ขอวีซ่าอเมริกายากกว่าที่คุณคิด...สัมพาทย์ช่อง12

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปวันนี้จะมาเล่าเรื่องของเพื่อนที่ไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาของวันที่3 พย ที่ผ่านมา
ขอเล่าย้อนไปเมื่อเดือนกันยาก่อนน่ะค่ะ เป็นการขอวีซ่าครั้งแรก อันนี้คือคิดว่า50-50เพราะเพื่อนที่ไปขอ เค้าอยู่ในช่วง"ว่างงาน"คือยังไม่มีงานทำหลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักมา5ปีเต็มและพึ่งออกจากงานเก่าได้4เดือน(อันนี้ไม่ได้วีซ่ายังพอทำใจได้ค่ะ) เพื่อนดิฉันอยู่ในช่วงทดลองงานของบริษัทเครื่องมือทันตะกรรม(ฝ่ายเซลและแพ็คของเช็คสต๊อค)ซึ่งครั้งที่สัมพาทย์ครั้งแรกเราไม่ได้ใส่รายละเอียดลงไปว่าอยู่ในช่วงทดลองงานและถ้าลงไปว่าอยู่ในช่วงทดลองงานบริษัทต้องทำเอกสารรับรองซึ่งมันเป็นเรื่องยากอีกเรื่องหนึ่ง...ซึ่งการสัมภาษณ์ครั้งนี้ไม่ผ่าน แต่ที่ติดใจดิฉันครั้งที่2คือ เมื่อวันที่3พย ที่ผ่านมาค่ะ
     
     เมื่อวันที่3พย เพื่อนดิฉันได้มีการนัดสัมพาทย์อีกรอบหลังจากการไปขอสัมพาทย์รอบแรกไม่ผ่าน(15กย)ซึ่งดิฉันได้เป็นคนทำเอกสารและกรอกรายละเอียดทั้งหมดให้เพื่อน(ดิฉันอยู่อเมริกาแต่งงานและมาอยู่ที่นี่ได้7ปีแล้วค่ะ)ซึ่งครั้งนี้คิดว่าเพื่อนผ่านแน่ๆเพราะ

1 เพื่อนดิฉันได้ใบรับรองการทำงานจากงานที่ทำอยู่
2เงินในบัญชีที่แสดงประมาน1แสน
3ตั๋วเครื่องบินไปกลับที่ดิฉันให้สามีจัดการให้โดยใช้ไมล์แลกเป็นตั๋วมาให้เพื่อน
4พี่สาวของเพื่อนซึ่งได้เคยเดินทางมาเที่ยวบ้านดิฉันเมื่อ4ปีก่อนและได้วีซ่า10ปีได้เดินทางมากันเพื่อนดิฉันด้วย(เค้าเป็นพี่น้องกันโดยสายเลือดค่ะ)
5จดหมายเชิญซึ่งดิฉันและสามีได้แนบ หน้าพาสปอส และกรีนการ์ด และได้ทำการรับรองเอกสารแนบไปด้วย
6เพื่อนดิฉันยังมีการผ่อนชำระบ้านที่ตัวเองได้ซื้อไว้เมื่อ8ปีที่แล้ว

    พอถึงเวลานัดสัมภาษณ์ เพื่อดิฉันได้เข้าไปสัมพาทย์ที่ช่อง12 เวลา9โมงเช้า(เพื่อนดิฉันไม่ทราบว่าเค้าชื่ออะไรแต่เป็นผู้ชายเอเชีย)
ชื่อ12:โสด?
เพื่อน:ยังไม่แต่งงานค่ะ แต่มีแฟนแล้วค่ะ
ช่อง12: อายุเท่าไหร่
เพื่อน: 31ค่ะ
ช่อง12:ไปไหน ไปทำอะไร
เพื่อน:ไปเยี่ยมเพื่อนที่อลาสก้าค่ะ ครอบครัวเพื่อนชวนไปให้ไปเที่ยว
ช่อง12:ทำไมไมเคิลต้องซัพพอทคุณเค้าไม่ใช่แฟนคุณเป็นแฟนเพื่อนไม่ใช่หรอ
เพื่อน:ก็สามีเพื่อนค่ะ เพื่อนเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กเพื่อนสนิทครอบครัวเพื่อนอยากให้ไปเที่ยว
ช่อง12:ใครไปด้วยบ้าง
เพื่อน:พี่สาวค่ะเคยไปเที่ยวบ้านเพื่อนมาแล้ว(แล้วเพื่อนยื่นตั๋วให้ดู)
เจ้าหน้าที่ได้ขอดูสมุดบัญชี แล้วเค้าก็ปรึกษากัน
ช่อง12:เคยบินที่ไหนมั้ย
เพื่อน:ไม่ค่ะ (ตอบว่าไปเที่ยวลาวจะได้มั้ย อันนี้จขกทคิดเองค่ะ)
ช่อง12:ไม่เคยออกนอกประเทศหรอ....
ช่อง12: คุณยังไม่แต่งงาน...ทำไมเค้าต้องซับพอทคุณ..เค้าไม่ได้คิดอะไรกับคุณน่ะ(พูดเชิงติดตลก)
เพื่อน:ไมเคิลเป็นสามีเพื่อนน่ะค่ะ เค้าอยากให้ไปเที่ยว
เจ้าหน้าที่ได้ยื่นเอกสารส่งคืน แต่เพื่อนดิฉันได้ยื่กลับไป จดหมายเชิญก็ไม่ได้อ่าน
แล้วให้เหตุผลกลับมาว่า
ช่อง12:ระยะเวลาเดือนเดียวมันไม่พอให้คุณดูน่าเชื่อถือว่าคุณมีภาวะที่ดีขึ้นจริง น่าจะรอนานกว่านี้ค่อยมาขอครั้งที่2 อธิบายมาสิว่า1เดือนจากรอบที่แล้วคุณมีอะไรน่าเชื่อถือถึงคุณจะมีงานทำแล้ว
แล้วเจ้าหน้าที่ได้ยื่นเปเปอร์ให้เพื่อนแล้วบอกว่า คุณไม่ผ่านวีซ่า......

     บอกได้คำเดียวว่าดิฉันเงิบค่ะ เจ้าหน้าที่ใช้เกณท์อะไรในการตัดสินค่ะ รอบที่แล้วที่ไปขอเงินในบัญชีแสนกว่า ไม่ขอดูแค่ไม่เห็นว่ามีงานรับรองไม่ให้ผ่าน พอมารอบนี้ เอกสารทุกอย่างพร้อม คุณเล็งไปที่เพื่อนดิฉันไม่แต่งงาน แล้วถามย้ำ2รอบเรื่องสามีดิฉันคิดอะไรกับเพื่อนดิฉันหรือถึงเปล่า2ครั้ง(ถึงคุณจะพูดติดตลกก็เถอะ)มันถือว่าดูหมิ่นมากน่ะค่ะ ดิฉันกับเพื่อนโตมาด้วยกันล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกัน ร้องให้มาด้วยกัน20กว่าปี คุณไม่ได้ขอดูเอกสารเรื่องงาน เอกสารบ้านที่ผ่อนชำระ คุณเล็งไปที่เพื่อนดิฉันโสด,เพื่อนดิฉันไม่มีสักยภาพที่จะทำให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้นภานใน1เดือน เอกสารและข้อมูลในมือเพื่อนดิฉันถือไปคุณก็มองผ่านๆไม่ทราบว่าคุณเอาอะไรในการตัดสินเรื่องขอวีซ่าค่ะ หรือต้องรอให้เพื่อนดิฉัน แต่งงาน แล้วถ้าเกิดแฟนเพื่อนดิฉันเป็นเพศเดียวกันล่ะ??? ดิฉันอ่านขั้นตอนการขอวีซ่าในเวปไซต์ไม่มีตรงไหนที่บอกว่ารอให้นานกว่า1เดือนแล้วค่อยมาขอใหม่

    "ผู้สมัครที่ถูกปฏิเสธวีซ่าสามารถสมัครขอเข้ารับการสัมภาษณ์วีซ่าอีกครั้งเมื่อใดก็ได้ ในการสมัครวีซ่าใหม่ ผู้สมัครยังคงต้องปฏิบัติตามกระบวนการทั้งหมด กรอกแบบฟอร์มการสมัครใหม่ ชำระค่าธรรมเนียมการสมัครวีซ่า (MRV application fee) อีกครั้ง ผู้สมัครที่ถูกปฏิเสธสามารถสมัครใหม่อีกกี่ครั้งก็ได้ อย่างไรก็ตาม การสมัครใหม่โดยที่ยังขาดหลักฐานที่หนักแน่นและมีนัยสำคัญที่สามารถแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ของผู้สมัครอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการพิจารณาอนุมัติวีซ่าได้ เรามีนโยบายให้เจ้าหน้าที่กงสุลผู้ที่ไม่เคยสัมภาษณ์ผู้สมัครดังกล่าวมาก่อนเป็นผู้สัมภาษณ์เพื่อให้การพิจารณามีความเป็นธรรม"

    ดิฉันเพลียกับการไปสัมภาษณ์ของเพื่อนในรอบนี้มาก ตอนกรณีพี่สาวของเพื่อนคนนี้ ทำเหมือนกันทุกอย่าง โสด เอกสารเชิญ ตั๋วเครื่องบิน เงินในบัญชี6หมื่นอายุ36 เอกสารงานรับรองว่าทำงานมาได้2เดือน เธอได้วีซ่า10ปีค่ะ!!!!!

   เพื่อนดิฉัน โสด จดหมายเชิญ จดหมายรับรองงาน เงินในบัญชีแสนนึง ตั๋วเครื่องบิน เอการการซื้อบ้านที่ผ่อนมา8ปีแล้ว  อายุ31 ไม่ผ่านค่ะ!!!!!

บอกตรงๆดิฉันสูนแฮงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

     เหตุผลที่ดิฉันอยากให้เพื่อนมาและให้เพื่อนทำวีซ่าในช่วงที่ไล่เลี่ยกันคือ
1ช่วงเวลาที่ให้เพื่อนมาเที่ยวที่นี่คือ 26ธค-13 มค เพราะเป็ฯช่วงฮอลิเดย์หยุดยาว สามีดิฉันได้หยุดงานโดยที่ไม่ต้องใช้วันหยุดที่สะสมมามากสักเท่าไหร่
2พี่สาวของเพื่อนดิฉันได้ลางานและเคลียงานเพื่อนที่จะได้พาน้องสาวมาเที่ยวในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ (ง่ายๆคือวันหยุดลงตัวกันทั้ง2ฝ่าย)

   ดิฉันและเพื่อนดิฉันเราโตมาด้วยกันเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ ป.2 ทะเบียนบ้านดิฉันที่ไทยก็ได้ย้ายเข้าบ้านเพื่อนคนนี้ และลูกสาว(3ขวบกว่า)ดิฉันก็จะแจ้งเกิดที่บ้านหลังนี้ด้วย พอเพื่อนโดนปฏิเสธวีซ่าโดยเหตุผลที่ห่วยแตกและเชิงดูหมิ่นเพื่อนและสามีดิฉัน ขอบอกตรงๆเลยว่า ดิฉันเสียใจมากจริงๆค่ะกับวุฒิภาวะเจ้าหน้าที่ที่ทำการสัมภาษณ์เพื่อนดิฉัน...

   ดิฉันจะไม่ยอมแพ้ถึงแม้ตอนนั้นเพื่อนดิฉันจะต้องถือไม้เท้าไปขอวีซ่าอีกรอบก็ตาม!!!! เพลียค่ะ!!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่