แก้ไข
ดิฉันอยากเล่าประสบการณ์บางส่วนในการขอวีซ่าอเมริกา ที่ดิฉันมองว่าไม่มีหลักเกณ์ในการตัดสินใจ ไม่ทราบว่าทุกท่านคิดอย่างไร ดิฉันเคยเล่าไปบ้างแล้ในกระทู้เก่าๆแต่วันนี้อยากขอความคิดเห็นจากท่านสมาชิกทุกท่านค่ะ หากพิมพ์ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
เรื่องมีอยู่ว่า หลานสาวดิฉันไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกามาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาค่ะ ครั้งแรกยื่นขอเมื่อมกราคม สัมภาษณ์กับกงสุลผู้ชาย ร่างท้วม คนเอเซีย เอกสารทุกอย่างพร้อม ใบรับรองงานอายุงาน 8 ปี ใบรับรองเงินเดือน (เป็นบริษัทฯใหญ่มั่นคง) หลานสาวตำแหน่งผจกฝ่ายจัดซื้อ มีคู่หมั้นแล้วกำลังจะแต่งงาน อายุ30 ปลายๆ มีเงินฝากประจำหกหลัก เงินฝากออมทรัพย์อีก 1 บ/ช ดิฉันเชิญให้มาเที่ยว 2 อาทิตย์เดินทางพร้อมคุณย่า
ความสัมพันธ์เป็นหลานสาวลูกพี่ชายดิฉันเลี้ยงมาแต่เล็กจนโต พอดิฉันย้ายมาอยู่อเมริกาจึงอยากให้มาเยี่ยมเพราะคิดถึงโดยสุขภาพดิฉันไม่สามารถเดินทางไปไทยได้ จึงขอให้หลานพาคุณย่าเดินทางมาเยี่ยม(คุณย่ามีวีซ่าแล้ว)โดยได้กรอกแบบฟอร์ม พร้อมแนบเอกสาร จดหมายเชิญ ใบรับรองเงินเดือนของสามี ใบเสียภาษี ก๊อปปี้หน้าพาสปอร์ตของเรา ส่งไปให้
ปรากฏว่าสัมภาษณ์กับกงสุลคนนี้(ผู้ชายเอเซีย ท้วม ที่ช่อง 12) ไม่ดูเอกสารอะไรเลย ถามแค่ว่าดิฉันคือใคร ตัวหลานมีแฟนหรือยัง และจะไปที่ไหน 3 คำถาม โดยไม่ดูเอกสารอะไรเลย(เราไม่ได้เตรียมใจในเรื่องไม่ผ่านวีซ่า ยอมรับว่าเสียความรู้สึกมาก และที่มากที่สุดคือ หลานสาวไม่ได้อยากมาอเมริกาเลยสักนิดหากไม่จำเป็นต้องพาคุณย่ามาเยี่ยมดิฉัน ซึ่งป่วยและต้องผ่าตัด)
ครั้งที่2 ยื่นขอเมื่อกันยายน ปรากฏว่าไม่ผ่านอีก เอกสารคือ ใบรับรองเงินเดือน ใบรับรองงานที่เดิม เงินฝากประจำ 1 บัญชี(บ/ช ไม่เคยถอนนอกจากฝากเพื่อดอกเบี้ย)และฝากออมทรัพย์อีก 1 บ/ช แผนการเดินทาง มาเป็นเพื่อนคุณย่า และลางานได้ รวมวันหยุดแล้วได้ 15 วัน เอกสารรับรองจากดิฉันเช่นเดิมและสามีดิฉันรับราชการที่อเมริกามากว่า20 ปี มีใบรับรองงานและรับรองเงินเดือนแนบพร้อมก๊อปปี้หน้าพาสปอร์ตไปด้วย
คุณคิดว่าน่าจะผ่านใหม ทุกคนไม่มีใครกังวลเพราะคิดว่า โดยสถานภาพหลานสาว และสถานภาพเราคงไม่มีปัญหาอะไร ยังไงต้องผ่าน เพราะดิฉันเคยยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวให้พี่อีกคนโดยพี่ไม่ได้ทำงานอะไรเลย ไม่มีบ/ชเงินฝาก โสด ก็ผ่านได้มา 10 ปี โดยที่เค้ามาเที่ยวและกลับไปโดยไม่คิดจะโดดวีซ่าหรือทำงานอะไร เพราะ การมาทำงานที่อเมริกาไม่ใช่เรื่องง่ายๆไม่ได้เงินมากมายอะไร กฏเกณฑ์เยอะแยะถ้าคิดจะมาทำผิดโดยการโดดวีซ่า ไม่คุ้มเลย พอถึงวันสัมภาษณ์หลานสาวได้ช่อง12 เหมือนเดิมค่ะ ปรากฏว่าไม่ผ่าน โดยไม่ดูเอกสารอะไรเลยอีกเช่นเคย ถามคำถามเดิม
ยอมรับว่าหลานสาวสถานภาพไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ นอกจากได้ซื้อรถเพิ่มมาอีกคัน เพราะยังทำงานที่เดิม ในตำแหน่งเดิม ก็ห่างกันแค่ 9 เดือน จะเปลี่ยนงานก็คงเป็นไปไม่ได้และทำตำแหน่งนี้มาจนได้เป็นผจก.เงินเดือนดีพอสมควร และทำมากว่า8 ปีก็ไม่คิดจะเปลี่ยนงานอยู่แล้ว
เท่าที่เล่ามา อยากจะบอกว่า ขนาดหลานดิฉันทำงานมานานเงินเดือนดี มีบ้านมีรถ ยังถูกปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผล เสียเงินค่าธรรมเนียมไป2ครั้งเป็นหมื่น ที่ดิฉันเสียความรู้สึกคือ ไม่ดูเอกสาร ไม่พิจารณาสถานภาพทั้งผู้เชิญและผู้ถูกเชิญ และหลานสาวไม่ได้อยากมาแต่ดิฉันให้เค้าพาคุณย่ามาเที่ยว(ครอบครัวดิฉันเกลียดการทำงานของพวกนี้เพราะเราเจอการทำงานแบบไร้เหตุผลมาหลายครั้งหลายคราค่ะ ครอบครัวดิฉันจำเป็นต้องขอวีซ่าทุกคนเพื่อมาเที่ยวมาเยี่ยมดิฉัน เราเจอมาทุกรูปแบบในการขอวีซ่า ทั้งยากและง่าย ดิฉันมองว่าไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของกงสุลที่สัมภาษณ์) ไม่ทราบว่าทุกท่านคิดอย่างไร
ขอความคิดเห็นเรื่องวีซ่าอเมริกา
ดิฉันอยากเล่าประสบการณ์บางส่วนในการขอวีซ่าอเมริกา ที่ดิฉันมองว่าไม่มีหลักเกณ์ในการตัดสินใจ ไม่ทราบว่าทุกท่านคิดอย่างไร ดิฉันเคยเล่าไปบ้างแล้ในกระทู้เก่าๆแต่วันนี้อยากขอความคิดเห็นจากท่านสมาชิกทุกท่านค่ะ หากพิมพ์ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
เรื่องมีอยู่ว่า หลานสาวดิฉันไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกามาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาค่ะ ครั้งแรกยื่นขอเมื่อมกราคม สัมภาษณ์กับกงสุลผู้ชาย ร่างท้วม คนเอเซีย เอกสารทุกอย่างพร้อม ใบรับรองงานอายุงาน 8 ปี ใบรับรองเงินเดือน (เป็นบริษัทฯใหญ่มั่นคง) หลานสาวตำแหน่งผจกฝ่ายจัดซื้อ มีคู่หมั้นแล้วกำลังจะแต่งงาน อายุ30 ปลายๆ มีเงินฝากประจำหกหลัก เงินฝากออมทรัพย์อีก 1 บ/ช ดิฉันเชิญให้มาเที่ยว 2 อาทิตย์เดินทางพร้อมคุณย่า
ความสัมพันธ์เป็นหลานสาวลูกพี่ชายดิฉันเลี้ยงมาแต่เล็กจนโต พอดิฉันย้ายมาอยู่อเมริกาจึงอยากให้มาเยี่ยมเพราะคิดถึงโดยสุขภาพดิฉันไม่สามารถเดินทางไปไทยได้ จึงขอให้หลานพาคุณย่าเดินทางมาเยี่ยม(คุณย่ามีวีซ่าแล้ว)โดยได้กรอกแบบฟอร์ม พร้อมแนบเอกสาร จดหมายเชิญ ใบรับรองเงินเดือนของสามี ใบเสียภาษี ก๊อปปี้หน้าพาสปอร์ตของเรา ส่งไปให้
ปรากฏว่าสัมภาษณ์กับกงสุลคนนี้(ผู้ชายเอเซีย ท้วม ที่ช่อง 12) ไม่ดูเอกสารอะไรเลย ถามแค่ว่าดิฉันคือใคร ตัวหลานมีแฟนหรือยัง และจะไปที่ไหน 3 คำถาม โดยไม่ดูเอกสารอะไรเลย(เราไม่ได้เตรียมใจในเรื่องไม่ผ่านวีซ่า ยอมรับว่าเสียความรู้สึกมาก และที่มากที่สุดคือ หลานสาวไม่ได้อยากมาอเมริกาเลยสักนิดหากไม่จำเป็นต้องพาคุณย่ามาเยี่ยมดิฉัน ซึ่งป่วยและต้องผ่าตัด)
ครั้งที่2 ยื่นขอเมื่อกันยายน ปรากฏว่าไม่ผ่านอีก เอกสารคือ ใบรับรองเงินเดือน ใบรับรองงานที่เดิม เงินฝากประจำ 1 บัญชี(บ/ช ไม่เคยถอนนอกจากฝากเพื่อดอกเบี้ย)และฝากออมทรัพย์อีก 1 บ/ช แผนการเดินทาง มาเป็นเพื่อนคุณย่า และลางานได้ รวมวันหยุดแล้วได้ 15 วัน เอกสารรับรองจากดิฉันเช่นเดิมและสามีดิฉันรับราชการที่อเมริกามากว่า20 ปี มีใบรับรองงานและรับรองเงินเดือนแนบพร้อมก๊อปปี้หน้าพาสปอร์ตไปด้วย
คุณคิดว่าน่าจะผ่านใหม ทุกคนไม่มีใครกังวลเพราะคิดว่า โดยสถานภาพหลานสาว และสถานภาพเราคงไม่มีปัญหาอะไร ยังไงต้องผ่าน เพราะดิฉันเคยยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวให้พี่อีกคนโดยพี่ไม่ได้ทำงานอะไรเลย ไม่มีบ/ชเงินฝาก โสด ก็ผ่านได้มา 10 ปี โดยที่เค้ามาเที่ยวและกลับไปโดยไม่คิดจะโดดวีซ่าหรือทำงานอะไร เพราะ การมาทำงานที่อเมริกาไม่ใช่เรื่องง่ายๆไม่ได้เงินมากมายอะไร กฏเกณฑ์เยอะแยะถ้าคิดจะมาทำผิดโดยการโดดวีซ่า ไม่คุ้มเลย พอถึงวันสัมภาษณ์หลานสาวได้ช่อง12 เหมือนเดิมค่ะ ปรากฏว่าไม่ผ่าน โดยไม่ดูเอกสารอะไรเลยอีกเช่นเคย ถามคำถามเดิม
ยอมรับว่าหลานสาวสถานภาพไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ นอกจากได้ซื้อรถเพิ่มมาอีกคัน เพราะยังทำงานที่เดิม ในตำแหน่งเดิม ก็ห่างกันแค่ 9 เดือน จะเปลี่ยนงานก็คงเป็นไปไม่ได้และทำตำแหน่งนี้มาจนได้เป็นผจก.เงินเดือนดีพอสมควร และทำมากว่า8 ปีก็ไม่คิดจะเปลี่ยนงานอยู่แล้ว
เท่าที่เล่ามา อยากจะบอกว่า ขนาดหลานดิฉันทำงานมานานเงินเดือนดี มีบ้านมีรถ ยังถูกปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผล เสียเงินค่าธรรมเนียมไป2ครั้งเป็นหมื่น ที่ดิฉันเสียความรู้สึกคือ ไม่ดูเอกสาร ไม่พิจารณาสถานภาพทั้งผู้เชิญและผู้ถูกเชิญ และหลานสาวไม่ได้อยากมาแต่ดิฉันให้เค้าพาคุณย่ามาเที่ยว(ครอบครัวดิฉันเกลียดการทำงานของพวกนี้เพราะเราเจอการทำงานแบบไร้เหตุผลมาหลายครั้งหลายคราค่ะ ครอบครัวดิฉันจำเป็นต้องขอวีซ่าทุกคนเพื่อมาเที่ยวมาเยี่ยมดิฉัน เราเจอมาทุกรูปแบบในการขอวีซ่า ทั้งยากและง่าย ดิฉันมองว่าไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของกงสุลที่สัมภาษณ์) ไม่ทราบว่าทุกท่านคิดอย่างไร