เราเป็นนักศึกที่ออกมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยค่ะ ต้องอธิบายก่อนว่าในหมู่บ้านใหญ่ก็จะถูกแบ่งเป็นซอยย่อยๆเกือบสิบซอย แต่ละซอยจะมีบ้านชั้นเดียวขนาดเล็กอยู่ซอยละสี่ถึงห้าหลังค่ะ ซอยของเรามีห้าหลัง ฝั่งเราสองหลัง ฝั่งตรงข้ามสามหลังค่ะ ทีนี้บ้านเจ้าปัญหาคือหลังตรงข้ามสองหลังเลยค่ะ พวกเค้าเป็นรุ่นพี่ปีสาม-สี่ เป็นนักศึกษาชาวพม่าค่ะ บ้านตรงข้ามกับเราเวลานางกลับมาบ้านหรืออยู่คนเดียวก็จะไม่มีเสียงเลยแต่เวลาเพื่อนนางมาหาทีคือซอยแทบแตกค่ะ เพื่อนๆของนางก็จะขับรถแต่งรถยนต์เข้ามาแถมบีบแตรติดๆกันอีกต่างหาก คือเราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่โทรหากันก่อนจะเข้ามา อยู่ๆขับเข้ามาแล้วบีบแตรยาวๆต่อกันสองสามทีนี่ไม่คิดถึงบ้านข้างๆบ้างเลยเหรอ บางทีก็มาตะโกนเรียกนางหน้าบ้านบ้าง ตะโกนนี่คือตะโกนจริงๆเลยนะคะ แบบกรีดร้องตะโกนกันเลยทีเดียว บางทีก็เอาหมามาเล่นส่งเสียงดัง(ทั้งๆที่มีกฎว่าห้ามเลี้ยงสัตว์) เพื่อนนางก็จะขนสารพัดหมาที่แอบเลี้ยงมาเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนานในขณะที่บ้านเราและบ้านข้างๆที่เป็นคนไทยเหมือนกันเงียบตลอด
ที่พีคสุดคือบ้านตรงข้ามที่เยื้องบ้านเราค่ะ รายนั้นนางอยู่กันสองคนน่าจะใช่แถมหมาปอมนางอีกตัว อีนังหมาก็ช่างเห่าเหลือเกินน เห่าตั้งแต่หกโมงเช้ายันเก้าโมงก็ไม่หยุดค่ะ ทุกวันเวลานางกลับมาจากเรียนเพื่อนนางก็จะยกแก้งค์กันมานั่งคุยเสียงดังหน้าบ้าน ซึ่งเราไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่เป็นคุยกันดีๆในบ้าน ลักษณะการคุยคือตะโกนคุยกันด้วยนะคะ ประมาณว่าเม้ากันมันส์มาก กรี้ดกร้าดโห่ฮากันสนุกสนาน... คือกรูวกลับจากเรียนมาก็เหนื่อยๆป่ะ อยากพักอยากนอนซักงีบแต่พวกนางสองบ้าน (ดันเป็นเพื่อนกันอีก) ก็จะแท็กทีมกันมาทำกับข้าวเสียงดังบ้าง ตะโกนแหกปากคุยกันบ้าง เอาหมามาเล่นบ้าง ขับรถเข้าออกซอยแบบไม่มีความเกรงใจกันเลย
มีอยู่คืนหนึ่งเป็นวันเกิดเพื่อนนางค่ะ พวกนางมาจัดกันที่บ้านหลังตรงข้ามกับเรา เปิดเพลงเสียงดังตั้งแต่เที่ยงคืน กรี้ดกร้าดสนุกสนานปิดเปิดประตูตึงตังมาก จนเรากับรูมเมททนไม่ไหวต้องโทรไปแจ้งผู้ดูแลแต่เสียงก็ไม่หายไปเลยค่ะ ดังอยู่อย่างนั้นจนถึงตีสามกว่าค่ะ ตีสามกว่าคืนวันอาทิตย์ค่าาาา แล้วเรามีเรียนเช้าในขณะที่พวกมันมีรียนบ่าย! คือโคตรแย่ เราเคยไปแจ้งเจ้าหน้าที่สองสามรอบแต่ก็ยังเหมือนเดิมเลยค่ะ จนบางทีก็อดสงสัยไม่ได้ว่าการทำเสียงดังๆนี่ถือเป็นวัฒนธรรมที่ดีของพม่ารึเปล่า เพราะพวกเขาทำอย่างไม่เกรงใจจริงๆนะคะ ในขณะที่อีกสามบ้านอยู่กันแบบเงียบๆแต่พวกคุณกลับมาทำเสียงดังดึกๆดื่นๆ เช้าๆก็าเคาะประตูตะโกนเรียกกันเสียงดังเหมือนอยู่กันคนละฝั่งภูเขา ช่วงนี้เรากับรูมเมทจนกลายเป็นโรคจิตเลยค่ะ ได้ยินเสียงรถพวกนางเข้ามาเมื่อไหร่ต้องคอยเงี่ยหูฟังไม่ก็แอบดูว่ามันจะมาทำอะไรดังๆอีกมั้ย รู้สึกเบื่อหน่ายมากค่ะ บางวันพวกนางก็อยู่เงียบๆเป็นนะคะ แต่แทบทุกวันคือดังค่ะ ใครเคยมีประสบการณ์รับมือกับเพื่อนบ้านแบบนี้บ้าง ต้องทำยังไงคะ แจ้งตำรวจเลยได้มั้ย ขอบคุณค่ะ
เพื่อนบ้านชาวพม่าชอบส่งเสียงดังรบกวนค่ะ
ที่พีคสุดคือบ้านตรงข้ามที่เยื้องบ้านเราค่ะ รายนั้นนางอยู่กันสองคนน่าจะใช่แถมหมาปอมนางอีกตัว อีนังหมาก็ช่างเห่าเหลือเกินน เห่าตั้งแต่หกโมงเช้ายันเก้าโมงก็ไม่หยุดค่ะ ทุกวันเวลานางกลับมาจากเรียนเพื่อนนางก็จะยกแก้งค์กันมานั่งคุยเสียงดังหน้าบ้าน ซึ่งเราไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่เป็นคุยกันดีๆในบ้าน ลักษณะการคุยคือตะโกนคุยกันด้วยนะคะ ประมาณว่าเม้ากันมันส์มาก กรี้ดกร้าดโห่ฮากันสนุกสนาน... คือกรูวกลับจากเรียนมาก็เหนื่อยๆป่ะ อยากพักอยากนอนซักงีบแต่พวกนางสองบ้าน (ดันเป็นเพื่อนกันอีก) ก็จะแท็กทีมกันมาทำกับข้าวเสียงดังบ้าง ตะโกนแหกปากคุยกันบ้าง เอาหมามาเล่นบ้าง ขับรถเข้าออกซอยแบบไม่มีความเกรงใจกันเลย
มีอยู่คืนหนึ่งเป็นวันเกิดเพื่อนนางค่ะ พวกนางมาจัดกันที่บ้านหลังตรงข้ามกับเรา เปิดเพลงเสียงดังตั้งแต่เที่ยงคืน กรี้ดกร้าดสนุกสนานปิดเปิดประตูตึงตังมาก จนเรากับรูมเมททนไม่ไหวต้องโทรไปแจ้งผู้ดูแลแต่เสียงก็ไม่หายไปเลยค่ะ ดังอยู่อย่างนั้นจนถึงตีสามกว่าค่ะ ตีสามกว่าคืนวันอาทิตย์ค่าาาา แล้วเรามีเรียนเช้าในขณะที่พวกมันมีรียนบ่าย! คือโคตรแย่ เราเคยไปแจ้งเจ้าหน้าที่สองสามรอบแต่ก็ยังเหมือนเดิมเลยค่ะ จนบางทีก็อดสงสัยไม่ได้ว่าการทำเสียงดังๆนี่ถือเป็นวัฒนธรรมที่ดีของพม่ารึเปล่า เพราะพวกเขาทำอย่างไม่เกรงใจจริงๆนะคะ ในขณะที่อีกสามบ้านอยู่กันแบบเงียบๆแต่พวกคุณกลับมาทำเสียงดังดึกๆดื่นๆ เช้าๆก็าเคาะประตูตะโกนเรียกกันเสียงดังเหมือนอยู่กันคนละฝั่งภูเขา ช่วงนี้เรากับรูมเมทจนกลายเป็นโรคจิตเลยค่ะ ได้ยินเสียงรถพวกนางเข้ามาเมื่อไหร่ต้องคอยเงี่ยหูฟังไม่ก็แอบดูว่ามันจะมาทำอะไรดังๆอีกมั้ย รู้สึกเบื่อหน่ายมากค่ะ บางวันพวกนางก็อยู่เงียบๆเป็นนะคะ แต่แทบทุกวันคือดังค่ะ ใครเคยมีประสบการณ์รับมือกับเพื่อนบ้านแบบนี้บ้าง ต้องทำยังไงคะ แจ้งตำรวจเลยได้มั้ย ขอบคุณค่ะ