สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ไปค้นดู ด้วยอากู๋
อั้ยยะ... อ่านแล้วสะดุ้งตัวเอง
https://www.facebook.com/luckyoptic/posts/515409888480326
==== มารู้จัก สายตาสั้น สายตายาว และ สายตาคนแก่กันเหอะ ===
สายตาสั้น กับสายตายาว เป็นความผิดปกติ ของโครงสร้างลูกตา ที่ยาว สั้นมากน้อยต่างกันเมื่อเทียบกับการรวมแสงของเลนส์ตาและกระจกตา ซึ่งส่งผลทำทำให้โฟกัสของภาพ ที่ผ่านเข้าตามาแล้ว ไปตกที่ระยะที่ สั้น หรือ ยาว กว่าจอรับภาพปกติ
กรณี คนสายตาสั้น ก็คือ พวกที่มองไกลได้ไม่ชัด มองเห็นได้ชัดแต่ระยะใกล้ๆ เกิดจากโฟกัสแสงมันตกก่อนถึงจอภาพ ดังนั้นต้องใช้เลนส์เว้า ถ่างให้มันไปตกพอดี ที่จอภาพ
ส่วนคนสายตายาว ก็ตรงข้าม มองไกลชัดเจนดี แต่มองใกล้ จะมองไม่ชัด เนื่องจากโฟกัสมันไปตกเลยหลังจอภาพ ต้องเอาเลนส์นูน มารวมดึงโฟกัสของแสงให้ตกใกล้เข้ามา อยู่ที่จอภาพพอดี
ส่วนอีกโรค คือ สายตาคนแก่ (Presbiopia) อันนี้ หลายคน มักจะไปสับสนกับสายตายาว
พวกสายตาคนแก่นี้ ไม่ใช่โรคสายตายาว แต่ว่าเป็นภาวะที่ กล้ามเนื้อที่ช่วยปรับความหนาของเลนส์ตา มันเสื่อมสภาพไป ตอนอายุมากขึ้น ทำให้เวลาอ่านหนังสือใกล้ๆ ซึ่งคนปกติ กล้ามเนื้อรอบๆเลนส์ตา (Ciliary muscle) จะดึงปรับให้เลนส์ตาปรับตัวให้โป่งนูนขึ้นเพื่อเพิ่มให้โฟกัสตกพอดีกับจอภาพได้ (เรียกการปรับนี้ว่าAccommodation)
ซึ่ง คนแก่เมื่อมันเสื่อมไป ก็ทำให้โฟกัสไม่ค่อยได้เวลาอ่านหนังสือ ต้องเอาออกห่างๆตัวหน่อย เหมือนต้องมองไกลๆ คล้ายๆคนสายตายาว(แต่ว่าจริงๆ ระยะห่างมันไม่ได้มากเหมือนพวกที่สายตายาวดูกันปกติ )ภาวะนี้ พบได้ในคนอายุมากหน่อยแถว 40 กว่าๆขึ้นไปแล้ว
โดยปกติแล้ว คนที่อายุเกิน 20 ปีไปแล้ว โครงสร้างการเติบโตของดวงตามักจะคงที่แล้ว ดังนั้น ภาวะสายตาสั้น หรือ ยาว จะคงที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปอีกแล้ว คือสั้นเท่าไร ยาวเท่าไร ก็คงที่อย่างนั้น (นี่คือเหตุผล ที่คนจะยิง Lasic แก้สายตาสั้น แบบถาวร จะมาทำตอน หลัง 20 ปีแล้ว เนื่องจากตอนนั้นสายตาจะคงที่แล้ว )
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า บางคน ที่สายตาสั้นซึ่งต้องใช้แว่นสายตาสั้น(ซึ่งเป็นเลนส์เว้า)อยู่ประจำตลอดมา พอแก่ตัวลง อายุเริ่มเข้าสู่แถวช่วง สี่สิบกว่าๆไป เริ่มมีภาวะตาคนแก่ พวกนี้ ก็เลย จะเกิดภาวะทั้งสองอย่างผสมกัน คือ สายตาสั้น คือมองไกลก็ไม่ชัด ต้องใส่แว่นเลนส์เว้า
แต่พอจะอ่านหนังสือใกล้ๆ ก็มองไม่ชัดอีกเพราะว่าตาโฟกัสเพิ่ม(การAccommodation) ไม่ได้ จากภาวะตาคนแก่ด้วย ยิ่งถ้าใส่แว่นสายตาสั้นซึ่งเป็นเลนส์เว้าอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้มันแย่เพิ่มไป หลายคน จึงถอดแว่น สายตาสั้นที่ใส่ออกเพื่ออ่านหน้งสือ หรือถ้าเป็นมาก ๆ นอกจากถอดแว่นเลนส์เว้าแล้วยังไม่พอ ก็ต้องใส่แว่นเลนส์นูน (ซึ่งปกติเป็นแว่นของคนสายตายาว) เพื่อช่วย ให้โฟกัสได้ดี ขึ้นด้วย
กลายเป็นต้องมีแว่นสองอัน (อันหลังเรียกให้หล่อหน่อยแทนที่จะเรียกแว่นสายตาคนแก่ ก็เรียกว่าแว่นอ่านหนังสือ )
แต่เพื่อไม่ให้ยุ่งยากต้องพกแว่นหลายอัน เค้าเลยทำแว่นชนิดที่ เรียกว่าเลนส์สองชั้น คือมีเลนส์สองชนิดในอันเดียวกัน ด้านบนเป็นเลนส์เว้า ด้านล่างเป็นเลนส์นูน
โดยด้านบนเป็นเลนส์เว้านี่ช่วย แก้สายตาสั้นเวลามองไกล ซึ่งเราจะเหลือบตาอยู่ระดับปกติสูงหน่อยก็จะมองผ่านเลนส์เว้าอันนี้ จะได้เห็นชัด
แต่พอจะอ่านหน้งสือ ซึ่งเราต้องเหลือบตามองลงต่ำลง ก็จะทำให้มองผ่านเลนส์นูนด้านล่าง ช่วยโฟกัสภาพ อ่านหนังสือได้ชัด(แก้ตาคนแก่)
ข้อเสียของเลนส์แบบนี้ คือมันมีสองชั้นมองเห็นได้ชัด คนเห็นปุ๊บก็จะรู้ว่า เฮ้ย หมอนี่แก่แล้วนี่หว่า
ดังนั้นเพื่อไม่ให้ใครรู้ ว่าแก่ เค้าเลยทำแว่นที่เรียกว่า Progressive lens ซึ่งก็คือแว่นที่มีเลนส์สองชนิดเหมือนข้างบนนั้นแหละ แต่มันไล่ระดับ จนมองไม่เห็นรอยต่อของเลนส์ทั้งสอง ทำให้มองไม่รู้ว่าเป็นเลนส์สองอัน ปิดบังความแก่ได้ แต่หลายคนใช้ใหม่ๆจะมึนๆงง จากโฟกัสที่มันไล่ต่างกัน นั่นแหละ
ส่วนถ้าเป็นคนที่มีภาวะทั้งสายตาสั้น (จะเอียงด้วยหรือไม่ก็ตาม ) และมีสายตาคนแก่ด้วย ถ้าจะใช้ คอนแทคเลนส์ ก็ใช้ เพื่อแก้ ภาวะสายตาสั้น (หรือ จะแก้เรื่องเอียงด้วย) แต่เวลาจะอ่านหนังสือ ก็ใช้ แว่นเลนส์นูน ช่วยแก้ไขภาวะตาคนแก่
สำหรับของผม จ้างก็ไม่บอกว่าเห็นใส่เป็นเลนส์ชิ้นเดียวเนี่ย เป็น Progressive Lens หรือ ป่าว
อ้อ เพิ่มเติมอีกซักนิดสำหรับคำถามที่คนชอบถามกัน คือเวลาวัดสายตา ตามร้าน เค้าจะบอก มาว่าสั้น 200 หรือ 300 ยาว 200 หรือ 300
แต่บางครั้งเวลาไปวัดกับหมอตา เค้าบอกออกมาเป็น -1.5 อะไรแบบนี้ ต่างกันอย่างไร ไม่ค่อยคุ้น
ตัวเลข -1.5 อะไรพวกนี้ หน่วยเป็น diopter ถ้าตัวเลข - แสดงว่าเป็นสายตาสั้น ถ้าเลข ธรรมดาหรือบวก ก็เป็น สายตายาว ค่า -1.5 dioper ก็คือ สั้น 150 หรือ ถ้า -10 Diopter ก็คือ สั้น 1 พัน ครับ
@แอดมิน PK ขออภัยที่ไม่ได้นำแหล่งอ้างอิงมา
อั้ยยะ... อ่านแล้วสะดุ้งตัวเอง
https://www.facebook.com/luckyoptic/posts/515409888480326
==== มารู้จัก สายตาสั้น สายตายาว และ สายตาคนแก่กันเหอะ ===
สายตาสั้น กับสายตายาว เป็นความผิดปกติ ของโครงสร้างลูกตา ที่ยาว สั้นมากน้อยต่างกันเมื่อเทียบกับการรวมแสงของเลนส์ตาและกระจกตา ซึ่งส่งผลทำทำให้โฟกัสของภาพ ที่ผ่านเข้าตามาแล้ว ไปตกที่ระยะที่ สั้น หรือ ยาว กว่าจอรับภาพปกติ
กรณี คนสายตาสั้น ก็คือ พวกที่มองไกลได้ไม่ชัด มองเห็นได้ชัดแต่ระยะใกล้ๆ เกิดจากโฟกัสแสงมันตกก่อนถึงจอภาพ ดังนั้นต้องใช้เลนส์เว้า ถ่างให้มันไปตกพอดี ที่จอภาพ
ส่วนคนสายตายาว ก็ตรงข้าม มองไกลชัดเจนดี แต่มองใกล้ จะมองไม่ชัด เนื่องจากโฟกัสมันไปตกเลยหลังจอภาพ ต้องเอาเลนส์นูน มารวมดึงโฟกัสของแสงให้ตกใกล้เข้ามา อยู่ที่จอภาพพอดี
ส่วนอีกโรค คือ สายตาคนแก่ (Presbiopia) อันนี้ หลายคน มักจะไปสับสนกับสายตายาว
พวกสายตาคนแก่นี้ ไม่ใช่โรคสายตายาว แต่ว่าเป็นภาวะที่ กล้ามเนื้อที่ช่วยปรับความหนาของเลนส์ตา มันเสื่อมสภาพไป ตอนอายุมากขึ้น ทำให้เวลาอ่านหนังสือใกล้ๆ ซึ่งคนปกติ กล้ามเนื้อรอบๆเลนส์ตา (Ciliary muscle) จะดึงปรับให้เลนส์ตาปรับตัวให้โป่งนูนขึ้นเพื่อเพิ่มให้โฟกัสตกพอดีกับจอภาพได้ (เรียกการปรับนี้ว่าAccommodation)
ซึ่ง คนแก่เมื่อมันเสื่อมไป ก็ทำให้โฟกัสไม่ค่อยได้เวลาอ่านหนังสือ ต้องเอาออกห่างๆตัวหน่อย เหมือนต้องมองไกลๆ คล้ายๆคนสายตายาว(แต่ว่าจริงๆ ระยะห่างมันไม่ได้มากเหมือนพวกที่สายตายาวดูกันปกติ )ภาวะนี้ พบได้ในคนอายุมากหน่อยแถว 40 กว่าๆขึ้นไปแล้ว
โดยปกติแล้ว คนที่อายุเกิน 20 ปีไปแล้ว โครงสร้างการเติบโตของดวงตามักจะคงที่แล้ว ดังนั้น ภาวะสายตาสั้น หรือ ยาว จะคงที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปอีกแล้ว คือสั้นเท่าไร ยาวเท่าไร ก็คงที่อย่างนั้น (นี่คือเหตุผล ที่คนจะยิง Lasic แก้สายตาสั้น แบบถาวร จะมาทำตอน หลัง 20 ปีแล้ว เนื่องจากตอนนั้นสายตาจะคงที่แล้ว )
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า บางคน ที่สายตาสั้นซึ่งต้องใช้แว่นสายตาสั้น(ซึ่งเป็นเลนส์เว้า)อยู่ประจำตลอดมา พอแก่ตัวลง อายุเริ่มเข้าสู่แถวช่วง สี่สิบกว่าๆไป เริ่มมีภาวะตาคนแก่ พวกนี้ ก็เลย จะเกิดภาวะทั้งสองอย่างผสมกัน คือ สายตาสั้น คือมองไกลก็ไม่ชัด ต้องใส่แว่นเลนส์เว้า
แต่พอจะอ่านหนังสือใกล้ๆ ก็มองไม่ชัดอีกเพราะว่าตาโฟกัสเพิ่ม(การAccommodation) ไม่ได้ จากภาวะตาคนแก่ด้วย ยิ่งถ้าใส่แว่นสายตาสั้นซึ่งเป็นเลนส์เว้าอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้มันแย่เพิ่มไป หลายคน จึงถอดแว่น สายตาสั้นที่ใส่ออกเพื่ออ่านหน้งสือ หรือถ้าเป็นมาก ๆ นอกจากถอดแว่นเลนส์เว้าแล้วยังไม่พอ ก็ต้องใส่แว่นเลนส์นูน (ซึ่งปกติเป็นแว่นของคนสายตายาว) เพื่อช่วย ให้โฟกัสได้ดี ขึ้นด้วย
กลายเป็นต้องมีแว่นสองอัน (อันหลังเรียกให้หล่อหน่อยแทนที่จะเรียกแว่นสายตาคนแก่ ก็เรียกว่าแว่นอ่านหนังสือ )
แต่เพื่อไม่ให้ยุ่งยากต้องพกแว่นหลายอัน เค้าเลยทำแว่นชนิดที่ เรียกว่าเลนส์สองชั้น คือมีเลนส์สองชนิดในอันเดียวกัน ด้านบนเป็นเลนส์เว้า ด้านล่างเป็นเลนส์นูน
โดยด้านบนเป็นเลนส์เว้านี่ช่วย แก้สายตาสั้นเวลามองไกล ซึ่งเราจะเหลือบตาอยู่ระดับปกติสูงหน่อยก็จะมองผ่านเลนส์เว้าอันนี้ จะได้เห็นชัด
แต่พอจะอ่านหน้งสือ ซึ่งเราต้องเหลือบตามองลงต่ำลง ก็จะทำให้มองผ่านเลนส์นูนด้านล่าง ช่วยโฟกัสภาพ อ่านหนังสือได้ชัด(แก้ตาคนแก่)
ข้อเสียของเลนส์แบบนี้ คือมันมีสองชั้นมองเห็นได้ชัด คนเห็นปุ๊บก็จะรู้ว่า เฮ้ย หมอนี่แก่แล้วนี่หว่า
ดังนั้นเพื่อไม่ให้ใครรู้ ว่าแก่ เค้าเลยทำแว่นที่เรียกว่า Progressive lens ซึ่งก็คือแว่นที่มีเลนส์สองชนิดเหมือนข้างบนนั้นแหละ แต่มันไล่ระดับ จนมองไม่เห็นรอยต่อของเลนส์ทั้งสอง ทำให้มองไม่รู้ว่าเป็นเลนส์สองอัน ปิดบังความแก่ได้ แต่หลายคนใช้ใหม่ๆจะมึนๆงง จากโฟกัสที่มันไล่ต่างกัน นั่นแหละ
ส่วนถ้าเป็นคนที่มีภาวะทั้งสายตาสั้น (จะเอียงด้วยหรือไม่ก็ตาม ) และมีสายตาคนแก่ด้วย ถ้าจะใช้ คอนแทคเลนส์ ก็ใช้ เพื่อแก้ ภาวะสายตาสั้น (หรือ จะแก้เรื่องเอียงด้วย) แต่เวลาจะอ่านหนังสือ ก็ใช้ แว่นเลนส์นูน ช่วยแก้ไขภาวะตาคนแก่
สำหรับของผม จ้างก็ไม่บอกว่าเห็นใส่เป็นเลนส์ชิ้นเดียวเนี่ย เป็น Progressive Lens หรือ ป่าว
อ้อ เพิ่มเติมอีกซักนิดสำหรับคำถามที่คนชอบถามกัน คือเวลาวัดสายตา ตามร้าน เค้าจะบอก มาว่าสั้น 200 หรือ 300 ยาว 200 หรือ 300
แต่บางครั้งเวลาไปวัดกับหมอตา เค้าบอกออกมาเป็น -1.5 อะไรแบบนี้ ต่างกันอย่างไร ไม่ค่อยคุ้น
ตัวเลข -1.5 อะไรพวกนี้ หน่วยเป็น diopter ถ้าตัวเลข - แสดงว่าเป็นสายตาสั้น ถ้าเลข ธรรมดาหรือบวก ก็เป็น สายตายาว ค่า -1.5 dioper ก็คือ สั้น 150 หรือ ถ้า -10 Diopter ก็คือ สั้น 1 พัน ครับ
@แอดมิน PK ขออภัยที่ไม่ได้นำแหล่งอ้างอิงมา
แสดงความคิดเห็น
สายตาสั้นและยาวในคนเดียวกันหมายความว่าอย่างไรคะ
ใช้ที่มันเป็นเครื่องคอมวัดเอาอ่ะค่ะ
ทีนี้คุณหมอเค้าก็บอกว่าคุณแม่สั้น 150 ยาว 150
จะให้ตัดทั้งแว่นสายตาสั้นและสายตายาว
ราคาปาไปเกือบหมื่น
ดิฉันเลยบอกปัดไปก่อน
พอลองมาคิดดูอีกที
มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะสายตาทั้งสั้นทั้งยาวในคนเดียวกัน
ระยะโฟกัสทั้งใกล้ทั้งไกล มันดูขัดแย้งมาก
อยากทราบว่าค่าที่วัดออกมา 150 กับ 150 มันคือค่าอะไรกันแน่คะ
ดิฉันเดาๆเอาว่ามันคือค่า range ที่เรามองได้ มั่วเอานะคะ 555
เรื่องของเรื่องตอนแรกก็เรื่องราคานั่นแหละค่ะ ตอนหลังค่อยมาคิดถึงตรงจุดนี้ 555
ปล.คุณแม่เคยวัดสมัยสาวๆ วัดได้สั้น 100 ค่ะ แต่ไม่ยาว