วันนี้ไปเดินเล่นที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว เพื่อนเอาหนังสือThe hobbit มาคืน โดยผมซื้อมาอ่านตั้งแต่ปีที่แล้ว หนีบไว้ที่รักแร้ตลอด เดินไปเดินมาเข้าร้าน B2S ไปโซนหนังสือภาษาอังกฤษที่เป็นส่วนของ Asia books หยิบหนังสือเกี่ยวกับการสอบ IELTS มาอ่านเพราะผมกำลังจะสอบ หนังสือที่หนีบไว้ที่รักแร้เริ่มเกะกะจึงเอาหนังสือใส่ถุงกระดาษที่ซื้อของจากเซ็นทรัลไว้ สักพักเดินออกจากร้าน แต่ไม่ได้ซื้อหนังสือ IELTS เพราะอยากอ่านของที่มีอยู่แล้วให้จบก่อน พอเดินพ้นร้านปุ๊บสัญญาณดังครับ พนักงานผู้ชายมาเรียกขอดูของในถุง ผมให้ดูเค้าเห็นหนังสือ The Hobbit ปกแข็งเค้าบอกว่าผมยังไม่ได้ชำระค่าหนังสือ ผมบอกว่าผมซื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วจากร้าน Asia book ชั้นบนเซ็นทรัลลาดพร้าวนี่แหละ แล้วถือติดมือมาเฉยๆ พนักงานไม่เชื่อครับ เชิญผมไปพบกับพนักงานของ Asia books ที่อยู่ใน B2S
จากนั้นพนักงานผู้หญิงชักสีหน้าทำหน้าตาไม่ดีและยึดหนังสือผมไปแล้วบอกว่าผมยังไม่ได้จ่ายเงิน ผมขโมยหนังสือสามารถเช็คจากกล้องวงจรปิดได้เลย ผมเดินตามเธอไประหว่างนั้นผมให้บัตรประจำตัวเธอดูว่าผมเป็นข้าราชการทหาร เป็นหมอทหารครับ ผมไม่มีความคิดขโมยหนังสือจากร้านนี่แน่นอนและผมก็เป็นเมมเบอร์ ซื้อก้อได้ส่วนลดทุกครั้ง เธอให้ผมดูกล้องวงจรปิดเห็นภาพผมเอาหนังสือใส่ถุงชัดเจน ผมยืนยันว่าผมเอาหนังสือใส่ถุงจริงแต่เป็นหนังสือที่ผมถือมาแต่แรกแล้วนี่ครับ เธอยังยืนยันต่อว่าหนังสือ The hobbit ที่ร้านมีสองเล่มตอนนี้เหลือเล่มเดียวต้องโดนขโมยไปแน่แน่ ผมก็ยืนยันว่าผมไม่ได้เอาไป น้องชายผมซึ่งยืนเงียบอยู่นานทนไม่ไหวจึงบอกว่าทำไมหนังสือห่อปก plastic แล้วละ เธอบอกว่าหนังสือจะไม่ห่อปกเล่มนึงและห่อปกเล่มนึง ผมคงขโมยเล่มที่ห่อปกไป ผมยืนยันในความบริสุทธิ์ ผมบอกว่าเช็คประวัติการซื้อของคนที่เป็นเมมเบอร์ได้ไหม เธอตอบว่าได้ ผมจึงให้เธอเช็คปรากฎว่ามีรายการหนังสือที่ผมซื้อจาก asia books ยาวเหยียด ก็พยายามไล่หาว่าอยู่รายการไหนเพราะมีเยอะมากจากประวัติการซื้อ ระหว่างนั้น ผมจึงบอกว่าชั้นที่ผมยืนอ่านหนังสืออยู่นั้นเป็นหนังสือเกี่ยวกับการสอบภาษาอังกฤษไม่ใช่นิยายนะ ถ้าผมเอาหนังสือจากชั้นนั้นใส่ถุงก้อต้องเป็นหนังสือ IELTS เธอก้อเงียบลงหน้าเริ่มเสีย ไหว้ผมอย่างเสียไม่ได้หนึ่งครั้ง น้องชายบอกให้ซูมเข้าไปดูได้ไหม ว่าผมหยิบหนังสือเรื่องอะไรใส่ถุงกระดาษและกล้องอันอื่นในร้านเห็นไหมว่าผมหนีบหนังสืออยู่ที่รักแร้ตั่งแต่เดินเข้าร้านมา เธอยังไม่ได้ทำตามที่น้องชายบอก แต่เธอคงคิดได้ว่าเธอกล่าวหาคนผิดเสียแล้ว เธอเริ่มหน้าเสียครับก่อนยกมือไหว้ผมอีกสามครั้ง บอกเหตุการณ์ขโมยแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยเธอจึงเข้าใจผิด
สิ่งที่อยากบอกทางร้านนะครับ ว่าไม่จะอย่างไรควรเชิญลูกค้าพูดคุยด้วยความสุภาพ(เพราะโอกาสที่คุณจะปรักปรำคนผิดก็มีนะ) เเละทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีการพิสูจน์ชัดเจน ไม่ใช่ทำกริยาไม่ดีตั้งแต่แรก แถมยึดหนังสือผมเดินเชิบเข้าร้านไป ทุกคนก้อมองผมไม่ดี(ระหว่างที่เถียงกันครับ) ผมก็ต้องเสียเวลาและเสียอารมณ์(โกรธที่โดนหาว่าเป็นขโมยทั้งๆที่ผมก็ซื้อหนังสือจากร้านเค้าแต่ต่างแค่สาขา) อีกอย่างคือหนังสือที่เราได้ชำระเงินออกมาจากร้านนานเป็นปีแล้วถ้าเราถือเข้าไปอีกมันจะดังทุกครั้งรึเปล่าครับ อันนี้ต่างสาขากันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
เกือบถูกร้านเอเชียบุ๊คหาว่าเป็นขโมยครับ
จากนั้นพนักงานผู้หญิงชักสีหน้าทำหน้าตาไม่ดีและยึดหนังสือผมไปแล้วบอกว่าผมยังไม่ได้จ่ายเงิน ผมขโมยหนังสือสามารถเช็คจากกล้องวงจรปิดได้เลย ผมเดินตามเธอไประหว่างนั้นผมให้บัตรประจำตัวเธอดูว่าผมเป็นข้าราชการทหาร เป็นหมอทหารครับ ผมไม่มีความคิดขโมยหนังสือจากร้านนี่แน่นอนและผมก็เป็นเมมเบอร์ ซื้อก้อได้ส่วนลดทุกครั้ง เธอให้ผมดูกล้องวงจรปิดเห็นภาพผมเอาหนังสือใส่ถุงชัดเจน ผมยืนยันว่าผมเอาหนังสือใส่ถุงจริงแต่เป็นหนังสือที่ผมถือมาแต่แรกแล้วนี่ครับ เธอยังยืนยันต่อว่าหนังสือ The hobbit ที่ร้านมีสองเล่มตอนนี้เหลือเล่มเดียวต้องโดนขโมยไปแน่แน่ ผมก็ยืนยันว่าผมไม่ได้เอาไป น้องชายผมซึ่งยืนเงียบอยู่นานทนไม่ไหวจึงบอกว่าทำไมหนังสือห่อปก plastic แล้วละ เธอบอกว่าหนังสือจะไม่ห่อปกเล่มนึงและห่อปกเล่มนึง ผมคงขโมยเล่มที่ห่อปกไป ผมยืนยันในความบริสุทธิ์ ผมบอกว่าเช็คประวัติการซื้อของคนที่เป็นเมมเบอร์ได้ไหม เธอตอบว่าได้ ผมจึงให้เธอเช็คปรากฎว่ามีรายการหนังสือที่ผมซื้อจาก asia books ยาวเหยียด ก็พยายามไล่หาว่าอยู่รายการไหนเพราะมีเยอะมากจากประวัติการซื้อ ระหว่างนั้น ผมจึงบอกว่าชั้นที่ผมยืนอ่านหนังสืออยู่นั้นเป็นหนังสือเกี่ยวกับการสอบภาษาอังกฤษไม่ใช่นิยายนะ ถ้าผมเอาหนังสือจากชั้นนั้นใส่ถุงก้อต้องเป็นหนังสือ IELTS เธอก้อเงียบลงหน้าเริ่มเสีย ไหว้ผมอย่างเสียไม่ได้หนึ่งครั้ง น้องชายบอกให้ซูมเข้าไปดูได้ไหม ว่าผมหยิบหนังสือเรื่องอะไรใส่ถุงกระดาษและกล้องอันอื่นในร้านเห็นไหมว่าผมหนีบหนังสืออยู่ที่รักแร้ตั่งแต่เดินเข้าร้านมา เธอยังไม่ได้ทำตามที่น้องชายบอก แต่เธอคงคิดได้ว่าเธอกล่าวหาคนผิดเสียแล้ว เธอเริ่มหน้าเสียครับก่อนยกมือไหว้ผมอีกสามครั้ง บอกเหตุการณ์ขโมยแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยเธอจึงเข้าใจผิด
สิ่งที่อยากบอกทางร้านนะครับ ว่าไม่จะอย่างไรควรเชิญลูกค้าพูดคุยด้วยความสุภาพ(เพราะโอกาสที่คุณจะปรักปรำคนผิดก็มีนะ) เเละทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีการพิสูจน์ชัดเจน ไม่ใช่ทำกริยาไม่ดีตั้งแต่แรก แถมยึดหนังสือผมเดินเชิบเข้าร้านไป ทุกคนก้อมองผมไม่ดี(ระหว่างที่เถียงกันครับ) ผมก็ต้องเสียเวลาและเสียอารมณ์(โกรธที่โดนหาว่าเป็นขโมยทั้งๆที่ผมก็ซื้อหนังสือจากร้านเค้าแต่ต่างแค่สาขา) อีกอย่างคือหนังสือที่เราได้ชำระเงินออกมาจากร้านนานเป็นปีแล้วถ้าเราถือเข้าไปอีกมันจะดังทุกครั้งรึเปล่าครับ อันนี้ต่างสาขากันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ