สวัสดีคะ พอดีมีปัญหาอยากปรึกษาผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมาย หรือ ใครมีไอเดียวดีๆ ในการแก้ปัญหานี้ก็ยินดีรับฟังคะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า...
ดิฉันเป็นนักศึกษาฝึกสอน ณ โรงเรียนชื่อดังในตัวเมืองนครศรีธรรมราช และประมาณปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ครูอัตราจ้างในโรงเรียนท่านหนึ่ง (ขอเรียกว่า พี่ป.) ได้บรรจุไปยังต่างจังหวัด (ระนอง) เนื่องจากก่อนที่พี่ป. จะไปบรรจุ ได้สอนพิเศษอยู่ ณ สถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่ง (ติดกับร้านชาพะยอม หลังห้างโรบินสันโอเชี่ยนนครศรีธรรมราช) มาก่อนหน้านี้ระยะหนึ่ง ซึ่งพี่ป. ได้สอนในคอร์สก่อนหน้าที่ดิฉันจะไปสอนแทนมาแล้ว 5 ครั้ง (ครั้งละ 2 ชั่วโมง คิดเป็นเงิน 2000 บาท) หลังจากนั้นพี่ป. จึงให้ดิฉันไปสอนแทนในคอร์สถัดไปอีก 5 ครั้ง (2000 บาท)...
หลังจากที่สอนจบในครั้งสุดท้ายของคอร์ส เจ้าของสถาบันไม่ได้อยู่เคลียร์เงินค่าสอนเพราะติดงานศพญาติ ดิฉันจึงได้โทรติดต่อกลับไปในวันถัดไป แต่เจ้าของสถาบันก็ได้บอกว่าจะรีบเคลียร์ให้และจะติดต่อกลับมา...
เวลาผ่านไป 3 สัปดาห์ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ จึงตัดสินใจโทรไปอีกครั้ง ทางสถาบันก็บอกกลับมาว่า อีก 2-3 วันจะให้เข้ามารับค่าสอน.....แต่แล้วก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด...
ดิฉันจึงโทรหาพี่ป. ให้ช่วยติดต่อให้ พี่ป.ก็ได้จัดการให้ทันที แต่เหมือนทางสถาบันรู้ว่าพี่ป. จะต้องโทรมาเรื่องนี้ จึงไม่รับสายที่พี่ป. โทรเลย...
หลังจากเวลาผ่านไป 2 เดือน ทั้งพี่ป. และดิฉันไม่ได้รับการติดต่อกลับจากสถาบันเลย เราทั้งสองคนจึงตัดสินใจที่จะไปตามถึงสถาบัน ครั้งแรกพี่ป. เป็นคนเข้าไปเอง แต่ก็ไม่พบเจ้าของสถาบัน ดิฉันจึงตัดสินใจเข้าไปด้วยตัวเอง...
ช่วงปลายเดือนกันยายน ดิฉันได้เข้าไปที่สถาบันกับพี่ด. แต่ไม่เจอเจ้าของสถาบัน เจอเฉพาะเจ้าหน้าที่หน้าเคาท์เตอร์ พี่คนนั้นบอกว่า ให้เข้ามาใหม่วันพรุ่งนี้ ตอน 5 โมงเย็น .... วันต่อมา ดิฉันก็ได้เข้าไปกับพี่ด. ตอน 5 โมงเย็น แต่เจ้าของสถาบันก็ไม่อยู่อีกเหมือนเดิม พอโทรไปภรรยาแกก็รับสายแล้วบอกว่า "อาจารย์ (เจ้าของสถาบัน) ออกมาทำธุระข้างนอกคะ ไม่แน่ใจว่าจะเสร็จกี่โมง น้องเข้ามาพรุ่งนี้นะคะ เด่วให้อาจารย์โทรกลับไป" ....
วันต่อมา ดิฉันกับพี่ด. จึงตัดสินใจไปที่สถาบันตอนเที่ยง คิดว่าคงเจอเจ้าของสถาบัน วันนั้นเราเข้าไปโดยที่ไม่โทรหาเขาก่อน ไปถึงก็เจอภรรรยาของเข้าของสถาบัน ทางภรรยาเจ้าของสถาบันก็ทำท่าทางตกใจ และบอกเราว่า "อาจารย์เพิ่งออกไปข้างนอกคะ น้องค่อยมาตอนเย็นนะ" เราทั้งสองคนก็เดินออกมานั่งที่เก้าอี้หินอ่อนด้านหน้า พี่ด. บอกกับดิฉันว่า เขาต้องเบี้ยวน้องแน่เลย" เราก็นั่งกันสักพัก มีผู้ชายคนนึงขับมอเตอร์ไซด์เข้ามาที่สถาบัน ดิฉันสังเกตเห็น ก็หันกลับไปคุยกับพี่ด. ว่าคนนี้ใช่เจ้าของสถาบันแน่เลย สักพักนึงแกก็เข็นรถขึ้นมาใกล้ๆ เราทั้งสองคน ซึ่งแกไม่เห็นว่าเป็นดิฉัน
พอแกเดินเข้ามาใกล้ ดิฉันก็หันหน้าไป
เรา : สวัสดีคะอาจารย์
แกก็ทำหน้าอึ้งตกใจอยู่พักนึง
เรา : พอดีหนูมาติดต่อเรื่องค่าสอนคะ
อาจารย์ : อ่อครับ เดี๋ยว....เดี๋ยวผมจะเคลียร์ให้นะครับ
พี่ด. : แล้วจะเคลียร์ให้วันไหนค่ะ นี่มันก็นานแล้วนะคะ
อาจารย์ : ก็เห็นอาจารย์เขาก็ไม่เห็นจะว่าอะไรเลยนี่ครับ คือเราก็มีระบบของเรานะครับ เด่วผมจะติดต่อไป เรามีเบอร์ของหนูแล้ว
เขาพูดเหมือนทำนองว่า "แล้วคุณเป็นใครครับ มายุ่งอะไรด้วย" (อันนี้คิดเอาเองนะคะ ฟังจากที่เขาพูด)
พี่ด. : หนูเป็นพี่สาวเค้าคะ แล้วระบบอะไรละคะ น้องหนูสอนเสร็จมาตั้งหลายเดือนแล้วนะคะ เมื่อไหร่จะให้ค่าสอนคะ
อาจารย์ : เด่ววันที่ 5 (ตุลาคม) เราจะเคลียร์ให้นะครับ เพราะทางเราจะจ่ายค่าสอนให้ครูทุกวันที่ 5 ของทุกเดือน
(หนูก็คิดในใจอีกครั้ง "แล้วกรูสอนผ่านวันที่ 5 มาสองเดือนเดือนแล้วทำไมไม่จ่ายค่ะ) ณ วันนั้น คือวันที่ 2 ตุลาคม 2557
เวลาผ่านไปจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2557 ทางสถาบันก็ไม่ได้มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด เนื่องจากดิฉันรู้จักกับหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากวันนั้น 2 วัน ดิฉันได้ตัดสินใจโทรหาหัวหน้า และคุยรายละเอียดให้หัวหน้าฟัง หัวหน้าจึงให้ดิฉันลองเข้ามาคุยใหม่อีกครั้งถ้าไม่ได้เรื่องก็จะจัดการให้ และระหว่างนั้นพี่ป. ได้เข้าไปหาที่สถาบัน แลได้รับคำตอบมาว่า "ทางสถาบันมีปัญหาเรื่องเงิน แต่จะพยายามเคลียร์ให้นะครับ" เราก็เข้าใจแต่ทำไมไม่บอกเราแบบนี้ และเราก็รอแต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย...
วันที่ 17 ตุลาคม 2557 ก็ได้เข้าไปกับพี่ป. พอมาถึงหน้าสถาบันเจอแต่ภรรยาของเจ้าของสถาบัน พี่ป.จึงกดเบอร์โทรหาอาจารย์ แต่ก็ไม่รับสายเลย เรา (ดิฉันกับพี่ป.) จึงเดินเข้าไปทั้งสองคน
พี่ป. : สวัสดีครับ อาจารย์อยู่มั้ยครับ
ภรรยา : อ่อค่ะ "ป๊าๆ ครูป. มาหาค่ะ"
อาจารย์เดิอนออกมาพร้อมกับมือถือที่อยู่ในมือ (คิดในใจอีกครัง ทำไมคุณ
ไม่รับสายค่ะ")
พี่ป. : จะมาคุยเรื่องค่าสอนครับ
อาจารย์ : อ่อ คือ....เด่วจะจัดการให้นะครับ จะเคลียร์ให้ก่อนสิ้นเดือนแน่นอน อาจารย์จะเข้ามาเอาเองก็ได้นะ หรือถ้าไม่อยากเข้ามาแล้ว ก็จะโอนเข้าบัญชีครูอ. ให้
ดิฉัน : แล้วถ้าเขียนสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรเลยได้มั้ยคะว่าจะได้รับค่าสอนวันไหน (หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอัดเสียงไว้)
อาจารย์ : ไม่ต้องหรอกครับ เงินแค่ 2000 เราไม่เบี้ยวแน่นอน ถามครูป. ได้เลย
ดิฉัน : โอเคค่ะ สิ้นเดือนก็สิ้นเดือน
จนถึงวันนี้แล้ว 14 พฤศจิกายน 2557 ก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ พี่ป. พยายามโทรหาทางสถาบัน ก็ไม่มีการตอบรับ และล่าสุดเมื่อวาน (13/11/2557) พี่ป. โทรไป เขารับสายพอได้ยินว่าเป็นเสียงพี่ป. เขาก็วางสายและปิดเครื่องใส่เลยคะ
หลังจากไม่ได้รับการติดต่อมาก็ได้เป็นเขียนคำร้องไว้ที่ศุนย์ดำรงธรรมแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงอยากปรึกษากับคนที่มีความรู้ในเรื่องนี้ว่าจะจัดการอย่างไรได้บ้าง จะแจ้งความเลยดีมั้ย หรือต้องทำยังไงดีค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
สอนพิเศษแล้วโดนเบี้ยวเงินค่าสอน
เรื่องมันมีอยู่ว่า...
ดิฉันเป็นนักศึกษาฝึกสอน ณ โรงเรียนชื่อดังในตัวเมืองนครศรีธรรมราช และประมาณปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ครูอัตราจ้างในโรงเรียนท่านหนึ่ง (ขอเรียกว่า พี่ป.) ได้บรรจุไปยังต่างจังหวัด (ระนอง) เนื่องจากก่อนที่พี่ป. จะไปบรรจุ ได้สอนพิเศษอยู่ ณ สถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่ง (ติดกับร้านชาพะยอม หลังห้างโรบินสันโอเชี่ยนนครศรีธรรมราช) มาก่อนหน้านี้ระยะหนึ่ง ซึ่งพี่ป. ได้สอนในคอร์สก่อนหน้าที่ดิฉันจะไปสอนแทนมาแล้ว 5 ครั้ง (ครั้งละ 2 ชั่วโมง คิดเป็นเงิน 2000 บาท) หลังจากนั้นพี่ป. จึงให้ดิฉันไปสอนแทนในคอร์สถัดไปอีก 5 ครั้ง (2000 บาท)...
หลังจากที่สอนจบในครั้งสุดท้ายของคอร์ส เจ้าของสถาบันไม่ได้อยู่เคลียร์เงินค่าสอนเพราะติดงานศพญาติ ดิฉันจึงได้โทรติดต่อกลับไปในวันถัดไป แต่เจ้าของสถาบันก็ได้บอกว่าจะรีบเคลียร์ให้และจะติดต่อกลับมา...
เวลาผ่านไป 3 สัปดาห์ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ จึงตัดสินใจโทรไปอีกครั้ง ทางสถาบันก็บอกกลับมาว่า อีก 2-3 วันจะให้เข้ามารับค่าสอน.....แต่แล้วก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด...
ดิฉันจึงโทรหาพี่ป. ให้ช่วยติดต่อให้ พี่ป.ก็ได้จัดการให้ทันที แต่เหมือนทางสถาบันรู้ว่าพี่ป. จะต้องโทรมาเรื่องนี้ จึงไม่รับสายที่พี่ป. โทรเลย...
หลังจากเวลาผ่านไป 2 เดือน ทั้งพี่ป. และดิฉันไม่ได้รับการติดต่อกลับจากสถาบันเลย เราทั้งสองคนจึงตัดสินใจที่จะไปตามถึงสถาบัน ครั้งแรกพี่ป. เป็นคนเข้าไปเอง แต่ก็ไม่พบเจ้าของสถาบัน ดิฉันจึงตัดสินใจเข้าไปด้วยตัวเอง...
ช่วงปลายเดือนกันยายน ดิฉันได้เข้าไปที่สถาบันกับพี่ด. แต่ไม่เจอเจ้าของสถาบัน เจอเฉพาะเจ้าหน้าที่หน้าเคาท์เตอร์ พี่คนนั้นบอกว่า ให้เข้ามาใหม่วันพรุ่งนี้ ตอน 5 โมงเย็น .... วันต่อมา ดิฉันก็ได้เข้าไปกับพี่ด. ตอน 5 โมงเย็น แต่เจ้าของสถาบันก็ไม่อยู่อีกเหมือนเดิม พอโทรไปภรรยาแกก็รับสายแล้วบอกว่า "อาจารย์ (เจ้าของสถาบัน) ออกมาทำธุระข้างนอกคะ ไม่แน่ใจว่าจะเสร็จกี่โมง น้องเข้ามาพรุ่งนี้นะคะ เด่วให้อาจารย์โทรกลับไป" ....
วันต่อมา ดิฉันกับพี่ด. จึงตัดสินใจไปที่สถาบันตอนเที่ยง คิดว่าคงเจอเจ้าของสถาบัน วันนั้นเราเข้าไปโดยที่ไม่โทรหาเขาก่อน ไปถึงก็เจอภรรรยาของเข้าของสถาบัน ทางภรรยาเจ้าของสถาบันก็ทำท่าทางตกใจ และบอกเราว่า "อาจารย์เพิ่งออกไปข้างนอกคะ น้องค่อยมาตอนเย็นนะ" เราทั้งสองคนก็เดินออกมานั่งที่เก้าอี้หินอ่อนด้านหน้า พี่ด. บอกกับดิฉันว่า เขาต้องเบี้ยวน้องแน่เลย" เราก็นั่งกันสักพัก มีผู้ชายคนนึงขับมอเตอร์ไซด์เข้ามาที่สถาบัน ดิฉันสังเกตเห็น ก็หันกลับไปคุยกับพี่ด. ว่าคนนี้ใช่เจ้าของสถาบันแน่เลย สักพักนึงแกก็เข็นรถขึ้นมาใกล้ๆ เราทั้งสองคน ซึ่งแกไม่เห็นว่าเป็นดิฉัน
พอแกเดินเข้ามาใกล้ ดิฉันก็หันหน้าไป
เรา : สวัสดีคะอาจารย์
แกก็ทำหน้าอึ้งตกใจอยู่พักนึง
เรา : พอดีหนูมาติดต่อเรื่องค่าสอนคะ
อาจารย์ : อ่อครับ เดี๋ยว....เดี๋ยวผมจะเคลียร์ให้นะครับ
พี่ด. : แล้วจะเคลียร์ให้วันไหนค่ะ นี่มันก็นานแล้วนะคะ
อาจารย์ : ก็เห็นอาจารย์เขาก็ไม่เห็นจะว่าอะไรเลยนี่ครับ คือเราก็มีระบบของเรานะครับ เด่วผมจะติดต่อไป เรามีเบอร์ของหนูแล้ว
เขาพูดเหมือนทำนองว่า "แล้วคุณเป็นใครครับ มายุ่งอะไรด้วย" (อันนี้คิดเอาเองนะคะ ฟังจากที่เขาพูด)
พี่ด. : หนูเป็นพี่สาวเค้าคะ แล้วระบบอะไรละคะ น้องหนูสอนเสร็จมาตั้งหลายเดือนแล้วนะคะ เมื่อไหร่จะให้ค่าสอนคะ
อาจารย์ : เด่ววันที่ 5 (ตุลาคม) เราจะเคลียร์ให้นะครับ เพราะทางเราจะจ่ายค่าสอนให้ครูทุกวันที่ 5 ของทุกเดือน
(หนูก็คิดในใจอีกครั้ง "แล้วกรูสอนผ่านวันที่ 5 มาสองเดือนเดือนแล้วทำไมไม่จ่ายค่ะ) ณ วันนั้น คือวันที่ 2 ตุลาคม 2557
เวลาผ่านไปจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2557 ทางสถาบันก็ไม่ได้มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด เนื่องจากดิฉันรู้จักกับหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากวันนั้น 2 วัน ดิฉันได้ตัดสินใจโทรหาหัวหน้า และคุยรายละเอียดให้หัวหน้าฟัง หัวหน้าจึงให้ดิฉันลองเข้ามาคุยใหม่อีกครั้งถ้าไม่ได้เรื่องก็จะจัดการให้ และระหว่างนั้นพี่ป. ได้เข้าไปหาที่สถาบัน แลได้รับคำตอบมาว่า "ทางสถาบันมีปัญหาเรื่องเงิน แต่จะพยายามเคลียร์ให้นะครับ" เราก็เข้าใจแต่ทำไมไม่บอกเราแบบนี้ และเราก็รอแต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย...
วันที่ 17 ตุลาคม 2557 ก็ได้เข้าไปกับพี่ป. พอมาถึงหน้าสถาบันเจอแต่ภรรยาของเจ้าของสถาบัน พี่ป.จึงกดเบอร์โทรหาอาจารย์ แต่ก็ไม่รับสายเลย เรา (ดิฉันกับพี่ป.) จึงเดินเข้าไปทั้งสองคน
พี่ป. : สวัสดีครับ อาจารย์อยู่มั้ยครับ
ภรรยา : อ่อค่ะ "ป๊าๆ ครูป. มาหาค่ะ"
อาจารย์เดิอนออกมาพร้อมกับมือถือที่อยู่ในมือ (คิดในใจอีกครัง ทำไมคุณไม่รับสายค่ะ")
พี่ป. : จะมาคุยเรื่องค่าสอนครับ
อาจารย์ : อ่อ คือ....เด่วจะจัดการให้นะครับ จะเคลียร์ให้ก่อนสิ้นเดือนแน่นอน อาจารย์จะเข้ามาเอาเองก็ได้นะ หรือถ้าไม่อยากเข้ามาแล้ว ก็จะโอนเข้าบัญชีครูอ. ให้
ดิฉัน : แล้วถ้าเขียนสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรเลยได้มั้ยคะว่าจะได้รับค่าสอนวันไหน (หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอัดเสียงไว้)
อาจารย์ : ไม่ต้องหรอกครับ เงินแค่ 2000 เราไม่เบี้ยวแน่นอน ถามครูป. ได้เลย
ดิฉัน : โอเคค่ะ สิ้นเดือนก็สิ้นเดือน
จนถึงวันนี้แล้ว 14 พฤศจิกายน 2557 ก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ พี่ป. พยายามโทรหาทางสถาบัน ก็ไม่มีการตอบรับ และล่าสุดเมื่อวาน (13/11/2557) พี่ป. โทรไป เขารับสายพอได้ยินว่าเป็นเสียงพี่ป. เขาก็วางสายและปิดเครื่องใส่เลยคะ
หลังจากไม่ได้รับการติดต่อมาก็ได้เป็นเขียนคำร้องไว้ที่ศุนย์ดำรงธรรมแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงอยากปรึกษากับคนที่มีความรู้ในเรื่องนี้ว่าจะจัดการอย่างไรได้บ้าง จะแจ้งความเลยดีมั้ย หรือต้องทำยังไงดีค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ