ผมขอเล่าเรื่อโดยสรุปนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า
ภรรยาของผมทำงานอยู่ในโรงแรม5ดาวแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต แผนกเกี่ยวกับเด็ก ตอนนี้ทำมา 10 เดือนเศษแล้วครับ
แต่ปัญหามีอยู่ว่าในการทำงาน ด้วยความที่ภรรยาผมเธอเป็นคนเรียบร้อย พูดจาดี และอายุน้อยกว่าพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ(25ปี)
ทำให้เธอถูกเพื่อนร่วมงานกลุ่มหนึ่ง รวมถึงคนที่เป็นหัวหน้าด้วย คอยรังแกและเอาเปรียบในการทำงานตลอด มีการกดขี่ข่มเหง
ใช้วาจาหยาบคาย เช่น อ้าย อี ไอ ประมาณนั้น พอมีงานหนักก็จะรุมกันใช้ภรรยาผม งานสบายๆก็จะทำเอง แม้ยามพักเที่ยง
ปกติพนักงานมีสิทธิพักทานข้าวประมาณ 1 ชม. แต่ในทุกๆวันภรรยาผมทานข้าวยังไม่ทันเสร็จ พักไม่ถึง20นาที ก็มักจะถูกเรียกไปทำงานต่อ
ส่วนพวกกลุ่มก้อนของตนเองจะทำอะไรก็ได้ เวลาพักก็พักได้ตามปกติจนบางครั้งนานกว่า 1 ชม.ด้วยซ้ำ แค่เพราะความที่
เพื่อนร่วมงานกลุ่มนั้นรวมไปถึงคนที่เป็นหัวหน้าแผนกเขาทำงานกันมานานกว่า สนิทสนมกัน เข้าข้างกันชนิดที่ว่าภรรยาผม
โดนจิกหัวใช้อยู่ร่ำไป บางวันภรรยาผมเลิกงานกลับมาบ้านแค่ได้นั่งพักก็เหนื่อยล้าจนแทบลุกไปอาบน้ำไม่ไหว ผมต้องทนเห็น
ภรรยาผมร้องไห้ตัดพ้อให้ผมฟังอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่ฝืนทนก็เพราะงานนี้รายได้ค่อนข้างดีกว่าไปสมัครทำงานอื่นๆ มีเงินเดือน+เซอวิส
แต่ก็ไม่ได้มากมายถึง3-4 หมื่น ประมาณ 2 หมื่นนิดๆต่อเดือนครับ ก็เลยจำทน ผมเคยคิดจะไปเอาเรื่องหลายครั้งแต่ภรรยาผมขอร้อง
เพราะกลัวจะมีปัญหาในการทำงาน แม้การเข้ากะทำงาน แฟนผมมักจะถูกจัดให้อยู่กะดึกตลอดซึ่งไม่ค่อยมีใครชอบกะดึก ภรรยาผม
เล่าว่า พนักงานบางคนที่สนิทสนมกับหัวหน้าแผนก ได้สิทธิเข้าเช้ากลับเย็นทั้งเดือน แทบจะไม่ต้องเปลี่ยนกะกับใคร
****ผมอยากจะรู้ว่าพอจะมีหนทางใดบ้างที่ผมจะช่วยเหลือเธอได้บ้าง ผมจะต้องร้องเรียนกับใคร หรือไปติดต่อแผนกใดเพื่อชี้แจงปัญหานี้
เพราะลักษณะการทำงานที่ภรรยาผมเล่าให้ฟังคือ แผนกใดๆ คนที่มีอำนาจจัดสรรค์การทำงานเบ็ดเสร็จก็คือหัวหน้าแผนก โดยส่วนกลาง
แทบไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำงานกันยังไง พนักงานจัดสรรค์การเข้ากะกันยังไง ส่วนกลางไม่ทราบเลย เพราะหัวหน้า
แผนกนั้นๆเป็นคนจัดการหมดครับ ผมจะทำยังไงดี หรือจะต้องให้ภรรยาผมยอมลาออก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีคนโดนแบบเดียวกับภรรยาผม
ลาออกไปก็หลายคนแล้ว บางคนทำได้ไม่ถึง 4 เดือนด้วยซ้ำครับ ใครมีแนวทางช่วยบอกผมทีนะครับ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ที่เป็นอยู่
มันคือความอยุติธรรม ไม่สิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ควรเกิดขึ้นในการทำงานที่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ นี่เป็นถึงโรงแรม 5 ดาว
มีสาขาอยู่ทั่วโลก แต่ผมขอสงวนไว้ไม่บอก กลัวจะมีปัญหาครับ รบกวนทีนะครับ
ขอคำชี้แนะด้วยครับ ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบงานโรงแรม สิทธิของพนักงาน
ภรรยาของผมทำงานอยู่ในโรงแรม5ดาวแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต แผนกเกี่ยวกับเด็ก ตอนนี้ทำมา 10 เดือนเศษแล้วครับ
แต่ปัญหามีอยู่ว่าในการทำงาน ด้วยความที่ภรรยาผมเธอเป็นคนเรียบร้อย พูดจาดี และอายุน้อยกว่าพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ(25ปี)
ทำให้เธอถูกเพื่อนร่วมงานกลุ่มหนึ่ง รวมถึงคนที่เป็นหัวหน้าด้วย คอยรังแกและเอาเปรียบในการทำงานตลอด มีการกดขี่ข่มเหง
ใช้วาจาหยาบคาย เช่น อ้าย อี ไอ ประมาณนั้น พอมีงานหนักก็จะรุมกันใช้ภรรยาผม งานสบายๆก็จะทำเอง แม้ยามพักเที่ยง
ปกติพนักงานมีสิทธิพักทานข้าวประมาณ 1 ชม. แต่ในทุกๆวันภรรยาผมทานข้าวยังไม่ทันเสร็จ พักไม่ถึง20นาที ก็มักจะถูกเรียกไปทำงานต่อ
ส่วนพวกกลุ่มก้อนของตนเองจะทำอะไรก็ได้ เวลาพักก็พักได้ตามปกติจนบางครั้งนานกว่า 1 ชม.ด้วยซ้ำ แค่เพราะความที่
เพื่อนร่วมงานกลุ่มนั้นรวมไปถึงคนที่เป็นหัวหน้าแผนกเขาทำงานกันมานานกว่า สนิทสนมกัน เข้าข้างกันชนิดที่ว่าภรรยาผม
โดนจิกหัวใช้อยู่ร่ำไป บางวันภรรยาผมเลิกงานกลับมาบ้านแค่ได้นั่งพักก็เหนื่อยล้าจนแทบลุกไปอาบน้ำไม่ไหว ผมต้องทนเห็น
ภรรยาผมร้องไห้ตัดพ้อให้ผมฟังอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่ฝืนทนก็เพราะงานนี้รายได้ค่อนข้างดีกว่าไปสมัครทำงานอื่นๆ มีเงินเดือน+เซอวิส
แต่ก็ไม่ได้มากมายถึง3-4 หมื่น ประมาณ 2 หมื่นนิดๆต่อเดือนครับ ก็เลยจำทน ผมเคยคิดจะไปเอาเรื่องหลายครั้งแต่ภรรยาผมขอร้อง
เพราะกลัวจะมีปัญหาในการทำงาน แม้การเข้ากะทำงาน แฟนผมมักจะถูกจัดให้อยู่กะดึกตลอดซึ่งไม่ค่อยมีใครชอบกะดึก ภรรยาผม
เล่าว่า พนักงานบางคนที่สนิทสนมกับหัวหน้าแผนก ได้สิทธิเข้าเช้ากลับเย็นทั้งเดือน แทบจะไม่ต้องเปลี่ยนกะกับใคร
****ผมอยากจะรู้ว่าพอจะมีหนทางใดบ้างที่ผมจะช่วยเหลือเธอได้บ้าง ผมจะต้องร้องเรียนกับใคร หรือไปติดต่อแผนกใดเพื่อชี้แจงปัญหานี้
เพราะลักษณะการทำงานที่ภรรยาผมเล่าให้ฟังคือ แผนกใดๆ คนที่มีอำนาจจัดสรรค์การทำงานเบ็ดเสร็จก็คือหัวหน้าแผนก โดยส่วนกลาง
แทบไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำงานกันยังไง พนักงานจัดสรรค์การเข้ากะกันยังไง ส่วนกลางไม่ทราบเลย เพราะหัวหน้า
แผนกนั้นๆเป็นคนจัดการหมดครับ ผมจะทำยังไงดี หรือจะต้องให้ภรรยาผมยอมลาออก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีคนโดนแบบเดียวกับภรรยาผม
ลาออกไปก็หลายคนแล้ว บางคนทำได้ไม่ถึง 4 เดือนด้วยซ้ำครับ ใครมีแนวทางช่วยบอกผมทีนะครับ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ที่เป็นอยู่
มันคือความอยุติธรรม ไม่สิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ควรเกิดขึ้นในการทำงานที่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ นี่เป็นถึงโรงแรม 5 ดาว
มีสาขาอยู่ทั่วโลก แต่ผมขอสงวนไว้ไม่บอก กลัวจะมีปัญหาครับ รบกวนทีนะครับ