ในฐานะผู้ปกครอง ยอมรับว่านโยบายรัฐ ที่ให้เด็ก ๆ ได้เรียนฟรีถึง 12 ปี นั้นเป็นนโยบายที่ดีมาก แต่...ผมมีข้อสักเกตุ
1. ค่าเทอมแม้จะฟรี...(ค่าเรียนคอม , ค่าว่ายน้ำ , ค่าบำรุง... , ค่าหนังสือเพิ่มเติม .. ฯลฯ ที่ทางโรงเรียนสรรหามา ) รวม ๆ ประมาณเทอมล่ะ 3X,XXX บาท ไม่ผิดคับ 3 หมื่นกว่าบาท (ชั้นอนุบาลครับ) ... หลายคนอาจมองว่า ก็เลือกที่จะให้ลูกเรียนให้ Eng เอง ...ใช่ครับ แล้วใครไม่อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกหล่ะครับ.. เราไม่ได้เลือกโปรได้อย่างใช้โทรศัพท์นิครับ เรียนแต่ Eng ไม่เรียนว่ายน้ำ, ไม่เรียน Com เพื่อเสียค่าเทอมถูกลง... ผมสงสัยว่า ในเมื่อภาษาอังกฤษในยุค AEC ทำไมไม่จัดครูภาษาอังกฤษประจำห้องตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปเลย เด็กไทยจะได้เก่ง ๆ (ภาษาอังกฤษ) ...เหมือนเด็กพม่า
2. ได้คูปองไปแลกเสื้อ ...ดีครับ ได้มา 1 ชุด (เพราะคูปองราคาประมาณ 400 เสื้อกระโปรง 3 ร้อยกว่าบาท) ก็ดีที่ยังได้ 1 ชุด แต่หากใช้นโยบาย ควบคุมชุดนักเรียนที่มันแพงเว่อร์ในปัจจุบัน (ย้ำ ว่าเป็นชุดนักเรียนอนุบาล 1 )
3. โตมาหน่อย ประถม - มัธยม ความรู้และข้อสอบ จะไปอยู่ที่ โรงเรียนกวดวิชา ส่วนโรงเรียนจะเป็นแค่สถานที่ออกใบประกาศ... มันหนีไม่พ้นวัฎจักรนี้ครับ สถาบันติดป้ายยินดี กับนักเรียนที่มาติว ว่าผ่านเข้าเรียน มัธยม หรือ มหาวิทยาลัย ได้....
4. ครูไม่แน่ใจว่า ระหว่างจิตวิญญาณ กับปากท้อง อันไหนสำคัญกว่ากัน...วิทยฐานะไม่ได้บ่งบอกว่านั่นคือความเชี่ยวชาญในด้านการสอน ... แต่ค่าตอบแทนสูงขึ้นคือสิ่งที่เป็นความจริง ...
5. แยกเด็ก แยกห้อง เพื่อให้แยกทักษาเด็กว่าเก่ง คณิต ไปห้องคณิต ..เด็กเก่ง Eng ไปห้อง Eng ..เด็กเก่งศิลป ไปห้อง ศิลปะ...นั่นคือเมืองนอก แต่ประเทศไทย แยกห้องตามทุนทรัพย์ผู้ปกครอง (มันเป็นโอกาสของผู้บริหาร โดยนโยบายที่ดีเลิศ)
6. ท่าน ๆ ว่าเราจะเห็นรูปแบบการศึกษาของเด็กไทยเป็นอีกเมื่อไหร่
ทำไมเด็กไทยต้องเรียนพิเศษ หรือ(ถูกบังคับ)เรียนห้องพิเศษ
1. ค่าเทอมแม้จะฟรี...(ค่าเรียนคอม , ค่าว่ายน้ำ , ค่าบำรุง... , ค่าหนังสือเพิ่มเติม .. ฯลฯ ที่ทางโรงเรียนสรรหามา ) รวม ๆ ประมาณเทอมล่ะ 3X,XXX บาท ไม่ผิดคับ 3 หมื่นกว่าบาท (ชั้นอนุบาลครับ) ... หลายคนอาจมองว่า ก็เลือกที่จะให้ลูกเรียนให้ Eng เอง ...ใช่ครับ แล้วใครไม่อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกหล่ะครับ.. เราไม่ได้เลือกโปรได้อย่างใช้โทรศัพท์นิครับ เรียนแต่ Eng ไม่เรียนว่ายน้ำ, ไม่เรียน Com เพื่อเสียค่าเทอมถูกลง... ผมสงสัยว่า ในเมื่อภาษาอังกฤษในยุค AEC ทำไมไม่จัดครูภาษาอังกฤษประจำห้องตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปเลย เด็กไทยจะได้เก่ง ๆ (ภาษาอังกฤษ) ...เหมือนเด็กพม่า
2. ได้คูปองไปแลกเสื้อ ...ดีครับ ได้มา 1 ชุด (เพราะคูปองราคาประมาณ 400 เสื้อกระโปรง 3 ร้อยกว่าบาท) ก็ดีที่ยังได้ 1 ชุด แต่หากใช้นโยบาย ควบคุมชุดนักเรียนที่มันแพงเว่อร์ในปัจจุบัน (ย้ำ ว่าเป็นชุดนักเรียนอนุบาล 1 )
3. โตมาหน่อย ประถม - มัธยม ความรู้และข้อสอบ จะไปอยู่ที่ โรงเรียนกวดวิชา ส่วนโรงเรียนจะเป็นแค่สถานที่ออกใบประกาศ... มันหนีไม่พ้นวัฎจักรนี้ครับ สถาบันติดป้ายยินดี กับนักเรียนที่มาติว ว่าผ่านเข้าเรียน มัธยม หรือ มหาวิทยาลัย ได้....
4. ครูไม่แน่ใจว่า ระหว่างจิตวิญญาณ กับปากท้อง อันไหนสำคัญกว่ากัน...วิทยฐานะไม่ได้บ่งบอกว่านั่นคือความเชี่ยวชาญในด้านการสอน ... แต่ค่าตอบแทนสูงขึ้นคือสิ่งที่เป็นความจริง ...
5. แยกเด็ก แยกห้อง เพื่อให้แยกทักษาเด็กว่าเก่ง คณิต ไปห้องคณิต ..เด็กเก่ง Eng ไปห้อง Eng ..เด็กเก่งศิลป ไปห้อง ศิลปะ...นั่นคือเมืองนอก แต่ประเทศไทย แยกห้องตามทุนทรัพย์ผู้ปกครอง (มันเป็นโอกาสของผู้บริหาร โดยนโยบายที่ดีเลิศ)
6. ท่าน ๆ ว่าเราจะเห็นรูปแบบการศึกษาของเด็กไทยเป็นอีกเมื่อไหร่