ทริปไฟไหม้ No.4 ของปีนี้ เขาค้อ

ระหว่างคุยไลน์เล่นกันในกลุ่มช่วงสายๆของวันจันทร์ ก็ได้ข้อมูลว่าเสาร์อาทิตย์นี้เราว่างพร้อมกันทั้ง 3 คน งั้นเราไปเที่ยวกันดีกว่า
ช่วงใกล้ๆปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้ไปไหนกันดี
สถานที่ที่เห็นพ้องต้องกันก็คือ เขาค้อ
ไปลองเสี่ยงดวงรอดูทะเลหมอกแถวๆ อ่างเก็บน้ำรัตนัย กันมั๊ย เผื่อโชคดีจะได้เห็นทะเลหมอกด้วย
จากที่เคยติดใจหมอกหนาที่ ภูทับเบิก กันเมื่อกลางปี ไปเก็บเขาค้อให้ทั่วๆเพชรบูรณ์กันซะหน่อยดีกว่า

---

ทริปไฟไหม้ @ภูทับเบิก http://ppantip.com/topic/32424967

---

ได้ที่หมายแล้วก็หาข้อมูลที่พักกันเลย ลองหาจากรีวิวและจากอากู๋แล้วก็โทรจองกันเลย
แต่ชีวิตไม่ได้ง่ายๆเหมือนทริปไฟไหม้ครั้งก่อนๆ เพราะเริ่มเข้าหน้าเทศการท่องเที่ยวแล้ว ที่พักเต็มหมดเลยจร้าาาา
เหลือแต่ลานกางเต๊นท์ ค่าบริการลานกางเต๊นท์เท่าที่สอบถามและหาข้อมูลก็มีหลายที่หลายราคา
ถ้าเป็นรีสอร์ทที่ให้เช่าเต๊นท์พร้อมพื้นที่กางเต๊นท์รวมอาหารเช้าและเครื่องนอนประมาณ 400 บาท/คน
ถ้าเอาเต๊นท์มาเองก็ประมาณ 100-200 บาท ส่วนเครื่องนอน กะ อาหารเช้า แล้วแต่สถานที่แต่ละแห่งว่าจะมีให้บริการหรือไม่
ตั้งแต่ถูกสุดคือที่ ไปรษณีย์เขาค้อ มีข้อมูลชื่นชมเยอะสุด ค่าบริการ 50 บาท/คน ถ้าเอาเต๊นท์ไปเอง

ช่วงกลางวันเราเลยลองไปเดินดูเต๊นท์ที่ห้างข้างๆออฟฟิส โว๊ะ!!! มีจัดโปรโมชั่นลดราคาเต๊นท์และอุปกรณ์แคมป์ปิ้งพอดีเลย
ไปถูกใจเต๊นท์นอน 4-5 คน กว้างxยาว 2.40mx2.40m แบบมี terrace ราคา 2,990 บาท (ลดจาก 3,290 บาท) จัดมาแบบง่ายๆเลย
เลือกเต๊นท์ใหญ่หน่อยเพื่อจะได้ไม่ต้องนอนเบียดกันมากเกินไป
แต่ความใหญ่สบายก็แลกมากับน้ำหนักเต๊นท์เกือบ 8 Kg ไม่เบาเลย ไม่เบาเลย หุหุ
หารกันคนละ 1,000 บาท คิดแล้วน่าจะคุ้มกว่าการเช่าเต๊นท์ (มั๊ยวะ 55555)
พอซื้อเต๊นท์แล้วก็ตกลงกันว่าต้องจัดทริปนอนเต๊นท์กันอย่างน้อย 3 ทริปนะจ๊ะถึงจะคุ้มทุน หุหุ
ส่วนจะกางเต๊นท์ที่ไหน ก็ไปหาเอาข้างหน้าเลย เพราะส่วนใหญ่ไม่รับจองที่กางเต๊นท์ก่อน ต้องไปเลือกที่แล้วกางเต๊นท์จ่ายตังกันเลย
มีเต๊นท์แล้วก็ไม่ต้องหวั่นมีที่คุ้มหัวนอนแน่ๆละ ไปเที่ยวกันได้เลย

เนื่องด้วยทริปนี้มีเวลาในการเตรียมตัวนานมาก ตั้ง 5 วันแหน่ะ ทำให้เรามีเวลาหาข้อมูลการเที่ยวแบบกางเต๊นท์ เลยได้พร๊อพเพิ่มเติมการเที่ยวครั้งนี้อีกเพียบ ทั้งถุงนอน ผ้าห่มอย่างหนา หมอนอีกคนละใบ ชุดนอนแขนยาวขายาวผ้าหนานุ่ม ผ้าใบปูรองก่อนกางเต๊นท์ สนุกสนานกับการหาข้อมูลอุปกรณ์แคมป์ปิ้งอยู่หลายวันเลย

เราออกเดินทางกันเช้าวันเสาร์ออกจากเมืองกรุง 7 โมงเช้า แวะรับสมาชิกที่สระบุรีอีก 1 คน แล้วก็มุ่งตรงไปเขาค้อกันเลย
ขับรถตามพี่จีมาเรื่อยๆ แทนที่พี่จีจะพาไปทางปกติ (ทางหลวง 21)
แต่พี่จีกลับพามาตามถนน 2320 ขับรถมาก็เอะใจว่า เอ๊ะๆๆๆๆ ไม่มีรถเลยวุ้ย
ก่อนจะขึ้นเขาตามถนน 2320 เราเลยจอดรถถามร้านค้าข้างทางว่าไปทางนี้ได้จริงๆป่าวคะ ถนนเป็นยังไง ขับยากมั๊ยพี่
ได้คำตอบกลับมาว่า ทางนี้ไปได้แน่นอนจ้า แต่ถนนไม่ค่อยดี ขับลำบากกว่าทางปกตินิดหน่อย
เป็นทางลัดเลาะตามภูเขา เลยไม่ค่อยมีใครมาทางนี้
แต่ข้อดีของทางนี้คือ ระยะทางสั้นกว่าเกือบ 10 Km และ วิวดีกว่าทางปกตินะเออ
เอาวะ ไหนๆก็มาแล้วลองไปทางนี้ดูเลยละกัน ลุย!!!



เรามาถึงเขาค้อประมาณบ่ายสองกว่าๆ ก็หาที่พักกันก่อนเลย รีสอร์ทดังๆหลายที่เต็มหมดทั้งบ้านพักทั้งลานกางเต๊นท์
เราแวะไปดูที่ ไปษณีย์เขาค้อ กันก่อนเป็นที่แรก


ค่าบริการตามนี้


พื้นที่ริมๆที่จุดชมวิวมีเต๊นท์กางเต็มหมดแล้ว

พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า พื้นที่ว่างๆตรงไหนก็ได้ สามารถเลือกกางเต๊นท์ได้เลย แล้วแต่สะดวก
ห้องน้ำมีเยอะ แต่มีห้องที่มีน้ำอุ่นแค่ 2 ห้องเท่านั้นนะจ๊ะ จะจองก็รีบจองเลยนะจ๊ะ ยิ่งเย็นๆไป พื้นที่จะถูกจับจองหมด จะยิ่งหายากนะจ๊ะ
เราเดินสำรวจดูพื้นที่ก็พบนักท่องเที่ยวมากมายจับจองพื้นที่กางเต๊นท์กันเยอะพอสมควรแล้ว
คนเยอะเชียว ตอนนี้ที่โล่งๆน่าจะเป็นลานจอดรถด้านข้างไปรษณีย์ซึ่งไม่เห็นวิวเลย
ถ้าจะดูวิวต้องเดินจากที่กางเต๊นท์ไม่กี่สิบเมตรมาดูวิว
ข้างๆไปรษณีย์ก็มีเหมือนตลาดนัดขายของกินของที่ระลึกเพียบ
เอาเป็นว่ากางเต๊นท์ที่นี่ไม่อดตายแน่ๆ สะดวกสบายในการหาของกินของใช้
แต่ประเด็นใหญ่เราคงเป็นเรื่องห้องน้ำมากกว่า เพราะเกรงว่าถ้าหนาวแล้วมีห้องอาบน้ำอุ่นแค่ 2 ห้อง เราจะไหวกันมั๊ยน้าาาาา

เราเลยตัดสินใจลองขับรถไปหาที่พักที่อื่นดูก่อน เพราะยังบ่ายไม่มากน่าจะยังพอมีเวลาให้เราเลือกอยู่
ขับรถเลยไปรษณีย์ไปนิดหน่อยก็เจอรีสอร์ทดัง เข้าค้อทะเลหมอก และ พรสวรรค์ อยู่ติดกันเลย
แต่ก็เหมือนเดิม เต็มทั้งบ้านพัก และ ลานกางเต๊นท์
แต่ระหว่างเข้าไปถาม 2 ที่นี้ เพื่อนก็เหลือบไปเห็นรีสอร์ทและลานกางเต๊นท์ข้างๆ ดูน่าสนใจ
เราเลยลองขับรถเข้าไปดูกันที่นี่ ร่มการเวก

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สถานที่ดูโอเคเลยวิวดี ยังมีที่กางเต๊นท์วิวดีๆเหลืออยู่
ห้องน้ำก็ดูสะอาดดีอาจจะไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ได้สกปรกอะไร ที่สำคัญมีน้ำอุ่นทุกห้อง
มีห้องผู้หญิง 12 ห้อง ผู้ชาย 5 ห้อง
พนักงานบอกว่าที่นี่เปิดมานานแล้ว แต่ไม่ได้ลงโฆษณาในอินเตอร์เนทเพราะลูกค้าประจำที่มาก็เยอะแล้ว พอแล้ว (น่านนนนนนน ไม่ธรรมดา)
ค่าบริการเอาเต๊นท์มาเอง 150 บาท/คน รวมอาหารเช้า (วันที่ไปเต๊นท์เช่าหมด เครื่องนอนหมด ไม่มีให้บริการ)
พวกเราตกลงเลือกที่นี่กันเลยจากเรื่องวิวและห้องน้ำ และอีกปัจจัยนึงคือจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่เยอะและไม่น้อยเกินไป
คือไม่พลุกพล่านมากเท่าที่ไปรษณีย์ฯ แต่ก็ไม่ได้น้อยมากจนหน้ากลัว แถมยังวิวเดียวกับรีสอร์ทดังซึ่งมั่นใจว่าวิวคงสวยไม่แพ้กันเท่าไหร่
พนักงานเอารูปที่ถ่ายเมื่อตอนเช้ามาอวด มีทะเลหมอกด้วยอ่ะ รูปถ่ายทะเลหมอกสวยใช้ได้เลยอ่ะ เหอๆๆๆๆๆ

เลือกที่กางเต๊นท์ได้ ก็ขนสัมภาระลงจากรถแล้วเริ่มกางเต๊นท์กันเลย นี่คืองานยากที่สุดของทริปนี้ละ 5555555555
ครั้งสุดท้ายที่กางเต๊นท์นอน คือสมัย ม.ต้น ตอนเข้าค่ายเนตรนารีปู๊นนนนนโน้นนนนนนนนนนนนน
แต่จากการศึกษาวิธีการกางเต๊นท์จากยูทูปมาบ้าง พวกเราก็พอจะมั่วๆกางเต๊นท์กันได้สำเร็จแบบกางกันไป ขำกันไป สนุกมากกกกกกก
มั่วไปมั่วมา หัวเราะกัน ขำกันไปมา สุดท้ายพวกเราก็ทำสำเร็จ ภูมิใจสุดๆ


กางเต๊นท์เสร็จก็มานั่งพักเหนื่อยตากลมที่หน้าเต๊นท์กัน และนี่คือวิวจากหน้าเต๊นท์พวกเรา


นั่งกินลมชมวิวกันจนเย็นๆ เราก็เดินไปหาข้าวเย็นกินกันที่ พรสวรรค์ อยู่ติดๆกันเลยนี่ล่ะ


วิวพระอาทิตย์ตกระหว่างกินข้าว บรรยากาศดีจริงๆ


กินข้าวอิ่มเราก็กลับมานั่งเล่นนอนเล่นที่เต๊นท์กันสักพัก แล้วก็ไปอาบน้ำกัน อากาศดีเย็นๆ ไม่หนาว
กลับมาที่เต๊นท์ก็พบว่าน้ำค้างเกาะเต็มเต๊นท์เลย ข้างนอกเต๊นท์อากาศเย็นๆ แต่ในเต๊นท์อุ่นมาก
เพิ่งจะรู้ว่าเต๊นท์เค้าทำมาดีนะ ไม่ต้องกลัวหนาวเลย เพราะในเต๊นท์อุ่นมาก ผ้าห่มที่เตรียมมาเลยเอามาเป็นผ้าปูนอนแทน

และด้วยความที่เพิ่งผ่านวันลอยกระทงมา 2 วัน พระจันทร์วันนี้เลยตวงกลมโตส่องสว่างอย่างงามเลย


ระหว่างนั่งชมจันทร์และดูดาวที่หน้าเต๊นท์ ประมาณ 2-3 ทุ่ม เราก็เห็นหมอกขาวค่อยๆปกคลุมพื้นที่อ่างเก็บน้ำและหุบเขาข้างหน้าเต๊นท์เรา
เฮ้ย!!!!!! นี่มันทะเลหมอกนี่หว่า เว้ย!เฮ้ย! นี่พี่มาเร็วไปมั๊ยค๊าบบบบบบ
เรานั่งชมทะเลหมอกกันตอน 3 ทุ่ม พยายามจะถ่ายรูปมาอวดก็ไม่สามารถทำได้ กล้องเราไม่สามารถจริงๆ
จากที่เห็นก็ได้แต่ภาวนาว่าอยู่อย่างนี้ไปตลอดจนถึงเช้านะคะพี่หมอกขา แล้วน้องจะตื่นมาชื่นชมพี่แต่เช้าเลยค่ะ

การนอนเต๊นท์คืนนั้นโดยรวมก็โอเคนะ มันไม่สบายเหมือนนอนเตียงนอนบ้านพัก ก็เป็นไปตามคาด
แต่ที่เกินคาดคือ ในเต๊นท์อุ่นมากกกก ไม่หนาวเลย แม้ว่าจะได้ยินเสียงลม และ น้ำค้าง ก็ไม่ได้ทำให้เราหนาวกันเลย
ลืมตามานอนมองดูวิวจากในเต๊นท์ เห็นทะเลหมอกขาวๆเลย ยิ่งดึกยิ่งเยอะอ่ะ ขนาดมืดๆยังสวยเลย
แต่พอสักตีสามฝนดันตกมาซะนี่ ฝนตกไม่หนักลมไม่แรงมาก เต๊นท์เรายังคงอยู่ได้สบายๆ

รอตื่นเช้ามาลุ้นดูว่า ทะเลหมอกจะยังสู้ลมสู้ฝนอยู่ให้เราดูกันตอนเช้ารึไม่ละกันเนอะ ลุ้นๆๆๆๆๆๆ