เรากับเพื่อน 6 คน จองตั๋วนกแอร์ช่วงโปรโมชั่นจะไปเที่ยวพม่า 4 วัน 3 คืน ในวันที่ 9 - 12 มกราคม 58
ด้วยความงกไม่อยากจ้าง Agent ไปทำวีซ่า เลยลองหารีวิวจากเพื่อนๆ ในห้องบลูเห็นบอกว่า ขอวีซ่าพม่าเองง่ายนิดเดียว
เราเลยไม่รอช้าเตรียมตัวเก็บข้อมูลจากเน็ทและจากเพื่อนๆห้องบูล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้นดูเหมือนง่าย แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่เราคิดเลย เราเลยอยากแชร์ข้อมูลและประสบการณ์ ที่เจอสดๆ ร้อนๆ เพื่อที่คนอื่นๆ จะได้ไม่เจอเหตุการณ์อย่างที่เราเจอนะคะ
การเตรียมตัวของเรา รู้ว่าช่วงเดือนปลายปีและต้นปี เป็นฤดูท่องเที่ยว คนจะมาขอวีซ่าเยอะแน่นอน เราเลยยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าก่อน โดยวีซ่าจะมีอายุ 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ยื่น อย่างของเรายื่น 13 พ.ย.57 เดินทาง 9 - 12 ม.ค.58 ถือว่าอายุวีซ่ายังไม่เกิน
การเตรียมเอกสารขอวีซ่า
1.หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
2.รูปถ่าย 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว จำนวน 2 รูป
2.1 ติด 1 รูปในแบบฟอร์มขอวีซ่าเลยค่ะ
2.2 อีก 1 รูป ใช้คลิปหนีบกระดาษหนีบไปกับแบบฟอร์ม
3.แบบฟอร์มขอวีซ่า กรอกให้ครบทั้ง 2 หน้า (มีคนรีวิวว่าไม่ต้องกรอกหน้าหลังเจ้าหน้าที่ไม่ดูหรอก อันนี้ไม่จริงนะคะ
ของเราขนาดกรอกครบทั้ง 2 หน้า ยังเกิดเรื่องจนได้ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง)
ลิงก์แบบฟอร์ม อันนี้เราหาจากในเน็ตค่ะ
http://www.myanmarembassybkk.com/wp-content/uploads/2013/07/APPLICATION-FOR-ENTRY-TOURIST-VISA.pdf
ตัวอย่างการกรอกวีซ่า
หน้าแรก --รูปนี้เรายืมมาจากในเน็ตนะคะ
หน้าหลัง--รูปนี้เรายืมมาจากในเน็ตนะคะ
ตรงข้อ 3 Work Description C - Office / Section / Division - ขอให้กรอก "ชื่อที่ทำงาน" เพราะเค้าอยากรู้ว่าเราทำงานที่ไหน ไม่ต้องใส่ฝ่ายอะไร ทีมอะไร เค้าไม่อยากรู้ค่ะ ข้อ C นี้ ทำให้เราเกิดเรื่องอีกครั้งจนได้เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลังค่ะ)
3.สำเนา Passport 1 ใบ (มีคนรีวิวว่าต้องมี สำเนาทะเบียนบ้าน และ สำเนาบัตรประชาชน บางคนบอกว่าไม่ต้อง ซึ่งเราได้เตรียมไป
เพื่อความแน่ใจ เราได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่สถานทูตโดยตรงบอกว่า " ไม่ต้องใช้ค่ะ")
4.
กรณียื่นตั้งแต่ 3 เล่มขึ้นไป จะต้องมีแบบฟอร์มปะหน้า (ซึ่งไม่เคยเห็นใครรีวิวเรื่องนี้มาก่อน และใบปะหน้านี้ทำให้เกิดเรื่องอีกครั้งจนได้) ของเรายื่นแทนเพื่อนจำนวน 6 เล่ม ต้องเขียนใบปะหน้าด้วยค่ะ ใบปะหน้าสามารถพิมพ์และ Print ออกมาเองได้เลยค่ะ
ตามตัวอย่างนี้นะคะ
้เวลาทำการของสถานทูต
การเดินทางไปสถานฑูตพม่า รูปภาพสถานีสุรศักดิ์ยืมจากในเน็ตนะคะ
ขึ้น BTS ลงสถานีสุรศักดิ์ ทางออก 3 เมื่อลงไปข้างล่างสถานีให้หันหน้าเข้าหาถนน แล้วเดินไปทางซ้ายมือค่ะ เดินไปเรื่อยๆ
ผ่านโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เดินไปต่ออีกหน่อย ทางซ้ายมือจะเห็นสถานทูต สังเกตเห็นคนเข้าแถวยาวมาก เข้าไปต่อแถวได้เลย มีป้ายตรงประตูว่า Visa Section ของเราไปตอน 8 โมงเช้า แต่คนเข้าคิวยาวเป็นหางว่าวแล้ว ขนาดสถานทูตเปิดให้บริการตอน 9 โมง
รอยืนเข้าคิวจนเมื่อย 8.30 สถานทูตใจดีเปิดให้เข้าไปรอด้านใน คนเยอะมากๆ ค่ะ
ข้างในสถานทูต ขนาดประมาณ 4 * 10 เมตร เป็นห้องเล็กๆ แคบๆ ไม่มีหน้าต่าง มีแอร์ 1 เครื่อง แต่ในนั้นกลับมีมนุษย์หลากหลายสายพันธ์ุทั้ง ไทย ฝรั่ง แขก พม่า ยืนเข้าแถววนเป็นเขาวงกต อัดแน่นเป็นหางว่าว รวมแล้วหลายร้อยชีวิต โดยทุกคนต่างต่อแถวเพื่อรอรับบัตรคิวจาก ช่องหมายเลข 4 ในนั้นจะมีเจ้าหน้าที่สถานทูตใส่เสื้อสีชมพู คอยแจกแบบฟอร์มวีซ่า และถามว่าใครยังไม่ได้สำเนา Passport สามารถถ่ายที่สถานทูตได้คิดใบละ 3 บาท
ส่วนของเรากรอกแบบฟอร์ม ติดรูปถ่าย สำเนา Passport มาพร้อมมาหมดแล้ว รอยื่นอย่างเดียว
เวลา 9.10 น. ทางสถานทูตเริ่มเปิดให้รับบัตรคิว (ในนี้ไม่มีภาพนะคะเค้าห้ามถ่ายรูป) หลังจากยืนรอรับบัตรมาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งตั้งแต่ 8 โมงเช้า เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิด เมื่อถึงคิวรับบัตรของเรา เจ้าหน้าที่ช่อง 4 ถามเราว่ามี Passport กี่เล่ม เราบอกมี 6 เล่ม เค้าถามว่ามีใบปะหน้า Name List ไหม เราทำหน้าเหวอ "บอกว่าไม่มี" (ก็ไม่เห็นมีใครบอกว่าเวลายื่นขอวีซ่าเกิน 3 เล่มต้องมีใบปะหน้านี่)
แม่เจ้าชั้นจะทำไงดี เจ้าหน้าที่เลยให้ใบปะหน้ากับเรา บอกให้ไปเขียนมาให้ครบ แล้วไล่เราไปต่อแถวใหม่
นั่นหมายความว่า เราต้องออกไปนอกสถานทูต ไปยืนต่อคิวหน้าถนนอีกครั้ง โชคดีที่เราไปกับเพื่อน เราเลยให้เพื่อนเขียนใบ Name List ส่วนเราวิ่งออกไปนอกสถานทูตเพื่อต่อคิวใหม่อีกครั้ง....บอกได้คำเดียวว่าเซ็งมาก และแล้วเราก็ได้บัตรคิว หมายเลข 350
ใบปะหน้าพร้อมบัตรคิว
เมื่อได้บัตรคิว เราก็หาที่นั่งรอเรียกคิวที่ช่องหมายเลข 3 เพื่อจ่ายเงิน แม้ว่าในสถานทูตจะเปิดแอร์ 26 องศา แต่ด้วยปริมาณคนที่ยืนรอเป็นปลากระป๋อง อากาศในนั้นก็เหมือนตู้อบดีๆ นี่เอง นอกจากร้อนมากแล้ว กลิ่นก็มากด้วย ทั้งกลิ่นฝรั่ง กลิ่นแขก กลิ่นไทย จะไม่มีกลิ่นได้ไงเพราะทุกคนต่างก็จั๊กแร้เปียกกันถ้วนหน้า ตั้งแต่ยืนรอคิวข้างถนนแล้ว
และแล้วช่องหมายเลข 3 ก็เรียวคิวหมายเลข 350 ไปถึงก็ต้องยืนเข้าคิวอีก คนข้างหน้าเราทำ 1 เล่ม ยื่นเงินไป 1,000 บาท เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีเงินทอน คนนั้นเลยต้องออกไปข้างนอกเพื่อไปหาที่แลกเงิน ตอนนั้นเราใจแป๊วอีกรอบ เพราะเรากำเงินไว้ในมือ 5,000 บาท
สำหรับค่าวีซ่า แบบธรรมดา 810 บาท 6 คนเป็นเงิน 4,860 บาท เจ้าหน้าที่จะมีเงินทอนหรือไม่ หรือว่าจะไล่เราไปหาที่แลกเงินอีกรอบ
เมื่อถึงคิวเรา เรายื่นใบปะหน้า พร้อม Passport สำเนา Passport และแบบฟอร์มขอวีซ่า กรอกทั้งด้านหน้าและด้านหลังครบถ้วน จำนวน 6 เล่ม เจ้าหน้าที่รับแล้วพลิกดูด้านหลังของคนที่ 1 ถึง 4 อย่างเร็วๆ แต่พอถึงคนที่ 5 เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า คนที่ 5 ทำงานที่ไหน ทำไมไม่กรอกที่ทำงาน
ขอให้สังเกตแบบฟอร์มหน้าหลัง ตรงข้อ 3 Work Description C - Office / Section / Division - ขอให้กรอก "ชื่อที่ทำงาน" เพื่อนเราไม่ได้ใส่ชื่อที่ทำงานค่ะ แต่ดันใส่ชื่อฝ่ายที่ทำ นึกออกไหมคะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา
เจ้าหน้าที่เลยบอกเราว่าให้ไปตรวจสอบการกรอกแบบฟอร์มใหม่อีกครั้ง เรากับเพื่อนเลยรีบเขียนชื่อที่ทำงานตรงเคาน์เตอร์หมายเลข 3 เลย ไม่ยอมออกไปต่อคิวนอกสถานทูตอีกแล้ว...ถ้าโดนไล่ไปต่อแถวอีกรอบ เราก็จะไม่ยื่นให้เพื่อนเราให้มาทำเองเลย....แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ช่องหมายเลข 3 ใจดีค่ะ ให้เรากรอกตรงนั้นเลย แล้วเราก็ยื่น จ่ายเงินเสร็จสรรพ ได้ใบเหลืองมาอย่างอ่อนโรย นับเวลาที่ยืนรอหน้าสถานทูตตอน 8 โมงเช้า จนเสร็จสิ้นกระบวนการได้ใบเหลืองใน เวลา 11.30 น.
ตัวอย่างใบรับวีซ่า
ปล.คิดว่ารีวิวนี้คงเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะขอวีซ่าไปพม่านะคะ หากเตรียมตัวให้พร้อม เชื่อว่าเพื่อนๆ ห้องบูลคงจะไม่เจอเหตุการณ์เหมือนที่เราเคยเจอนะคะ ขอให้โชคดีในการขอวีซ่าพม่าค่ะ
[CR] รีวิว ขอวีซ่าพม่าด้วยตัวเอง อัพเดท 13 พฤศจิกายน 2557
ด้วยความงกไม่อยากจ้าง Agent ไปทำวีซ่า เลยลองหารีวิวจากเพื่อนๆ ในห้องบลูเห็นบอกว่า ขอวีซ่าพม่าเองง่ายนิดเดียว
เราเลยไม่รอช้าเตรียมตัวเก็บข้อมูลจากเน็ทและจากเพื่อนๆห้องบูล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้นดูเหมือนง่าย แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่เราคิดเลย เราเลยอยากแชร์ข้อมูลและประสบการณ์ ที่เจอสดๆ ร้อนๆ เพื่อที่คนอื่นๆ จะได้ไม่เจอเหตุการณ์อย่างที่เราเจอนะคะ
การเตรียมตัวของเรา รู้ว่าช่วงเดือนปลายปีและต้นปี เป็นฤดูท่องเที่ยว คนจะมาขอวีซ่าเยอะแน่นอน เราเลยยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าก่อน โดยวีซ่าจะมีอายุ 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ยื่น อย่างของเรายื่น 13 พ.ย.57 เดินทาง 9 - 12 ม.ค.58 ถือว่าอายุวีซ่ายังไม่เกิน
การเตรียมเอกสารขอวีซ่า
1.หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
2.รูปถ่าย 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว จำนวน 2 รูป
2.1 ติด 1 รูปในแบบฟอร์มขอวีซ่าเลยค่ะ
2.2 อีก 1 รูป ใช้คลิปหนีบกระดาษหนีบไปกับแบบฟอร์ม
3.แบบฟอร์มขอวีซ่า กรอกให้ครบทั้ง 2 หน้า (มีคนรีวิวว่าไม่ต้องกรอกหน้าหลังเจ้าหน้าที่ไม่ดูหรอก อันนี้ไม่จริงนะคะ
ของเราขนาดกรอกครบทั้ง 2 หน้า ยังเกิดเรื่องจนได้ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง)
ลิงก์แบบฟอร์ม อันนี้เราหาจากในเน็ตค่ะ
http://www.myanmarembassybkk.com/wp-content/uploads/2013/07/APPLICATION-FOR-ENTRY-TOURIST-VISA.pdf
ตัวอย่างการกรอกวีซ่า
หน้าแรก --รูปนี้เรายืมมาจากในเน็ตนะคะ
หน้าหลัง--รูปนี้เรายืมมาจากในเน็ตนะคะ
ตรงข้อ 3 Work Description C - Office / Section / Division - ขอให้กรอก "ชื่อที่ทำงาน" เพราะเค้าอยากรู้ว่าเราทำงานที่ไหน ไม่ต้องใส่ฝ่ายอะไร ทีมอะไร เค้าไม่อยากรู้ค่ะ ข้อ C นี้ ทำให้เราเกิดเรื่องอีกครั้งจนได้เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลังค่ะ)
3.สำเนา Passport 1 ใบ (มีคนรีวิวว่าต้องมี สำเนาทะเบียนบ้าน และ สำเนาบัตรประชาชน บางคนบอกว่าไม่ต้อง ซึ่งเราได้เตรียมไป
เพื่อความแน่ใจ เราได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่สถานทูตโดยตรงบอกว่า " ไม่ต้องใช้ค่ะ")
4.กรณียื่นตั้งแต่ 3 เล่มขึ้นไป จะต้องมีแบบฟอร์มปะหน้า (ซึ่งไม่เคยเห็นใครรีวิวเรื่องนี้มาก่อน และใบปะหน้านี้ทำให้เกิดเรื่องอีกครั้งจนได้) ของเรายื่นแทนเพื่อนจำนวน 6 เล่ม ต้องเขียนใบปะหน้าด้วยค่ะ ใบปะหน้าสามารถพิมพ์และ Print ออกมาเองได้เลยค่ะ
ตามตัวอย่างนี้นะคะ
้เวลาทำการของสถานทูต
การเดินทางไปสถานฑูตพม่า รูปภาพสถานีสุรศักดิ์ยืมจากในเน็ตนะคะ
ขึ้น BTS ลงสถานีสุรศักดิ์ ทางออก 3 เมื่อลงไปข้างล่างสถานีให้หันหน้าเข้าหาถนน แล้วเดินไปทางซ้ายมือค่ะ เดินไปเรื่อยๆ
ผ่านโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เดินไปต่ออีกหน่อย ทางซ้ายมือจะเห็นสถานทูต สังเกตเห็นคนเข้าแถวยาวมาก เข้าไปต่อแถวได้เลย มีป้ายตรงประตูว่า Visa Section ของเราไปตอน 8 โมงเช้า แต่คนเข้าคิวยาวเป็นหางว่าวแล้ว ขนาดสถานทูตเปิดให้บริการตอน 9 โมง
รอยืนเข้าคิวจนเมื่อย 8.30 สถานทูตใจดีเปิดให้เข้าไปรอด้านใน คนเยอะมากๆ ค่ะ
ข้างในสถานทูต ขนาดประมาณ 4 * 10 เมตร เป็นห้องเล็กๆ แคบๆ ไม่มีหน้าต่าง มีแอร์ 1 เครื่อง แต่ในนั้นกลับมีมนุษย์หลากหลายสายพันธ์ุทั้ง ไทย ฝรั่ง แขก พม่า ยืนเข้าแถววนเป็นเขาวงกต อัดแน่นเป็นหางว่าว รวมแล้วหลายร้อยชีวิต โดยทุกคนต่างต่อแถวเพื่อรอรับบัตรคิวจาก ช่องหมายเลข 4 ในนั้นจะมีเจ้าหน้าที่สถานทูตใส่เสื้อสีชมพู คอยแจกแบบฟอร์มวีซ่า และถามว่าใครยังไม่ได้สำเนา Passport สามารถถ่ายที่สถานทูตได้คิดใบละ 3 บาท ส่วนของเรากรอกแบบฟอร์ม ติดรูปถ่าย สำเนา Passport มาพร้อมมาหมดแล้ว รอยื่นอย่างเดียว
เวลา 9.10 น. ทางสถานทูตเริ่มเปิดให้รับบัตรคิว (ในนี้ไม่มีภาพนะคะเค้าห้ามถ่ายรูป) หลังจากยืนรอรับบัตรมาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งตั้งแต่ 8 โมงเช้า เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิด เมื่อถึงคิวรับบัตรของเรา เจ้าหน้าที่ช่อง 4 ถามเราว่ามี Passport กี่เล่ม เราบอกมี 6 เล่ม เค้าถามว่ามีใบปะหน้า Name List ไหม เราทำหน้าเหวอ "บอกว่าไม่มี" (ก็ไม่เห็นมีใครบอกว่าเวลายื่นขอวีซ่าเกิน 3 เล่มต้องมีใบปะหน้านี่)
แม่เจ้าชั้นจะทำไงดี เจ้าหน้าที่เลยให้ใบปะหน้ากับเรา บอกให้ไปเขียนมาให้ครบ แล้วไล่เราไปต่อแถวใหม่
นั่นหมายความว่า เราต้องออกไปนอกสถานทูต ไปยืนต่อคิวหน้าถนนอีกครั้ง โชคดีที่เราไปกับเพื่อน เราเลยให้เพื่อนเขียนใบ Name List ส่วนเราวิ่งออกไปนอกสถานทูตเพื่อต่อคิวใหม่อีกครั้ง....บอกได้คำเดียวว่าเซ็งมาก และแล้วเราก็ได้บัตรคิว หมายเลข 350
ใบปะหน้าพร้อมบัตรคิว
เมื่อได้บัตรคิว เราก็หาที่นั่งรอเรียกคิวที่ช่องหมายเลข 3 เพื่อจ่ายเงิน แม้ว่าในสถานทูตจะเปิดแอร์ 26 องศา แต่ด้วยปริมาณคนที่ยืนรอเป็นปลากระป๋อง อากาศในนั้นก็เหมือนตู้อบดีๆ นี่เอง นอกจากร้อนมากแล้ว กลิ่นก็มากด้วย ทั้งกลิ่นฝรั่ง กลิ่นแขก กลิ่นไทย จะไม่มีกลิ่นได้ไงเพราะทุกคนต่างก็จั๊กแร้เปียกกันถ้วนหน้า ตั้งแต่ยืนรอคิวข้างถนนแล้ว
และแล้วช่องหมายเลข 3 ก็เรียวคิวหมายเลข 350 ไปถึงก็ต้องยืนเข้าคิวอีก คนข้างหน้าเราทำ 1 เล่ม ยื่นเงินไป 1,000 บาท เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีเงินทอน คนนั้นเลยต้องออกไปข้างนอกเพื่อไปหาที่แลกเงิน ตอนนั้นเราใจแป๊วอีกรอบ เพราะเรากำเงินไว้ในมือ 5,000 บาท
สำหรับค่าวีซ่า แบบธรรมดา 810 บาท 6 คนเป็นเงิน 4,860 บาท เจ้าหน้าที่จะมีเงินทอนหรือไม่ หรือว่าจะไล่เราไปหาที่แลกเงินอีกรอบ
เมื่อถึงคิวเรา เรายื่นใบปะหน้า พร้อม Passport สำเนา Passport และแบบฟอร์มขอวีซ่า กรอกทั้งด้านหน้าและด้านหลังครบถ้วน จำนวน 6 เล่ม เจ้าหน้าที่รับแล้วพลิกดูด้านหลังของคนที่ 1 ถึง 4 อย่างเร็วๆ แต่พอถึงคนที่ 5 เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า คนที่ 5 ทำงานที่ไหน ทำไมไม่กรอกที่ทำงาน ขอให้สังเกตแบบฟอร์มหน้าหลัง ตรงข้อ 3 Work Description C - Office / Section / Division - ขอให้กรอก "ชื่อที่ทำงาน" เพื่อนเราไม่ได้ใส่ชื่อที่ทำงานค่ะ แต่ดันใส่ชื่อฝ่ายที่ทำ นึกออกไหมคะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา
เจ้าหน้าที่เลยบอกเราว่าให้ไปตรวจสอบการกรอกแบบฟอร์มใหม่อีกครั้ง เรากับเพื่อนเลยรีบเขียนชื่อที่ทำงานตรงเคาน์เตอร์หมายเลข 3 เลย ไม่ยอมออกไปต่อคิวนอกสถานทูตอีกแล้ว...ถ้าโดนไล่ไปต่อแถวอีกรอบ เราก็จะไม่ยื่นให้เพื่อนเราให้มาทำเองเลย....แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ช่องหมายเลข 3 ใจดีค่ะ ให้เรากรอกตรงนั้นเลย แล้วเราก็ยื่น จ่ายเงินเสร็จสรรพ ได้ใบเหลืองมาอย่างอ่อนโรย นับเวลาที่ยืนรอหน้าสถานทูตตอน 8 โมงเช้า จนเสร็จสิ้นกระบวนการได้ใบเหลืองใน เวลา 11.30 น.
ตัวอย่างใบรับวีซ่า
ปล.คิดว่ารีวิวนี้คงเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะขอวีซ่าไปพม่านะคะ หากเตรียมตัวให้พร้อม เชื่อว่าเพื่อนๆ ห้องบูลคงจะไม่เจอเหตุการณ์เหมือนที่เราเคยเจอนะคะ ขอให้โชคดีในการขอวีซ่าพม่าค่ะ