำเภอใจ
โดยจะต้องปฏิบัติตามกฎ ของน้อง ข. นามสมมุติ อย่างเคร่งครัดดังนี้
1. ห้ามไปเล่นกอล์ฟสนามอื่น ถ้าจะเล่นต้องไปเล่นสนามที่ น้อง ข. นามสมมุติ ทำงานอยู่เท่านั้น
2. น้อง ข. นามสมมุติ ผูกขาดการกางร่ม และมีสิทธิ์ขาดในการเลือกป้า มาลากถุงให้กับนายสี่ และพี่ๆร่วมก๊วน
3. วันไหนที่ น้อง ข. นามสมมุติ ไม่อยากเดิน ในก๊วนจะต้องใช้รถเท่านั้น
4. ตอนลงถุงกอล์ฟ นายสี่จะต้อง นำถุงกอล์ฟ ไปใส่รถเข็นให้น้อง ข. นามสมมุติให้เรียบร้อย
5. ห้ามให้ รอนานเกินห้านาที หมายความว่า ลงถุงเสร็จให้รีบซื้อตั๋ว แล้วลงมาทีออฟเลย ห้ามเข้าล็อคเก้อร์ หรือโอ้เอ้ อยู่บนคลับเฮ่าส์
น้อง ข. นามสมมุติไม่ปลื้ม
6. ถึงเวลาทีออฟ จะออกด้วยไม้อะไร ให้หยิบเอง ห้ามเลือก ห้ามถาม เตรียมลูกกอล์ฟเอง เตรียมทีตั้งลูกเอง ห้ามถามว่าตีไปตรงไหน ทรายอยู่ตรงไหน น้ำอยู่ตรงไหน ตั้งลูกเอง แล้วก็ตีไปซะ
7. ระหว่างเดินไปเล่นช๊อตต่อไป ห้ามเดินเร็ว ให้เดินรอ อย่าถามว่าลูกอยู่ไหน ตีเองก็ต้องหาเอง และอย่าหาลูกนาน ขี้เกียจรอ เมื่อย อย่าทำให้หงุดหงิด ซ่อมรอยที่ตีเองด้วย
8. ช๊อตขึ้นกรีน อย่าถามว่าธงปักหน้า ปักกลาง หรือ ปักหลัง ไม่งั้น จะโดนคันร่ม ปักเอากลางหลังได้
9. อย่าตกทราย เพราะต้องลงไปเกลี่ยทรายเอง มากางร่มไม่ได้มานั่งเกลี่ยทราย ห้ามใช้แคดดี้คนอื่นทำ นี่คือกฎของน้อง ข. นามสมมุติ
10. ถึงเวลาพัตต์ ห้ามถามไลน์เป็นอันขาด ไม่งั้น น้อง ข. นามสมมุติ จะขึ้นทันที เพราะก่อนคบพี่นายสี่ หนูไม่เคยมีลาย แต่พอคบอยู่กินกับพี่เท่านั้นแหล่ะ นายสี่เล่นทำลายเต็มหน้าท้องหนูเลย เพราะฉะนั้นอย่าถามไลน์ เพราะหนูยังเคืองอยู่
11. จบหลุม ห้ามเสีย แต่ถ้าได้ น้อง ข. นามสมมุติ ขอเก็บเข้ากระเป๋าทุกบาท ทุกสตางค์
12. ต้องแวะทุกซุ้ม น้องเหนื่อย และหิวมาก
13. เล่นเสร็จ เก็บถุงเอง เช็คไม้เอง และอย่านานเกินห้านาที หมายความว่า เล่นเสร็จให้เก็บไม้ และรับ น้อง ข. นามสมมุติกลับบ้านเลย ข้อนี้สร้างความเซ็งใจให้พี่ภากร กับโปรกำปา เป็นอย่างมาก อุตส่าห์มีเวลาแว๊บๆ ดันมาพรากเวลาดีๆ จากเราไปเสียได้
ผ่านเก้าหลุมหลังไปได้ไม่นาน ก๊วนนายสี่แคดดี้ห้า ก็ค่อยๆหายไปจากสนามกอล์ฟ ผู้เขียนเองก็พยายามตามข่าว ได้ยินแต่เพียงว่า นายสี่ไปขายบะหมี่เกี๊ยว กิจการรุ่งเรือง และไม่กลับเข้าสนามกอล์ฟอีกเลย ส่วนพี่ภากรแคดดี้แถวๆรามอินทรา กม.8 เล่าว่า แกคือผู้ผลักดันให้มีไนท์กอล์ฟตลอดทั้งปี ด้านพี่กำปา ไม่นานมานี้ก็มีคนมาเล่าว่าเห็นแชแกไปไดร์ฟกอล์ฟแถวรัชดา "เอ็มมานูเอล ไดร์ฟวิ่งเร้นช์" เป็นประจำ
ผู้เขียนนำเรื่องราวของก๊วนนี้มาเล่า เพื่อให้เห็นชีวิตอีกด้านหนึ่ง ของนักกอล์ฟ เพื่อให้เห็นเหรียญทั้งสองด้าน และจินตนาการกันได้ถูก เล่นกอล์ฟอย่าโมโหเกินฝีมือ ริจะรักอย่ารักเกินหักห้ามใจ
ศุกร์นับดาว เสาร์นับเลข อาทิตย์นับป๊อยท์ เจอกันครับ คงมีโอกาสได้เล่าเรื่องลับๆบ้าง
https://docs.google.com/forms/d/1X3iBCuOtBdlMvvXav7Li8Hngrq8dFQXhJD9jqy_YD4A/viewform