หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
คุณปู่เฝ้าบ้านคุณหลานออกเดิน ( 7-9/11/2014 )
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
มอเตอร์ไซค์
เนื่องจากกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ได้ไปเที่ยวแบบใช้ขาเดิน ( เดินจริงๆ เดินทุกวัน) หลังจากกระทู้ก่อนๆใช้แรงงานคุณปู่เยอะมากแล้วในการไปเที่ยวในที่ต่างๆ (คุณปู่ของผมก็คือรถมอไซค์นะครับ 555 สามารถดูกระทู้ที่คุณปู่พาเที่ยวได้นะครับถ้าใครอยากเห็นหน้าตาคุณปู่นะครับ)
คราวนี้ลองใช้กำลังตัวเองดูบ้าง ทริปนี้เริ่มต้นด้วยการที่นั่งคุยกับกลุ่มเพื่อนๆว่าอยากลองไปขึ้นภูกระดึงสักครั้งในชีวิต ก็นัดกันกับเพื่อนๆว่าเราจะไปกัน 3วัน2คืน หลังจากนั้นก็หาข้อมูลตามที่ต่างๆทั้งเฟสบุ๊ค เว็บไซค์ต่างๆ และก็พี่ๆเพื่อนๆในกลุ่มมอไซค์ที่ผมสิงสถิตอยู่ การไปครั้งนี้ผมมีเวลาในการเตรียมการค่อนข้างเยอะ มีทั้งการคิดทำเสื้อกลุ่ม เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ แต่ไม่เคยคิดเตรียมร่างกายให้พร้อม ไอ้เราคิดว่าแค่ร่างกายเราสบายดีก่อนไปก็น่าจะ ok ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดถนัด 5555
ขอเล่าถึงตัวผมสักนิดนึงนะครับ ลักษณะร่างกายของผม ผมสูงประมาณ176 น้ำหนักก่อนปีนชั่งก่อนไป 104 กิโลกรัม ( อ่านกันไม่ผิดหรอกครับผมหนักเท่านี้จริงๆ ก็คือเป็นคนอ้วนนี้ล่ะ 555 ) วันที่ไปนั้นก็เพิ่งจะดีขึ้นจากอาการกล้ามเนื้อคออักเสบ ผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นปัญหาสำหรับผมเลย ผมคิดว่าคนอื่นไปได้ผมก็ต้องไปได้
รูปนี้เป็นรูปที่ออกแบบเสื้อแบบต่างๆ
สุดท้ายมาจบที่แบบนี้ ตามคำเลยครับรอบนี้ คลานขึ้นภูจิงๆ
เราตกลงกันว่าเราจะใส่หลายๆสีให้มันดูมีสีสันหน่อย ( ตามคำแนะนำของพี่โอม แอดมินพันทิป ห้องมอเตอร์ไซค์ ขอขอบคุณมากๆครับสำหรับคำแนะนำ )
รูปนี้เอามาจากวันที่สองนะครับที่เดินเที่ยวบนภูกระดึง
มาเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่าเกริ่นมานานแล้วเดียวจะเลิกอ่านซะก่อน ทริปนี้เราไปกัน 7คนออกเดินทางในคืนวันลอยกระทงออกในช่วงเวลา 4ทุ่ม รถยนต์ 2คัน เราขับไปด้วยแวะปั๊มเป็นบางช่วงขับไปเรื่อยๆใช้ความเร็วก็ประมาณ 100 -120 โดยประมาณ ใช้เส้นทาง กรุงเทพ สระบุรี โคราช ชัยภูมิ เลย ถึงที่ทำการอุทยานประมาณ 6 โมง
พวกเราก็ล้างหน้า แปลงฟัน แล้วก็ทำการติดต่อเช่าเต้นท์ ติดต่อคนเข้าอุทยาน และติดต่อลูกหาบ พักกินข้าวเช้าก่อนขึ้นภูกระดึง เริ่มต้นการเดินเวลาประมาณ 8.30 สิ่งแรกที่ต้องทำคือไหว้พระขอพรให้การเดินทางครั้งนี้ปลอดภัย ถ่ายรูปด้านหน้ากันเล็กน้อย
ก่อนจะเริ่มเดินขึ้นด่านแรกคือ ปากกกกอก และก็มาต่อกันที่ซำแฮก ( แฮกจริงๆ ) สมชื่อเลยเหนื่อยมากซำนี้ คิดในใจ กูมาทำไมว่ะเนี่ย บอกก่อนว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกของพวกเราทั้งหมดที่มาภูกระดึง อ่านข้อมูลมาเยอะมากๆ ขนาดกระเป๋าผมได้ทำการจ้างลูกหาบให้หาบขึ้นไปนะครับ แต่มีน้องคนนึงบอกว่าจะแบกขึ้นไปเอง แต่ผมบอกเค้าว่าให้จ้างลูกหาบเถอะเชื่อพี่ น้องคนนี้เพิ่งถอยกระเป๋ามาใหม่กำลังเห่อ แต่น้องมันก็เชื่อเรานะ แต่แอบบ่นๆว่าอยากเอาขึ้นไปเอง แต่สุดท้ายน้องบอกดีแล้วที่จ้างลูกหาบ 5555 (ราคาค่าหาบ 30 บาทต่อ 1กิโล บอกได้คำเดียวหลังมาถึงซำแฮกว่า ไม่คิดว่าแพงเลย ชั่วโมงนั้น โลละ 50 ผมก็ยอม 555 )
รูปนี้สภาพขึ้นมาถึงซำแฮก ที่เห็นในรูปรับประกันได้ว่าที่เสื้อคือเหงื่อทั้งนั้นนะครับ
แล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อ ผ่านซำต่างๆมากมาย มีอยู่ช่วงก่อนถึงหลังแป เป็นช่วงขึ้นที่ชันมากๆ วันที่เราไปมีเรื่องของฝนตกด้วยทำให้การขึ้นจะใช้พลังเยอะมากๆ ทำให้ผมมีอาการตะคริวขึ้น ทรมานมากกอยากจะกลับเลย แต่มาใกล้ถึงจุดหมายแล้วยังงัยก็ขอสู้ต่อไป พอขึ้นมาได้นอนนิ่งที่ป้ายเลย 555เพื่อถ่ายรูปกลับป้ายผู้พิชิต คิดในใจ เราก็ทำได้โว๊ย …….!
พักแป๊บ ก็เดินทางไปจุดที่เราจะนอนค้างคืน คือที่วังกวาง อีก 3โลๆๆ ไปถึงวังกวางปประมาณเกือบ 4โมง ระหว่างทางที่เดินจากหลังหลังแปมาที่พักก็จะมีหมอกมาเป็นหมีแพนด้าเลย (ช่วงๆ5555) ทำให้หายเหนื่อยได้เหมือนกัน
รูปนี้พี่ที่บริษัทขอให้ถ่ายมาให้ รูปต้นไม้อยู่กลางถนน พอเอาไปให้พี่ที่บริษัทให้กลับไปถ่ายใหม่ บอกว่าองศาขอต้นไม่ไม่ได้ และติดหัวคนมาอีก ( บอกพี่เค้าไปว่าเดียวขอลดหุ่นก่อนแล้วจะกลับไปถ่ายมาให้ใหม่ 5555 )
วันแรกจบด้วยการเลือกเต็นท์นอนท้ามกลางสายฝนพร้อมด้วยสัตว์ตัวน้อยๆนั้นก็คือทากนี้เองมาตอนนี้เรามีเพื่อนเป็นทากเยอะมากๆ พอได้เต็นท์แล้วก็หาข้าวกินพร้อมจากนั้นก็นอนเลยครับไม่ไหวต้องกินยา นวดยา แล้วก็หลับยาวเลยเพราะเหนื่อยมากๆ อ๋อ ลืมเล่า ระหว่างเดินไปกินข้าวเราโดนทากดูดเลือดไปประมาณ 2ตัว และร้านข้าวที่เราไปกินได้ให้น้ำยาฉีดทากมา ขอบอกว่าใช่ดีมากๆ ฉีดปุ๊บทากหลุดเลย และเลือดก็ไม่ไหลด้วย ทุกท่านคงอยากจะทราบว่ามันคือยาวิเศษอะไร ที่ผมสืบๆมามันคือ ........มันคือ........มันคือ น้ำส้มสายชูนี้เอง ผสมน้ำไหมไม่รู้แต่เค้าเอามาให้จากหลังร้าน ใช่ดีจริงๆ ขอจบวันแรกไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ส่วนวันที่สองตอนอยู่บนภูจะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ภูกระดึงแห่งนี้มีมนต์ขลัง
ภาพภูกระดึงจากมุมสูง เป็นรูปหัวใจ สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป วันนี้เราจะมาบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวภูกระดึงค่ะ ในครั้งนี้เป็นการขึ้นภูกระดึงครั้งที่5 ของเราและแฟนเรา เพื่อนร่วมเดินทางในทริปนี้คือน
ขอโทษที่เอาแต่ใจ
ณ ภูกระดึง ในฤดูฝน ตามหาต้นไม้ของพ่อ
ณ ภูกระดึง ครั้งหนึ่งอยากไปพิชิต แต่ด้วยไม่พร้อมทั้งหลายอย่าง ผู้รวมเดินทาง เวลา โอกาสจนในที่สุดก็มีบุญได้ไปพิชิตภูกระดึงกับเขาสักที ผู้ร่วมคณะของเราครั้งนี้ เยอะเอาการ พร้อมบางไม่พร้อมบางแต่ใจเราสู้
pigboo
ภูกระดึง ไปกี่ครั้งก็ยังประทับใจ...
พูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเงินอย่างเดียวก็ไปไม่ได้ ภูกระดึง นี่ก็เป็นอีกที่หนึ่ง ที่มีเงินก็ไปไม่ได้ ต้องมีกำลังกาย และกำลังใจอย่างมาก ถึงจะมาถึง ภูกระดึง ภูเขารูปหัวใจแห่งนี้ พวกเรามากันหลายครั
kugar
23 ธันวาคม เปิดเที่ยว "ภูกระดึง" พร้อมมาตรการคุมเข้มความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงประกาศเปิดให้เข้าท่องเที่ยว 23 ธันวาคม 2567 อุทยานแห่งชาติภูกระดึงประกาศเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 25
สมาชิกหมายเลข 7265802
ถ้าปิด "ภูกระดึง" ถาวรตลอดไป ใครจะได้รับผลกระทบ/เดือดร้อน มากที่สุด!?
ถ้าปิด ไม่ให้ท่องเที่ยว ให้เป็นผืนป่าอนุรักษ์อย่างเดียว - ช้างป่า ได้ประโยชน์ - แล้ว มนุษย์/ผู้คนในภาคส่วนใด ที่จะได้รับผลกระทบ เดือดร้อน มากที่สุด? ...นักท่องเที่ยว ว่าไง? ...เจ้าหน้าที่ ผู้ดูแลอ
สมาชิกหมายเลข 6916554
ช้างป่าภูกระดึง ทำร้ายนักท่องเที่ยว เสียชีวิต 1 ราย
วันที่ 11 ธ.ค. 2567 พ.ต.อ.ณัทญา ทองจันทร์ ผกก. สภ.ภูกระดึง จ.เลย พ.ต.ท.ณัศฐวัตรฆ์ สุทธิสา สว.(สอบสวน) สภ.ภูกระดึง ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังไ
ใช้เพื่อแสดงตัวตนเท่านั้น
เพื่อนผมบอกว่า ถ้าขึ้นภูกระดึงแบบใช้พวกลูกหาบ อย่ามาโม้
ตอนนี้ช่วงขึ้นภูกระดึง เลยเกิดมีการเกทับของพวกเพื่อนๆ ที่เคยขึ้นยุค 30 ปีที่แล้ว ว่าตอนยุคนั้นขึ้นภูกระดึงกัน ไม่ต้องมีพวกลูกหาบ (เพื่อนๆผมยุคนั้นคือยังเป็นนักศึกษา) ส่วนพวกที่ใช้ลูกหาบคนของขึ้นยุคนี้
=. ลางเนื้อเจือลางยา .=
ครั้งที่ 2 ในชีวิตกับธรรมชาติที่ชื่อ "ภูระดึง"
สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้งกับการเล่าประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยว ครั้งนี้เป็นการท่องเที่ยวเเบบ adventure ค่ะ ซึ่งเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก ภูกระดึง การเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต ห่างจากครั้งแร
คุณหญิงแดด
" กาลเวลา 3 วัน กับ 60 กิโลเมตรที่เดิน ณ ภูกระดึง " By Yeastman
หากจะกล่าวถึงเส้นทางธรรมชาติในเมืองไทย หลาย ๆ คนมักมีคำตอบอยู่ในใจหลาย ๆ ที่ที่แตกต่างกันไป ตามเส้นทางของแต่ละคนที่เคยจากมา ซึ่งผมเป็นอีกคนหนึ่งที่มีเส้นทางธรรมชาติในดวงใจอยู่หลาย ๆ ที่ ในปีนี้ได้มีโอ
Yeastman
ทริปหนีช้างป่าบนภูกระดึง
ชีวิตนี้ผมขึ้นภูกระดึงมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2544 ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2546 และครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2561&n
สมาชิกหมายเลข 6257098
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
มอเตอร์ไซค์
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
คุณปู่เฝ้าบ้านคุณหลานออกเดิน ( 7-9/11/2014 )
เนื่องจากกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ได้ไปเที่ยวแบบใช้ขาเดิน ( เดินจริงๆ เดินทุกวัน) หลังจากกระทู้ก่อนๆใช้แรงงานคุณปู่เยอะมากแล้วในการไปเที่ยวในที่ต่างๆ (คุณปู่ของผมก็คือรถมอไซค์นะครับ 555 สามารถดูกระทู้ที่คุณปู่พาเที่ยวได้นะครับถ้าใครอยากเห็นหน้าตาคุณปู่นะครับ)
คราวนี้ลองใช้กำลังตัวเองดูบ้าง ทริปนี้เริ่มต้นด้วยการที่นั่งคุยกับกลุ่มเพื่อนๆว่าอยากลองไปขึ้นภูกระดึงสักครั้งในชีวิต ก็นัดกันกับเพื่อนๆว่าเราจะไปกัน 3วัน2คืน หลังจากนั้นก็หาข้อมูลตามที่ต่างๆทั้งเฟสบุ๊ค เว็บไซค์ต่างๆ และก็พี่ๆเพื่อนๆในกลุ่มมอไซค์ที่ผมสิงสถิตอยู่ การไปครั้งนี้ผมมีเวลาในการเตรียมการค่อนข้างเยอะ มีทั้งการคิดทำเสื้อกลุ่ม เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ แต่ไม่เคยคิดเตรียมร่างกายให้พร้อม ไอ้เราคิดว่าแค่ร่างกายเราสบายดีก่อนไปก็น่าจะ ok ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดถนัด 5555
ขอเล่าถึงตัวผมสักนิดนึงนะครับ ลักษณะร่างกายของผม ผมสูงประมาณ176 น้ำหนักก่อนปีนชั่งก่อนไป 104 กิโลกรัม ( อ่านกันไม่ผิดหรอกครับผมหนักเท่านี้จริงๆ ก็คือเป็นคนอ้วนนี้ล่ะ 555 ) วันที่ไปนั้นก็เพิ่งจะดีขึ้นจากอาการกล้ามเนื้อคออักเสบ ผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นปัญหาสำหรับผมเลย ผมคิดว่าคนอื่นไปได้ผมก็ต้องไปได้
รูปนี้เป็นรูปที่ออกแบบเสื้อแบบต่างๆ
สุดท้ายมาจบที่แบบนี้ ตามคำเลยครับรอบนี้ คลานขึ้นภูจิงๆ
เราตกลงกันว่าเราจะใส่หลายๆสีให้มันดูมีสีสันหน่อย ( ตามคำแนะนำของพี่โอม แอดมินพันทิป ห้องมอเตอร์ไซค์ ขอขอบคุณมากๆครับสำหรับคำแนะนำ )
รูปนี้เอามาจากวันที่สองนะครับที่เดินเที่ยวบนภูกระดึง
มาเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่าเกริ่นมานานแล้วเดียวจะเลิกอ่านซะก่อน ทริปนี้เราไปกัน 7คนออกเดินทางในคืนวันลอยกระทงออกในช่วงเวลา 4ทุ่ม รถยนต์ 2คัน เราขับไปด้วยแวะปั๊มเป็นบางช่วงขับไปเรื่อยๆใช้ความเร็วก็ประมาณ 100 -120 โดยประมาณ ใช้เส้นทาง กรุงเทพ สระบุรี โคราช ชัยภูมิ เลย ถึงที่ทำการอุทยานประมาณ 6 โมง
พวกเราก็ล้างหน้า แปลงฟัน แล้วก็ทำการติดต่อเช่าเต้นท์ ติดต่อคนเข้าอุทยาน และติดต่อลูกหาบ พักกินข้าวเช้าก่อนขึ้นภูกระดึง เริ่มต้นการเดินเวลาประมาณ 8.30 สิ่งแรกที่ต้องทำคือไหว้พระขอพรให้การเดินทางครั้งนี้ปลอดภัย ถ่ายรูปด้านหน้ากันเล็กน้อย
ก่อนจะเริ่มเดินขึ้นด่านแรกคือ ปากกกกอก และก็มาต่อกันที่ซำแฮก ( แฮกจริงๆ ) สมชื่อเลยเหนื่อยมากซำนี้ คิดในใจ กูมาทำไมว่ะเนี่ย บอกก่อนว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกของพวกเราทั้งหมดที่มาภูกระดึง อ่านข้อมูลมาเยอะมากๆ ขนาดกระเป๋าผมได้ทำการจ้างลูกหาบให้หาบขึ้นไปนะครับ แต่มีน้องคนนึงบอกว่าจะแบกขึ้นไปเอง แต่ผมบอกเค้าว่าให้จ้างลูกหาบเถอะเชื่อพี่ น้องคนนี้เพิ่งถอยกระเป๋ามาใหม่กำลังเห่อ แต่น้องมันก็เชื่อเรานะ แต่แอบบ่นๆว่าอยากเอาขึ้นไปเอง แต่สุดท้ายน้องบอกดีแล้วที่จ้างลูกหาบ 5555 (ราคาค่าหาบ 30 บาทต่อ 1กิโล บอกได้คำเดียวหลังมาถึงซำแฮกว่า ไม่คิดว่าแพงเลย ชั่วโมงนั้น โลละ 50 ผมก็ยอม 555 )
รูปนี้สภาพขึ้นมาถึงซำแฮก ที่เห็นในรูปรับประกันได้ว่าที่เสื้อคือเหงื่อทั้งนั้นนะครับ
แล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อ ผ่านซำต่างๆมากมาย มีอยู่ช่วงก่อนถึงหลังแป เป็นช่วงขึ้นที่ชันมากๆ วันที่เราไปมีเรื่องของฝนตกด้วยทำให้การขึ้นจะใช้พลังเยอะมากๆ ทำให้ผมมีอาการตะคริวขึ้น ทรมานมากกอยากจะกลับเลย แต่มาใกล้ถึงจุดหมายแล้วยังงัยก็ขอสู้ต่อไป พอขึ้นมาได้นอนนิ่งที่ป้ายเลย 555เพื่อถ่ายรูปกลับป้ายผู้พิชิต คิดในใจ เราก็ทำได้โว๊ย …….!
พักแป๊บ ก็เดินทางไปจุดที่เราจะนอนค้างคืน คือที่วังกวาง อีก 3โลๆๆ ไปถึงวังกวางปประมาณเกือบ 4โมง ระหว่างทางที่เดินจากหลังหลังแปมาที่พักก็จะมีหมอกมาเป็นหมีแพนด้าเลย (ช่วงๆ5555) ทำให้หายเหนื่อยได้เหมือนกัน
รูปนี้พี่ที่บริษัทขอให้ถ่ายมาให้ รูปต้นไม้อยู่กลางถนน พอเอาไปให้พี่ที่บริษัทให้กลับไปถ่ายใหม่ บอกว่าองศาขอต้นไม่ไม่ได้ และติดหัวคนมาอีก ( บอกพี่เค้าไปว่าเดียวขอลดหุ่นก่อนแล้วจะกลับไปถ่ายมาให้ใหม่ 5555 )
วันแรกจบด้วยการเลือกเต็นท์นอนท้ามกลางสายฝนพร้อมด้วยสัตว์ตัวน้อยๆนั้นก็คือทากนี้เองมาตอนนี้เรามีเพื่อนเป็นทากเยอะมากๆ พอได้เต็นท์แล้วก็หาข้าวกินพร้อมจากนั้นก็นอนเลยครับไม่ไหวต้องกินยา นวดยา แล้วก็หลับยาวเลยเพราะเหนื่อยมากๆ อ๋อ ลืมเล่า ระหว่างเดินไปกินข้าวเราโดนทากดูดเลือดไปประมาณ 2ตัว และร้านข้าวที่เราไปกินได้ให้น้ำยาฉีดทากมา ขอบอกว่าใช่ดีมากๆ ฉีดปุ๊บทากหลุดเลย และเลือดก็ไม่ไหลด้วย ทุกท่านคงอยากจะทราบว่ามันคือยาวิเศษอะไร ที่ผมสืบๆมามันคือ ........มันคือ........มันคือ น้ำส้มสายชูนี้เอง ผสมน้ำไหมไม่รู้แต่เค้าเอามาให้จากหลังร้าน ใช่ดีจริงๆ ขอจบวันแรกไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ส่วนวันที่สองตอนอยู่บนภูจะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ