สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ส่วนตัวใส่แว่นแบบ Progressive lens มาหลายปีแล้วค่ะ ร้านที่ตัดแว่นตาเขาอธิบายว่า
1. Progressive lens จะเป็นเลนส์ที่มองเห็นได้หลายระยะ ทั้งระยะใกล้และไกล ทำให้ไม่ต้องมองลอดแว่นค่ะ
2. ราคาของเลนส์ ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย เช่น
** ค่าสายตา มากหรือน้อย
** ความหนาของเลนส์ ถ้าเลนส์บาง จะสวมสบาย ไม่รู้สึกว่าหนัก แต่ราคาจะแพงขึ้นค่ะ
** ระยะของการมองเห็น หมายถึง ถ้าสามารถมองได้หลายๆ ระยะ หรือเวลาเหลือบตาไปด้านข้าง ซ้าย ขวา ได้ระยะกว้างขึ้น ทำให้เวลาสวมแว่น จะไม่รู้สึกเวียนศีรษะ และไม่รู้สึกปวดตา ช่วยถนอมสายตาได้มากขึ้น
** ความเหนียวของเลนส์ เช่น ถ้าเลือกกรอบแว่นตาแบบเจาะ ไม่มีกรอบ อาจจำเป็นต้องเลือกเลนส์ที่มีความเหนียวสูงกว่าปกติ แต่ราคาก็แพงขึ้นไปอีกค่ะ
3. แนะนำให้เลือกตัดกับร้านที่ใกล้บ้าน หรือเดินทางสะดวกค่ะ แต่ให้เลือกร้านที่ไม่ใช่พนักงานทั่วๆ ไปเป็นคนวัดค่าสายตานะคะ เพราะเขาจะได้ให้คำแนะนำ และเลือกเลนส์ให้เหมาะกับสายตา ซึ่งไม่จำเป็นต้องราคาแพงที่สุดค่ะ และบริการหลังการขายดีๆ เช่น เวลาเกิดปัญหาแว่นหลวม ขาแว่นเอียง หรือน๊อตหลุด จะได้ไปซ่อมที่ร้านได้สะดวกค่ะ
แนะนำเพิ่มเติมว่า ตอนทดลองวัดค่าสายตาที่ร้านแว่น ให้ทดลองสวมแว่นทดลองมองทั้งระยะใกล้ ไกล อ่านหนังสือและเดินไปมาด้วยค่ะ จะได้มั่นใจว่า สามารถมองเห็นได้สบายตาที่สุด
ร้านแว่นตาดีๆ เขาจะมีเอกสาร รายละเอียด รูปภาพมาอธิบายให้เห็นถึงความแตกต่างของ Progressive lens แต่ละประเภทด้วยค่ะ เพื่อแระกอบการตัดสินใจว่า จะเลือกเลนส์แบบไหน ซึ่งไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด ขึ้นกับงบที่จ่ายได้ด้วยค่ะ
4. ถ้าเริ่มต้นใส่เลนส์แบบนี้ครั้งแรก อาจต้องปรับตัวในช่วงสัปดาห์แรก แต่หลังจากนั้น จะรู้สึกว่าใส่สบายตากว่าเลนส์ปกติเลยค่ะ ส่วนตัวก็ใส่แว่นตาตลอดเวลาเลยค่ะ ไม่ได้ใส่เฉพาะตอนอ่านหนังสือค่ะ เพราะเลนส์แบบนี้สามารถมองเห็นได้ทั้งระยะใกล้และไกลค่ะ
เป็นข้อมูลเบื้องต้นเรื่องการเลือกตัดแว่นแบบ progressive lens ค่ะ
1. Progressive lens จะเป็นเลนส์ที่มองเห็นได้หลายระยะ ทั้งระยะใกล้และไกล ทำให้ไม่ต้องมองลอดแว่นค่ะ
2. ราคาของเลนส์ ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย เช่น
** ค่าสายตา มากหรือน้อย
** ความหนาของเลนส์ ถ้าเลนส์บาง จะสวมสบาย ไม่รู้สึกว่าหนัก แต่ราคาจะแพงขึ้นค่ะ
** ระยะของการมองเห็น หมายถึง ถ้าสามารถมองได้หลายๆ ระยะ หรือเวลาเหลือบตาไปด้านข้าง ซ้าย ขวา ได้ระยะกว้างขึ้น ทำให้เวลาสวมแว่น จะไม่รู้สึกเวียนศีรษะ และไม่รู้สึกปวดตา ช่วยถนอมสายตาได้มากขึ้น
** ความเหนียวของเลนส์ เช่น ถ้าเลือกกรอบแว่นตาแบบเจาะ ไม่มีกรอบ อาจจำเป็นต้องเลือกเลนส์ที่มีความเหนียวสูงกว่าปกติ แต่ราคาก็แพงขึ้นไปอีกค่ะ
3. แนะนำให้เลือกตัดกับร้านที่ใกล้บ้าน หรือเดินทางสะดวกค่ะ แต่ให้เลือกร้านที่ไม่ใช่พนักงานทั่วๆ ไปเป็นคนวัดค่าสายตานะคะ เพราะเขาจะได้ให้คำแนะนำ และเลือกเลนส์ให้เหมาะกับสายตา ซึ่งไม่จำเป็นต้องราคาแพงที่สุดค่ะ และบริการหลังการขายดีๆ เช่น เวลาเกิดปัญหาแว่นหลวม ขาแว่นเอียง หรือน๊อตหลุด จะได้ไปซ่อมที่ร้านได้สะดวกค่ะ
แนะนำเพิ่มเติมว่า ตอนทดลองวัดค่าสายตาที่ร้านแว่น ให้ทดลองสวมแว่นทดลองมองทั้งระยะใกล้ ไกล อ่านหนังสือและเดินไปมาด้วยค่ะ จะได้มั่นใจว่า สามารถมองเห็นได้สบายตาที่สุด
ร้านแว่นตาดีๆ เขาจะมีเอกสาร รายละเอียด รูปภาพมาอธิบายให้เห็นถึงความแตกต่างของ Progressive lens แต่ละประเภทด้วยค่ะ เพื่อแระกอบการตัดสินใจว่า จะเลือกเลนส์แบบไหน ซึ่งไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด ขึ้นกับงบที่จ่ายได้ด้วยค่ะ
4. ถ้าเริ่มต้นใส่เลนส์แบบนี้ครั้งแรก อาจต้องปรับตัวในช่วงสัปดาห์แรก แต่หลังจากนั้น จะรู้สึกว่าใส่สบายตากว่าเลนส์ปกติเลยค่ะ ส่วนตัวก็ใส่แว่นตาตลอดเวลาเลยค่ะ ไม่ได้ใส่เฉพาะตอนอ่านหนังสือค่ะ เพราะเลนส์แบบนี้สามารถมองเห็นได้ทั้งระยะใกล้และไกลค่ะ
เป็นข้อมูลเบื้องต้นเรื่องการเลือกตัดแว่นแบบ progressive lens ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 37
ผมใส่ได้ทั้งวันนะ ไปตัดมาที่คลีนิค Orra ประมาณ 6พันกว่า แต่จองคิวผ่านไลน์ผมเลยได้ลดอีก 1000 ราคาอยู่ที่ยี่ห้อ เลนส์ กรอบ ความซับซ้อนของค่าสายตาเราด้วย ถ้าเอาชัวร์ก็ต้องได้ลองเทสต์ทำกิจกรรมในห้องลองเลนส์ก่อนใช้จริงแบบผม จะช่วยเรื่องความแม่นยำของสายตาได้ดี ถ้าไม่เคยใส่มาก่อนอาจจะต้องใช้เวลาปรับสายตา แต่ประมาณอาทิตย์เดียวก็ชินแล้ว ปรึกษากับหมอสายตาให้เค้าช่วยปรับจุดโฟกัสให้เราจะยิ่งทำให้มองง่ายขึ้นครับ ที่นี่ค่อนข้างตรวจละเอียดยิบเลย พอได้เอามาใช้งานจริงผมเลยไม่ค่อยมีปัญหาไม่ต้องแก้อะไรแล้ว
แสดงความคิดเห็น
ถามคนที่ใส่แว่นสายตายาวแบบโปรเกรสซีฟ สามารถใส่ได้ตลอดเวลาไหม ครับ
ผมไปถามร้านนึง บอกเลนซ์โปรเกรสซีฟ เริ่มต้น 5-6 พันบาท แบบนี้ OK ไหม ครับ
อยากได้ แบบสามารถใส่อ่านหนังสือได้ มองหน้าคู่สนทนาได้ โดยไม่ต้องมองลอดแว่น
แบบนี้ราคาสักเท่าไร ตัดได้ที่ไหน ครับ