เพิ่งไปขอวีซ่าเยี่ยมแฟนมาเลยอยากมารีวิวเผื่อเพื่อนๆที่ต้องการข้อมูลค่ะ
หลังจากเคยโพสถามเพื่อนๆในพันทิปและหาข้อมูลจากเว็บอื่นๆ
เมื่อวันอังคารที่ 11 ที่ผ่านมา จขกท.ก็ไปทำเรื่องขอวีซ่าที่ VFS
วันพุธที่ 12 ก็ได้รับ email ว่าทางสถานฑูตได้รับเอกสารแล้ว สะดุดตรงประโยค
"กรุณาอย่าพยายามส่ง email หรือโทรกลับเพื่อถามสถานะวีซ่า"
เข้าใจว่าคงเคยมีคนสมัครไปปั๊บ โทรถามปุ๊บ ทาง VFS เลยส่งมาดักคอไว้ก่อน 5555555
วันนี้พฤหัสที่ 13 ก็ได้ sms ตอนเช้าแจ้งว่าให้เข้ามารับพาสปอร์ตคืนได้ค่ะ
ใจนี่เต้นแรงมาก เพราะต้องไปลุ้นเอาว่าผ่านไม่ผ่าน
จขกท.ขอไปทั้งหมด 70 วัน โดยมีพ่อแฟนเป็นสปอนเซอร์ให้
ปรากฎว่าผ่านค่ะ ดีใจมากๆ
เพราะเท่าที่หาข้อมูลมา วีซ่าประเภทนี้ขอค่อนข้างยากถ้าหลักฐานไม่แน่นจริง
สรุปใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน
เนื่องจากจขกท.กับแฟนเคยอาศัยอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศขณะเรียน
เอกสารบางอย่างอาจจะไม่เหมือนกัน
ของจขกท. ตาม Check list นะคะ
1. แบบสมัครขอวีซ่าค่ะ (Schengen Visa Application Form)
กรอกตัวบรรจง ตอนเขียนนี่มือแทบหักเพราะปกติลายมือแย่มาก แนะนำว่าเวลากรอกเอกสารควรคุยกับแฟนเพื่อเช็คข้อมูลให้ตรงกันด้วยค่ะ
2. รูปถ่ายขอวีซ่าขนาด 3.5x4.5 cm. พื้นขาว ในเว็บเขียนว่า 2 ใบ แต่ใช้จริงใบเดียว เอาติดไปเผื่อไว้ก่อนไม่เสียหายค่ะ
3. ก๊อปปีหน้าพาสปอร์ตที่เคยเข้าประเทศเชงเก้น จขกท.ไม่เคยไปเลยไม่ต้องใช้ และสำเนาหน้าแรกพาสปอร์ต 2 แผ่น
4. ค่าสมัคร (Application fee) ตอนนี้ 2,500 บาทค่ะ ถ้ายื่นที่ VFS จะบวกค่าบริการเพิ่มด้วยประมาณ 700 บาท รวมแล้วไม่เกิน 3,300 บาท (ลองเช็คในเว็บอีกทีนะคะ ใบเสร็จจขกท.หาไม่เจอ)
5. ใบรับรองจากที่ทำงานกรณีมีงานทำ (Original Certificate of Employment or equivalent) จขกท.ว่างงานเลยไม่ต้องใช้ค่ะ
6. กรณีมีธุรกิจของตัวเอง (Self Employed) ก็ต้องมีเอกสารจดทะเบียนบริษัท เสตทเมนท์ยืนยันค่ะ
จขกท.ไม่มีธุรกิจ ตอนนี้ใช้เงินเก็บตัวเองล้วนๆก็ยื่นก๊อปปีสมุดบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนไปค่ะ
7. ถ้ายังเรียนอยู่ ต้องขอเอกสารรับรองจากมหาวิทยาลัยค่ะ
8. หลักฐานทางการเงินยืนยันว่าเรามีเงินพอใช้ขณะอยู่ที่นั่น (Proof of sufficient funds for the entire visit) ถ้ามีสปอนเซอร์ก็ไม่ต้องยื่นค่ะ
แต่เพื่อความชัวร์ จขกท.ก็ยื่นไปด้วยเพื่อให้เห็นว่าเราก็มีของเรานะ ของจขกท.มีในบัญชีทั้งหมด 5 หลักค่ะ
9. ใบหย่า ถ้าเคยหย่า
10. ประกันสุขภาพระหว่างท่องเที่ยว (Copy of Paid Travel Medical Insurance) จขกท.ใช้ของ ACE แบบเชงเก้นพลัส ทางบริษัทจะมีให้เลือกค่ะว่าจะใช้แบบไหน ควรเลือกบริษัทที่ทางสถานฑูตรับรองนะคะ และควรถามก่อนซื้อว่าหากวีซ่าไม่ผ่านจะสามารถรับเงินคืนได้มั้ย
11. เอกสารความสัมพันธ์ (Completed questionnaire) เป็นเอกสารถามถึงความสัมพันธ์ของเรากับคนที่เราจะไปเยี่ยมค่ะ อันนี้ก็ควรถามแฟนก่อนกรอกด้วย
12. หลักฐานอื่นๆที่จขกท.ยื่นเพิ่มด้วยคือ
- จดหมายแนะนำตัว เขียนเป็นภาษาอังกฤษ อธิบายว่าเราเป็นใคร ตอนนี้ทำอะไร เจอแฟนที่ไหน ยังไง ต้องการไปที่นั่นเพื่อทำอะไรเป็นเวลากี่วัน และเมื่อกลับมาแล้วมีแผนชีวิตอะไรบ้าง
- ประวัติการคุยสไกป์กับแฟนจำนวน 76 หน้า ตอนยื่นเอกสารพนักงานถึงกับอุทานว่า อู้หู เลยค่ะ
- รูปที่แคปเจอร์สกรีนเวลาคุยสไกป์ อันนี้อายเล็กน้อยเพราะมีแต่รูปหน้าตาตลกๆ
- รูปถ่ายคู่กับแฟน ครอบครัวแฟน จขกท.ใส่วันเดือนปีลงไปด้วย เรียงรูปตามวันที่ตั้งแต่รูปใบแรกที่ถ่ายด้วยกัน จนรูปล่าสุดค่ะ รูปนี่ให้ถ่ายเอกสารหรือปริ้นใส่ A4 นะคะ ตอนแรกจขกทไม่รู้ อัดรูปใส่อัลบั้มมาเลยค่ะ ทาง VFS แจ้งว่าต้องส่งเป็นกระดาษเท่านั้น เลยต้องไปซีร็อกรูปแทน
- หลักฐานยืนยันว่าจขกท.เคยไปเรียนที่ต่างประเทศ มีก๊อปปีหน้าวีซ่า หลักฐานเรียนจบจากรร. เพราะต้องการยืนยันว่าเจอกับแฟนที่นั่นจริงๆค่ะ
- เอกสารแจ้งแผนการที่เราวางไว้หลักจากกลับมาจากสวีเดน มีคอร์สภาษาที่จขกท.ตั้งใจจะลงเรียนและเอกสารข้อมูลจากมหาวิทยาลัยที่ต้องการสอบเข้าในปีหน้าค่ะ
- ใบเปลี่ยนชื่อของจขกท.และทะเบียนบ้านแปลเป็นภาษาอังกฤษ อันนี้เจ้าหน้าที่บอกไม่จำเป็น แต่จขกท.ยืนยันขอยื่นค่ะ
- สำเนาบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่บอกไม่ต้องใช้
ส่วนเอกสารของแฟนและพ่อแฟน
1. เอกสารเชิญ (Original Appendix E)
2. เอกสารแสดงการเสียภาษีของผู้เชิญ (Copy of the reference person’s Personbevis)
3. ก็อปปีหน้าวีซ่าที่เคยเดินทางมาไทยของผู้เชิญ ของจขกท.เจอกันที่ต่างประเทศ เลยคิดว่าไม่จำเป็นค่ะ เพราะแฟนเคยมาไทยตอนเด็กๆ ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว
4. ก็อปปีหน้าแรกพาสปอร์ตของผู้เชิญ (Copy passport of the reference person) อันนี้ที่บ้านแฟนส่งของทุกคนมาเลยค่ะ พร้อมก็อปปีหน้าวีซ่าประเทศที่จขกท.เคยอยู่ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเคยเจอกันจริง
5. เอกสารยืนยันเสตทเม้นท์หรือเอกสารจากบริษัทที่แสดงรายได้ของผู้เชิญ รายได้ต้องพอกับจำนวนเงิน 350-450 โครนต่อวันด้วยนะคะ คือรายได้ผู้เชิญต้องเหลือพอสำหรับจ่ายค่าใช้จ่ายให้เราขณะอยู่ที่นั่นค่ะ
6. หลักฐานยืนยันแสดงความสัมพันธ์ (Proof of contact between the applicant and the reference person) อันนี้แฟนเราเขียนจดหมายแนะนำตัวมาค่ะ ถ้าจะให้ดีควรให้ผู้เชิญเขียนมาด้วย กรณีคนเชิญเป็นพ่อแม่แฟน แต่ของเราไม่ได้ใช้ค่ะ
7. ถ้าคนเชิญเป็นพ่อแม่แฟน ควรให้แฟนแนบเอกสารที่ยืนยันว่าเขาเป็นพลเมืองสวีเดนมาด้วย อันนี้เจ้าหน้าที่บอกมาค่ะ แต่ของเราไม่มีเลยไม่ได้ยื่น
เอกสารมีประมาณนี้ค่ะ ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีด้วย
จขกท.คิดว่าที่ของจขกท.ค่อนข้างไวและง่ายเพราะมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าไม่โดดวีซ่าแน่นอน
ระยะเวลาที่คบก็นานและเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนเกือบ 1 ปี
ส่วนการบริการของเจ้าหน้าที่ VFS เราปลิ้มมากค่ะ
พี่เจ้าหน้าที่ที่รับเอกสารเราพูดจาเพราะมาก ให้คำแนะนำด้วย
วันยื่นจขกท.ไปถึงคนแรก ก็ยืนรอจนเปิดทำการแล้วเข้าไปลงชื่อขอบัตรคิว
จนวันนี้ไปรับพาสปอร์ต เจ้าหน้าที่ที่คืนพาสปอร์ตก็ใจดีค่ะ ยิ้มแย้ม
แต่ขอติงนิดนึงเรื่องการต่อคิว
เนื่องจากตอนจขกท.ไปถึง ยังไม่มีใครมา ประตูยังไม่เปิดเลยค่ะ
ก็ยืนไปเรื่อยๆจนมีพี่ผู้หญิงอีกคนมาต่อคิว พอก่อนหน้าเปิดทำการ 10 นาที
มีผู้ชาย เราเข้าใจว่าเขามาทำให้ลูกค้าทัวร์ ก็เดินเข้าไปสวัสดีเจ้าหน้าที่ที่ทำการดูแลเรื่องคิว
เราไม่ทราบนะคะว่าเขาจองคิวอะไรล่วงหน้ารึเปล่า
พอเปิดทำการปั้บ พี่ท่านแซงเข้าไปเลยค่ะ แล้วจะให้ลูกค้าในกลุ่มตัวเองมาเอาบัตรคิวก่อน
เราก็งงสิคะ ไหงงั้นอะ เดินมาแซงดื้อๆเลย
ดีที่พี่เจ้าหน้าที่หันมาถามเราว่าต่อคิวใช่มั้ยคะ
เราก็บอก ใช่ พี่เค้าก็บอกให้เรามาเขียนชื่อค่ะ พร้อมกับบอกให้คนนั้นถอยออกไปก่อน
คือถ้าโดนแซงตอนนั้นเราคงวีนอะค่ะ เพราะยืนรอครึ่งชม.ก่อนเปิด
นี่มาจากไหนไม่รู้ มายืนๆรวมๆและมาแทรก
แต่โดยรวมแล้วทุกอย่างดีหมดค่ะ
สะดวก เร็วด้วย ใช้เวลาแค่ 3 วัน อันนี้จขกท.ยังตกใจ
ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีข้อสงสัยก็ถามได้เลยค่ะ
จขกท.เข้าใจอารมณ์คนจะยื่นขอวีซ่า กังวลสารพัด
ถ้าแนะนำอะไรได้ก็อยากช่วยเต็มที่
ขอบคุณค่ะ
[CR] ขอวีซ่าเยี่ยมแฟนที่สวีเดนแบบละเอียดค่ะ
หลังจากเคยโพสถามเพื่อนๆในพันทิปและหาข้อมูลจากเว็บอื่นๆ
เมื่อวันอังคารที่ 11 ที่ผ่านมา จขกท.ก็ไปทำเรื่องขอวีซ่าที่ VFS
วันพุธที่ 12 ก็ได้รับ email ว่าทางสถานฑูตได้รับเอกสารแล้ว สะดุดตรงประโยค
"กรุณาอย่าพยายามส่ง email หรือโทรกลับเพื่อถามสถานะวีซ่า"
เข้าใจว่าคงเคยมีคนสมัครไปปั๊บ โทรถามปุ๊บ ทาง VFS เลยส่งมาดักคอไว้ก่อน 5555555
วันนี้พฤหัสที่ 13 ก็ได้ sms ตอนเช้าแจ้งว่าให้เข้ามารับพาสปอร์ตคืนได้ค่ะ
ใจนี่เต้นแรงมาก เพราะต้องไปลุ้นเอาว่าผ่านไม่ผ่าน
จขกท.ขอไปทั้งหมด 70 วัน โดยมีพ่อแฟนเป็นสปอนเซอร์ให้
ปรากฎว่าผ่านค่ะ ดีใจมากๆ
เพราะเท่าที่หาข้อมูลมา วีซ่าประเภทนี้ขอค่อนข้างยากถ้าหลักฐานไม่แน่นจริง
สรุปใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน
เนื่องจากจขกท.กับแฟนเคยอาศัยอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศขณะเรียน
เอกสารบางอย่างอาจจะไม่เหมือนกัน
ของจขกท. ตาม Check list นะคะ
1. แบบสมัครขอวีซ่าค่ะ (Schengen Visa Application Form)
กรอกตัวบรรจง ตอนเขียนนี่มือแทบหักเพราะปกติลายมือแย่มาก แนะนำว่าเวลากรอกเอกสารควรคุยกับแฟนเพื่อเช็คข้อมูลให้ตรงกันด้วยค่ะ
2. รูปถ่ายขอวีซ่าขนาด 3.5x4.5 cm. พื้นขาว ในเว็บเขียนว่า 2 ใบ แต่ใช้จริงใบเดียว เอาติดไปเผื่อไว้ก่อนไม่เสียหายค่ะ
3. ก๊อปปีหน้าพาสปอร์ตที่เคยเข้าประเทศเชงเก้น จขกท.ไม่เคยไปเลยไม่ต้องใช้ และสำเนาหน้าแรกพาสปอร์ต 2 แผ่น
4. ค่าสมัคร (Application fee) ตอนนี้ 2,500 บาทค่ะ ถ้ายื่นที่ VFS จะบวกค่าบริการเพิ่มด้วยประมาณ 700 บาท รวมแล้วไม่เกิน 3,300 บาท (ลองเช็คในเว็บอีกทีนะคะ ใบเสร็จจขกท.หาไม่เจอ)
5. ใบรับรองจากที่ทำงานกรณีมีงานทำ (Original Certificate of Employment or equivalent) จขกท.ว่างงานเลยไม่ต้องใช้ค่ะ
6. กรณีมีธุรกิจของตัวเอง (Self Employed) ก็ต้องมีเอกสารจดทะเบียนบริษัท เสตทเมนท์ยืนยันค่ะ
จขกท.ไม่มีธุรกิจ ตอนนี้ใช้เงินเก็บตัวเองล้วนๆก็ยื่นก๊อปปีสมุดบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนไปค่ะ
7. ถ้ายังเรียนอยู่ ต้องขอเอกสารรับรองจากมหาวิทยาลัยค่ะ
8. หลักฐานทางการเงินยืนยันว่าเรามีเงินพอใช้ขณะอยู่ที่นั่น (Proof of sufficient funds for the entire visit) ถ้ามีสปอนเซอร์ก็ไม่ต้องยื่นค่ะ
แต่เพื่อความชัวร์ จขกท.ก็ยื่นไปด้วยเพื่อให้เห็นว่าเราก็มีของเรานะ ของจขกท.มีในบัญชีทั้งหมด 5 หลักค่ะ
9. ใบหย่า ถ้าเคยหย่า
10. ประกันสุขภาพระหว่างท่องเที่ยว (Copy of Paid Travel Medical Insurance) จขกท.ใช้ของ ACE แบบเชงเก้นพลัส ทางบริษัทจะมีให้เลือกค่ะว่าจะใช้แบบไหน ควรเลือกบริษัทที่ทางสถานฑูตรับรองนะคะ และควรถามก่อนซื้อว่าหากวีซ่าไม่ผ่านจะสามารถรับเงินคืนได้มั้ย
11. เอกสารความสัมพันธ์ (Completed questionnaire) เป็นเอกสารถามถึงความสัมพันธ์ของเรากับคนที่เราจะไปเยี่ยมค่ะ อันนี้ก็ควรถามแฟนก่อนกรอกด้วย
12. หลักฐานอื่นๆที่จขกท.ยื่นเพิ่มด้วยคือ
- จดหมายแนะนำตัว เขียนเป็นภาษาอังกฤษ อธิบายว่าเราเป็นใคร ตอนนี้ทำอะไร เจอแฟนที่ไหน ยังไง ต้องการไปที่นั่นเพื่อทำอะไรเป็นเวลากี่วัน และเมื่อกลับมาแล้วมีแผนชีวิตอะไรบ้าง
- ประวัติการคุยสไกป์กับแฟนจำนวน 76 หน้า ตอนยื่นเอกสารพนักงานถึงกับอุทานว่า อู้หู เลยค่ะ
- รูปที่แคปเจอร์สกรีนเวลาคุยสไกป์ อันนี้อายเล็กน้อยเพราะมีแต่รูปหน้าตาตลกๆ
- รูปถ่ายคู่กับแฟน ครอบครัวแฟน จขกท.ใส่วันเดือนปีลงไปด้วย เรียงรูปตามวันที่ตั้งแต่รูปใบแรกที่ถ่ายด้วยกัน จนรูปล่าสุดค่ะ รูปนี่ให้ถ่ายเอกสารหรือปริ้นใส่ A4 นะคะ ตอนแรกจขกทไม่รู้ อัดรูปใส่อัลบั้มมาเลยค่ะ ทาง VFS แจ้งว่าต้องส่งเป็นกระดาษเท่านั้น เลยต้องไปซีร็อกรูปแทน
- หลักฐานยืนยันว่าจขกท.เคยไปเรียนที่ต่างประเทศ มีก๊อปปีหน้าวีซ่า หลักฐานเรียนจบจากรร. เพราะต้องการยืนยันว่าเจอกับแฟนที่นั่นจริงๆค่ะ
- เอกสารแจ้งแผนการที่เราวางไว้หลักจากกลับมาจากสวีเดน มีคอร์สภาษาที่จขกท.ตั้งใจจะลงเรียนและเอกสารข้อมูลจากมหาวิทยาลัยที่ต้องการสอบเข้าในปีหน้าค่ะ
- ใบเปลี่ยนชื่อของจขกท.และทะเบียนบ้านแปลเป็นภาษาอังกฤษ อันนี้เจ้าหน้าที่บอกไม่จำเป็น แต่จขกท.ยืนยันขอยื่นค่ะ
- สำเนาบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่บอกไม่ต้องใช้
ส่วนเอกสารของแฟนและพ่อแฟน
1. เอกสารเชิญ (Original Appendix E)
2. เอกสารแสดงการเสียภาษีของผู้เชิญ (Copy of the reference person’s Personbevis)
3. ก็อปปีหน้าวีซ่าที่เคยเดินทางมาไทยของผู้เชิญ ของจขกท.เจอกันที่ต่างประเทศ เลยคิดว่าไม่จำเป็นค่ะ เพราะแฟนเคยมาไทยตอนเด็กๆ ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว
4. ก็อปปีหน้าแรกพาสปอร์ตของผู้เชิญ (Copy passport of the reference person) อันนี้ที่บ้านแฟนส่งของทุกคนมาเลยค่ะ พร้อมก็อปปีหน้าวีซ่าประเทศที่จขกท.เคยอยู่ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเคยเจอกันจริง
5. เอกสารยืนยันเสตทเม้นท์หรือเอกสารจากบริษัทที่แสดงรายได้ของผู้เชิญ รายได้ต้องพอกับจำนวนเงิน 350-450 โครนต่อวันด้วยนะคะ คือรายได้ผู้เชิญต้องเหลือพอสำหรับจ่ายค่าใช้จ่ายให้เราขณะอยู่ที่นั่นค่ะ
6. หลักฐานยืนยันแสดงความสัมพันธ์ (Proof of contact between the applicant and the reference person) อันนี้แฟนเราเขียนจดหมายแนะนำตัวมาค่ะ ถ้าจะให้ดีควรให้ผู้เชิญเขียนมาด้วย กรณีคนเชิญเป็นพ่อแม่แฟน แต่ของเราไม่ได้ใช้ค่ะ
7. ถ้าคนเชิญเป็นพ่อแม่แฟน ควรให้แฟนแนบเอกสารที่ยืนยันว่าเขาเป็นพลเมืองสวีเดนมาด้วย อันนี้เจ้าหน้าที่บอกมาค่ะ แต่ของเราไม่มีเลยไม่ได้ยื่น
เอกสารมีประมาณนี้ค่ะ ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีด้วย
จขกท.คิดว่าที่ของจขกท.ค่อนข้างไวและง่ายเพราะมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าไม่โดดวีซ่าแน่นอน
ระยะเวลาที่คบก็นานและเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนเกือบ 1 ปี
ส่วนการบริการของเจ้าหน้าที่ VFS เราปลิ้มมากค่ะ
พี่เจ้าหน้าที่ที่รับเอกสารเราพูดจาเพราะมาก ให้คำแนะนำด้วย
วันยื่นจขกท.ไปถึงคนแรก ก็ยืนรอจนเปิดทำการแล้วเข้าไปลงชื่อขอบัตรคิว
จนวันนี้ไปรับพาสปอร์ต เจ้าหน้าที่ที่คืนพาสปอร์ตก็ใจดีค่ะ ยิ้มแย้ม
แต่ขอติงนิดนึงเรื่องการต่อคิว
เนื่องจากตอนจขกท.ไปถึง ยังไม่มีใครมา ประตูยังไม่เปิดเลยค่ะ
ก็ยืนไปเรื่อยๆจนมีพี่ผู้หญิงอีกคนมาต่อคิว พอก่อนหน้าเปิดทำการ 10 นาที
มีผู้ชาย เราเข้าใจว่าเขามาทำให้ลูกค้าทัวร์ ก็เดินเข้าไปสวัสดีเจ้าหน้าที่ที่ทำการดูแลเรื่องคิว
เราไม่ทราบนะคะว่าเขาจองคิวอะไรล่วงหน้ารึเปล่า
พอเปิดทำการปั้บ พี่ท่านแซงเข้าไปเลยค่ะ แล้วจะให้ลูกค้าในกลุ่มตัวเองมาเอาบัตรคิวก่อน
เราก็งงสิคะ ไหงงั้นอะ เดินมาแซงดื้อๆเลย
ดีที่พี่เจ้าหน้าที่หันมาถามเราว่าต่อคิวใช่มั้ยคะ
เราก็บอก ใช่ พี่เค้าก็บอกให้เรามาเขียนชื่อค่ะ พร้อมกับบอกให้คนนั้นถอยออกไปก่อน
คือถ้าโดนแซงตอนนั้นเราคงวีนอะค่ะ เพราะยืนรอครึ่งชม.ก่อนเปิด
นี่มาจากไหนไม่รู้ มายืนๆรวมๆและมาแทรก
แต่โดยรวมแล้วทุกอย่างดีหมดค่ะ
สะดวก เร็วด้วย ใช้เวลาแค่ 3 วัน อันนี้จขกท.ยังตกใจ
ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีข้อสงสัยก็ถามได้เลยค่ะ
จขกท.เข้าใจอารมณ์คนจะยื่นขอวีซ่า กังวลสารพัด
ถ้าแนะนำอะไรได้ก็อยากช่วยเต็มที่
ขอบคุณค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น