เป็นเหตุการณ์ที่ จขกท. ได้รับผลกระทบด้วยเลยมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
จขกท.ถูกขู่ฆ่า
ถูกด่าอีเหี...อีกสั...
และเกือบถูกต่อย
ตัดน้ำ ตัดไฟ
ถูกเอานินทาเสียๆ หายๆ
นี่เป็นเหตุการณ์ที่เล่าให้อ่านต่อไป เป็นเหตุการณ์ที่ จขกท. ประสบพบเจอจริง เจอกับตัว ทำให้เริ่มหันมาสนใจศึกษาสิทธิความเท่าเทียมกันทางเพศ และตัดสินใจสนับสนุน พรบ.คู่ชีวิต
กระทู้นี้เป็นชีวิตที่เกิดขึ้นกับเพื่อน และบังเอิญ จขกท. ไปอยู่ ณ ที่นั้น เวลานั้นพอดี จึงอยากแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง ขออนุญาตใช้ชื่อที่อยู่นามสมมุต เพราะคิดว่าต่อไปจะมีคดีความค่ะ
จขกท. เป็นสาวโสดเคียงคานค่ะ ทำงานกราฟิคการ์ตูนที่บ้าน ซึ่งเป็นชนบทตะเข็บชายแดน เพื่อนคนนี้ขอใช้นามสมมุติว่า น้ำ น้ำเพิ่งริเริ่มกิจการโรงงานเย็บผ้า และต้องการคนไปช่วยดูแล จึงติดต่อให้ จขกท. ไปทำงาน ซึ่งงานเดิมที่จขกท.ทำอยู่ คือแค่มีคอมพิวเตอร์จะอยู่ตรงไหนก็ได้ ก็เลยตัดสินใจไปและปล่อยบ้านให้เช่า
น้ำเป็นเพื่อนของ จขกท. ตั้งแต่สมัยมัธยม น้ำเป็นเด็กขยันเวอร์ๆ ตั้งใจเรียน ความที่เป็นลูกหลงพ่อแม่มีน้ำตอนที่แก่มากแล้ว พ่อแม่ไม่มีเงินพอที่จะส่งเสียน้ำเรียน จึงฝากให้ญาติห่างๆ ดูแลส่งเสีย น้ำจึงได้เข้ามาเรียนในตัวจังหวัด โดยทำงานบ้านที่บ้านญาติเป็นการตอบแทน ที่จริงคือทำงานสารพัดมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็เคยทำ ขายของที่ตลาด รับจ้างถักผม ฯลฯ น้ำทำทุกอย่างเพื่อไม่เป็นภาระของพ่อแม่
น้ำเรียนมัธยมปลายแค่สองปี ก็สอบเทียบและสอบติดพยาบาล จบพยาบาลวันนี้ ต้องเก็บผ้าไปใช้ทุนในวันพรุ่งนี้ สังคมคับแคบที่วนเวียนอยู่แค่อนามัย โรงพยาบาล ทันทีที่ออกไปประจำที่อนามัยน้ำก็ไม่ให้พ่อแม่ทำงาน ทุกคนในครอบครัวย้ายไปอยู่กับลูกสาวที่ประจำอยู่บนเขาในอำเภอเล็กๆ ของภาคอิสาน ใช้ทุนบนเขา 3-4 ปี (ตัวเลขไม่แน่ใจค่ะ) ก็ลงมาประจำที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอในจังหวัดทางภาคอิสาน
ที่นั่นน้ำได้รู้จักกับ พี่เจหญิงสาวตัวสูง อารมณ์ดีใจเย็น คบกันมากกว่า 10 ปีค่ะ อาศัยอยู่ด้วยกันเยี่ยงสามี- ภรรยา จขกท.เอง ถึงจะเป็นเพื่อนสนิท น้ำก็อ้ำอึ้งๆ อยู่ 2-3 ปี กว่าจะเฉลยว่ามีแฟนเป็นผู้หญิง ไม่กี่ปีต่อมาแม่น้ำเสีย เหลือเพียงพ่อที่เริ่มเลอะเลือน จขกท.เจอกับพี่เจไม่กี่ครั้ง เวลาที่แวะไปเยี่ยมน้ำ แต่ก็คุยถูกคอกันดี พี่เจช่วยดูแลพ่อแม่ของน้ำด้วย จขกท.ก็คิดว่าเป็นคนดีแหละที่ดูแลเพื่อนเรา รวมถึงพ่อแม่ของเพื่อนเราด้วย และพ่อของน้ำก็เสียเมื่อปี 56
ตอนที่น้ำบอกว่าให้มาทำงานช่วยหน่อย มากิน-นอนที่บ้านเรา จขกท.ก็เก็บผ้าไปทันที
วันที่ 2 สิงหาคม 2557 จขกท.ขับรถออกจากบ้านเป็นระยะทาง 160 กม. เพื่อไปทำงาน และอาศัยอยู่กับน้ำและพี่เจ วันแรกก็เจอแจ๊คพอต พี่เจน้ำท่วมปอด อาเจียนทั้งคืน จขกท.ได้แต่นั่งดู เพื่อนแสนถึกของตัวเอง ประคองแฟนน้ำหนักร่วม 90 กก. กอดถังขยะ นอนก็นอนไม่ได้ ทั้งคืนยันเข้า จขกท.ตื่นมาเจอพี่เจนั่งกอดถังขยะ ยัยน้ำกอดหลังพี่เจนั่งหลับ
บ้านของน้ำเป็นห้องโถงสี่เหลี่ยม แบ่งห้องไว้ 2 ห้อง ห้องนอนและห้องฟอกไต พี่เจมีสารพัดโรค ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเจอกันหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยเล่าเรื่องร่างกาย ความทุกข์ใดให้เพื่อนรู้เลย จน จขกท.มาเจอเอง
พี่เจ จบการศึกษาแค่ชั้นประถม 6 เนื่องจากมีโรคลมชักเป็นโรคประจำตัว ครอบครัวจึงไม่ส่งเรียนไปมากกว่านั้น ทั้งคู่คบกันมา 10 กว่าปี โดยพี่เจไม่มีงานการเป็นหลักแหล่ง ในขณะที่น้ำเพื่อนของ จขกท. มีอาชีพพยาบาล จขกท. แอบตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย คิดว่าเพื่อนเราต้องเลี้ยงดูคนรักฝ่ายเดียวหรือ แต่เห็นเพื่อนตัวเองอยูกับพี่เจแล้วมีความสุข อารมณ์เย็นกว่าสมัยเรียนก็มาก เข้าวัดเป็น เป็นที่รักของคนในอำเภอ ยิ่งคนแก่ๆ ยิ่งรักชอบ จขกท.ก็เลยคิดเองว่า ทั้งคู่ต้องทำดีด้วยกันระดับหนึ่งเลยล่ะ ที่ทำให้สังคมชนบททางภาคอิสาน ยอมรับรักใครคู่รักหญิงรักหญิงได้ คนแก่ๆ ไม่มีใครรังเกียจคู่รักคู่นี้เลย
ถ้าอ่านยาก สับสนตรงไหน แจ้งด้วยค่ะ พิมพ์ไปไม่ได้จัดระเบียบความคิดเลย มันเยอะมาก คิดอะไรออกก็เขียน
มนุษย์นั้น เลวร้ายกว่าที่คิด...ฉันจึงสนับสนุน พรบ.คู่ชีวิต
จขกท.ถูกขู่ฆ่า
ถูกด่าอีเหี...อีกสั...
และเกือบถูกต่อย
ตัดน้ำ ตัดไฟ
ถูกเอานินทาเสียๆ หายๆ
นี่เป็นเหตุการณ์ที่เล่าให้อ่านต่อไป เป็นเหตุการณ์ที่ จขกท. ประสบพบเจอจริง เจอกับตัว ทำให้เริ่มหันมาสนใจศึกษาสิทธิความเท่าเทียมกันทางเพศ และตัดสินใจสนับสนุน พรบ.คู่ชีวิต
กระทู้นี้เป็นชีวิตที่เกิดขึ้นกับเพื่อน และบังเอิญ จขกท. ไปอยู่ ณ ที่นั้น เวลานั้นพอดี จึงอยากแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง ขออนุญาตใช้ชื่อที่อยู่นามสมมุต เพราะคิดว่าต่อไปจะมีคดีความค่ะ
จขกท. เป็นสาวโสดเคียงคานค่ะ ทำงานกราฟิคการ์ตูนที่บ้าน ซึ่งเป็นชนบทตะเข็บชายแดน เพื่อนคนนี้ขอใช้นามสมมุติว่า น้ำ น้ำเพิ่งริเริ่มกิจการโรงงานเย็บผ้า และต้องการคนไปช่วยดูแล จึงติดต่อให้ จขกท. ไปทำงาน ซึ่งงานเดิมที่จขกท.ทำอยู่ คือแค่มีคอมพิวเตอร์จะอยู่ตรงไหนก็ได้ ก็เลยตัดสินใจไปและปล่อยบ้านให้เช่า
น้ำเป็นเพื่อนของ จขกท. ตั้งแต่สมัยมัธยม น้ำเป็นเด็กขยันเวอร์ๆ ตั้งใจเรียน ความที่เป็นลูกหลงพ่อแม่มีน้ำตอนที่แก่มากแล้ว พ่อแม่ไม่มีเงินพอที่จะส่งเสียน้ำเรียน จึงฝากให้ญาติห่างๆ ดูแลส่งเสีย น้ำจึงได้เข้ามาเรียนในตัวจังหวัด โดยทำงานบ้านที่บ้านญาติเป็นการตอบแทน ที่จริงคือทำงานสารพัดมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็เคยทำ ขายของที่ตลาด รับจ้างถักผม ฯลฯ น้ำทำทุกอย่างเพื่อไม่เป็นภาระของพ่อแม่
น้ำเรียนมัธยมปลายแค่สองปี ก็สอบเทียบและสอบติดพยาบาล จบพยาบาลวันนี้ ต้องเก็บผ้าไปใช้ทุนในวันพรุ่งนี้ สังคมคับแคบที่วนเวียนอยู่แค่อนามัย โรงพยาบาล ทันทีที่ออกไปประจำที่อนามัยน้ำก็ไม่ให้พ่อแม่ทำงาน ทุกคนในครอบครัวย้ายไปอยู่กับลูกสาวที่ประจำอยู่บนเขาในอำเภอเล็กๆ ของภาคอิสาน ใช้ทุนบนเขา 3-4 ปี (ตัวเลขไม่แน่ใจค่ะ) ก็ลงมาประจำที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอในจังหวัดทางภาคอิสาน
ที่นั่นน้ำได้รู้จักกับ พี่เจหญิงสาวตัวสูง อารมณ์ดีใจเย็น คบกันมากกว่า 10 ปีค่ะ อาศัยอยู่ด้วยกันเยี่ยงสามี- ภรรยา จขกท.เอง ถึงจะเป็นเพื่อนสนิท น้ำก็อ้ำอึ้งๆ อยู่ 2-3 ปี กว่าจะเฉลยว่ามีแฟนเป็นผู้หญิง ไม่กี่ปีต่อมาแม่น้ำเสีย เหลือเพียงพ่อที่เริ่มเลอะเลือน จขกท.เจอกับพี่เจไม่กี่ครั้ง เวลาที่แวะไปเยี่ยมน้ำ แต่ก็คุยถูกคอกันดี พี่เจช่วยดูแลพ่อแม่ของน้ำด้วย จขกท.ก็คิดว่าเป็นคนดีแหละที่ดูแลเพื่อนเรา รวมถึงพ่อแม่ของเพื่อนเราด้วย และพ่อของน้ำก็เสียเมื่อปี 56
ตอนที่น้ำบอกว่าให้มาทำงานช่วยหน่อย มากิน-นอนที่บ้านเรา จขกท.ก็เก็บผ้าไปทันที
วันที่ 2 สิงหาคม 2557 จขกท.ขับรถออกจากบ้านเป็นระยะทาง 160 กม. เพื่อไปทำงาน และอาศัยอยู่กับน้ำและพี่เจ วันแรกก็เจอแจ๊คพอต พี่เจน้ำท่วมปอด อาเจียนทั้งคืน จขกท.ได้แต่นั่งดู เพื่อนแสนถึกของตัวเอง ประคองแฟนน้ำหนักร่วม 90 กก. กอดถังขยะ นอนก็นอนไม่ได้ ทั้งคืนยันเข้า จขกท.ตื่นมาเจอพี่เจนั่งกอดถังขยะ ยัยน้ำกอดหลังพี่เจนั่งหลับ
บ้านของน้ำเป็นห้องโถงสี่เหลี่ยม แบ่งห้องไว้ 2 ห้อง ห้องนอนและห้องฟอกไต พี่เจมีสารพัดโรค ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเจอกันหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยเล่าเรื่องร่างกาย ความทุกข์ใดให้เพื่อนรู้เลย จน จขกท.มาเจอเอง
พี่เจ จบการศึกษาแค่ชั้นประถม 6 เนื่องจากมีโรคลมชักเป็นโรคประจำตัว ครอบครัวจึงไม่ส่งเรียนไปมากกว่านั้น ทั้งคู่คบกันมา 10 กว่าปี โดยพี่เจไม่มีงานการเป็นหลักแหล่ง ในขณะที่น้ำเพื่อนของ จขกท. มีอาชีพพยาบาล จขกท. แอบตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย คิดว่าเพื่อนเราต้องเลี้ยงดูคนรักฝ่ายเดียวหรือ แต่เห็นเพื่อนตัวเองอยูกับพี่เจแล้วมีความสุข อารมณ์เย็นกว่าสมัยเรียนก็มาก เข้าวัดเป็น เป็นที่รักของคนในอำเภอ ยิ่งคนแก่ๆ ยิ่งรักชอบ จขกท.ก็เลยคิดเองว่า ทั้งคู่ต้องทำดีด้วยกันระดับหนึ่งเลยล่ะ ที่ทำให้สังคมชนบททางภาคอิสาน ยอมรับรักใครคู่รักหญิงรักหญิงได้ คนแก่ๆ ไม่มีใครรังเกียจคู่รักคู่นี้เลย
ถ้าอ่านยาก สับสนตรงไหน แจ้งด้วยค่ะ พิมพ์ไปไม่ได้จัดระเบียบความคิดเลย มันเยอะมาก คิดอะไรออกก็เขียน