แชร์ประสบการณ์: ขับรถหลับในชนต้นไม้ รอดมาได้ แต่เจอปัญหาเรื่องประกันแทน
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องชายค่ะ
เขาขับรถตู้ไปส่งของย่านศาลาธรรมสพน์แล้วเกิดหลับในชนต้นไม้ จนต้นไม้หักและรถตะแคงข้างค่ะ
โชคดีที่น้องไม่ได้บาดเจ็บสาหัส ตอนนี้มีแต่รอยกระจกบาดที่แขน
*เพิ่มรูปสภาพรถค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอเกิดเหตุขึ้นก็มีเทศกิจมาตรวจสอบ สุดท้ายก็โทรเรียกประกัน (ชั้นสาม) และ เจ้าหน้าที่เขตมาตรวจสอบ
เพราะเราชนต้นไม้หัก คู่กรณีจึงเป็นเขต
โดยก่อนหน้าที่เขตจะมา คนแถบนั้นก็พูดกันว่าต้นไม้นี้ราคาเป็นหมื่นเลยนะ ซึ่งทำให้น้องเรากลัวมาก
(ขนาดลำต้นประมาณต้นแขนค่ะ สูงประมาณสองเมตร)
พอดีเจ้าหน้าที่เขตมาถึงก่อน ทางเราพูดกับทางเขตอย่างสุภาพเพื่อต่อรองเรื่องการรับผิดชอบต้นไม้ที่หักไป (ต้นมะฮอกกานี)
ซึ่งทางเขตก็ตีคร่าวๆมาก่อนว่าน่าจะประมาณ 2,000บาท ทางเราก็รู้สึกโล่งใจขึ้น
หลังจากนั้นประกันก็มาถึงและแยกตัวไปเพื่อที่จะไปคุยเรื่องการจ่ายเงิน
ปรากฏว่าประกันพูดจาแย่มาก โวยวายใส่ทุกคนที่คุยด้วย
ขนาดที่ว่าเจ้าหน้าที่เขตสองคน และเทศกิจ เดินส่ายหน้ากลับมาหาทางเราว่าไม่คุยกับประกันแล้วนะ
ประกันพูดยืดยาวมาก ซึ่งทางเราสรุปใจความได้ว่าเขาจะไม่จ่ายให้
ทางเราต้องจ่ายเองและต้องไปแจ้งความที่โรงพักเพื่อเสียค่าปรับด้วย
พอดีตำรวจที่เป็นญาติแวะมาถามไถ่ ก็ช่วยเจรจากับประกันให้ แต่ประกันก็ไม่ยอมท่าเดียว
แล้วก็กล่าวหาเจ้าหน้าที่ด้วยว่าจะช่วยเหลือกันโกงเหรอ
เราทั้งหมดเลยต้องไปที่โรงพักเพื่อจัดการเรื่องนี้
มีการทะเลาะ ใส่ความกัน (จากฝ่ายประกัน) บนโรงพักยืดยาวมาก
แต่ท้ายที่สุดเราก็ทำบันทึกประจำวัน และจ่ายค่าเสียหายให้ทางเขตในราคาที่ต่ำกว่าตกลงไว้ตอนแรกค่ะ
เนื่องจากเรามีเวลาตรวจสอบข้อมูลด้านกฏหมายเลยทำให้ทราบว่า ราคาต้นไม้ที่เราชนนั้นอยู่ระหว่าง 500-2,000บาทค่ะ
และทางเจ้าหน้าที่เขตก็ประณีประนอมให้ด้วย
ทั้งนี้คนที่จ่ายก็ยังเป็นฝ่ายเรานะคะ คือประกันก็ลอยหน้ามองเราประมาณว่ายังไงเขาก็ไม่เสียให้หรอก
เราทำเรื่องให้จบด้วยการวิ่งไปจ่ายค่าต้นไม้ที่เขตค่ะ
เหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่าถ้าคุณขับรถชนต้นไม้เสียหาย คู่กรณีคือเขต หากติดต่อโดยตรงและยอมความกันได้ ไม่เรียกประกันดีกว่า
ต้องขอบคุณรองผกก สน ศาลาแดงด้วยที่ให้คำแนะนำถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ช่วยเพราะติดภารกิจ
* เพิ่มเนื้อหา
ประกันมาถึงไม่ได้แจ้งชื่อค่ะ คุยกันจนจัดการเรื่องเสร็จก็ยังไม่ทราบชื่อ
ท้ายสุดเราเพิ่งโทรเข้าศูนย์เพื่อสอบถามชื่อ พนักงานโทรศัพท์ให้ข้อมูลได้ดีค่ะ
ที่เราต้องการถามชื่อก็เพื่อป้องกันตัวเอง
เพราะประกันคนนี้คุยอวดที่สน ว่างานเขาเยอะเพราะเขารับทำเคลมให้สามบริษัท
ถ้าเจอประกันคนนี้อีกก็ถือว่าดวงซวยมากแล้วค่ะ
แชร์ประสบการณ์: ขับรถหลับในชนต้นไม้ รอดมาได้ แต่เจอปัญหาเรื่องประกันแทน
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องชายค่ะ
เขาขับรถตู้ไปส่งของย่านศาลาธรรมสพน์แล้วเกิดหลับในชนต้นไม้ จนต้นไม้หักและรถตะแคงข้างค่ะ
โชคดีที่น้องไม่ได้บาดเจ็บสาหัส ตอนนี้มีแต่รอยกระจกบาดที่แขน
*เพิ่มรูปสภาพรถค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอเกิดเหตุขึ้นก็มีเทศกิจมาตรวจสอบ สุดท้ายก็โทรเรียกประกัน (ชั้นสาม) และ เจ้าหน้าที่เขตมาตรวจสอบ
เพราะเราชนต้นไม้หัก คู่กรณีจึงเป็นเขต
โดยก่อนหน้าที่เขตจะมา คนแถบนั้นก็พูดกันว่าต้นไม้นี้ราคาเป็นหมื่นเลยนะ ซึ่งทำให้น้องเรากลัวมาก
(ขนาดลำต้นประมาณต้นแขนค่ะ สูงประมาณสองเมตร)
พอดีเจ้าหน้าที่เขตมาถึงก่อน ทางเราพูดกับทางเขตอย่างสุภาพเพื่อต่อรองเรื่องการรับผิดชอบต้นไม้ที่หักไป (ต้นมะฮอกกานี)
ซึ่งทางเขตก็ตีคร่าวๆมาก่อนว่าน่าจะประมาณ 2,000บาท ทางเราก็รู้สึกโล่งใจขึ้น
หลังจากนั้นประกันก็มาถึงและแยกตัวไปเพื่อที่จะไปคุยเรื่องการจ่ายเงิน
ปรากฏว่าประกันพูดจาแย่มาก โวยวายใส่ทุกคนที่คุยด้วย
ขนาดที่ว่าเจ้าหน้าที่เขตสองคน และเทศกิจ เดินส่ายหน้ากลับมาหาทางเราว่าไม่คุยกับประกันแล้วนะ
ประกันพูดยืดยาวมาก ซึ่งทางเราสรุปใจความได้ว่าเขาจะไม่จ่ายให้
ทางเราต้องจ่ายเองและต้องไปแจ้งความที่โรงพักเพื่อเสียค่าปรับด้วย
พอดีตำรวจที่เป็นญาติแวะมาถามไถ่ ก็ช่วยเจรจากับประกันให้ แต่ประกันก็ไม่ยอมท่าเดียว
แล้วก็กล่าวหาเจ้าหน้าที่ด้วยว่าจะช่วยเหลือกันโกงเหรอ
เราทั้งหมดเลยต้องไปที่โรงพักเพื่อจัดการเรื่องนี้
มีการทะเลาะ ใส่ความกัน (จากฝ่ายประกัน) บนโรงพักยืดยาวมาก
แต่ท้ายที่สุดเราก็ทำบันทึกประจำวัน และจ่ายค่าเสียหายให้ทางเขตในราคาที่ต่ำกว่าตกลงไว้ตอนแรกค่ะ
เนื่องจากเรามีเวลาตรวจสอบข้อมูลด้านกฏหมายเลยทำให้ทราบว่า ราคาต้นไม้ที่เราชนนั้นอยู่ระหว่าง 500-2,000บาทค่ะ
และทางเจ้าหน้าที่เขตก็ประณีประนอมให้ด้วย
ทั้งนี้คนที่จ่ายก็ยังเป็นฝ่ายเรานะคะ คือประกันก็ลอยหน้ามองเราประมาณว่ายังไงเขาก็ไม่เสียให้หรอก
เราทำเรื่องให้จบด้วยการวิ่งไปจ่ายค่าต้นไม้ที่เขตค่ะ
เหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่าถ้าคุณขับรถชนต้นไม้เสียหาย คู่กรณีคือเขต หากติดต่อโดยตรงและยอมความกันได้ ไม่เรียกประกันดีกว่า
ต้องขอบคุณรองผกก สน ศาลาแดงด้วยที่ให้คำแนะนำถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ช่วยเพราะติดภารกิจ
* เพิ่มเนื้อหา
ประกันมาถึงไม่ได้แจ้งชื่อค่ะ คุยกันจนจัดการเรื่องเสร็จก็ยังไม่ทราบชื่อ
ท้ายสุดเราเพิ่งโทรเข้าศูนย์เพื่อสอบถามชื่อ พนักงานโทรศัพท์ให้ข้อมูลได้ดีค่ะ
ที่เราต้องการถามชื่อก็เพื่อป้องกันตัวเอง
เพราะประกันคนนี้คุยอวดที่สน ว่างานเขาเยอะเพราะเขารับทำเคลมให้สามบริษัท
ถ้าเจอประกันคนนี้อีกก็ถือว่าดวงซวยมากแล้วค่ะ