รบกวนถามเพื่อนๆสมาชิกเนื่องจากเป็นกระทู้แรกในพันทิปและในชีวิต ผมมีปัญหากับคุณครูประจำชั้นอนุบาล 1ที่สอนลูกชายผม
ขอเท้าความกลับหน่อยว่า ผมกับภรรยาพึงย้ายมาซื้อบ้านแถวบางบัวทอง จึงยังยุ่งๆกับบ้านใหม่ เลยหาโรงเรียนใกล้บ้านให้ลูกเรียนก่อน
ลูกชายผมเรียนที่ ร.ร.อนุบาล โรงเรียนนึงตั้งแต่ชั้น เตรียมอนุบาล จนถึงชั้นอนุบาล 1เทอม 1 แต่เป็น ร.ร. ไม่ใหญ่มีถึงชั้น ป. 6
เข้าเรียนตั้งแต่ผมย้ายมาก็ 1 ปีกับ 1 เทอม เมื่อทุกอย่างลงตัวผมกับภรรยาจึงคุยกันละหา โรงเรียนแห่งใหม่ให้ลูกเรา
ต้องการจะเน้นภาษาจึงหาโรงเรียนที่มีการสอน 2 ภาษา ซึ่งก้อได้โรงเรียนของเรื่องนี้ เป็นโรงเรียนใหญ่มีถึงชั้น ม.6 มีทั้ง inter และ e.p
เราก้อเลยเลือกที่จะย้ายโรงเรียนช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาซึ่งเป็นกลางเทอม ยอมซื้อชุดใหม่หนังสือใหม่ ที่เข้ากลางเทอมเพราะอยากให้ลูกปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ เพราะที่แรกว่าจะให้เข้าต้อง อ.2 แต่ไหนๆแล้วเราจะตัดสินใจเลือกที่นี้แล้ว ก็ให้ลูกเข้ากลางเทอมก็เหมือนกันจะได้ปรับตัว ปรับความรู้ให้เข้ากับหลักสูตรของโรงเรียนเข้ามาที่เรื่องที่ผมอยากจะปรึกษาเพื่อนๆ ปัญหามันมีอยู่ว่า เมื่อลูกผมเข้ากลางเทอมก็เลยมีปัญหาเรื่องหนังสือเลยไม่ครบ เพราะทางโรงเรียนจำหน่ายให้ตอนปิดเทอมเมื่อเทอม 1 ที่ผ่านมา คุณครูที่โรงเรียนใหม่ก็แนะนำว่า ไม่เป็นไรเล่มไหนหาซื้อไม่ได้ก้อเอาของเพื่อนในชั้นไปถ่ายเอกสารล่ะกันจำนวน 4 เล่ม ส่วนเล่มอื่นๆหรือที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้ติดต่อ คุณครูประจำชั้นได้
จนเมื่อวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม เปิดเทอม ผมก็ได้พบคุณครูประจำชั้น ท่านก็แนะนำว่ามีผู้ปกครองท่านอื่นกำลังจะไปซื้อหนังสือ เด๋วฝากให้ท่านนั้นซื้อมาเผื่อ ผมก็ยินดีคับ ละฝากเงินกับคุณครูค่าหนังสือ 3 ร้อยกว่าบาท จำนวน 2 เล่ม คุณครูยังบอกว่ายังมีหนังสือที่น้องต้องใช้อีกก็ประมาณ 4 ร้อยกว่าบาท อีกจำนวน 5-6 เล่ม อันนี้ผมไม่แน่ใจคับ ดูเหมือนทุกอย่างก็เรียบร้อยดีไม่น่ามีปัญหาอะไร วันพุธที่ 29 ตอนไปรับลูก ก็ยังคุยกับคุณครูประจำชั้นปกติ ท่านก้อบอกหนังสือของน้องเรียบร้อยได้ครบแล้วนะค่ะ ผมก็ โอเค. คับ ไม่มีอะไรกลับบ้าน
วันพฤหัสที่ 30 ก้อไปรับลูกกับปกติด้วยความเป็นห่วงก็เลยถามคุณครูก่อนจะเดินจากกันเรื่องหนังสือเรียบร้อยไม่มีขาดมีเกินแล้วนะคับ ถามเป็นอารมณ์คุยกันสนุก คุณครูก็ตอบแบบยิ้มๆ เรียบร้อยดีค่ะ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วง ก็กลับบ้านปกติ ภรรยาผมกลับมาจะทำงานก้อถามลูกเป็นไงบ้างตามประสาพ่อแม่ ผมก็เลยบอกปกติดี คุณครูชมลูกว่าให้ทำอะไรทำได้ทุกอย่าง น้องเคยเรียนที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าประมาณนี้ ผมก็บอกอีกว่าหนังสือลูกครบทุกเล่มแล้วนะไม่ต้องห่วงคุณครูบอกมา ภรรยาก้อมีความคิดว่าดีแล้ว
พรุ่งนี้วันศุกร์ตอนไปรับลูกให้ขอหนังสือทั้งหมดกับมาให้หน่อย เพราะเด๋วเขาจะทำสติกเกอร์ ชื่อสกุลชั้น มาติดหนังสือให้ลูกละเล่นไหนดูมีเนื้อหาสาระดีก็ เอาไปเข้าปกที่ b2s กันเพราะเป็นช่วงเสาร์อาทิตย์ วันจันก็เอาหนังสือไปคืนเหมือนเดิม ผมก้อ โอเค.ไม่มีปัญหาอะไรเพราะมันเป็นเรื่องบ้านๆปกติธรรมดา
เรื่องมาเกิดตอนเย็นวันศุกร์ที่ 31 ที่ผ่านมาผมไปรับลูกปกติก่อนกลับก็บอกคุณครูตามภรรยาสั่งคับ เป็นสามีที่ดีก็ทำตามที่บอกมา คุณครูคับ หนังสือน้องครบแล้วใช่มัยคับ ครูหันมายิ้ม ใช่ค่ะ ผมรบกวนขอหนังสือที่ซื้อของน้องทุกเล่มได้มัยคับ คุณแม่น้องเขาจะเอาไปติดชื่อสกุลชั้นแล้วก็ใส่ปกในบางเล่ม........เพื่อนสมาชิกว่าสิ่งที่ผมของมันเกินไปมัยคับคุณครูหุบยิ้มแล้วตอบแบบ หน้านิ่งๆว่าไม่ได้ค่ะ ไม่อนุญาตให้นำหนังสือกลับบ้าน ผมก็ งง งง งง แล้วบอกว่าคุณแม่น้องแค่ต้องการติดชื่อลูกกับใส่ปกหนังสือ วันจันทร์ก็นำกลับมาคืน คุณครูบอกว่า เอาสติกเกอร์มา เด๋วคุณครูติดให้เอง ตอนนั้นผมก้อเริ่มไม่พอใจ ถามคุณครูว่า ครูคับ หนังสือผมก็ซื้อ ผมละภรรยาไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเลยหรอคับ คุณครูท่านตอบว่ามันเป็นหน้าที่ของครู ครูจะเขียนชื่อให้น้องเอง เพื่อนๆ งง กันมัยคับ
ผมกับลูกเดินขึ้นรถกลับบ้านแบบ งง ด้วยความกลัวภรรยาว่า เด๋วหาว่าผมไม่ขอหนังสือกลับมา ก็เลยโทรไปบอกเขาว่า คุณๆหนังสือที่ให้ขอกับคุณครูนะ ครูไม่ให้มานะ ละก็เล่าเหตุผลที่คุณครูอ้างทั้งหมด ภรรยาผมก็ไม่ยอมบอกให้โทรกลับไปขอหนังสือทั้งหมดกลับมา ให้ขับรถกลับไปเอามาด้วย หนังสือเรา เราซื้อ ทำไมเราไม่มีสิทธิ์ ที่จะเขียนชื่อลูกตัวเอง แล้วที่สั่งซื้อไปทั้งหมดก็ยังไม่เห็นหน้าตาเลย ว่ามีเนื้อหาสาระแค่ไหน ผมก็โทรกลับไปคุยกับคุณครูประจำชั้นท่านเดิม ประมาณว่าคุณครูคับ แม่ของน้องยืนยันที่จะขอหนังสือทั้งหมดกลับมา โดยให้เหตุผลว่า หนังสือผมสั่งซื้อกับคุณครู หน้าตาก็ไม่เห็นครูบอกแต่ครบแล้ว ขอกับมาใส่ปกเขียนชื่อก็ไม่ได้ขอเหตุผล ด้วยคับ
คุณครูสตั้นไปประมาณ 3-4 วิ แล้วบอกว่า โอเค. เด่ววันจันเตรียมไว้ให้ เพื่อนๆคิดว่าเรื่องคงจบให้มัยคับ เปล่าเลย เย็นวันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน ผมไปรับลูกละทวงถามหนังสือจะคุณครู คำตอบที่ได้เหมือนเดิม ไม่ได้ค่ะ ให้ไปคุยกับคุณครูเก่ง ครูเก่งไม่อนุญาตค่ะ น้ำเสียงล่ะสีหน้าคงไม่ต้องบอกนะคับ ผมก็บอกทำไมถึงไม่ได้ละคับ ขอเหตุผลด้วยคับ งั้นผมเอาสติกเกอร์ที่แม่น้องทำมาให้ครูติดให้ได้มัยคับ ครูตอบไม่ได้ค่ะ ต้องทางติดของทางโรงเรียนเท่านั้น งั้นผมขอดูหนังสือทั้งหมดหน่อยได้มัยคับ ไม่ได้ค่ะครูตอบ คุณพ่อมีปัญหาสงสัยอะไร เชิญไปคุยกับครูเก่งนะ คุณพ่อเห็นมัยค่ะ เด๋วครูต้องสอนพิเศษค่ะ คิดในใจผมก็คุยกับครูตอนรับลูกเวลานี้ทุกวันตั้งแต่เปิดเทอม อาทิตย์ที่แล้ว ไม่เห็นเคยไล่ผมเลย
เพื่อนๆสมาชิกคง งง ว่าคุณครูเก่งมาจากไหนมายังไง ซึ่งผมก็ งง ที่โดนคุณครูประจำชั้นลูกไล่ให้ไปคุยกับครูอีกท่านนึง ในใจคิดว่า ผมสั่งซื้อหนังสือกับครู เงินก็จ่ายที่ครู แต่แค่จะขอดูกลับบอกให้ไปคุยไปขออนุญาติจากคุณครูอีกท่านนึง สิ่งที่ผมกำลังขอนี้มันเป็นเอกสารสำคัญ เป็นความมั่งคงของชาติขนาดนั้นเลยเหรอคับ ยอมรับคับว่าตอนที่โดนไล่ให้ไปคุยกับครูอีกคนผมโมโหมาก ลมขึ้นเลยคับ
ผมจะขอย้อนกลับไปตอนเช้าเพื่อนสมาชิกจะรู้ว่า คุณครูเก่งมายังไง ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจมาเข้าใจตอนเย็น ช่วงเช้าไปส่งลูกปกติ คุณครูประจำชั้นเห็นผม ก็รีบเดินไปกระซิบกับครูอีกท่านนึง ก็คือครูเก่ง ซึ่งตอนนั้นผม ไม่ได้คิดอะไร เพื่อนครูกันคุยกันปกติ มาเข้าใจตอนเย็นนี้เอง ว่าคงมีการสมรู้ร่วมคิดกันไว้ก่อนแล้ว ซึ่งคุณครูเก่งเคยแนะนำตัวไว้ตั้งแต่ น้องมาเรียนวันแรกว่าเป็น หัวหน้าตึกอนุบาลคับ
ถ้าเจอแบบนี้ ควรทำอย่างไรดีคับ ขอคำแนะนำหน่อย
ขอเท้าความกลับหน่อยว่า ผมกับภรรยาพึงย้ายมาซื้อบ้านแถวบางบัวทอง จึงยังยุ่งๆกับบ้านใหม่ เลยหาโรงเรียนใกล้บ้านให้ลูกเรียนก่อน
ลูกชายผมเรียนที่ ร.ร.อนุบาล โรงเรียนนึงตั้งแต่ชั้น เตรียมอนุบาล จนถึงชั้นอนุบาล 1เทอม 1 แต่เป็น ร.ร. ไม่ใหญ่มีถึงชั้น ป. 6
เข้าเรียนตั้งแต่ผมย้ายมาก็ 1 ปีกับ 1 เทอม เมื่อทุกอย่างลงตัวผมกับภรรยาจึงคุยกันละหา โรงเรียนแห่งใหม่ให้ลูกเรา
ต้องการจะเน้นภาษาจึงหาโรงเรียนที่มีการสอน 2 ภาษา ซึ่งก้อได้โรงเรียนของเรื่องนี้ เป็นโรงเรียนใหญ่มีถึงชั้น ม.6 มีทั้ง inter และ e.p
เราก้อเลยเลือกที่จะย้ายโรงเรียนช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาซึ่งเป็นกลางเทอม ยอมซื้อชุดใหม่หนังสือใหม่ ที่เข้ากลางเทอมเพราะอยากให้ลูกปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ เพราะที่แรกว่าจะให้เข้าต้อง อ.2 แต่ไหนๆแล้วเราจะตัดสินใจเลือกที่นี้แล้ว ก็ให้ลูกเข้ากลางเทอมก็เหมือนกันจะได้ปรับตัว ปรับความรู้ให้เข้ากับหลักสูตรของโรงเรียนเข้ามาที่เรื่องที่ผมอยากจะปรึกษาเพื่อนๆ ปัญหามันมีอยู่ว่า เมื่อลูกผมเข้ากลางเทอมก็เลยมีปัญหาเรื่องหนังสือเลยไม่ครบ เพราะทางโรงเรียนจำหน่ายให้ตอนปิดเทอมเมื่อเทอม 1 ที่ผ่านมา คุณครูที่โรงเรียนใหม่ก็แนะนำว่า ไม่เป็นไรเล่มไหนหาซื้อไม่ได้ก้อเอาของเพื่อนในชั้นไปถ่ายเอกสารล่ะกันจำนวน 4 เล่ม ส่วนเล่มอื่นๆหรือที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้ติดต่อ คุณครูประจำชั้นได้
จนเมื่อวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม เปิดเทอม ผมก็ได้พบคุณครูประจำชั้น ท่านก็แนะนำว่ามีผู้ปกครองท่านอื่นกำลังจะไปซื้อหนังสือ เด๋วฝากให้ท่านนั้นซื้อมาเผื่อ ผมก็ยินดีคับ ละฝากเงินกับคุณครูค่าหนังสือ 3 ร้อยกว่าบาท จำนวน 2 เล่ม คุณครูยังบอกว่ายังมีหนังสือที่น้องต้องใช้อีกก็ประมาณ 4 ร้อยกว่าบาท อีกจำนวน 5-6 เล่ม อันนี้ผมไม่แน่ใจคับ ดูเหมือนทุกอย่างก็เรียบร้อยดีไม่น่ามีปัญหาอะไร วันพุธที่ 29 ตอนไปรับลูก ก็ยังคุยกับคุณครูประจำชั้นปกติ ท่านก้อบอกหนังสือของน้องเรียบร้อยได้ครบแล้วนะค่ะ ผมก็ โอเค. คับ ไม่มีอะไรกลับบ้าน
วันพฤหัสที่ 30 ก้อไปรับลูกกับปกติด้วยความเป็นห่วงก็เลยถามคุณครูก่อนจะเดินจากกันเรื่องหนังสือเรียบร้อยไม่มีขาดมีเกินแล้วนะคับ ถามเป็นอารมณ์คุยกันสนุก คุณครูก็ตอบแบบยิ้มๆ เรียบร้อยดีค่ะ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วง ก็กลับบ้านปกติ ภรรยาผมกลับมาจะทำงานก้อถามลูกเป็นไงบ้างตามประสาพ่อแม่ ผมก็เลยบอกปกติดี คุณครูชมลูกว่าให้ทำอะไรทำได้ทุกอย่าง น้องเคยเรียนที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าประมาณนี้ ผมก็บอกอีกว่าหนังสือลูกครบทุกเล่มแล้วนะไม่ต้องห่วงคุณครูบอกมา ภรรยาก้อมีความคิดว่าดีแล้ว
พรุ่งนี้วันศุกร์ตอนไปรับลูกให้ขอหนังสือทั้งหมดกับมาให้หน่อย เพราะเด๋วเขาจะทำสติกเกอร์ ชื่อสกุลชั้น มาติดหนังสือให้ลูกละเล่นไหนดูมีเนื้อหาสาระดีก็ เอาไปเข้าปกที่ b2s กันเพราะเป็นช่วงเสาร์อาทิตย์ วันจันก็เอาหนังสือไปคืนเหมือนเดิม ผมก้อ โอเค.ไม่มีปัญหาอะไรเพราะมันเป็นเรื่องบ้านๆปกติธรรมดา
เรื่องมาเกิดตอนเย็นวันศุกร์ที่ 31 ที่ผ่านมาผมไปรับลูกปกติก่อนกลับก็บอกคุณครูตามภรรยาสั่งคับ เป็นสามีที่ดีก็ทำตามที่บอกมา คุณครูคับ หนังสือน้องครบแล้วใช่มัยคับ ครูหันมายิ้ม ใช่ค่ะ ผมรบกวนขอหนังสือที่ซื้อของน้องทุกเล่มได้มัยคับ คุณแม่น้องเขาจะเอาไปติดชื่อสกุลชั้นแล้วก็ใส่ปกในบางเล่ม........เพื่อนสมาชิกว่าสิ่งที่ผมของมันเกินไปมัยคับคุณครูหุบยิ้มแล้วตอบแบบ หน้านิ่งๆว่าไม่ได้ค่ะ ไม่อนุญาตให้นำหนังสือกลับบ้าน ผมก็ งง งง งง แล้วบอกว่าคุณแม่น้องแค่ต้องการติดชื่อลูกกับใส่ปกหนังสือ วันจันทร์ก็นำกลับมาคืน คุณครูบอกว่า เอาสติกเกอร์มา เด๋วคุณครูติดให้เอง ตอนนั้นผมก้อเริ่มไม่พอใจ ถามคุณครูว่า ครูคับ หนังสือผมก็ซื้อ ผมละภรรยาไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเลยหรอคับ คุณครูท่านตอบว่ามันเป็นหน้าที่ของครู ครูจะเขียนชื่อให้น้องเอง เพื่อนๆ งง กันมัยคับ
ผมกับลูกเดินขึ้นรถกลับบ้านแบบ งง ด้วยความกลัวภรรยาว่า เด๋วหาว่าผมไม่ขอหนังสือกลับมา ก็เลยโทรไปบอกเขาว่า คุณๆหนังสือที่ให้ขอกับคุณครูนะ ครูไม่ให้มานะ ละก็เล่าเหตุผลที่คุณครูอ้างทั้งหมด ภรรยาผมก็ไม่ยอมบอกให้โทรกลับไปขอหนังสือทั้งหมดกลับมา ให้ขับรถกลับไปเอามาด้วย หนังสือเรา เราซื้อ ทำไมเราไม่มีสิทธิ์ ที่จะเขียนชื่อลูกตัวเอง แล้วที่สั่งซื้อไปทั้งหมดก็ยังไม่เห็นหน้าตาเลย ว่ามีเนื้อหาสาระแค่ไหน ผมก็โทรกลับไปคุยกับคุณครูประจำชั้นท่านเดิม ประมาณว่าคุณครูคับ แม่ของน้องยืนยันที่จะขอหนังสือทั้งหมดกลับมา โดยให้เหตุผลว่า หนังสือผมสั่งซื้อกับคุณครู หน้าตาก็ไม่เห็นครูบอกแต่ครบแล้ว ขอกับมาใส่ปกเขียนชื่อก็ไม่ได้ขอเหตุผล ด้วยคับ
คุณครูสตั้นไปประมาณ 3-4 วิ แล้วบอกว่า โอเค. เด่ววันจันเตรียมไว้ให้ เพื่อนๆคิดว่าเรื่องคงจบให้มัยคับ เปล่าเลย เย็นวันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน ผมไปรับลูกละทวงถามหนังสือจะคุณครู คำตอบที่ได้เหมือนเดิม ไม่ได้ค่ะ ให้ไปคุยกับคุณครูเก่ง ครูเก่งไม่อนุญาตค่ะ น้ำเสียงล่ะสีหน้าคงไม่ต้องบอกนะคับ ผมก็บอกทำไมถึงไม่ได้ละคับ ขอเหตุผลด้วยคับ งั้นผมเอาสติกเกอร์ที่แม่น้องทำมาให้ครูติดให้ได้มัยคับ ครูตอบไม่ได้ค่ะ ต้องทางติดของทางโรงเรียนเท่านั้น งั้นผมขอดูหนังสือทั้งหมดหน่อยได้มัยคับ ไม่ได้ค่ะครูตอบ คุณพ่อมีปัญหาสงสัยอะไร เชิญไปคุยกับครูเก่งนะ คุณพ่อเห็นมัยค่ะ เด๋วครูต้องสอนพิเศษค่ะ คิดในใจผมก็คุยกับครูตอนรับลูกเวลานี้ทุกวันตั้งแต่เปิดเทอม อาทิตย์ที่แล้ว ไม่เห็นเคยไล่ผมเลย
เพื่อนๆสมาชิกคง งง ว่าคุณครูเก่งมาจากไหนมายังไง ซึ่งผมก็ งง ที่โดนคุณครูประจำชั้นลูกไล่ให้ไปคุยกับครูอีกท่านนึง ในใจคิดว่า ผมสั่งซื้อหนังสือกับครู เงินก็จ่ายที่ครู แต่แค่จะขอดูกลับบอกให้ไปคุยไปขออนุญาติจากคุณครูอีกท่านนึง สิ่งที่ผมกำลังขอนี้มันเป็นเอกสารสำคัญ เป็นความมั่งคงของชาติขนาดนั้นเลยเหรอคับ ยอมรับคับว่าตอนที่โดนไล่ให้ไปคุยกับครูอีกคนผมโมโหมาก ลมขึ้นเลยคับ
ผมจะขอย้อนกลับไปตอนเช้าเพื่อนสมาชิกจะรู้ว่า คุณครูเก่งมายังไง ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจมาเข้าใจตอนเย็น ช่วงเช้าไปส่งลูกปกติ คุณครูประจำชั้นเห็นผม ก็รีบเดินไปกระซิบกับครูอีกท่านนึง ก็คือครูเก่ง ซึ่งตอนนั้นผม ไม่ได้คิดอะไร เพื่อนครูกันคุยกันปกติ มาเข้าใจตอนเย็นนี้เอง ว่าคงมีการสมรู้ร่วมคิดกันไว้ก่อนแล้ว ซึ่งคุณครูเก่งเคยแนะนำตัวไว้ตั้งแต่ น้องมาเรียนวันแรกว่าเป็น หัวหน้าตึกอนุบาลคับ