คดี ฆาตกรรมโดยใช้ปืนเป็นอาวุธนั้น แน่นอนว่าหลักฐานสำคัญสุดของคดี
ย่อมต้องเป็นอาวุธปืน จึงน่าสนใจว่าคดีสังหารนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์
หรือนายกตุ่น ทั้งที่ไม่มีของกลางอาวุธปืนที่ลงมือยิง ไม่สามารถนำมา
ตรวจพิสูจน์ได้
แต่พนักงานสอบสวน สามารถรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ ที่ชี้มัดในประเด็น
อาวุธปืนได้ชัดเจน
เมื่อรวมกับพยานหลักฐานทั้งหลายทั้งปวงในคดี ทำให้ศาลเห็นได้ว่ากระทำ
ผิดแน่นอน ต้องลงโทษจำเลย สถานหนัก
จนนำมาสู่คำพิพากษาให้ประหารชีวิตอดีตส.ส.ครรชิต ทับสุวรรณ แห่งพรรคประชาธิปัตย์
จากหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งหัวกระสุนและปลอกกระสุน พบว่ายิงจากปืนกล็อกขนาด.40
เมื่อตรวจสอบจากทะเบียนผู้มีและใช้อาวุธปืน.40 พบว่าในสมุทรสาครมีอยู่เพียง
แค่ 8 กระบอก และมีอดีตส.ส.ครรชิตรวมอยู่ด้วย
แต่ในวันที่อดีตส.ส.ครรชิตเข้ามอบตัว ได้ปฏิเสธข้อหา และปฏิเสธจะส่งมอบ
ปืน.40 ของตนมาให้พิสูจน์ด้วย!
ในการเข้ามอบตัวของอดีตส.ส.ครรชิต ได้มาพร้อมกับเหล่านักการเมืองมือ
กฎหมายของประชาธิปัตย์หลายคน
พูดจาแสดงท่าที ตั้งป้อมสู้คดีนี้เต็มที่ ยืนยันว่าอดีตส.ส.ครรชิตไม่ได้กระทำผิด
เห็นเช่นนี้แล้ว ยิ่งทำให้ฝ่ายตำรวจต้องทุ่มเทรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์
ความผิดของผู้ถูกกล่าวหาให้รอบคอบรัดกุมที่สุด
เฉพาะอาวุธปืน เป็นเรื่องท้าทายความสามารถของตำรวจมาก
เมื่อเรียกปืนขนาดเดียวกันนี้ของผู้ครอบครองในจังหวัดมาตรวจทั้งหมดแล้ว
ไม่ตรงกับหัวกระสุนที่ปลิดชีวิตนายกตุ่นเลย
แต่ปืนของอดีตส.ส.ครรชิต ไม่สามารถนำมาตรวจสอบได้!!
ถือเป็นสิทธิตามกฎหมาย สามารถปฏิเสธไม่ให้ตรวจได้
เพียงแต่จะสะท้อนอะไรให้สังคมได้มองเห็นก็เป็นอีก เรื่องหนึ่ง
สุด ท้าย ระดับพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ และพล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์
ใช้ประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวน มารวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ
เพื่อชี้มัดปืนกระบอกนี้จนได้
เช่น ตรวจบันทึกสนามซ้อมยิงปืน พบว่าอดีตส.ส.ครรชิต มาซ้อมยิงด้วย
ปืน.40 หลายครั้ง
พอจะชี้ให้เห็นว่าพกพาอยู่เป็นประจำ
ไปจนถึงการตรวจดีเอ็นเอที่ปลอกกระสุนรอบที่เกิดเหตุ ก็บ่งชี้ตัวเจ้าของ
ปืนได้ ติดอยู่ตอนที่บรรจุลูกปืนเข้าแม็ก นั่นเอง
คดีนี้ไม่มีอาวุธปืน แต่สามารถพิสูจน์จนชี้ มัดได้
ทำให้ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พนักงานสอบสวนและอัยการสามารถนำ
พยานหลักฐานมามัดจำเลยได้เพียงพอ
จึงนำมาสู่คำพิพากษาดังกล่าว!
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE5UazRNREUyTWc9PQ==§ionid=
แม้ไม่มีปืน ชกไม่มีมุม วงค์ ตาวัน ข่าวสดออนไลน์ ......รอคนประนามสื่อนี้ว่า "ข่าวฉด ฯลฯ" ... sao..เหลือ..noi
ย่อมต้องเป็นอาวุธปืน จึงน่าสนใจว่าคดีสังหารนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์
หรือนายกตุ่น ทั้งที่ไม่มีของกลางอาวุธปืนที่ลงมือยิง ไม่สามารถนำมา
ตรวจพิสูจน์ได้
แต่พนักงานสอบสวน สามารถรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ ที่ชี้มัดในประเด็น
อาวุธปืนได้ชัดเจน
เมื่อรวมกับพยานหลักฐานทั้งหลายทั้งปวงในคดี ทำให้ศาลเห็นได้ว่ากระทำ
ผิดแน่นอน ต้องลงโทษจำเลย สถานหนัก
จนนำมาสู่คำพิพากษาให้ประหารชีวิตอดีตส.ส.ครรชิต ทับสุวรรณ แห่งพรรคประชาธิปัตย์
จากหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งหัวกระสุนและปลอกกระสุน พบว่ายิงจากปืนกล็อกขนาด.40
เมื่อตรวจสอบจากทะเบียนผู้มีและใช้อาวุธปืน.40 พบว่าในสมุทรสาครมีอยู่เพียง
แค่ 8 กระบอก และมีอดีตส.ส.ครรชิตรวมอยู่ด้วย
แต่ในวันที่อดีตส.ส.ครรชิตเข้ามอบตัว ได้ปฏิเสธข้อหา และปฏิเสธจะส่งมอบ
ปืน.40 ของตนมาให้พิสูจน์ด้วย!
ในการเข้ามอบตัวของอดีตส.ส.ครรชิต ได้มาพร้อมกับเหล่านักการเมืองมือ
กฎหมายของประชาธิปัตย์หลายคน
พูดจาแสดงท่าที ตั้งป้อมสู้คดีนี้เต็มที่ ยืนยันว่าอดีตส.ส.ครรชิตไม่ได้กระทำผิด
เห็นเช่นนี้แล้ว ยิ่งทำให้ฝ่ายตำรวจต้องทุ่มเทรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์
ความผิดของผู้ถูกกล่าวหาให้รอบคอบรัดกุมที่สุด
เฉพาะอาวุธปืน เป็นเรื่องท้าทายความสามารถของตำรวจมาก
เมื่อเรียกปืนขนาดเดียวกันนี้ของผู้ครอบครองในจังหวัดมาตรวจทั้งหมดแล้ว
ไม่ตรงกับหัวกระสุนที่ปลิดชีวิตนายกตุ่นเลย
แต่ปืนของอดีตส.ส.ครรชิต ไม่สามารถนำมาตรวจสอบได้!!
ถือเป็นสิทธิตามกฎหมาย สามารถปฏิเสธไม่ให้ตรวจได้
เพียงแต่จะสะท้อนอะไรให้สังคมได้มองเห็นก็เป็นอีก เรื่องหนึ่ง
สุด ท้าย ระดับพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ และพล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์
ใช้ประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวน มารวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ
เพื่อชี้มัดปืนกระบอกนี้จนได้
เช่น ตรวจบันทึกสนามซ้อมยิงปืน พบว่าอดีตส.ส.ครรชิต มาซ้อมยิงด้วย
ปืน.40 หลายครั้ง
พอจะชี้ให้เห็นว่าพกพาอยู่เป็นประจำ
ไปจนถึงการตรวจดีเอ็นเอที่ปลอกกระสุนรอบที่เกิดเหตุ ก็บ่งชี้ตัวเจ้าของ
ปืนได้ ติดอยู่ตอนที่บรรจุลูกปืนเข้าแม็ก นั่นเอง
คดีนี้ไม่มีอาวุธปืน แต่สามารถพิสูจน์จนชี้ มัดได้
ทำให้ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พนักงานสอบสวนและอัยการสามารถนำ
พยานหลักฐานมามัดจำเลยได้เพียงพอ
จึงนำมาสู่คำพิพากษาดังกล่าว!
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE5UazRNREUyTWc9PQ==§ionid=