ผมตัดสินใจจะขายบ้านแถวเซ็นทรัลลาดพร้าว ราคา 7ล้าน  โดย ข้างบ้าน เจ้าของบ้านซึ่งปัจจุบันให้คนเช่าขายของก็ขาย 6.8ล้าน

โดยข้างบ้านให้คนเช่าขายของอยู่ เจ้าของที่ด้านข้างบอกป้าว่า ถ้าป้าคนเช่าหาคนมาซื้อได้จะให้ค่านายหน้า

( เคยได้ยินคนโทรมาต่อราคาเรื่อยๆป้าแกตั้งราคาเผื่อเยอะ )

ผมเลยเดินไปบอกป้าคนเช่าบ้านข้างๆว่าให้ขายรวมไปได้เลยที่จะได้เป็นที่หน้ากว้าง เพราะเคยมีคนมสนใจมาถามเรื่อยๆอยากได้ควบบ้านผมด้วย

โดยถ้าป้าหาคนมาซื้อได้ จะให้ค่านายหน้า 3 เปอร์เซนต์ ไม่ได้มีการทำสัญญาใดๆ สว่นเจ้าของที่ด้านข้าง ก็จะให้ป้าเหมือนกัน

ป้าบอกมี คนสนใจจะซื้ออยู่ 3 คน คือ A B C

เวลาผ่านไป 3 อาทิตย์ เดินไปถามเรื่อยๆ ปรากฏว่า

A  จะซื้อรวมกัน 13 ล้าน (ครั้งสุดท้ายที่ไปถามอ้อมๆแอ้มๆบอกว่า10ล้าน)แล้วล่าสุดบอกว่าขี้เกียจไปคุยเพราะเรื่องมาก

B  จะรีบโทรไปบอก แต่มาบอกว่าแกไม่สนแล้วแกพึ่งได้ที่แถวนี้ไป แต่สุดท้ายกลับมาบอกว่ายังไม่ได้ไปคุยเลย (งง กะป้า)

C  บอกทำงานด้านนี้อยู่แล้วจะไปเปิด2ที่รวมกัน15ล้านเด่วจะพาคนซื้อเข้ามาดู ล่าสุดที่ถามแม้แต่สำเนาโฉนดยังไม่เข้ามาดู




จนเมื่อ2วันก่อน เจ้าของที่ด้านข้างแวะมา(นานๆมาที) ถามว่าจะขายแล้วเหรอ  6.8ล้านขายได้ไหม ผมเลยบอกว่า6.8ล้านขายได้

เจ้าของที่ด้านข้าง ก็ไปให้ป้าทำสัญญาย้ายออก พร้อมให้ค่าขนย้าย 4หมื่น

(ผมเดินไปเล่าให้ป้าข้างบ้านฟัง แกเลยเล่าให้ฟังว่า เจ้าของให้แกเซ็นสัญญาย้ายออกแล้ว)

เมื่อวาน ป้าข้างบ้านเดินมาบอกว่า เจ้าของที่ด้านข้างเค้าไม่ขายที่แล้ว แต่จะซื้อที่บ้านผมไว้เองเพิ่มเพื่อทำคอนโด

เบื้องต้นผมบอกป้าแกไปว่า เห็นแก่ที่อยู่ข้างกันมานานจะให้แกไปทำทุน 1 แสน แต่เหมือนแกไม่พอใจ

ท่าทางและคำพูดป้า พยายามย้ำว่าแกเชียร์ให้เจ้าของที่ด้านข้าง ซื้อที่ผมไว้

กรณีเช่นนี้ถือว่าป้าข้างบ้านเป็นนายหน้าแล้ว ผมควร ให้ป้าข้างบ้าน 3 เปอร์เซนต์ (เป็นเงิน 204,000) ไหมครับ