สวัสดีค่ะชาวพันทิป ปกติเป็นคนไร้สาระ ไม่ค่อยแชร์ความเห็นทางด้านธุระกิจซักเท่าไร แต่วันนี้รู้สึกอัดอั้นตันใจกับข่าวที่เราอ่านๆอยู่ทุกวันว่า ทำไมเรารู้สึกว่าประเทศไทยเริ่มเดินถอยหลัง ในหลายๆเรื่อง ไม่รู้ว่าคนอื่นคิดเหมือนกันหรือเปล่า ธุรกิจที่เราทำตอนนี้ มันกำลังตามกระแสบ้านเมืองค่ะ เรียกว่า ธุรกิจรายย่อยขนาดเล็กอยู่ยาก รายใหญ่ขาดทุน แต่บริษัทเรายังคงมีงานเรื่อยๆไม่ขาดสาย แถมยังเยอะกว่าเดิมอีกด้วย เรียกว่า สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้ เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเรื่องนี้ทั้งสิ้น แค่อยากแชร์มุมมองการมองเรื่องนี้ ว่าเรา ในฐานะนักธุรกิจคนหนึ่ง เรารู้สึกยังไงกับมัน เราเริ่มเลยดีกว่า เด่วบลา บลา เยอะ

จากประเด็นล่าสุดที่ได้อ่านข่าวหัวข้อ
"คณะกรรมการรคุ้มครองผู้บริโภค(คคบ.)เห็นชอบห้ามขายและห้ามให้บริการ"บารากู่-บารากู่ไฟฟ้า" พร้อมตัวยา-น้ำยาสำหรับเติมบารากู่"

บารากุคืออะไร


และบารากุไฟฟ้าคืออะไร


ถ้าคนเที่ยวกลางคืนจะรู้จักว่า บารากุคืออะไร ทำไมต้องสูบ เหมือนกันกับบุหรี่ หรือ กัญชาหรือไม่?
บารากู่ หมายถึง  ยาสูบที่นำมาใช้กับอุปกรณ์ที่ใช้เสพที่มีชื่อเรียกว่า ฮุคคา hookah อุปกรณ์นี้มีชื่อเรียกที่ต่างกันหลายภาษาเช่น water pipe , narghile,shisha, hubble-bubble เป้นต้น ประเทศไทยเรียกว่าเตาบารากู่ การสูบยาสูบโดยใช้อุปกรณ์นี้เป็นวัฒนธรรมแถบตะวันออกกลางมานานแล้ว ซึ่งปัจจุบันนี้จะพบในโลกตะวันออกกลางแล้วยังพบในประเทศตะวันตกด้วย

สารที่นำมาใช้กับอุปกรณ์ฮุคคาไม่จำเป็นต้องแห้งสนิท ที่มักใช้กันก็มีชื่อว่า โทบาเมล หรือ มาแอสเซล ซึ่งประเทศไทยรู้จักในนามชื่อว่า บารากู่ เป็นส่วนผสมของใบยาสูบ (tobacco) กับสารที่มีความหวาน เช่น น้ำผึ้งหรือกากน้ำตาล (molasses)  หรือผลไม้ตากแห้ง

คนไทยนิยมสูบบารากุ เมื่อออกเที่ยวกลางคืน และมีแพร่หลายมากๆ เกือบทุกบาร์ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากควันของบารากุมีกลิ่นหอม เพราะมีส่วนผสมของผลไม้ตากแห้ง เผารวมกันกับยาสูบ ซึ่งเป็นสารตั้งต้น ทำให้เกิดควัน ที่มีกลิ่นต่างๆมากมาย ทำให้ผู้สูบมีความเพลิดเพลิน เพราะไม่ได้มีฤทธิ์รุนแรงเหมือนกับยาสูบแบบเพียวๆ ซึ่งวัยรุ่นบางกลุ่มที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน ก็สามารถสูบบารากุกันได้ หรือ คนที่พยายามจะเลิกบุหรี่ ก็จะหันมาสูบบารากุกันก็มีประปราย

เหตุผลหลักๆ ของการหยุดขายสินค้าประเภทนี้ เพราะได้ทำการลงประเด็นความเห็นและประชุมกันเป็นที่เรียบร้อยว่า มันทำลายสุขภาพของผู้สูบ เลยให้เลิกจำหน่าย ประชาชนชาวไทยจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยค่ะ (ใช่มั้ยคะ) แต่บุหรี่ + แอลกอฮอร์ ยังขายได้ปกติ เนื่องจากกรมสรรพสามิต เป็นผู้ควบคุม

ถ้าให้เรามองสินค้าประเภทนี้ ในแง่ของธุรกิจนะคะ ถ้ามีคนซื้อก็ต้องมีคนขาย ธุรกิจจะเกิดการหมุนเวียนมากขึ้น จากปกติขายได้แค่เหล้า โซดา น้ำ น้ำแข็ง ขาย บารากุ ก็ได้กำไรกันไม่ใช่น้อยๆ เพราะสินค้าชนิดนี้ต้นทุนต่ำมากๆ เราตีซะว่า ต้นทุน 30 กำไร 70 มากน้อยกว่านั้นก็ต้องให้ผู้ขายมาแจ้งกันอีกที เรียกว่ายังเป็นเงินที่มาจากการสูบเสพของประชาชน เข้ากระเป๋าประชาชนกันอยู่บ้าง หากไม่มีสินค้าตัวนี้แล้ว คนจะหันไปสูบอะไรละคะ ถ้าไม่ใช่บุหรี่ ก็ไม่มีตัเลือกอื่นให้สูบกันแล้ว จะหันไปสูบใบหม่อนใบมะขามก็ไม่ได้รสชาติอย่างว่า จริงมั้ยคะ ดังนั้น ถามหน่อยค่ะว่า คนขายบุหรี่ ได้กำไรกันเท่าไรกันเชียว ที่บ้านเคยเปิดร้านขายของชำ เรียกว่า บุหรี่ไม่ต้องหากำไรเลยค่ะ แต่มันต้องขายเพราะคนซื้อแน่นอน เงินเข้ากระเป๋าประชาชนน้อยลงค่ะ เพราะเป็นสินค้าควบคุม ในเมื่ออยู่ในความควบคุม มีอะไรสูบก็ต้องสูบกันไป ก็มันเลิกสูบไม่ได้นี่นา รณรงค์ให้เลิกบุหรี่ สายด่วน สมาคมอะไรเยอะแยะเลย แต่ไม่ให้มีสินค้าทดแทนเกิดขึ้น เลยเกิดคำถามในใจว่า แล้วเมื่อไหร่จะเลิกบุหรี่กันได้ เราคิดว่าหน่วยงานที่รณรงค์ต้องได้งบกันมาระดับหนึ่งแหล่ะ เพื่อให้งานนี้บรรลุเป้าหมาย แต่ดูเหมือนสวนทางกับสังคมที่ไม่มีอะไรให้สูบอีกเลย นอกจากบุหรี่

ถ้าให้เรามองในแง่สุขภาพของคนไทย ทำลายสุขภาพของประชาชน เรามองว่า เหล้า + บุหรี่ ก็ทำลายกันมากพออยู่ล่ะ จะหาอะไรมาทำลายสุขภาพได้มากกว่านี้ คงต้องดูกันไปอีกยาวๆ ก็อย่างที่ว่าไป รณรงค์ สายด่วน สมาคม หน่วยงานเลิกบุหรี่เยอะเลยค่ะ แต่ได้ผลจริงมั้ยเราก็ไม่เคยติดตามค่ะ สงสัยเราต้องติดตามหลังจากที่ไม่มีสินค้าทดแทน

** ปล. เราเอาข้อมูลของสินค้าออกดีกว่า จะได้ไม่คิดว่า เราลงสินค้า ขอภัยที่ทำให้เข้าใจผิด **

สุดท้ายๆ จบล่ะๆ เริ่มยาว เรารู้สึกว่าประเทศไทยกำลังทำหลายๆอย่างที่สวนทางกับการพัฒนา สิ่งที่ควรพัฒนาเราน่าเก็บไปคิดกันเพิ่มเติม ถามว่าสินค้านี้ ทำลายภาพพจน์ประเทศไทยเหรอ ถ้าไม่มีบารากุในประเทศไทยแล้ว ประเทศไทยจะสวยงามขึ้น? แล้ว hooker ผิดกฎหมาย เต็มชายหาดพัทยา ล่ะ ไม่เสียภาพพจน์เหรอ? พอๆ เด่วลามปาม และสุดท้ายที่อยากจะบอก เราไม่ได้สูบบุหรี่นะคะ ไม่ได้แอนตี้คนสูบด้วย อยากคุยเรื่องสูบๆ บ้างเปลี่ยนมุมมอง ให้ตัวเอง