เริ่มเรื่องคือ ถ้าหลายๆคนเคยไปนครปฐม และเคยผ่ายแถวพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยนครชัยศรี
คงเห็นร้านส้มโอที่ตั้งร้านเป็นแถวต่อๆกันหลายๆร้าน ซึ่งร้านของครอบครัว จขกท. ก็เป็นหนึ่งในนั้น
และประเด็นของกระทู้นี้คือ ร้านส้มโอเกือบสิบกว่าร้าน ตั้งเป็นแถวริมถนน ทำไมร้านนี้ถึงโดนขโมยอยู่เพียงแค่ร้านเดียว!!
เรื่องของเรื่องคือ น้องชายโดนกล่าวหาว่าไปลักทรัพย์ร้านส้มโอที่อยู่ก่อนถึงร้าน จขกท. ประมาณ 3 ร้าน
โดยเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ของวันที่ 6 เมษายน 2557 และครอบครัว จขกท. จะต้องไปขึ้นศาลในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้
หลายๆคนอาจถามว่า เรื่องแค่นี้ทำไมไม่ยอมความกัน ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องนี้ ไม่ได้พึ่งเกิดกับครอบครัว จขกท. เพียงครอบครัวเดียวหรอกค่ะ
แต่มันเคยเกิดกับเพื่อนของน้องชายอีกคน ก็เคยโดนกล่าวหาเหมือนกัน กรณีเดียวกัน คือขโมยส้มโอ และก็เป็นร้านเดียวกันที่กล่าวหา
แต่ครอบครัวของเพื่อนน้องเรื่องไม่ถึงตำรวจ ไม่ถึงศาล เพราะเขายอมเสียเงินให้กับผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหายโดนลักทรัพย์
แต่ในกรณีของ จขกท. ที่ไม่ยอมเพราะ จขกท. คิดว่า เราไม่ผิด ทำไมต้องไปเสียเงินให้กับพวกที่ทำนาบนหลังคน หากินด้วยวิธีทุจริตแบบนี้ด้วย!!
    ต่อไปนี้เป็นคำให้การที่โจทก์กล่าวหาน้อง จขกท. ค่ะ เขาบอกว่า “ มีคนโทรบอกเขาว่าขโมยเข้าร้าน เลยรีบขับรถออกมาจากบ้านพร้อมสามีเขาและพี่สาวเขา ซึ่งพอมาถึงร้านก็เห็นน้อง จขกท. จอดรถมอเตอร์ไซต์รออยู่หน้าร้าน พอเห็นเขามาเพื่อนที่อยู่ในร้านก็รับออกมาจากร้านแล้วกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซต์น้อง จขกท. ออกไป  ซึ่งเขาจำหน้าคนที่ออกมาจากร้านไม่ได้เพราะไม่รู้จัก แต่จำหน้าน้อง จขกท. ได้ เพราะรู้จักกัน! แต่มอเตอร์ไซต์เขาบอกว่าไม่ใช่รถของน้อง จขกท. หรอกเป็นรถใครไม่รู้ เวฟสีน้ำเงิน ” ซึ่งในวันให้การเขาบอกเพียงว่า คนร้ายหนีออกมาโดยไม่ได้เอาทรัพย์สินไป แต่พอหมายเรียกมา กลับมีทรัพย์สินสารพัด ทั้ง ส้มโอ มะพร้าว ข้าวหลาม น้ำตาลสด และทางเขาก็มีพยาน คือ เขาบอกว่ามีตำรวจมาเรียกน้องที่หน้าบ้านเพื่อให้น้องออกมา หลังเกิดเหตุ (ตำรวจคนที่มาเรียกไม่ใช่ตำรวจเขตเรา แต่เป็นญาติกับโจทก์!) แต้องไม่ออกมา
เขาเลยต้องแจ้งความดำเนินคดีกับน้องเรา แต่บ้านเราเลี้ยงสุนัขไว้หน้าบ้าน 2 ตัว และเวลาวิกาลขนาดนั้น ถ้าเขามาเรียกจริง หมาเห่าแน่นอนค่ะ และเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ที่คนในบ้านจะไม่ได้ยินเสียงเรียก เพราะ พ่อ จขกท. ก็นอนเฝ้าร้านส้มอยู่หน้าบ้านเหมือนกัน!!
    ซึ่งสาเหตุ ที่ จขกท. ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาถาม เพราะ อยากถามทุกคนว่า เราจะสู้กับคนพวกนี้ยังไง ซึ่งพยานที่ยืนยันว่าน้อง จขกท. บริสุทธิ์ก็มีเพียงครอบครัว จขกท. เท่านั้น และพยานเอกสารก็เป็นหลักฐานในการใช้งานคอมพิวเตอร์ในช่วงเวลาที่ถูกกล่าวหา ( ซึ่งในส่วนนี้โจทก์อาจแถว่าคอมใครเล่นก็ได้) แต่โดยแท้จริง มันเป็นคอมที่น้อง จขกท. ใช้พียงคนเดียว
    จึงอยากรบกวนคนในพันทิพ ช่วยตอบหน่อยค่ะ ว่าเราจะสู้กับพวกอำนาจมืดนี้ยังไง เพราะ ฝั่งเขามีตำรวจ (ที่โดนจ้างมาแน่ๆ เพราะเขาญาติกัน ) เป็นพยานด้วย ซึ่งเราก็มีแค่พยานครอบครัว หลักฐานข้างต้นและความจริงเท่านั้น (ซึ่งน้องเราไม่จำเป็นต้องขโมยเลย เพราะบ้านก็ขายเหมือนกัน) และเราก็ไม่รู้ว่า ศาลนั้นจะยุติธรรมมากน้อยแค่ไหน

**เรารู้นะ ด้วยหลักเหตุและผลมันค่อนข้างยาก ที่ใครจะเชื่อว่า น้องเราบริสุทธิ์ เพราะพยานก็มีแค่ครอบครัว แต่ที่เราต้องสู้เพราะ เราไม่ผิด ที่สำคัญที่เราไม่อยากฟ้องกลับ คือ ไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย คนเราต้องทำมาหากินนะค่ะ มาเสียเวลากับคนที่คอยใส่ร้ายคนอื่นมันก็เสียเวลาที่จะทำประโยชน์อย่างอื่นไปเยอะแล้ว และเหตุผลหลักคือ เราสู้เพื่อศักดิ์ศรีของครอบครัวค่ะ ถึงมันกินไม่ได้ แต่เราไม่อยากให้ใครมาตราหน้าพ่อแม่เรา ว่า เลี้ยงลูกไม่ดี เพราะความจริงมันไม่ใช่
และถ้าเกิดศาลตัดสินอย่างยุติธรรม หากผลออกมาน้องเราบริสุทธิ์ เราก็ขอบอกในกระทู้นี้ไว้เลยนะค่ะ ว่าเราไม่อยากเอาความกลับโจทก์ค่ะ เราขอแค่คำขอโทษให้กับครอบครัวเราแค่นั้นพอค่ะ