สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ปลุกข้าวก็ต้องได้ราคาข้าว ไม่ใช้ปลูกข้าวแต่จะเอาไปขายร้านทอง
กระทู้นี้เขียนมาจากอารมณ์ที่โดนแม่ค้าของหวานที่ขึ้นราคาโคตรเวอร์
จากถุงละ35 วันนี้ขาย50 พอบอกว่าวันนี้ไม่เอา ที่บ้านเขาทำไว้ให้
(เพราะเคยทำเองทุนต่อถุง10บาท)
กลับโดนแม่ค้าต่อว่าไล่หลังมา ต่อไปก็ไม่ต้องค้าขายกันแล้วทุกคนไปทำกินเองกันหมดแม่ค้าไม่อดตายหรือไงค่ะ
เดินไปร้านข้าวมันไก้ เจอขึ้นราคาตัดใจไม่กิน แล่ะก็ดูมีเพื่อนหลายคนที่ไม่กินร้านนี้ เจ้าก็ของร้านนั่งเฝ้าไก่ไป
ถึงเวลาที่ต้องเลิกเกรงใจกันแล้ว ใครขึ้นราคาไม่ต้องทนให้ขูดรีด ยังมีทางเลือกให้ประหยัด ลองดูว่าใครจะไปก่อนกัน
กระทู้นี้เขียนมาจากอารมณ์ที่โดนแม่ค้าของหวานที่ขึ้นราคาโคตรเวอร์
จากถุงละ35 วันนี้ขาย50 พอบอกว่าวันนี้ไม่เอา ที่บ้านเขาทำไว้ให้
(เพราะเคยทำเองทุนต่อถุง10บาท)
กลับโดนแม่ค้าต่อว่าไล่หลังมา ต่อไปก็ไม่ต้องค้าขายกันแล้วทุกคนไปทำกินเองกันหมดแม่ค้าไม่อดตายหรือไงค่ะ
เดินไปร้านข้าวมันไก้ เจอขึ้นราคาตัดใจไม่กิน แล่ะก็ดูมีเพื่อนหลายคนที่ไม่กินร้านนี้ เจ้าก็ของร้านนั่งเฝ้าไก่ไป
ถึงเวลาที่ต้องเลิกเกรงใจกันแล้ว ใครขึ้นราคาไม่ต้องทนให้ขูดรีด ยังมีทางเลือกให้ประหยัด ลองดูว่าใครจะไปก่อนกัน
ความคิดเห็นที่ 48
การขายอาหารสำเร็จรูปข้างทางกำลังจะถึงคราวแย่จริงๆแล้ว ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันถ้าไม่มีใครปรับตัวคือตายกันหมด
ยกตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือหมูปิ้ง ตามที่ต่างๆ เดิมเราเคยเห็นแต่หมูแบบหั่นเองปรุงเองเสียบไม้ย่างเอง แต่ด้วยวัตถุดิบแต่ละชิ้นได้ต้นทุนราคาปลีกทั้งหมด น้ำตาล พริกไทย หมู ซอส ถ่าน ไม้เสียบ ทุกอย่างราคาปลีก ต้นทุนมหาศาล นับวันหมูปิ้งเลยแพงเรื่อยๆ
ทีนี้มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นคือ หมูหมักเสียบไม้จากโรงงานพร้อมปิ้งขาย โรงงานได้ทุกอย่างราคาทุน คุณภาพมีการควบคุม ราคาถูกกว่า ของพอแทนกันได้ ทำให้คนขายแบบดั้งเดิมล้มหายตายจากไปเรื่อยๆ
ตอนนี้เริ่มเห็นร้าน Fast food ต่างๆตอนเย็น รวมถึง ซุปเปอร์ เต็มไปด้วยพ่อบ้านแม่บ้าน นักเรียน คนทำงานเลิกงาน ซื้อของเต็มไปหมด
KFC อาหารจานเดียว + น้ำ ราคา 59 บาท เปิดปิดเป็นเวลา รอไม่นาน รสชาดและปริมาณเดิมทุกครั้งที่กิน แอร์เย็น สุขลักษณะได้มาตรฐาน
กิจการเสียภาษีให้รัฐถูกต้องเต็มที่ ร้านจ้าง นักศึกษา ให้มีงานระหว่างเรียน
ซุปเปอร์มาร์เก็ต ช่วงเย็นๆ มีลดราคาของ แกงถุง อาหารแพค 10-15-20 เอาไปอุ่นใหม่ปรุงรสเพิ่ม ผัดก๋วยเตี๋ยวผัดไทย เอาไปผัดใหม่ปรุงรสเพิ่ม ของสดผักสด ลด 30-70 % โล๊ะสตอคไปเลย ไม่เอามาเวียนขายวันพรุ่งนี้แต่ราคาเดิม แบบแม่ค้า ของเลือกได้ ไม่โดนหน้าง้ำหน้างอใส่
จ่ายเงินผ่านบัตรสมาชิก สะสมแต้มนู้นี่ ได้อีก
ยกตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือหมูปิ้ง ตามที่ต่างๆ เดิมเราเคยเห็นแต่หมูแบบหั่นเองปรุงเองเสียบไม้ย่างเอง แต่ด้วยวัตถุดิบแต่ละชิ้นได้ต้นทุนราคาปลีกทั้งหมด น้ำตาล พริกไทย หมู ซอส ถ่าน ไม้เสียบ ทุกอย่างราคาปลีก ต้นทุนมหาศาล นับวันหมูปิ้งเลยแพงเรื่อยๆ
ทีนี้มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นคือ หมูหมักเสียบไม้จากโรงงานพร้อมปิ้งขาย โรงงานได้ทุกอย่างราคาทุน คุณภาพมีการควบคุม ราคาถูกกว่า ของพอแทนกันได้ ทำให้คนขายแบบดั้งเดิมล้มหายตายจากไปเรื่อยๆ
ตอนนี้เริ่มเห็นร้าน Fast food ต่างๆตอนเย็น รวมถึง ซุปเปอร์ เต็มไปด้วยพ่อบ้านแม่บ้าน นักเรียน คนทำงานเลิกงาน ซื้อของเต็มไปหมด
KFC อาหารจานเดียว + น้ำ ราคา 59 บาท เปิดปิดเป็นเวลา รอไม่นาน รสชาดและปริมาณเดิมทุกครั้งที่กิน แอร์เย็น สุขลักษณะได้มาตรฐาน
กิจการเสียภาษีให้รัฐถูกต้องเต็มที่ ร้านจ้าง นักศึกษา ให้มีงานระหว่างเรียน
ซุปเปอร์มาร์เก็ต ช่วงเย็นๆ มีลดราคาของ แกงถุง อาหารแพค 10-15-20 เอาไปอุ่นใหม่ปรุงรสเพิ่ม ผัดก๋วยเตี๋ยวผัดไทย เอาไปผัดใหม่ปรุงรสเพิ่ม ของสดผักสด ลด 30-70 % โล๊ะสตอคไปเลย ไม่เอามาเวียนขายวันพรุ่งนี้แต่ราคาเดิม แบบแม่ค้า ของเลือกได้ ไม่โดนหน้าง้ำหน้างอใส่
จ่ายเงินผ่านบัตรสมาชิก สะสมแต้มนู้นี่ ได้อีก
ความคิดเห็นที่ 11
อย่าคิดว่าต้นทุนเขาขึ้นแค่ 50 บ. ซิ ข้าวมันไก่ มันมีแก๊ซอย่างเดียวหรือไง ที่ขึ้น
ข้าว ไก่ เครื่องปรุง ค่าเช่า ค่าลูกจ้าง ทุกอย่างมันขึ้นกันทั้งนั้น
ค่าเช่าจากเดิม เดือนละ 1 หมื่น เจ้าของขอขึ้น 2 พัน ก็ 20% แล้ว
ค่าลุกจ้างแต่ก่อนวันละ 200 มาเป็น 300 ร้านหนึ่ง มีลูกจ้างซัก 2 คน เท่ากับขึ้น มาวันละ 200 บ. แล้ว
ส่วนที่คิดมานั้นนะ เยอะเกิน ของบางอย่างประหยัดได้ บางอย่างประหยัดไม่ได้
ส้มตำ มีตั้งแต่ราคาครกละ 20 ไปจนถึง ครกละ 100 กว่าบาท
แล้วแต่เลย เลือกกินเอาซิ ของทุกอย่างก็เหมือนกัน ใครมีกำลังจ่ายขนาดไหนก็เลือกเอา เขาไม่ได้บังคับ
ข้าว ไก่ เครื่องปรุง ค่าเช่า ค่าลูกจ้าง ทุกอย่างมันขึ้นกันทั้งนั้น
ค่าเช่าจากเดิม เดือนละ 1 หมื่น เจ้าของขอขึ้น 2 พัน ก็ 20% แล้ว
ค่าลุกจ้างแต่ก่อนวันละ 200 มาเป็น 300 ร้านหนึ่ง มีลูกจ้างซัก 2 คน เท่ากับขึ้น มาวันละ 200 บ. แล้ว
ส่วนที่คิดมานั้นนะ เยอะเกิน ของบางอย่างประหยัดได้ บางอย่างประหยัดไม่ได้
ส้มตำ มีตั้งแต่ราคาครกละ 20 ไปจนถึง ครกละ 100 กว่าบาท
แล้วแต่เลย เลือกกินเอาซิ ของทุกอย่างก็เหมือนกัน ใครมีกำลังจ่ายขนาดไหนก็เลือกเอา เขาไม่ได้บังคับ
แสดงความคิดเห็น
ร้องว่าเศรษฐกิจไม่ดี ข้าวของแพง คนไม่ซื้อสุดท้ายก็ปิดร้าน วงจรนี้ใครจะไปก่อนกัน
เพิ่มราคาจานละ5บาท(+10%)ทันที ขายได้200จาน กำไรเพิ่มวันละ1พัน
คิดเลขกลมๆ ลูกค้ากินข้าว3มื้อ(สมมุติกินข้าวมันไก่ทุกมื้อ)
เจอ+ไปมื้อละ5บาทแบบงงๆ เดือนนึงจ่ายเพิ่ม450ทันที มีค่าน้ำแข็งเปล่าแก้วเล็ก+3บาทอีก
รายได้เท่าเดิมแต่รายจ่ายสูงขึ้นแบบไม่น่าจะสูง สุดท้ายก็ต้องประหยัด
กินข้าววันละ2มื้อ เลิกกินข้าวนอกบ้าน ทำข้าวทานเอง อะไรก็ต้องเซฟ
พอผู้บริโภคเริ่มเห็นว่าของแพงเกินเหตุผล ไม่ได้มีแค่เรื่องกินอย่างเดียว
รวมๆทุกทางพ่อค้าปลายทาง+ไปทุกอย่าง10% คนธรรมดาก็ต้องเซฟรายจ่ายให้มันอยู่ได้
***พอลูกค้าเซฟตัวเองพ่อค้าแม่ค้าหน้าเลือดก็เริ่มขายของไม่ได้ ก็มาร้องเศรษฐกิจไม่ดี
(ต้นทุนขึ้น50 แต่ตัวเอง+กำไรไปเป็นพัน)***
สุดท้ายไม่ลดราคา ไม่ปิดร้าน ก็สั่งของเข้าร้านน้อยลง เคยสั่งไก่วันละ5ตัว เหลือ2ตัว
สั่งของน้อยลงบริษัทขายไก่ก็ออเดอร์หาย กำไรหด
พอลดราคาไก่ต้นทาง แม่ค้าปลายทางกลับไม่ลดราคาต่อจาน หวังว่าจะชดเชยรายได้ที่ขาดไปช่วง
ลูกค้าหนี คือขายน้อยจานเท่าเดิมแต่ทุนต่ำลง แต่สุดท้ายก็ไม่ไหวปิดร้านเจ๊ง มาร้องว่าเศรษฐกิจมันแย่
สุดท้ายบริษัทขายไก่ก็ขาดออเดอร์ไปถาวร1ส่วนเล็กๆ(แต่รวมกันทั้งประเทศก็เยอะอยู่)
หนีไปขายกล้วยแขก ก็ทำอีก ทุนต่อชิ้น50ตัง ขายมันชิ้นละ2.25บาท อ้างว่ากะทิแพง กล้วยแพง
2เดือนเจ๊ง มาร้องอีกว่าเศรษฐกิจแย่
คือเอากำไรเกินควรคนผู้บริโภคไปไม่ไหว มาสุดสายป่านกันตอนนี้พร้อมๆกัน ต้นทุนลด ฉันเอากำไรเพิ่ม
ต้นทุนเพิ่ม10ฉันจะเอากำไรเพิ่ม100 ไม่มีใครยอมโดนขูดรีดได้ตลอดไป มันก็หาทางออกกันไปโดย
เซฟเงินในกระเป๋า
ที่ข้าวของแพงมันมาจากวิธีคิดของพวกพ่อค้าแม่ค้าระดับร้านตลาดนี่แหล่ะ อยากขายกล้อยแขกทุน50ตังให้ได้กำไรเท่า
ไก่kfc จะเอาเงินอย่างเดียว อยากขายน้อยแต่กำไรมหาศาล มันก็พังพาบกันไป
ช่วงนี้อย่าแปลกใจว่าจะมีเสียงบ่นว่าเศรษฐกิจไม่ได้ ส่วนหนึ่งมันมาจากนายทุนต้นทาง แต่อีกส่วนนึงมันก็มาจากพ่อค้าแม่ค้าปลายทาง
ผู้บริโภคเขามีรายได้ไม่ต่างจากเดิม แต่ทุกส่วนพร้อมใจกันจะเอากำไรมากเกินกว่าผู้บริโภคจะจ่ายไหว มันก็พังกันไปข้าง
สร้างสมดุลย์กันไป
ถ้ายังไม่มีกฏหมายควบคุมราคา ปล่อยให้สินค้ามั่วนิ่มขึ้นราคาทีละ10%แบบนี้ ก็อย่าแปลกใจที่เศรษฐกิจมันจะฝืด
ค่าเช่าที่ขึ้นทีนึงเดือนละ20% ก็มา+ค่าข้าวต่อจาน10% ลูกค้าหนี เจ๊งปิดร้าน ไม่มีค่าเช่าที่ สุดท้ายคนเริ่มขึ้นราคาก็พัง
ผมกลับเชื่อว่าที่มีคนบ่น และรับจ้างบ่นว่าเศรษฐกิจมันไม่ดี สุดท้ายมันจะปรับไปหาสมดุลย์ ราคาที่สะท้อนต้นทุน
กฏหมายที่คุมราคาสินค้า ทำได้เมื่อไรกำลังซื้อมันจะกลับมาเอง