https://www.youtube.com/watch?v=4dXcAEoTiBs

---

เราพูดแต่เรื่อง รูปธาตุอย่างเดียว ..
จริงๆแล้วอีก สามคำนี้เป็นภพได้หมดเลย
สามคำนี้เป็นภพ ตัวสี่ธาตุทั้งหมดนี้คือภพ
และจิต จะวนอยู่ในสี่ธาตุนี้ทั้หมด ตลอดเวลาเลย
เราต้องรู้ความจริงตรงนี้  โสดาบันจะรู้ความจริงตรงนี้
ฉะนั้นใครรู้ว่า วิญญาณ วนอยู่ในสี่ธาตุนี้ นี่โสดาบันน่ะเนี่ยะ..เห็นม่ะ

ฉะนั้น โห จะมีพระสูตรเยอะแยะ ที่บอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ น่ะ
ฉะนั้นเราต้องแยก ภพ กับ ชาติ ให้ออก น่ะ
ต้องรู้จักคำว่า ภพ กับ ชาติ

พระพุทธเจ้าจะบอก ภพเปรียบเหมือนผืนนา วิญญาณเปรียบเหมือนเมล็ดพืช
เมล็ดพืชตกลงไปในผืนนา น่ะ
มาเทียบดูกับพระสูตรนี้ ที่พระพุทธเจ้าบอก
วิญญาณ วนอยู่ในขันธ์ทั้ง สี่  
คือเข้าไปตั้งอาศัย เกาะเกี่ยว ไปรับรู้ ไปกินอาหาร เห็นม่ะ
พระพุทธเจ้าใช้หลายคำน่ะ อ่า..

หรือมันไปตั้งอาศัย วิญญาณ เมล็ดพืช ตกลงไปอยู่ในผืนนา¹
ไปตั้งอยู่บนผืนนาน่ะ เตรียมตัวงอกละ
งอกด้วยอะไร งอกด้วยน้ำ นันทิ ราคะ ความเพลินและพอใจ
น้ำรดลงไปปุ้บ เมล็ดงอกขึ้นมา ใช่ม่ะ..
จิตรับรู้อารมณ์ปั้บ มีภพ คือเข้าไปตั้งอาศัย งอกละ งอก..อื้อ..เมล็ดพืชงอกละ
หรือเรียกว่า ชาติ หรือเรียกว่า สัญโยคะ
จิตผูกติดกับอารมณ์ด้วยอำนาจแห่งความเพลิน  
จบด้วยอะไร .. ชรา มรณะ เห็นม่ะ .อื้อ..
และภพมันมีแค่รูปหรือ มันไม่ใช่

ขณะที่รูปยังไม่ตาบ จิตก็สร้างภพตลอดเลย
สร้างการเกิดตลอดเลย เกิดตลอดเลย
นี่ภพ ชาติ ชรา มรณะ , ชาติ ชรา มรณะ ตลอดเลย เนี่ยะ

ฉะนั้น กายตายแล้ว จิตหยุดทำงานมั้ย ไม่หยุด จิตทำงานเหมือนเดิม
นอนหลับ มันยังทำงานเลย ปุ้บ ปุ้บ ปุ้บ ปุ้บ ไปฝัน ไปอะไรต่ออะไร
ฉะนั้น ตายแล้ว จิตไม่เกิด เป็นฐานะที่เป็นไปไม่ได้เลย เกิดแน่นอน น่ะ

อ่า..ขนาดยังอยู่ยังเกิดเลย เกิด ดับ เกิด ดับ เกิด ดับ ตลอดเลย เห็นม่ะ

ถ้าคนบอกว่า ตายแล้วไม่เกิด ก็คือ ตายแล้ว วิญญาณหยุดทำงาน หรือ ?

ไม่ใช่ วิญญาณก็ยังทำงานตลอดเหมือนเดิม

การตายของรูปธาตุ มันไม่ได้ทำให้วิญญาณเปลี่ยนแปลงไปนี่
ธรรมชาตินี้ก็ยังคงเป็นของมันอยู่อย่างนั้น ตลอดเวลา
โยมจะหลับ วิญญาณก็ยังทำงาน เกิด ดับ ตลอด เห็นม่ะ
แต่ทั้งนี้ มันจะมีคำว่า สัมภเวสี

สัมภะเวสี คือ สัตว์ ผู้แสวงหาที่เกิด น่ะ
เราเริ่มไป แกะ
ได้มา เจอพระสูตร 2 พระสูตร ที่จะแกะ สัมภเวสีได้
ไม่มีใครรู้จริงเรื่อง สัมภเวสี ปรุงแต่งกันทั้งนั้น น่ะ ว่าแปลเป็นอย่างโน้นอย่างนี้

แต่ถ้าโยมใช้ พุทธวจน โยมจะเจอ 2 พระสูตรนี้
คือพระสูตรที่ตรัสกับ วัจฉะ²
ฉะนั้น สัมภเวสี คือ สัตว์ผู้แสวงหาที่เกิด ...
วัจฉะ ถามพระพุทธเจ้าบอกว่า..เมื่อกายนี้แตกทำลาย แล้วยังไม่ได้กายใหม่
อะไรเป็นเหตุปัจจัยให้ได้กายใหม่
พระพุทธเจ้าบอก ตัณหา คือ ความอยาก

ฉะนั้นแสดงว่ามัน มีแก้ป นิดนึง สั้น ๆ
ที่เมื่อกายแตกทำลาย แล้วสัตว์ยังไม่ได้กายใหม่
จังหวะนั้นน่ะ สัมภเวสี น่ะ ที่จะแสวงหากายใหม่

ซึ่งตัวแสวงหาคือ ตัณหา ความอยากของเรานี้เองแหละ
มันโทษใครไม่ได้เลย เรา อยาก ไปจับตรงนั้น เป็น ภพ  เป็นที่ เกิดนั่นเอง

ทีนี้ แก้ป นี้เนี่ยะ
กว้างขนาดใหน  กินเวลาเท่าไร น่ะ
ไปดูอีกพระสูตรหนึ่ง³
ที่พระพุทธเจ้าบอกกับพระอานนท์  
บอก อานนท์ ที่อุปมาเกี่ยวกับเรื่องการ อ่ะ..
การทำงานของวิญญาณกับนามรูป ให้ใช้อุปมาตรงนี้
แต่เราจะได้ประโยชน์ตรงนี้ด้วย ก็คือ ได้ ตัว สัมภเวสี ขึ้นมา

พระพุทธเจ้าบอก
อานนท์  ถ้าวิญญาณ ไม่ก้าวลงสู่ครรภ์แห่งมารดา นามรูปจะปรุงตัวต่อได้ไหม
อานนท์ บอก ไม่ได้
พระพุทธเจ้าบอก ถูก
เพราะฉะนั้น นั่นคือ เมื่อ บิดามารดา อยู่ร่วมกัน³ น่ะ
ทำนามรูปให้เกิดแล้วเนี่ยะ วิญญาณจะก้าวลงไหม
ถ้า ไม่ก้าวลง นามรูปนี้ ตาย แน่นอน...นี้ อันที่ 1

อันที่ 2 น่ะ พระพุทธเจ้าบอก อานนท์ ถ้าวิญญาณ ก้าวลงครรภ์แห่งมารดา
แล้ว แตก สลายลงแล้วเนี่ยะ นามรูปจะปรุงตัวต่อได้ไหม
พระอานนท์บอก ไม่ได้
พระพุทธเจ้าบอก ใช่

ดังนั้น วิญญาณเลือก ละ
ก้าวลง ปุ้ป อ่ะ เปลี่ยนใจ ไม่เอา แตกสลาย
นี้ สัตว์ในครรภ์ก็ตาย
อาจจะไปเกาะในครรภ์ของสุนัขต่อ
หรือในครรภ์ของไอ้ตัวนั่นนี่ เลือกตามความพอใจ
ความอยาก นี่ไง ใช่ม่ะ  หยิบนู้น หยิบนี่
ก็เหมือนกับจิตเราเนี่ยะ จิตรับรู้ปุ้บ ปล่อยไหมล่ะ
รับรู้ปุ้บ อยากรู้ต่อ อ่ะ ผูกติดละ ผูกติดละ อ่า..เห็นม่ะ อุปาทานเกิดละ

มาจับครรภ์ ปุ้บ อุ๊ ไม่เอา  เปลี่ยน จับครรภ์ใหม่
อื่อ ดีเหมือนกัน อยู่ไป อย่างนี้
ยึดมั่น อุปาทานยึด ปุ้บ ก็ไปเกิดตรงนี้

ระดับที่ สาม วิญญาณก้าวลงสู่ครรภ์มารดา น่ะ
แล้วก็ นามรูปเนี่ยะ ปรากฏเป็นเพศชาย เพศหญิงแล้ว
เป็นเด็ก ชาย เด็กหญิงแล้ว น่ะ ที่อยู่ในครรภ์ แล้วจักแตกสลายลง  
นามรูปจะปรุงตัวต่อได้ไหม

พระอานนท์ ก็บอก ไม่ได้

นั้นแสดงว่า ช่วง สัมภเวสี เนี่ยะ  ระหว่างแสวงหาที่เกิด
ยังไม่ได้กายใหม่ เนี่ยะ ระยะเวลาเนี่ย กี่อาทิตย์ กี่เดือนล่ะ
ก็ไม่รู้แล้ว ต้องถามพวกหมอ นะว่า จากปฏิสนธิแล้วเกิดเพศในทารกเนี่ย จะใช้เวลากี่อาทิตย์

อาตมาไป ไปดูในสารคดีของ ฝรั่งเนี่ยะ
เค้าบอกประมาณสัปดาห์นึงเนี่ยะ มันก็เห็นเป็นงอกมานิดแล้วน่ะ
งอกเป็นมือเป็นแขน เป็นไรตัว นิด นิ้ด ล่ะ อ้า..เค้าใช้คล้องเล็ก เล้ก ส่องลงไป อย่างเงี้ยะ อืม..
อันนี้ก็แล้วแต่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์แล้วกัน
แต่แสดงให้เราเห็นเนี่ยะ แก้ป ช่องว่างตรงเนี่ยะ
ก็คือ  ตั้งแต่ ปฏิสนธิมา จนกระทั่ง ปรากฏเป็นเพศ
ช่วงนี้ วิญญาณเข้าออกได้ตลอด
และนี่คือแก้ป ของสัมภเวสี น่ะ


เนี่ยะ คำตอบ สัมภเวสี
เพราะฉะนั้น คำตอบใดก็ตาม หาได้จาก พุทธวจน ทั้งหมด

---

ความเห็นของผู้เขียน ต่อการอ้างอิงพระสูตร
หมายเหตุ ตัวเลข ¹
              น่าจะหมายถึงพระสูตรนี้
               นิทานสูตร
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=3535&Z=3582&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=473


หมายเหตุ ตัวเลข²
              กุตุหลสาลาสูตร
             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘  บรรทัดที่ ๙๙๒๙ - ๙๙๗๘.  หน้าที่  ๔๒๗ - ๔๒๙.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=18&A=9929&Z=9978&pagebreak=0
             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=18&i=799

หมายเหตุ ตัวเลข ³
              น่าจะหมายถึงพระสูตรนี้
              มหานิทานสูตร
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐  บรรทัดที่ ๑๔๕๕ - ๑๘๘๗.  หน้าที่  ๖๐ - ๗๗.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=1455&Z=1887&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=10&i=57

---

เชิญเพื่อนสมาชิก
ศึกษา วิเคราะห์ เปรียบเทียบ คำอธิบาย สัมภเวสี นี้
กับ พุทธพจน์ พระไตรปิฏก อรรถกถา ฯลฯ