18-20 ธันวาคม 2558 (3 วัน 2 คืน)
วันแรก
-วัดทุ่งศรีเมือง
-วัดหนองบัว
-ผาชะนะได (ทุ่งดอกไม้,เสาเฉลียงคู่,ลานกางเต๊นท์,พระอาทิตย์ขึ้นผาชะนะได)
วันที่สอง
- น้ำตกแสงจันทร์
- เสาเฉลียงยักษ์
- ผาแต้ม
- สามพันโบก (หาดหงส์,ลานหินสี,สามพันโบก)
- ข้าวต้มสันติโภชนา
- The goose cafe'
ค่าใช้จ่ายจะสรุปให้ตอนท้ายนะคะ ด้วยรัก
เริ่มเลยดีกว่า คำเตือนรูปเยอะมากกำลังสอง
ไปถึงสนามบิน ไปกลับ 7 คน ไปด้วยไทไลออน กลับ แอเอเชีย
เราเดินทางในจังหวัดด้วยรถเช่าฟอจูนเนอร์ 2 วัน กะว่าเป็นโฟวิว ขึ้นชะนะไดได้แน่นอน แต่เกมพลิก รถไม่ใช่โฟวิว
วันแรก
ในตัวเมือง มีวัดหลายวัน แต่จากรีวิวที่อ่านมา มีวัดน่าสนใจสำหรับเรา 2 วัดคือ วัดทุ่งศรีเมือง และวัดพระธาตุหนองบัว
วัดทุ่งศรีเมือง ไปดูหอไตรกลางน้ำ สุภาพสตรีห้ามใส่สั้น
หลังจากนั้น กะจะไปกินก๋วยจั๊บญวนชื่อดังแต่ร้านไม่เปิด เลยได้ก๋วยจั๊บญวนร้านข้างๆ จำชื่อไม่ได้แทน
รสชาติ กินได้ พริกไทยเผ็ด กระดูกหมูอร่อย ราคา 40-50 บาท
ไปกันต่อที่วัดพระธาตุหนองบัว วัดนี้แนะนำ สวย ดูอลังการ
เวลามีน้อย สโลวไม่ไหว ไปชะนะไดเลยละกัน ฟอจูนเนอร์ขึ้นไม่ได้
(ดีแล้วหลังจากไปแล้วพบว่า ขับเองไม่ได้ ไม่ใช่ว่ามันชันนะ ทางไม่ชันเลยไม่มีขึ้นเขาไม่มีข้างเหวอะไรทั้งนั้น
แต่ทางมันขับยาก ขรุขระ 15 กิโลแม้วด้วยความเร็วไม่เกิน 40 ใช้เวลา 3 ชั่วโมงถึงลานกางเต๊นท์)
เราเลยจ้างคุณลุง ด้วยกระบะในราคา 1700 บาท ต่อคุณลุงมา รู้สึกแย่มากเพราะไม่มีลุงเราอาจจะลำบากมาก
นัดกันที่จุดอุทยานก่อนขึ้นผาชะนะได ฝากคุณลุง (เรียกว่ารบกวนดีกว่า) เช่าเต๊นจากผาแต้มเพราะชะนะไดเต๊นมีน้อยมาก
เช่า 3 เต๊นท์ พร้อมชุดเครื่องนอน (แผ่นรองนอน ถุงนอน หมอน) ฝากคุณลุงซื้อน้ำแข็ง และขอยืมหม้อด้วย (ไม่มีอะไรเลยให้ตายสิ)
ก่อนไประหว่างรอซื้อส้มตำมากิน มาอุบลแล้วทั้งทีต้องลองกินปลาร้า จัดไป ไม่แน่จริงอย่ากิน
ปลาร้าแรงเฟร่อออ แจ่วปลาร้าหนักแล้ว แจ่วบองหนักกว่า สรุป กินส้มตำได้นิดเดียว เน้นไก่กับข้าวเหนียว ซื้อมากิโลครึ่ง
จานชามและช้อนที่เห็น ยืมเจ้าหน้าที่หน่วยตรงนั้นมาแล้วล้างคืน ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ
พอลุงมาก็เริ่มขึ้นกันเลย
ที่แรกที่แวะระหว่างขึ้น ก็คือทุ่งดอกไม้ มีช่วงปลายฝน ต้นหนาว
ดูพระอาทิตย์ตกที่เสาเฉลียงคู่ ลืมถ่ายรูปเสามาค่ะ มัวแต่ถ่ายพระอาทิตย์ search google ได้เลย รับรองเจอแน่นอน
นั่งรถไปกันต่อที่ลานกางเต๊นท์ ไปถึงก็เริ่มมืดแล้ว กางเต๊นท์กันช้ามากเพราะไม่โปร
ก็ได้คุณลุงกับเจ้าหน้าที่อุทยานอีกที่ช่วยกางและก่อไฟให้ด้วยขอบพระคุณมากค่ะ
ม่มีลุงหนูคงหนาวตาย อุณหภูมิประมาน 17-20 องศา แต่ลมแรงขั้นสุด
เราต้องนั่งรถเข้าป่าไปกับลุงอีกรอบเพื่อไปหาฟืน และลุงอีกเช่นเคยที่ช่วยชีวิตเรา Y^Y
หลังจากนั้นก็ต้มน้ำ เราแวะซื้อน้ำ มาม่า ไข่ และมัน กะเอามาแบบลูกเสือ
แต่ไม่มีเตา ไม่มีอุปกรณ์สรุปทำไรกินไม่ได้ ได้แค่มาม่า เอาตามนั้นละกัน ชามก็ไม่มี
ข้าวเหนียวเหลือ เราเลยทดลองเอามาชุบใข่ ทำข้าวจี่ปิ้งกินกันด้วยเศษไม้จากฟืน
ทำ 4 อัน สำเร็จ 1 ที่เหลือข้าวเละพังหมด
และเราก็ปิ้งมันเผาฟินมากอากาศหนาวๆ มันเผาอุ่นมือ โยนมันเข้าไปในกองไฟ
แล้วเขี่ยออกมากิน ไหม้นอกกรอบกลางนุ่มใน
แล้วคืนนั้นทั้งลานกางเต๊นก็มีเพียงพวกเรา 7 คน อย่างเฟ้งฟ้างนั่งดื่มเบียร์แบบไม่ใส่น้ำแข็ง (ซื้อมาตั้งเยอะแต่หนาว)
เช้าวันใหม่ก็มา เอาล่ะเว้ย พระอาทิตย์ขึ้นคนแรกในสยามที่ผาชะนะได อำเภอโขงเจียม ได้ยินในวิทยุมานาน
ขอมาเกาะขอบฟ้าดูมันดูมันโผล่หน่อย ไอ้ที่เค้าบอกข้างล่างเป็นแม่น้ำโขงอาจจะมีทะเลหมอก ตื่นเต้นเฟร่อออออ
แล้วเราก็กลับมาเก็บเต๊นท์
เดี๋ยวลงจากชนะได แล้วไปสามพันโบกกัน
ระหว่างรอ ดูรูปฟิล์มไปพลางๆ ก่อน
RKM FILMS
PNGSKRN FILMS
[CR] [ ไปอุบล ] เพราะเป็นพนักงานออฟฟิส ชีวิตเลยไม่ slow แถมต้อง go so fast
18-20 ธันวาคม 2558 (3 วัน 2 คืน)
วันแรก
-วัดทุ่งศรีเมือง
-วัดหนองบัว
-ผาชะนะได (ทุ่งดอกไม้,เสาเฉลียงคู่,ลานกางเต๊นท์,พระอาทิตย์ขึ้นผาชะนะได)
วันที่สอง
- น้ำตกแสงจันทร์
- เสาเฉลียงยักษ์
- ผาแต้ม
- สามพันโบก (หาดหงส์,ลานหินสี,สามพันโบก)
- ข้าวต้มสันติโภชนา
- The goose cafe'
ค่าใช้จ่ายจะสรุปให้ตอนท้ายนะคะ ด้วยรัก
ไปถึงสนามบิน ไปกลับ 7 คน ไปด้วยไทไลออน กลับ แอเอเชีย
เราเดินทางในจังหวัดด้วยรถเช่าฟอจูนเนอร์ 2 วัน กะว่าเป็นโฟวิว ขึ้นชะนะไดได้แน่นอน แต่เกมพลิก รถไม่ใช่โฟวิว
วันแรก
ในตัวเมือง มีวัดหลายวัน แต่จากรีวิวที่อ่านมา มีวัดน่าสนใจสำหรับเรา 2 วัดคือ วัดทุ่งศรีเมือง และวัดพระธาตุหนองบัว
วัดทุ่งศรีเมือง ไปดูหอไตรกลางน้ำ สุภาพสตรีห้ามใส่สั้น
หลังจากนั้น กะจะไปกินก๋วยจั๊บญวนชื่อดังแต่ร้านไม่เปิด เลยได้ก๋วยจั๊บญวนร้านข้างๆ จำชื่อไม่ได้แทน
รสชาติ กินได้ พริกไทยเผ็ด กระดูกหมูอร่อย ราคา 40-50 บาท
ไปกันต่อที่วัดพระธาตุหนองบัว วัดนี้แนะนำ สวย ดูอลังการ
เวลามีน้อย สโลวไม่ไหว ไปชะนะไดเลยละกัน ฟอจูนเนอร์ขึ้นไม่ได้
(ดีแล้วหลังจากไปแล้วพบว่า ขับเองไม่ได้ ไม่ใช่ว่ามันชันนะ ทางไม่ชันเลยไม่มีขึ้นเขาไม่มีข้างเหวอะไรทั้งนั้น
แต่ทางมันขับยาก ขรุขระ 15 กิโลแม้วด้วยความเร็วไม่เกิน 40 ใช้เวลา 3 ชั่วโมงถึงลานกางเต๊นท์)
เราเลยจ้างคุณลุง ด้วยกระบะในราคา 1700 บาท ต่อคุณลุงมา รู้สึกแย่มากเพราะไม่มีลุงเราอาจจะลำบากมาก
นัดกันที่จุดอุทยานก่อนขึ้นผาชะนะได ฝากคุณลุง (เรียกว่ารบกวนดีกว่า) เช่าเต๊นจากผาแต้มเพราะชะนะไดเต๊นมีน้อยมาก
เช่า 3 เต๊นท์ พร้อมชุดเครื่องนอน (แผ่นรองนอน ถุงนอน หมอน) ฝากคุณลุงซื้อน้ำแข็ง และขอยืมหม้อด้วย (ไม่มีอะไรเลยให้ตายสิ)
ก่อนไประหว่างรอซื้อส้มตำมากิน มาอุบลแล้วทั้งทีต้องลองกินปลาร้า จัดไป ไม่แน่จริงอย่ากิน
ปลาร้าแรงเฟร่อออ แจ่วปลาร้าหนักแล้ว แจ่วบองหนักกว่า สรุป กินส้มตำได้นิดเดียว เน้นไก่กับข้าวเหนียว ซื้อมากิโลครึ่ง
จานชามและช้อนที่เห็น ยืมเจ้าหน้าที่หน่วยตรงนั้นมาแล้วล้างคืน ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ
ดูพระอาทิตย์ตกที่เสาเฉลียงคู่ ลืมถ่ายรูปเสามาค่ะ มัวแต่ถ่ายพระอาทิตย์ search google ได้เลย รับรองเจอแน่นอน
นั่งรถไปกันต่อที่ลานกางเต๊นท์ ไปถึงก็เริ่มมืดแล้ว กางเต๊นท์กันช้ามากเพราะไม่โปร
ก็ได้คุณลุงกับเจ้าหน้าที่อุทยานอีกที่ช่วยกางและก่อไฟให้ด้วยขอบพระคุณมากค่ะ
ม่มีลุงหนูคงหนาวตาย อุณหภูมิประมาน 17-20 องศา แต่ลมแรงขั้นสุด
เราต้องนั่งรถเข้าป่าไปกับลุงอีกรอบเพื่อไปหาฟืน และลุงอีกเช่นเคยที่ช่วยชีวิตเรา Y^Y
หลังจากนั้นก็ต้มน้ำ เราแวะซื้อน้ำ มาม่า ไข่ และมัน กะเอามาแบบลูกเสือ
แต่ไม่มีเตา ไม่มีอุปกรณ์สรุปทำไรกินไม่ได้ ได้แค่มาม่า เอาตามนั้นละกัน ชามก็ไม่มี
ทำ 4 อัน สำเร็จ 1 ที่เหลือข้าวเละพังหมด
และเราก็ปิ้งมันเผาฟินมากอากาศหนาวๆ มันเผาอุ่นมือ โยนมันเข้าไปในกองไฟ
แล้วเขี่ยออกมากิน ไหม้นอกกรอบกลางนุ่มใน
แล้วคืนนั้นทั้งลานกางเต๊นก็มีเพียงพวกเรา 7 คน อย่างเฟ้งฟ้างนั่งดื่มเบียร์แบบไม่ใส่น้ำแข็ง (ซื้อมาตั้งเยอะแต่หนาว)
เช้าวันใหม่ก็มา เอาล่ะเว้ย พระอาทิตย์ขึ้นคนแรกในสยามที่ผาชะนะได อำเภอโขงเจียม ได้ยินในวิทยุมานาน
ขอมาเกาะขอบฟ้าดูมันดูมันโผล่หน่อย ไอ้ที่เค้าบอกข้างล่างเป็นแม่น้ำโขงอาจจะมีทะเลหมอก ตื่นเต้นเฟร่อออออ